GE379 เจ้าเล่นกับเพลิง [ฟรี]
หนิงฝานหมดสติ แก่นดาดราแห่งชีวิตที่อยู่ภายในร่าง ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บให้อย่างรวดเร็ว การต่อสู้ที่หนักหน่วงส่งผลให้จิตใจต้องรับภาระหนัก เขาจึงหมดสติไปหลายวัน
ในระหว่างที่หมดสตินั้น เป่ยเซี่ยวเหมินคอยดูแลข้างกาย นางไล่บ่าวรับใช้ออกไป เหลือไว้เพียงไม่กี่คนเพื่อคอยเตรียมสมุนไพรให้
นางไม่อนุญาติให้ผู้ใดเยี่ยมหนิงฝาน เว้นแต่เพียงย่าหลานเท่านั้น
เรื่องที่หนิงฝานาเอาชนะซีเหมินเย่ได้เลื่องลือไปทั่วทั้งแดนสวรรค์เหนือ กลบข่าวที่ลู่เป่ยสังหารซือฉวนและหลินซู เพราะผู้ที่ซัวหมิงเอาชนะได้นั้น คือราชาแห่งแดนตะวันตก
แม้ที่เอาชนะได้จะเป็นร่างจำแลง นอกจากระดับพลังฝีมืออื่นๆก็ไม่ต่างกัน ที่สำคัญร่างจำแลงของซีเหมินเย่ยังแข็งแกร่งทัดเทียมผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง ไม่ใช่สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณจะเทียบได้
แต่สุดท้ายมันก็แพ้ด้วยน้ำมือของผู้เชี่ยวชาญในโลกมนุษย์เบื้องล่าง
ในโลกพิรุณเอง ชื่อเสียงของซัวหมิงก็กลบชื่อเสียงของลู่เป่ยเช่นกัน แต่น่าเสียดายที่ไม่มีผู้ใดรู้ว่าทั้งสองเป็นคนคนเดียวกัน
เรื่องที่เกิดขึ้นในหอคอยใต้ หนิงฝานไม่อณุญาติให้ผู้ใดนำไปป่าวประกาศ แม้ตนเองจะเอาชนะซีเหมินได้ แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก หากร่างจริงของมันมา เขาคงไม่มีทางสู้ได้ ระยะห่างระหว่างตัวเขาและซีเหมินเย่ยังมากเกินไป
ระหว่างต่อสู้ หนิงฝานเค้นกำลังจนบรรลุขอบเขตกระดูกหยกที่ 4 ชั่วขณะ แต่หลังจากการต่อสู้และอาการบาดเจ็บที่หนักหน่วง ทำให้ระดับร่างกายลดลงเหลือขอบเขตกระดูกหยกที่ 3 ขั้นสูงสุด
ร่างของหนิงฝานถูกนำมาแช่ไว้ในอ่างสมุนไพร เป่ยเซี่ยวเหมินล้างโลหิตออกจากกายหนิงฝานให้ด้วยตนเอง
หนิงฝานไม่สึกตัวจึงไม่รู้ว่าสตรีที่แข็งกร้าวอย่างนาง จะคอยปรนนิบัติผู้อื่นได้
หากพี่สาวของนางอยู่ที่นี่และได้เห็นสิ่งที่นางทำ พวกนางคงตกตะลึง
เป่ยเซี่ยวเหมินนำผ้าค่อยๆเช็ดล้างร่างกายของหนิงฝานอย่างระมัดระวัง
รูปร่างของนางดูราวกับเด็กสาวอายุ 14 ยิ่งสถานะสูงส่งของนางยิ่งจะเป็นไปไม่ได้ที่นางจะคอยปรนนิบัติผู้ใด
หนิงฝานที่หลับโดยไม่รู้ตัวนั้น ดูราวกับเด็กหนุ่มธรรมดาคนหนึ่ง หน้าผากกว้างแสดงถึงความกล้าหาญ
นางลูบสัมผัสแผ่นอกหนิงฝานเบาๆพลางบ่นกล่าว
“เจ้าคงคิดว่าหน้าอกข้าเล็ก… เจ้าเองก็ตัวเล็กเหมือนกัน ใครจะไปคิดว่าคนที่แข็งแกร่งอย่างเจ้าจะมีร่างกายที่ผอมบางแบบนี้… แต่เจ้าก็น่ารักดี!”
“ผู้เป็นนายล้างกายให้บ่าว...ถือว่าข้าเมตตากับเจ้ามากแล้ว เจ้าต้องขอบคุณในความเมตตาของข้า หากไม่เพราะเห็นแก่เจ้าที่บาดเจ็บหนัก ข้าไม่มีทางมาช่วยเจ้าอาบน้ำแน่นอน”
“ถึงเจ้าจะดูชั่วร้ายและกร้าวแกร่ง แต่ยามหลับ...เจ้าช่างดูมีเสน่ห์นัก”
นางกล่าวพึมพัมพลางชำระกายให้หนิงฝานอย่างระมัดระวัง
ส่วนบนของร่างกายนางกล้าสัมผัส แต่ข้างล่าง...มีบางส่วนที่นางไม่ค่อยอยากสัมผัสมัน
นางทำใจอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะเอื้อมมือน้อยๆไปสัมผัส เช็ดล้างทำความสะอาดเป็นอย่างดี เดิมทีสิ่งนั้นอ่อนนุ่ม แต่เมื่อสัมผัสไปไม่นาน มันกลับแข็งและชูชัน
เมื่อเช็ดล้างเสร็จ และนางกำลังจะลุกยืน สิ่งนั้นของหนิงฝานกลับสัมผัสเข้าที่ใบหน้าของนาง
นางโกรธมากจนเกือบจะหากรรไกรมาตัดมันทิ้ง
ช่างเป็นเรื่องที่น่าอับอายเป็นอย่างยิ่ง หากให้ผู้ใดรู้ว่าสิ่งนั้นของบุรุษสัมผัสใบหน้า นางคงอับอายจนไม่อยากมีชีวิตอยู่
“เจ้าจงใจ! เจ้าบ้า!”
นางหยิบผ้ามาเพิ่ม เช็ดล้างทำความสะอาดส่วนล่างของร่างกายซ้ำ จากนั้นขบฟัน หลับตา เช็ดทำความสะอาดสิ่งนั้นของหนิงฝานอีกครั้ง
ทุกครั้งที่นางสัมผัสโดนมัน นางรู้สึกมึนชาไปทั้งตัวอย่างไม่ทราบสาเหตุ เป็นความรู้สึกที่น่าอึดอัด
นางหวนนึกถึงคราวที่พบหนิงฝานครั้งแรก ยามนั้นเขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญประสานวิญญาณที่บาดเจ็บ บอกกล่าวนางว่าเป็นนักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 และขอใช้หอคอยชั้น 5
นามอบบททดสอบให้เขาโดยการให้สวมรองเท้าให้ เขาเองก็สวมรองเท้าให้นางอย่างนุ่มนวล และไม่มองนางด้วยสายตาที่หยาบคาย นางจึงยอมรับในตัวเขา นับตั้งแต่นั้นมา นางก็ไม่เคยลบภาพของเขาออกไปจากความคิดได้
หลังจากยามนั้น หนิงฝานกระทำบางสิ่งให้นางไม่พอใจ ทหารศิลาหมายแก้แค้นจึงได้ตามไปจัดการหนิงฝาน แต่สุดท้ายก็ถูกหนิงฝานชิงไป
แม้นางจะขบคิดถึงเรื่องราวในอดีต แต่มือก็ยังคงลูบสัมผัสสิ่งนั้นของหนิงฝานไม่วาง กระทั่งไม่รู้ว่าสัมผัสมันไปแล้วกี่ครั้ง
เมื่อนึกขึ้นได้ว่าหนิงฝานเคยหยิกแก้มตน นางจึงแอบหยิกสิ่งนั้นของเขาคืนบ้าง
ยิ่งขบคิด ยิ่งสัมผัส นางยิ่งไร้สติกระทั่งเผลออ้าปาก ก้มหน้าอมสิ่งนั้นเข้าไปเต็มคำ
ลิ้นเลียสัมผัสอย่างลืมตัว แต่ไม่นานกลับมีปากสิ่งพุ่งเข้ามาในปาก นางรับรสได้ถึงความเค็ม และกลิ่นของมันก็ทำให้ร่างกายของนางอ่อนยวบแทบจะไร้เรี่ยวแรง
นั่นทำให้นางเริ่มได้สติ! “นี่มัน...เจ้า...เจ้า...”
“เจ้าบ้า! เจ้ามันไร้ยางอาย!” นางแทบอยากจะร้องไห้
สิ่งนั้นที่แข็งอ่อนยวบลง จนโมโหจนอยากจะตัดมันทิ้ง ให้หนิงฝานขัดเกลาผสานไม่ได้อีก
นางชำเลืองมองหน้าหนิงฝาน เห็นใบหน้าที่ผ่อนคลายและมีความสุข
“มัน...สบายขนาดนั้นเลยเหรอ...”
นางหวนนึกถึงยามที่ร่างกายของนางไม่ปกติ หากไม่เพราะหนิงฝานช่วย นางคงตายไปแล้ว
ในวันนั้น หนิงฝานใช้วิชาบางอย่าง กระทำบางสิ่งกับร่างกายส่วนร่างของนาง เพื่อช่วยให้นางบรรเทาความเจ็บลง
แม้ยามนั้นจะเป็นเรื่องที่น่าอับอาย แต่มันก็ช่วยให้นางดีขึ้น และรู้สึกสบายอย่างบอกไม่ถูก
ครั้งนั้นคือครั้งแรกที่เกิดเรื่องน่าอับอายกับนาง ถึงมันจะรู้สึกดีก็ตาม
“ฮึ่ม! ข้ารู้ว่าถูกสัมผัสตรงนั้นแล้วสบาย แต่ทำไมของเจ้ามันถึงกลับมาอ่อนยวบเหมือนเดิม?”
นางสงบใจและนำแผ่นหยกออกมา สลักภาพสิ่งที่เกิดขึ้นยามนี้เอาไว้เพราะหากในอนาคตหนิงฝานกล้าขัดขืนนาง นางจะเอาภาพนี้ไปเผยแพร่ นี่เป็นโอกาสดีที่จะได้แก้แค้นหนิงฝาน
นางเอาแผ่นหยกจำนวนมากออกมา บันทึกภาพหนิงฝานในขณะที่ล้างตัว ยิ่งทำนางยิ่งลำพองใจ เอื้อมมือไปสัมผัสสิ่งนั้นที่อ่อนยวบ ทำให้มันแข็งขึ้นอีกครั้ง
เมื่อทำให้มันแข็งได้ นางขยับมืออย่างต่อเนื่องจนมีของเหลวสีขาวขุ่นพุ่งออกมาจากสิ่งนั้น ทำซ้ำๆอยู่หลายครั้ง ทั้งยังสลักภาพลงในแผ่นหยกอย่างสนุกสนาน
หลังจากนั้นไม่นาน นางเปลี่ยนจากมือมาใช้เท้า สัมผัสเข้าที่สิ่งนั้นของหนิงฝาน แล้วเริ่มกระตุ้นมัน
ยิ่งกระตุ้นนานสิ่งนั้นยิ่งร้อยผ่าว ลมหายใจของนางก็ถี่กระชั้นมากขึ้น เมื่อของเหลวสีขาวขุ่นสัมผัสโดยเท้านาง ร่างกายของนางกลับแปลกไป
หากนางไม่ทำเช่นนี้ นางก็ไม่รู้ว่าเท้าของนางเป็นส่วนที่ไวต่อความรู้กสึกมาก ดวงตาของนางพร่ามัว ร่างกายอ่อนแรงอย่างบอกไม่ถูก
ยามนี้หนิงฝานเป็นเหมือนหมูในอวย นางจะทำอะไรก็ได้ นางเอื้อมือสอดเข้าไปใต้กระโปรงตน ลูบสัมผัสกับสิ่งนั้นอย่างไม่อาจห้ามใจ
“ซัวหมิง! ในเมื่อเจ้าหลับไม่รู้เรื่องแบบนี้ ข้าจะจัดการเจ้าให้หนำใจ ในเมื่อเจ้าข่มเหงข้าได้ ข้าก็จะข่มเหงเจ้าเหมือนกัน!”
นางหวนนึกถึงวันที่หนิงฝานร่วมรักแล้วนางแอบมอง ภาพในวันนั้นยังติดตรึงอยู่ในหัวของนาง
หนิงฝานเริ่มรู้สึกตัว เขาหลี่ตามองเล็กน้อยแม้จะยังมึนงงอยู่บ้าง เขาสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของร่างกาย เห็นร่างกายที่เปลือยเปล่าของตน ได้กลิ่นแปลกๆบางอย่างราวกับกลิ่นของการร่วมรักระหว่างบุรุษสตรี
เมื่อเหลือบตามองไปข้างๆ เขาเห็นเซี่ยวเหมินกำลังใช้เท้าของนางทำบางสิ่งกับของรักของตน
รอบๆกายนางมีแผ่นหยกจำนวนมากวางเกลื่อน ดูเหมือนนางจะแอบสลักภาพของเขาเอาไว้
“นางช่างน่าสนใจ… ไม่นึกว่านางจะเป็นคนแบบนี้...”
หนิงฝานจัดว่าเป็นบุรุษที่แข็งแกร่ง เพราะถึงจะถูกนางทำให้หลั่งของเหลวอยู่หลายครั้ง แต่เขาก็ยังไหว
เขาแกล้งหลับต่อ คอยเฝ้ามองที่เขาเท้าทั้งสองข้างมาสัมผัส ความรู้สึกแปลกๆนี้เขาไม่เคยได้รับมาก่อน
“เจ้าซัวหมิง ใครใช้ให้เจ้าข่มเหงข้า ข้าจะจัดการเจ้าให้เต็มที่เลย!”
“ฮึ่มเจ้าบ้า… ขนาดหลับแล้วยังข่มเหงข้าได้!”
นางตำหนิด่าทอ แต่ในขณะเดียวกันนั้น หนิงฝานที่แกล้งหลับ แกล้งขยับขาเบาๆ ให้คล้ายกับการขยับตัวโดยไร้สติ
เมื่อเห็นว่าขาหนิงฝานขยับ นางขบคิดว่าหากหนิงฝานรู้ว่าตนทำอะไรไป เขาคงอับอายแน่
ในขณะที่นางเล่นสนุกอยู่นั้น หนิงฝานก็แอบเคลื่อนมือ สัมผัสเข้าที่ก้นของนาง ลูบไล้อย่างไร้สติ จนทำให้นางสั่นสะท้านไปทั้งร่าง
ของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากหว่างขาของนางโดยไม่รู้ตัว
ใบหน้าของนางแดงก่ำ ลมหายใจถี่กระชั้น… นางหันมองหนิงฝานด้วยแววตาขุ่นเคือง เพราะแม้อีกฝ่ายจะสลบ แต่ก็ยังล่วงเกินนางได้
“เห็นแก่ที่เจ้าช่วยข้า ข้าจะหยุดแค่นี้ก่อน วันนี้ข้าเล่นมามากพอแล้ว ข้าเหนื่อย”
นางรู้สึกเหน็ดเหนื่อย จึงได้นอนลงข้างๆหนิงฝาน ทั้งยังกลัวว่าเขาจะตื่น
เมื่อนางเอนกายนอน นางหันหน้าหาหนิงฝาน สองมือน้อยๆโอบกอดเขาไว้
ไม่นานสติของก็เริ่มเลือน กระทั่งนางได้หลับไป
ร่องรอยของสิ่งที่คลุมเครือยังไม่ได้ล้างเพราะความเหนื่อยล้า เมื่อเห็นว่านางหลับ หนิงฝานก็ค่อยๆลืมตา แต่เมื่อหนิงฝานหันหน้าไปหานางนั้น นางกลับลืมตา สบตากันพอดี
เมื่อเห็นว่าหนิงฝานตื่น นางแตกตื่นจนทำอะไรไม่ถูก เพราะคราบและรอยต่างๆที่เพิ่งทำให้เมื่อครู่ ยังไม่ได้ล้าง
นางพยายามลุกหนี แต่ในขณะเดียวกันนั้น หนิงฝานเอื้อมมือมาคว้าแขนของนาง และดึงนางจนล้มแนบอก แล้วพลิกร่างนางลงที่นอน
“ซะ...ซัวหมิง! เจ้าตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่? ปล่อยข้านะ เจ้ามันไร้ยางอาย” นางกลัว เมื่อครู่นางฉวยโอกาสแก้แค้น ยามนี้กลัวว่าจะถูกเอาคืน
“ในเมื่อเจ้าทำแบบนั้นกับข้า… ข้าก็จะทำแบบนั้นกับเจ้า ข้าซัวหมิงไม่เคยเสียเปรียบผู้ใด เจ้าเองก็น่าจะรู้!” หนิงฝานยิ้มอย่างชั่วร้าย
“ไม่! อย่า! ข้าไม่ได้ทำอะไร ข้าไม่ได้ทำอะไรเจ้าจริงๆ!” นางเร่งกล่าว
“แล้วนี่แหละ...คืออะไร” หนิงฝานเคลื่อนมือลูบไล้เรือนร่างนาง กระทั่งสัมผัสเข้ากับจุดที่ชื้นและลื่นของนาง
บริเวณนั้นของนางไวต่อสัมผัสมาก ทันทีที่หนิงฝานสัมผัส นางก็เปล่งเสียงครางออกมาโดยไม่รู้ตัว
“อื้ม~~”
เขาถอนมือกลับ นำของเหลวที่ติดอยู่ปลายนิ้วมาแสดงให้นางดูพลางยิ้มอย่างพอใจ
“นี่อะไร...” เขาไม่ปล่อยให้นางกล่าว โดยใช้นิ้วของตนสัมผัสที่ริมฝีปากของนาง
นางอับอายอย่างที่สุด นางจ้องมองหนิงฝานด้วยความขุ่นเคือง สองมือพลักดันพยายามจะดิ้นให้หลุด แต่นางกลับไร้เรี่ยวแรง
“เจ้าบ้า! เจ้ามันไร้ยางอาย!”
นางดิ้นรนขัดขืนพลางด่าทอ แต่ในระหว่างที่นางขัดขืนนั้น ขาของนางขยับสัมผัสกับสิ่งนั้นของหนิงฝาน ซึ่งเท่ากับเป็นการกระตุ้นมัน
หนิงฝานพยายามอดทน แต่เขาก็เป็นบุรุษผู้หนึ่ง ไม่อาจทนได้นานากนัก
“อย่าขยับ ไม่งั้น...” สิ่งนั้นของหนิงฝานเริ่มแข็งขึ้นเรื่อยๆ
“ซัวหมิง ข้าบอกเจ้าไว้ก่อน ข้าได้สลักรูปภาพที่น่าอับอายของเจ้าเก็บไว้ ถ้าเจ้ายังกล้าล่วงเกินข้า...”
“เซี่ยวเหมิน...เจ้ากำลังเล่นกับเพลิง!” แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนดุดัน
“เล่นก็เล่นไปสิ เจ้ามีปัญญาเผาข้า.. อื้ม~~” หนิงฝานประกบริมฝีปากนาง ทำให้หัวของนางว่างเปล่า นางคาดไม่ถึงว่าหนิงฝานจะจูบ!
นางขบฟันแน่น ขัดขืนสุดชีวิต ไม่ยอมให้ลิ้นของเขาเข้ามา แต่แล้วหนิงฝานกลับตีก้นนางจนนางตกใจอ้าปากร้อง หนิงฝานจึงฉวยโอกาสสอดลิ้นเข้าไปภายใน
“อื้ม~~ อื้ม~~”
นางหายใจแทบไม่ออก สติแทบจะเลื่อนลอยไปตามรสจูบของเขา… นางรู้แล้วว่านางกำลังเล่นกับเพลิง
ทุกคืนนางฝันร้ายเห็นฉากที่หนิงฝานร่วมรักกับสตรีนางอื่น
และยามนี้ ฝันของนางได้กลายเป็นความจริง แต่ถึงอย่างนั้น แม้มันจะน่ากลัวอยู่บ้าง แต่นางกลับไม่อยากจะต่อต้านมัน
หนิงฝานเคลื่อนริมฝีปากจูบไล้ตามเรือนร่างนาง แต่นางกลับไม่ขัดขืน ซ้ำยังกอดหนิงฝานไว้แน่น
“เซี่ยวเหมิน เจ้าเลือกที่จะเล่นกับเพลิงเอง ยามนี้...ถึงคราวที่เจ้าต้องถูกแผดเผา” หนิงฝานสอดบางสิ่งเข้าไปในร่างนาง ความเจ็บแล่นไปทั่วร่าง แต่นั่นกลับทำให้นางโกรธจนไม่รู้นางไปเอาพลังมาจากไหนจึงพลิกร่างหนิงฝานลงบนที่นอนได้
“เผาก็เผาสิ ข้าไม่กลัว! เจ้าเป็นกระถางขัดเกลาของข้า ข้าจะดูดซับพลังของเจ้าให้หมด!”
โลหิตพรหมจรรย์ไหลริน พร้อมกับร่างกายของนางที่ขยับไปตามแรงปรารถนา
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม นางนอนหมดแรงแนบกายหนิงฝาน ผิวกายแดงก่ำ แววตาพร่ามัว ใบหน้าดูมีความสุข
“เซี่ยวเหมิน เจ้าช่วยให้ข้าผ่อนคลาย 18 ครั้ง ส่วนข้าก็ต้องช่วยเจ้าคืนเช่นนั้น แต่ยังเหลือ 17!”
“ฮึ่ม! ข้าไม่กลัวหรอก ให้ข้าพักก่อนเถอะ เจ้าไม่รอดแน่! เจ้ามันน่าเกลียด ข้าเกลียดเจ้า เกลียดจนเข้ากระดูก!”
แม้นางจะด่าทอ แต่สีหน้าของนางกลับดูมีความสุข
“นอกจากเจ้าแล้ว ข้าจะไม่เกลียดใครอีก เพราะไม่มีใครทำให้ข้าเกลียดได้เท่าเจ้าแล้ว” นางด่าทอ...