ตอนที่แล้วตอนที่ 360 เวลาที่มีจำกัด
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 361 ลูกปัดแห่งดวงดาราอยู่ตรงหน้าแล้ว !

ตอนที่ 459 จักรพรรดิจุติ


ตอนที่ 459 จักรพรรดิจุติ

ปง  !

เสื้อคลุมสีน้ำเงินและผมยาวสยายของเกาอวี่กลายเป็นสีดำไหม้เกรียมจากเพลิงปราณ  สารรูปดูทุลักทุเลยิ่ง

ลมปราณปั่นป่วน อวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บ แม้แต่กระดูกส่วนอกก็หักไปสองซี่

มันต้องควบแน่นปราณแท้เป็นปีกคู่หนึ่งกว่าจะยืนกลางเวหาได้อย่างมั่นคง ทว่า มุมปากยังคงมีโลหิตสดไหลออกมาไม่หยุดหย่อน

เกาอวี่ยกปลายแขนเสื้อยาวขึ้นเช็ดที่มุมปาก ดวงตาจับจ้องไปที่จ้องเทียนซิงอย่างเคียดแค้นพลางกล่าวว่า “เดรัจฉานน้อย  เจ้าก้าวหน้าอย่างรวดเร็วนัก !”

"มิน่าเล่า ฉู่เทียนเซิงถึงกล้าปิดด่านรักษาตัวอย่างไม่กังวลต่อหายนะ กล้าส่งเจ้ามารับมือข้าประมุข เพราะมันมั่นใจในตัวเจ้า !”

"เฮอะ  แต่หลังจากใช้ฝ่ามือนี้ไป เจ้าจะเหลือพลังอีกสักเท่าไหร่กันเชียว ?"

"ถึงตาข้าบ้างแล้ว ข้าประมุขจะสับเจ้าเป็นชิ้นๆ !”

วูบ วูบ !

สิ้นเสียง ทั่วร่างของเกาอวี่เต็มไปด้วยแสงหลากสีอันพร่างพราว สองมือเกาะกุมกระบี่ไว้แน่น ตวัดฟาดฟันเข้าใส่จี้เทียนซิงอย่างบ้าคลั่ง

มันฟาดกระบี่ดำ ปะทุปราณแท้อันเกรี้ยวกราดวาดเป็นคลื่นพลังกระบี่ขนาดใหญ่ปกคลุมทั่วฟ้ารอบๆจี้เทียนซิงกว่าร้อยเมตร

เรื่องที่มันกล่าวก่อนหน้านั้นเป็นความจริง ในการใช้หัตถ์ปราณผลาญฟ้านั้นจี้เทียนซิงจะสูญพลังไปถึงสามส่วน  เขาไม่อาจใช้มันได้ติดต่อกัน

อย่างไรก็ตาม จางเทียนได้ปลดปล่อยปราณแท้จริงอันยิ่งใหญ่รุนแรง ส่งผ่านไปยังร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง

พลังปราณสามส่วนที่เขาใช้ไปนั้นถูกเติมเต็มและฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว !

เมื่อได้รับพลังปราณหนุนเสริมจากจางเทียน จี้เทียนซิงก็ไม่กังวลว่าพลังจะหมดไป คนตะโกนตอบกลับว่า

"เกาอวี่ !  ดังที่ข้าเคยพูดไว้  ยังไงวันนี้เจ้าก็ต้องตาย !”

ฮ่าห์ !

 

จี้เทียนซิงแค่นเสียงเย็น พลันโคจรวิชาเทพกระบี่ กายาผสานเปลวเพลิงส่งผ่านไปที่กระบี่ แปรเปลี่ยนเป็นวิหคเพลิงตัวหนึ่งพุ่งเข้าเผชิญหน้ากับเกาอวี่

เคล็ดวิชาเทพกระบี่

กระบี่เทพหงสา !!”

กระบี่เทพหงสาเข้าพัวพันกับคลื่นกระบี่ของเกาอวี่อย่างดุเดือด ระเบิดเสียงดังทุ้มอย่างต่อเนื่องและกระชากคลื่นกระบี่แหลกเป็นเสี่ยงๆ

"เป้ง  เป้ง  เป้ง  !!"

เกาอวี่พยายามต่อต้านสุดฤทธิ์ ในที่สุดก็ปิดกันกระบี่เทพหงสาเอาไว้ได้  จากนั้นเหวี่ยงกระบี่จู่โจมไปที่จี้เทียนซิง

ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือดเหนือท้องฟ้าสูง ต่างปลดปล่อยกระบวนท่ามากมายที่ทรงพลังทำลายล้างโลกจนเกิดเสียงดังสะเทือนพสุธา

ใต้ยอดเขาฉิงเทียน การต่อสู้ล้างสังหารยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง

นับตั้งแต่ที่จี้เทียนซิงถูกประมุขนิกายกระบี่ฟ้าพัวพัน ผู้อาวุโสและผู้ดูแลหลายคนของนิกายกระบี่ฟ้าก็กลายเป็นฮึกเหิมและเปี่ยมไปด้วยเจตนาฆ่าฟัน

พวกมันนำพาสาวกนิกายกว่าพันคนบุกผ่านประตูนิกายดั่งสายน้ำ  เริ่มเปิดฉากการต่อสู้ห่ำหั่นกับสาวกของนิกายพันธมิตรสวรรค์

บนยอดเขาสูงสุดของนิกายพันธมิตรสวรรค์ ศิษย์สาวกจำนวนมากจากฝ่ายในต่างก็ทราบข่าวและคำสั่ง  ทุกคนกรูกันไปที่ประตูจัตุรัสด้านนอกเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้

อ้าก !  อ๊า......... !

เสียงกรีดร้องดังระงมที่แล้ว  ที่เล่า.......

ฉัวะ !   …..ฉัวะ !

ศพแล้วศพเล่าจมลงกับพื้น โลหิตสีแดงชาดฉีดพุ่งไปทั่วทุกแห่งหน

หยาดโลหิตสาดกระเซ็นเป็นละอองฝน โรยบนแผ่นพื้นเข้มข้นจนควบรวมกันเป็นลำธารโลหิตไหลลงสู่พื้น

อากาศเต็มไปด้วยไอปราณ ส่งคลื่นกระแทกและสายลมแรงไปอย่างต่อเนื่อง หอบพัดกลิ่นคาวเลือดเหม็นฉุนไปตามอากาศ กวาดไปทุกทิศทุกทาง

ในขณะที่การต่อสู้ล้างบางยังคงดำเนินต่อไป ท้องฟ้าก็กลายเป็นมืดมนและสลัวมากขึ้น เมฆก้อนใหญ่ค่อยๆรวมตัวกันอย่างเงียบๆ

ในไม่ช้าสองชั่วยามก็ผ่านไป

การต่อสู้ที่ดุเดือดในนิกายพันธมิตรสวรรค์ได้มาถึงช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุด

ศิษย์สาวกกว่า 500 คน, ยามและศิษย์รับใช้ของนิกายส่วนใหญ่ถูกนิกายกระบี่ฟ้าสังหารสิ้น !

ผู้รอดชีวิตกว่าร้อยคนค่อยๆถอยร่นกลับไปยังลานจัตุรัสฝ่ายใน  ทางด้านบนของยอดเขา

จากไหล่เขาไปจนถึงยอดเขา ซากศพจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนวางเรียงกันไปตามทางและบันไดหิน ดอกไม้ที่เคยงดงามตามท้องถนนของนิกายถูกชโลมไปด้วยโลหิต

หอยุทธ์ลำดับสามของฝ่ายนอกได้ล่มสลายและจำต้องยอมแพ้ อย่างไรก็ตามศิษย์สาวกส่วนใหญ่ของที่นั่นได้อพยพผู้คนไปยังที่อื่นแล้ว

นับตั้งแต่ก่อตั้งนิกายพันธมิตรสวรรค์ขึ้น มีภัยพิบัติครั้งใหญ่เกิดขึ้นหลายครั้งในประวัติศาสตร์ตลอดพันปี แต่พวกเขาก็ยังเอาตัวรอดกันมาได้

เมื่อหลายร้อยปีก่อนนิกายพันธมิตรสวรรค์ได้สร้างป้อมปราการใต้ดินขนาดใหญ่บนยอดเขาหลายแห่ง

ป้อมใต้ดินเหล่านี้สามารถรองรับผู้คนได้เกือบ 10,000 คน แม้จะผ่านมานับพันปีก็ยังไม่เคยถูกทำลาย

บัดนี้ เมื่อสี่นิกายใหญ่ปิดล้อมรอบนิกายพันธมิตรสวรรค์ เหล่าอาวุโสฝ่ายนอกและผู้ดูแลทั้งหลายก็พาศิษย์สาวกจำนวนมากเข้าไปหลบภัยในป้อมปราการใต้ดินอย่างรวดเร็ว

ในนิกายพันธมิตรสวรรค์ตอนนี้เหลือเพียงสมาชิกนิกายราวๆพันคนเท่านั้นที่ยังคงต่อสู้ปกป้องนิกายอย่างหนัก

พันกว่าคนนี้ล้วนเป็นศิษย์ ยาม ผู้ดูแล ครูฝึกและผู้อาวุโส

พวกมันปกป้องยอดเขาทั้งสี่ตามลำดับและอุทิศทั้งชีวิตและเลือดเนื้อเพื่อต่อต้านการโจมตีของสี่นิกาย

อย่างไรก็ตาม จำนวนศัตรูจากสี่นิกายนั้นมากกว่าพวกเขาถึงสองเท่า

พวกเขาไม่สามารถต้านทานการโจมตีจากนิกายใหญ่ทั้งสี่ได้ จนต้องล่าถอยอย่างต่อเนื่องและจำนวนก็ลดลงเรื่อยๆ

....

ตูม ตูม !!!

จี้เทียนซิงและเกาอวี่สัปประยุทธ์กันมากว่าสองชั่วยามบนท้องฟ้า แลกกระบวนท่ากันไปกว่าหลายร้อยยก

เกาอวี่เต็มไปด้วยบาดแผล เสื้อผ้าขาดแหว่งและถูกปกคลุมไปด้วยคราบเลือดไหลซึมจนแทบจะเป็นถุงเลือด

ทักษะและพลังลมปราณของมันถูกใช้ไปแทบหมดสิ้น พลังรบเหลือเพียงสามส่วนเท่านั้น

ส่วนจี้เทียนซิงไม่ได้รับบาดเจ็บที่เห็นได้ชัดบนร่างกาย  ปราณแท้ยังคงอุดมสมบูรณ์ พลังรบยังอยู่พร้อมพรักและหนาแน่นแข็งแกร่ง !

พรึ่บ  พรึ่บ

เขาสยายปีกปราณสีทองและลอยตัวอยู่กลางอากาศอย่างถือดี จ้องมองอีกฝ่ายที่อยู่ห่างไปเพียงร้อยเมตร

"เกาอวี่ ! เจ้าจบสิ้นแล้ว  ถึงเวลาชดใช้ความผิดบาป !”

สิ้นเสียง จี้เทียนซิงโคจรพลังปราณเตรียมจะใช้เคล็ดวิชาปลิดชีวิตเกาอวี่

แต่ในขณะนี้เอง ทั่วทั้งพื้นที่ของนิกายพันธมิตรสวรรค์กลับสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

ลึกลงไปใต้พื้นดินมีเสียงดังทุ้มและระเบิดดัง  ตูม !

อาคารบ้านเรือนทุกหลังบนยอดเขาสั่นครืนและแตกเป็นเสี่ยงๆ เกิดรอยแยกและช่องโหว่หนาแน่น อิฐหินดินทรายกระเด็นกระดอนมากมายนับไม่ถ้วน

พื้นดินแยกเป็นหุบเหวขนาดใหญ่ ยอดเขาและป่าไม้ทั้งหมดถูกแยกออกจากกันและบิดเบี้ยวผิดรูป

ฉากที่น่าตกใจดังกล่าวราวกับเป็นการเกิดแผ่นดินไหวที่รุนแรง

จี้เทียนซิงหน้าถอดสีในทันที กวาดสายตาหันไปมองสภาพแวดล้อมรอบๆอย่างรวดเร็ว

ตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่มีผู้ใดทราบ ก๊าซสีดำไหลออกมาจากท้องฟ้า

มวลอากาศเต็มไปด้วยความเยือกเย็นและกลิ่นไอมรณะอันโหดเหี้ยม

ท้องฟ้าเหนือยอดเขาชื่อเซียว ด้านหลังยอดเขาฉิงเทียนปรากฏหมอกมืดพุ่งสูงปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าราวกับว่าเมฆทมิฬกำลังกดทับบดบัง

ยอดเขาชื่อเซียวคือจุดที่สั่นไหวมากที่สุดราวกับมีสัตว์ร้ายขนาดมหึมาตัวหนึ่งใต้พื้นดินกำลังจะออกมาและบดขยี้ยอดเขาทั้งลูก !

ด้วยเสียงอู้อี้ดัง  "บูม  !!!"  ภูเขารอบๆยอดเขาชื่อเซียวก็พังทลายกินบริเวณเป็นวงกว้าง

สายตาของทุกคนรั้งรวมกันที่ยอดเขาชื่อเซียว ทุกคนจ้องมองไปที่จุดนั้นด้วยความหวาดกลัว

"เกิดอาเพศอะไรขึ้น ?"

"มีหมอกมารปีศาจบนท้องฟ้าได้อย่างไร ?"

"เมฆดำเหนือยอดเขาชื่อเซียวนั่นคือเมฆปีศาจ !”

"สิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร ?  หรือว่ามีกองทัพปีศาจภายในนิกายพันธมิตรสวรรค์ ?!"

เหล่าศิษย์สาวกผู้รอดชีวิตของนิกายพันธมิตรสวรรค์และนิกายอื่นๆที่กำลังห่ำหั่นกัน ต่างก็อุทานอย่างสยดสยอง

การปรากฏของหมอกปีศาจและเมฆปีศาจสร้างความตื่นตระหนกให้ทุกคน

ไม่เพียงแค่ยอดเขาฉิงเทียนเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเหล่านักรบบนยอดเขาหยูเจี้ยน  , ยอดเขาไท่อันและยอดเขาซวงเย่วอีกด้วย  ทุกคนต่างหยุดการสู้รบและเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า

ผู้คนของนิกายพันธมิตรสวรรค์ในรู้สึกหวาดกลัว ส่วนเหล่าผู้บุกรุกจากทั้งสี่นิกายก็ตื่นตระหนกและไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น

เดิมทีคนของนิกายเจิ้นหวู่ นิกายเฟิงฮั่วและนิกายพันใบไม้ร่วงกำลังได้เปรียบอย่างมาก พวกมันทำลายล้างขุนเขาไปได้สามลูกและสังหารคนของนิกายพันธมิตรสวรรค์ไปแล้วมากมาย

แต่ตอนนี้ทุกคนกลับหยุดการโจมตีและจ้องมองไปที่ยอดเขาชื่อเซียวด้วยความสงสัย

แม้แต่สามประมุขของสามนิกายใหญ่ก็ยังเต็มไปด้วยความสงสัย

ในระหว่างที่ทุกคนกำลังพูดคุยกัน เมฆดำบนฟ้าเริ่มก่อตัวหนาแน่นขึ้นกลายเป็นกระแสน้ำวนของหมู่เมฆสีดำขนาดใหญ่ค รอบคลุมทั่วยอดเขาชื่อเซียว

ภายในกระแสน้ำวนนั้น พลังอำนาจชวนสยองขนลุกขนพองได้ถูกปลดปล่อยออกมาและยอดเขาชื่อเซียวก็ถูกแรงกดทับไร้สภาพปราบปรามอย่างรุนแรง

มันทรุดตัวเร็วขึ้นและเร็วขึ้น  ภายในเวลาเพียงไม่ถึงสิบนาทีมันก็พังทลายลงกลายเป็นผืนดินและกองหินที่พังทลายลงมาอย่างไร้ที่สิ้นสุด

ตำหนักบ้านเรือนที่เคยสวยงามหลายสิบแห่งบนยอดเขาก็พังทลายลงมาเช่นกัน  ผสมปนเปกันเป็นกองฝุ่นและกรวด กระจัดกระจายไปตามหุบเขารอบๆ

เพียงชั่วพริบตา ยอดเขาสูงตะหง่านคู่บุญของนิกายพันธมิตรสวรรค์ก็หายวับไป เหลือเพียงซากปรักหักพังสูงร้อยเมตร

ฝุ่นคละคลุ้งที่ลอยอยู่เหนือซากปรักหักพังบดบังแสงจากดวงอาทิตย์และปกคลุมท้องฟ้าเป็นระยะทางหลายสิบไมล์

เสียงทุ้มต่ำดัง ‘ครึ่ก ครึ่ก ’ ก้องกังวานอยู่ระหว่างภูเขาและยังไม่หยุด

ผู้คนจากทุกนิกายต่างตกตะลึงและมองดูปรากฏการณ์ทั้งหมดนี้ด้วยหัวใจที่เต้นถี่รัว ความวิตกกังวลเพิ่มพูนขึ้นในใจอย่างเอ่อล้นมากขึ้นเรื่อยๆ

ทันใดนั้น บนท้องฟ้าที่ปกคลุมไปด้วยเมฆสีดำไร้สิ้นสุดพลันเกิดเสียงหัวเราะชวนขนลุกก้องไปทั่วโลกดังขึ้น

"เหอๆๆๆ   ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ... หนึ่งพันปี !”

ในที่สุดเราจักรพรรดิก็ได้ปรากฏตัวขึ้นบนโลกอีกครั้ง !"

*มีคนอยากรู้ว่าบวกกันตอนไหนเลยสปอยมาให้อ่านฟรีก่อนครับ*

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด