ตอนที่แล้วMPE บทที่ 58 ตะขาบสายฟ้าหลังม่วง ปะทะ แมงป่องเกราะม่วง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMPE บทที่ 60 ฮัสกี้ขนมอสตัวผู้

MPE บทที่ 59 การฝึกภาคสนาม


เมื่อเห็นแมงป่องเกราะม่วงที่น่าสาร นอนอยู่ในกรงในสภาพปางตาย เหล่านักเรียนไม่กล้าแม้แต่จะมองมัน เบนหน้าหนีไปทางอื่น

เกาเผิงชำเลืองมองพวกนักเรียนแวบหนึ่ง จากนั้นต้องเบนความสนใจกลับมาที่ต้าซื่อ เขาเอาทิชชู่เปียกมาเช็ดคราบเลือดออกตามตัวของมัน

ตอนนี้พวกนักเรียนเริ่มที่จะส่งสัตว์อสูรไปต่อสู้ในกรงบ้างแเล้ว โดยมีผู้ฝึกสอนคอยเตรียมพร้อมช่วยเหลือทุกเมื่อ ทุกครั้งหมาป่าจันทราสีเงินไปช่วยเมื่ออยู่สถานการณ์ที่วิกฤติ แม้ผู้ฝึกสอนจะไม่สามารถรับประกันได้ว่า เขาจะช่วยให้จำนวนสัตว์อสูรให้ไม่ตายได้100%  แต่ก็มั่นใจได้90% ที่เหล่าสัตว์อสูรของนักเรียนจะไม่ได้รับอันตรายร้ายแรงใดใด แต่ในสถานการณ์จริง สัตว์อสูรจะไม่ปรานีคุณ แม้ว่าคุณจะมีทรัพย์สินเงินทอง ยศถาบรรดาศักดิ์เพียงใดก็ตาม คุณก็เป็นได้เพียงแค่เหยื่อในสายตาพวกมัน

เหยื่อที่รสเลิศ มันจะไม่ยอมปล่อยคุณไปเด็ดขาด

ถ้านักเรียนยังไม่ปรับเปลี่ยนความคิด พวกเขาจะมุ่งหน้าสู่ความตาย

ในตอนแรก เกาเผิงก็เป็นคนใจอ่อนเช่นกัน ในอาทิตย์ที่แล้ว ผู้ฝึกสอนได้นำกระต่ายยักษ์ขนยาวสีเขียวสุดน่ารักมาเป็นสัตว์อสูรให้ฝึกสอนในกรง

ในโลกนี้ “สิ่งดึงดูด” นั้นมีอยู่จริงๆ ไม่ว่าใครก็ต้องหลงใหล

เจ้ากระต่ายยักษ์ผู้น่ารักที่ถูกทุบตีเลือดออกและเศร้าซึมในกรงนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับคนจิตใจอ่อนโยนที่จะทำใจโจมตีมันต่อได้

การเป็นคนใจดีไม่ใช่เรื่องที่ผิด คนที่มีเมตตา กรุณาเป็นสิ่งที่ดี แต่มันไม่สามารถช่วยให้คุณเอาตัวรอดจากโลกใบนี้ได้ แม้จะเป็นเรื่องแย่ที่ต้องเรียนรู้ในการเป็นคนที่โหดร้าย แต่เพราะต้องออกไปสู้กับสัตว์อสูรที่อยู่ภายนอก เพราะฉะนั้นนี่ไม่ใช่การทำร้ายผู้อื่น เราต้องเรียนรู้ที่จะแข็งแกร่งเพื่อปกป้องตนเองและคนสำคัญของคุณ

เกาเผิงได้นึกถึงบทความอันนึงที่เคยอ่านก่อนที่จะเกิดมหาภัยพิบัติ

‘ฉันไม่สนว่าโลกนี้จะมืดมนเพียงใด

ไม่คุณจะมีอำนาจมากเพียงใดก็ตาม

ฉันจะจัดการไอ้พวกระยำพวกนั้น

ที่กล้าเอามืออันแปดเปื้อนมาแตะต้องนางฟ้าตัวน้อยของฉัน

ให้มันได้รับรู้

ฉันจะใช้แขนของฉัน

เด็ดหัวแกออกมา

ยัดใส่ตูดของแก!!’

...

ภายใต้แสงแดดอันร้อนระอุ แสงอันร้อนแรงกระทบกับดวงตา

เกาเผิงแตะที่เปลือกเย็นๆของต้าซื่อ มันสามารถส่งผ่านความเย็นผ่านทางเปลือกของมันได้

เกาเผิงลูบหัวของต้าซื่อแล้วพูดว่า “พักสักหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวแกได้เหนื่อยจากการต่อสู้ต่อไปแน่ๆ”

ต้าซื่อลงไปนอนบนพื้นอย่างเชื่อฟัง เกาเผิงนำร่มขนาดใหญ่มากาง พวกเขานอนด้วยกันภายใต้เงาของร่ม

...

“ทุกคนมารวมตัวกันที่นี่ ผมมีเรื่องสำคัญจะประกาศ” ผู้ฝึกสอนจางปรบมือเรียนเหล่านักเรียนมารวมกลุ่ม  “พวกคุณได้ฝึกขั้นพื้นฐานมาไม่มากก็น้อยแล้วตอนนี้ ฉะนั้นพรุ่งนี้เป็นต้นไป พวกคุณจะได้ไปฝึกภาคสนาม โดยระยะการฝึกเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ ทางเราได้ทำเรื่องขอลาหยุดให้กับพวกคุณแล้ว  ฉะนั้นเมื่อถึงบ้านพวกคุณไปปรึกษาเรื่องนี้กับผู้ปกครองนะ โดยจะมีค่าลงเบียน จำนวน 5เครดิตพันธมิตร” จาง เหรินไป่ กล่าวด้วยเสียงที่ดัง

‘การฝึกภาคสนาม?’ เกาเผิงประหลาดใจเล็กน้อย ที่พวกเขาประหยัดค่าใช้จ่ายในการฝึกพวกเรา

“สุดท้ายนี้ผมมีเรื่องสำคัญจะบอกคุณ” สีหน้าของจาง เหลียนไบ เคร่งเครียดมาก “ถ้าพวกคุณตกลงจะไป พวกคุณจะต้องเซ็นเอกสารยินยอมในกรณีที่เสียชีวิตด้วย”

ทุกคนตกตะลึงเพียงชั่วครู่ จากนั้นก็เรื่องเกิดความโกลาหล เหล่านักเรียนแตกตื่นตกใจ

“อาจารย์ครับ พวกเราต้องจ่ายค่าลงทะเบียนจริงๆเหรอครับ?” นักเรียนบางคนมีท่าทีที่ไม่พอใจ 5เครดิตพันธมิตรอาจจะดูไม่มากมาย แต่จำนวนเงินก็ไม่ที่จะมองข้ามไปได้

“อาจารย์ครับ ไม่ใช่ว่าการฝึกนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายไม่ใช่เหรอครับ ทำไมเราจะต้องจ่ายด้วย” เสียงบ่นมาจากเด็กอีกคน

ผู้ฝึกสอนยังนิ่ง จ้องไปที่พวกเขา “พวกคุณสามารถเลือกที่จะไม่ไปก็ได้ หรือพวกคิดว่าจะสามารถเข้าฝึกในฐานทัพของพวกเราได้ง่ายๆรึไง”

มีนักเรียนคนหนึ่งกล่าวเสริมทันที “ฐานทัพพวกนี้ หากจะเข้าไปจำเป็นต้องจ่าย สัปดาห์ละ20เครดิตพันธมิตรด้วยซ้ำ ราคานี้ยุติธรรมมากสำหรับพวกเรา คิดว่าการจับสัตว์อสูรจะไม่ได้ใช้เวลาและทรัพยากรเลยเหรอ แล้วการสร้างฐานทัพจะไม่ต้องการเงินและแรงงานรึไง ไม่คิดว่ารัฐบาลจะเป็นหนี้บ้างเหรอ?”

นักเรียนที่ลุกขึ้นมาประท้วงถึงกับนิ่งเงียบ

นักเรียนที่เพิ่งพูดตะกี้เขาเข้าใจทุกอย่าง เกาเผิงเพ่งมองไปที่เขา

‘นั่นมัน เจ้าของไก่มังกรนี่’

ขาของไก่มังกรได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ด้วยเจ้าหน้าผู้เชี่ยวชาญ แต่มันยังมีคราบน้ำตา มันคอตก ท่าทางเศร้าซึมที่พ่ายแพ้ครั้งนั้น

“นอกจากกาจ่ายเงินแล้ว เรายังมีทางเลือกอื่นอีก” ผู้ฝึกสอนกล่าว “ต้องเซ็นสัญญามาเป็นกองกำลังของพวกเรา ภายใต้สัญญา ค่าใช้จ่ายทุกอย่างจะได้รับการยกเว้น พวกคุณไม่ต้องกังวลเรื่องของอนาคต จะได้ทำงานภายใต้สังกัดของรัฐบาลอีกด้วย”

“นักเรียนที่เซ็นสัญญา จะต้องรับใช้กองทัพเป็นเวลา 8ปี เมื่อครบ 8ปี คุณจะปลดประจำการ ถ้าใครบางคนต้องการเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร ช่วงเวลาที่เรียนในโรงเรียนเตรียมทหารจะถูกนับรวมใน 8ปีนี้ด้วย”

แววตาของนักเรียนค่อยๆดีขึ้น พวกเขาเริ่มที่จะยอมรับข้อเสนอนี้

บางคนพึมพำกับตัวเอง “ถ้าฉันจะเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร เราก็จะเรียนแค่4ปี ส่วนอีก4ปีรับใช้กองทัพ ข้อเสนอนี้มันเยี่ยมไปเลย!!”

นี่เป็นกุศโลบายการรับสมัครทหารอันชาญฉลาดของรัฐบาล นักเรียนจะไม่ถูกบังคับ แต่จะเป็นการยื่นข้อเสนอให้มาร่วมการเกณฑ์ทหารโดยสมัครใจ ถ้าวางแผนจะเกณฑ์ทหารอยู่แล้วนี่เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ หรือถ้าวางแผนจะไปเรียนต่อที่โรงเรียนเตรียมทหารก็เป็นข้อเสนอที่ดีเช่นกัน

นักเรียนที่เก่งและมีความสามารถจะกลายเป็นกำลังหลักให้กับกองทัพในภายภาคหน้า

นี่เป็นโอกาสที่ดี ที่จะได้เจอผู้ที่แข็งแกร่ง การมีคนเก่งๆมีทำงานเป็นเวลา4ปี กับการมีทหารธรรมดาๆทำงาน8ปี คิดว่าใครจะได้ประโยชน์มากกว่ากัน?

ใช่แล้ว นั่นคือรัฐบาล

นอกจากเรื่องค่าใช้จ่ายแล้ว ความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตนั้นก็เป็นสิ่งที่เด็กๆหลายคนกลัวเช่นกัน

“ผมจะตายมั้ยครับ ถ้าผมสมัครเข้าไป” มีใครบางคนถาม ช่างเป็นคำถามที่ไม่ฉลาดเอาซะเลย

คนรอบๆมองเหยียดไปที่เขา

“การทดสอบการเป็นนักเรียนเตรียมทหารนั้นแตกต่างการทดสอบอื่นๆ ดังนั้นนี่จึงเป็นสิ่งที่ดีที่คุณจะได้รับโอกาสการเข้าฝึกสุดพิเศษจากเรา” ผู้ฝึกสอนกล่าวด้วยเสียงต่ำ “การที่คุณเซ็นใบยินยอมนั้น ก็ไม่ได้หมายความคุณจะต้องตายซะหน่อย แต่ถ้าคุณมีปัญญาแค่นี้ ผมคงต้องขอถอนคำพูดที่พูดเมื่อสักครู่ซะแล้ว”

...

วันต่อมา เกาเผิงเดินทางมาถึงโรงเรียน มีรถบัสหุ้มเกราะจอดเต็มหน้าประตูโรงเรียน รถบัสหุ้มเกราะเสริมเหล็กเข้าไปอีกชั้น รถบัสจอดยาวตลอดแนวทางออก มีอย่างน้อย 30คัน

หลังจากจ่ายค่าลงทะเบียนแล้ว เกาเผิงขึ้นไปที่รถบัส  เมื่อทุกคนจับจองที่นั่งเต็มหมดแล้ว รถบัสหุ้มเกราะเริ่มออกเดินทางในทันที ส่วนเหล่าสัตว์อสูรทั้งหมดถูกจัดเรียงด้วยรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่อยู่ข้างหลัง

บรื้นนนน------

เสียงเครื่องยนต์เบามาก แล้วดูเหมือนจะมีระบบซึมซับแรงกระแทกที่ดี ไม่ว่าจะวิ่งเร็วแค่ไหน พวกเขาก็แทบจะไม่รู้สึกแรงสั่นสะเทือนเลย

ทิวทัศน์ข้างทางนอกหน้าต่างพร่ามัว ดูเหมือนมันจะเคลื่อนอย่างเร็วมาก เกาเผิงรู้สึกเคลื่อนไส้เมื่อมองข้างนอกจึงหลับตาและเอนหลังนอนหลับบนที่นั่ง

ในที่สุดก็ถึงที่หมาย รถบัสหุ้มเกราะจอดตรงหน้าหุบเขา เหล่านักเรียนลงจากรถอย่างระเบียบ พวกเขาสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าเต็มปอด

มีพืชพันธุ์นานาชนิดปกคลุมไปทั่วบริเวณ มีร่องรอยว่าเคยมีมนุษย์อาศัยอยู่ที่นี่มาก่อน

มีหุบเขาขนาดยักษ์ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าพวกเขา เกาเผิงประมาณความสูงจากสายตา คงไม่ต่ำกว่าหลายร้อยเมตรแน่ๆ

ทางเข้า ทางออกของหุบเขาเป็นทางเดียวกัน มันอยู่ตรงช่องว่างขนาดใหญ่โดยมันถูกแบ่งครึ่งแทบจะพอดี

มีรถบัสจอดเต็มหน้าทางเข้า ส่วนนักเรียนยืนอออยู่ตรงทางเดินเข้า

ประตูทางเข้ามีการรักษาความปลอดภัยเต็มรูปแบบ เหล่าทหารที่ทำหน้าที่เฝ้าประตูพกอาวุธครบมือ พวกเขาปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเคร่งเครียด

“ที่นี่แหละ พวกเรามาถึงแล้ว”  ผู้ฝึกสอนเดินนำทางเข้าไป “เราจะพักก่อนเป็นลำดับแรก พวกเรามาส่งแค่ตรงนี้ จากนี้พวกคุณต้องเดินทางเข้าไปกันเอง”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด