SM:บทที่ 10 เพิ่มพลังให้ศัตรู
SM:บทที่ 10 เพิ่มพลังให้ศัตรู
“คุณเงาคะ ศัตรูในวันนี้ถือว่าพิเศษอยู่หน่อยหนึ่ง ดังนั้นอย่าประมาทนะคะ” ตี้หยุนเอ่ยกับเซี่ยเย่ด้วยดวงตาฉายแววกังวล
เซี่ยเย่ที่ยังสวมหน้ากากเงินมองตี้หยุนอย่างไม่คาดคิดและเอ่ยขึ้น “โอ้ มันพิเศษอย่างไรหรือ? บอกผมได้ไหม”
“คือว่า ในสังเวียนของเรา คนที่ชนะสิบครั้งติดจะได้ชื่อผู้ชนะสิบทิศ สำหรับคนที่ชนะในสิบครั้งติดกัน เงินรางวัลของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นห้าเท่าตัว แต่จำนวนผู้ชนะสิบครั้งติดจะถูกทางสังเวียนควบคุมอย่างแน่นหนา ถ้าใครต้องการชนะในสิบครั้งติดกันและกลายมาเป็นผู้ชนะสิบทิศ เขาก็จะต้องชนะผู้ชนะสิบทิศคนปัจจุบันให้ได้ค่ะ”
หลังฟังคำอธิบายของตี้หยุนแล้ว เซี่ยเย่ก็รู้สึกสนใจขึ้นมาในทันที “ที่จะบอกก็คือ ศัตรูของผมในวันนี้ก็เป็นผู้ชนะสิบครั้งรวดเหมือนกันงั้นหรือ?”
“ค่ะ พลังของคนที่จะมาเป็นระดับเทพนั้นห่างไกลจากนักรบทั่วไปนัก พวกเขาต่างเป็นผู้ทรงพลังทั้งหมด โดยเฉพาะวันนี้ศัตรูของท่านเป็นผู้ชนะสิบทิศของหน่วยมังกรเขียว หน่วยพยัคฆ์ขาวของเรากับหน่วยมังกรเขียวต่างไม่ถูกกัน ครั้งนี้ศัตรูของคุณจะต้องทำทุกวิถีทางที่จะฆ่าคุณแน่” ตี้หยุนเป็นกังวล โชคของเซี่ยเย่นับว่ายังดีไม่พอ
“ฮ่า ๆ ขอบคุณในน้ำใจของคุณมากนะ แต่เมื่อผมกล้าที่จะมายังสังเวียนนี้แล้ว ผมก็ไม่มีเหตุผลที่จะถอยหนี ถ้าผมไม่ต้องการทิ้งชีวิตไว้ที่นี่ ผมก็ต้องพึ่งพาความสามารถที่แท้จริงของตัวเอง” เซี่ยเย่ถูแก้วในมือแล้ว ดวงตาของเซี่ยเย่ก็ลุกโชนด้วยแรงสังหาร ที่เกิดการการสังหารครั้งล่าสุดในสังเวียน
รังสีสังหารของเซี่ยเย่ทำให้ตี้หยุนรู้สึกหนาวเยือกขึ้นมา เธอไม่รู้เกี่ยวกับชายหนุ่มเลย แต่คุณหนูซีให้ความสำคัญกับเขามาก ยิ่งกว่านั้นในครั้งนี้เธอกับผู้นำหน่วยมังกรเขียวต่างพนันกันยิ่งใหญ่สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้
ขณะเดียวกันในห้องวีไอพีบนชั้นบนของสังเวียน คุณหนูซีก็นั่งเอกเขนกบนโซฟานุ่มพร้อมกับแท่งน้ำตาลในปาก
ในตอนนี้ประตูของห้องวีไอพีถูกเปิดออก ชายหนุ่มแข็งแรงผู้มีรอยแผลเป็นน่ากลัวบนใบหน้าก็เข้ามาพร้อมกับชายชุดดำจำนวนหนึ่ง
คุณหนูซีเหลือบมองเขาเล็กน้อย เธอไม่ใส่ใจกับใบหน้าเต็มไปด้วยรอยแผลของชายร่างกำยำ ชายร่างกำยำนั่งอยู่ทางด้านหนึ่งของเก้าอี้ หยิบไวน์รอบตัวขึ้นมารินให้ตัวเองเเก้วหนึ่งและยกขึ้นจิบ
“พยัคฆ์ขาว เธอช่างเต็มใจพนันกับฉันอย่างอู้ฟู่ในครั้งนี้จริงๆ เธอต้องรู้นะว่าหน่วยมังกรเขียวของเราเป็นมังกรพิษ แม้แต่ผู้ชนะสิบทิศก็ไม่ใช่คนฝีมือกระจอก อย่าโทษว่าฉันข่มเหงคนอ่อนแอกว่าแล้วกัน”
คุณหนูซีไม่ได้มองหน้าชายหน้าแผลเลย แต่กลับมองสังเวียนด้านล่างเล็กน้อย “ครั้งนี้ฉันต้องขอบคุณมังกรเขียว ไข่เทอโรซอร์แข็งแกร่งใบนั้นเป็นประโยชน์กับฉันมาก”
“โอ้ เธอช่างมั่นใจเหลือเกินนะ ฉันได้ยินมาว่าหน่วยพยัคฆ์ขาวของเธอตอนนี้มีผู้มาใหม่นี่” มังกรเขียวเงยหน้าขึ้นและดื่มไวน์ชั้นเลิศในแก้ว รอยยิ้มกริ่มผุดที่มุมปากของเขา
คุณหนูซีไม่ได้หันหน้ามา เธอนั่งบนโซฟาและแกว่งขาเรียวขาว ริมฝีปากเปรอะเปื้อน เธอเอ่ยขึ้น “แล้วอย่างไร? ฉันอยากรู้นักว่าจะเทียบมันได้ไหม ทำไมต้องรีบด่วนสรุปเช่นนั้นด้วยล่ะ มังกรเขียว?”
มังกรเขียวแสยะและไม่โต้เถียงกับคุณหนูซีอีก เขาทำเพียงมองหนึ่งในจอมยุทธ์รอบตัว หลังรับคำสั่งจากมังกรเขียวแล้ว จอมยุทธ์ทั้งหลายก็ถอยตัวออกจากห้องวีไอพี
สำหรับการเคลื่อนไหวเล็กน้อยของมังกรเขียว คุณหนูซีก็ไม่ได้ห้าม แต่ยังคงสงบนิ่งดังเดิม
“มังกรพิษ ท่านมังกรเขียวมีคำสั่งว่านายต้องสู้ยิบตาในการแข่งขันครั้งนี้ ต่อให้นายตาย นายก็แพ้ไม่ได้”
มังกรพิษเป็นชายกลางคนผิวเขียวท่าทางชั่วร้าย ได้ยินเสียงของผู้คุ้มกัน เขาก็เเสยะออกมาและเอ่ยขึ้น “ไม่ต้องกังวล ไอ้หน้าใหม่คนนี้ฉันจะปฏิบัติต่อมันอย่างดีเลยล่ะ ฮี่ๆ…”
จากนิสัยของมังกรพิษนั้น เหล่าผู้คุ้มกันต่างคุ้นเคยมานานแล้ว ทว่าเขาก็เอ่ยเสียงเย็นชา “ระวังตัวเองด้วย ถ้านายไม่สามารถทำตามคำสั่งของท่านมังกรเขียวสำเร็จ นายคงรู้ผลลัพธ์นะ”
แม้แต่คนชั่วร้ายอย่างมังกรพิษยังอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นยามได้ยินดังนั้น เขากลัวจนลืมกลัวศัตรูของตัวเองไปเลย
บนสังเวียน กรงเล็บพิษสีเขียวได้ลงมาจากฟ้าราวกับมือยักษ์ปกคลุมท้องฟ้าไว้ขณะคว้าตัวเซี่ยเย่ เสียงของโฆษกตะโกนก้องอย่างป่าเถื่อน “เหลือเชื่อจริง ๆ เหลือเชื่อมากเลยครับ ท่านมังกรพิษที่ชนะสิบครั้งกลับคาดไม่ถึงว่าจะใช้กระบวนยุทธ์ประจำตัวอย่างกรงเล็บมังกรพิษในทันทีที่ลงสนาม ดูเหมือนว่าเขาจะชนะในการประลองครั้งนี้แล้ว”
ตู้มมม...ร่างของเซี่ยเย่พลิกตัว หลบหลีกการโจมตีของมังกรพิษ แต่จากนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงลมพัดวูบ พร้อมกับพื้นดินที่ถูกกรงเล็บมังกรพิษโจมตีกร่อนลงจนเป็นหลุมยักษ์
“มันมีฤทธิ์กัดกร่อนแรงมาก ดูเหมือนท่าประจำตัวของมังกรพิษจะไม่ธรรมดาจริง ๆ ฉันตายแน่ถ้าสัมผัสถูกมัน” ร่างของเซี่ยเย่หายวูบอีกครั้ง ดีแล้วที่ปล่อยให้กรงเล็บนั้นกวาดผ่าน มีเพียงแขนเสื้อที่ถูกกัดกร่อนไปครึ่งหนึ่ง ซึ่งอันตรายนัก
“ตายซะ ๆ ฮ่า ๆ…”
โดยไม่ปรานี มังกรพิษโจมตีอย่างบ้าคลั่ง มันจะฆ่าเซี่ยเย่ด้วยมือทั้งสองข้างนี่ล่ะ กรงเล็บของมังกรพิษพุ่งออกไปอีกครั้ง ขณะหนึ่งในสังเวียน เซี่ยเย่ทำได้เพียงแค่หลบหนีเท่านั้น ไม่มีโอกาสได้สู้กลับเลย
“จุ๊ๆ มังกรพิษหายไปเพียงไม่กี่วัน แต่กรงเล็บมังกรพิษของเขาก็ทำให้ดูเป็นชายชาตรีขึ้นมา” จากจอมยุทธ์อย่างมังกรเขียว การใช้พลังปราณอย่างเรียบง่ายของมังกรพิษนั้นไม่ชัดเจนนัก แต่มันก็หายากในหมู่จอมยุทธ์ระดับล่าง
“พยัคฆ์ขาว ไอ้หนุ่มที่เธอหามากำลังตายแล้วนะ จนถึงตอนนี้ก็ไม่มีโอกาสจะสู้กลับเลย” มังกรเขียวเอ่ยด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า แต่รอยยิ้มของเขาดูน่ากลัวเล็กน้อย “ด้วยผลประโยชน์มหาศาลจากเธอ ค่าพลังของฉันก็จะบรรลุไปอีกขั้นหนึ่งอีกครั้ง จากนั้นในหมู่คนทั้งสี่ ฉันก็จะเป็นที่ยอมรับของหน่วยมังกรเขียวของฉันแล้ว ฮ่า ๆ…”
แม้จะได้ยินเสียงอุทานบ้าคลั่งของมังกรเขียว คุณหนูซีก็ทำเพียงเขม่นดวงตาจันทร์เสี้ยวของเธอยามมองเซี่ยเย่ในสนามรบที่ไม่มีท่าทีเร่งร้อนด้วยดวงตาฉายประกายเบาบาง
ในตอนนี้เซี่ยเย่ที่กำลังหนีไปรอบ ๆ มีร่างกายเฉื่อยชานัก และไม่มีสัญญาณว่าจะหลบหลีกกับการเผชิญหน้ากรงเล็บยักษ์ที่เข้ามาทั้งซ้ายและขวาเลย
“ยอมแพ้แล้วเหรอ? ดี ให้ฉันจบความเจ็บปวดของแกเถอะ”
มังกรคำรามบ้าคลั่ง กรงเล็บทั้งสองพุ่งมาอย่างรวดเร็วเป็นเวลาขณะหนึ่ง และคว้าตัวเซี่ยเย่ไว้
ทันใดนั้น เห็นว่าเซี่ยเย่กำลังจะตาย ความเร็วของเขาก็เพิ่มขึ้นมากกว่าเเต่ก่อนเล็กน้อย เขาไม่แสดงความเร็วสูงสุดเหมือนเมื่อก่อน
เมื่อวิชาเก้าดาราถูกเรียกใช้ กรงเล็บพิษก็คลาดจากตัวเขา เซี่ยเย่พุ่งตัวเข้าใส่มังกรพิษไปหลายหลา แต่เขาต้องการสู้กับอีกฝ่าย
“แกคิดว่าจะมีโอกาสประชิดตัวฉันงั้นหรือ?”
การเป็นผู้ชนะสิบทิศ หากมีจุดบกพร่องเช่นนั้นจริง มังกรพิษจะอยู่รอดมาจนถึงบัดนี้หรือ? คิดเพียงเท่านี้มือทั้งคู่ของเขาก็ประสานกัน ม่านพิษแผ่กระจายตรงหน้าในทันที สกัดกั้นแนวการโจมตีของเซี่ยเย่
ถ้าเซี่ยเย่ไม่หลบออกไป แต่กลับพุ่งเข้ามาต่อ เขาก็จะได้รับบาดเจ็บจากม่านพิษ และไม่มีโอกาสที่จะชนะในครั้งนั้น แต่เขากลับไม่ยอมแพ้ ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว
วูบบบบ...ขณะที่เซี่ยเย่กำลังจะปะทะกับม่านพิษ มีลำแสงหนึ่งเกิดขึ้นในมือ และดาบหนักสีดำก็ปรากฏขึ้น
ชั่วขณะหนึ่ง ภาพทั้งหมดก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ แหวนเฉียนคุนเป็นอุปกรณ์เอกภพที่มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่สามารถมีได้
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดว่าทำไมเซี่ยเย่ถึงมีอุปกรณ์เอกภพได้ เขาเพียงเห็นดาบหนักในมือของเขาฟันลงมาอย่างฉับพลันและรู้สึกถึงความหนักหน่วงที่กดบนม่านพิษของเขา
เเซดด...ม่านพิษสลายตัวในทันที และพลังของดาบหนักนั้นก็ไม่ลดลง มันฟันร่างของมังกรพิษเบื้องหลังม่านพิษ
โดยไม่คิดเลยว่าพลังโจมตีของเซี่ยเย่จะทรงพลังขนาดนี้ ใบหน้าของมังกรพิษฉายแววบ้าคลั่ง “หลงหัว!”
ทันใดนั้นเอง มือของมังกรพิษที่ปกคลุมด้วยเกล็ดบางสีเขียวก็เปลี่ยนเป็นกรงเล็บคู่หนึ่ง
ฉัวะ...เลือดสาดกระจายไปทั่วสถานที่ ดาบนั้นฟันบนกรงเล็บแต่ไม่ได้ฟันจนขาด พวกเขาถอยกลับไปและมองอีกฝ่ายอย่างหวาดระแวง
บนกรงเล็บของมังกรพิษ เลือดไหลรินออกมา พร้อมกับเซี่ยเย่ที่หอบหายใจเล็กน้อย แม้พลังโจมตีที่เกิดขึ้นดูเหมือนจะเรียบง่าย แต่มันก็กินพลังไปมาก ดาบหนักในมือของเขามีค่าสามล้านหยวนหากซื้อกับจินตั๋ว นักรบมนุษย์เกิดมาพร้อมกับโครงสร้างที่อ่อนแอ นอกจากจอมยุทธ์ที่มุ่งเน้นฝึกกำลังกายแล้ว พวกเขาส่วนใหญ่ก็มีฝีมือในการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ทุกชนิด
“น่าสนใจนักที่มังกรพิษใช้ทักษะการเปลี่ยนร่างเป็นมังกรได้ แต่หลังจากเปลี่ยนร่างเป็นมังกรแล้ว ค่าพลังของมังกรพิษก็จะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าตัว ถึงเวลาจบเรื่องแล้วล่ะ” มังกรเขียวเอ่ยด้วยความมั่นใจราวกับว่าเขากำลังเอ่ยถึงเรื่องในภายภาคหน้า และราวกับว่าเขามีความมั่นใจในตัวเองอย่างล้นเหลือ
“ปล่อยให้ฉันใช้หลงหัวจนได้ ไอ้หนุ่ม ถึงคราวแกแล้ว!”