GE377 หากทำร้ายข้าได้ เจ้าชนะ [ฟรี]
“ซัวหมิงปล่อยข้า… ปล่อย...”
หนิงฝานคว้าข้อมือนางแล้วโอบกอดไว้แนบกายต่อหน้าผู้คนมากมาย แม้นางจะอายแต่ก็โกรธเคืองไม่แพ้กัน
ยิ่งนางดิ้นนางยิ่งถูกกอดแน่นไม่ปล่อย ที่สำคัญ ในขณะที่โอบกอดนางอยู่นั้น นิ้วซุกซนของหนิงฝานลูบสัมผัสหน้าท้องของนางเบาๆ จนทำให้นางสั่นสะท้าน กระทั่งเผลอเปล่งเสียงแปลกๆออกมา
ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆคิดว่าเซี่ยวเหมินถูกทำร้ายจึงเปล่งเสียงแปลกๆออกมา แต่ใครจะรู้ว่านางกำลังถูกสัมผัสบริเวณที่ไวต่อความรู้สึก
“เจ้าบ้า!” นางตำหนิหนิงฝานเบาๆ เพราะกลัวคนอื่นๆจะรู้ว่าถูกหนิงฝานลวนลาม
สำหรับนางแล้ว หนิงฝานไร้ยางอายที่สุด... เกลียดที่สุด แต่เมื่อเขาปรากฏตัวแล้วช่วยนาง นางกลับมีความสุขเป็นอย่างมาก
แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าผู้ที่อยู่ตรงหน้าคือซีเหมินเย่ นางกลับตระหนกและเร่งกล่าวกับหนิงฝาน
“ซัวหมิงเจ้ารีบหนีไปเร็วเข้า… มันแข็งแกร่งเกินไป...”
“ข้ารู้”
หนิงฝานคลายกอดนาง เช็ดโลหิตที่มุมปากนาง ลูบสัมผัสใบหน้าที่น่ารักของนาง แล้วเคลื่อนกายขวางระหว่างนางและซีเหมินเย่
ก่อนปรากฏตัว หนิงฝานรู้ว่าซีเหมินเย่ที่อยู่ตรงหน้าเป็นเพียงแค่อีกร่างที่แยกออกมาจากร่างจริง และมีพลังในขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง ส่วนร่างจริงของมันนั้น อาจอยู่ในขอบเขตไร้แบ่งแยกตามที่หนิงฝานเข้าใจ
หากเป็นผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลงทั่วไป หนิงฝานไม่กลัว แต่ซีเหมินเย่สามารถสัมผัสเทพในขอบเขตไร้แบ่งแยกได้ ความแข็งแกร่งของมันจึงสมควรเทียบชั้นผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง
แม้การช่วยเหลือเซี่ยวเหมินจะเท่ากับการหาเรื่องใส่ตัว แต่เมื่อเห็นสถานะนการณ์ที่นางต้องประสบ ก็อดที่จะช่วยนางไม่ได้
บางทีอาจเป็นเพราะเห็นแก่เป่ยเหยา…
บางทีอาจเป็นเพราะตนเองคือจ้าวหอคอย...
บางทีอาจเป็นความสัมพันธ์ระหว่างตัวเขากับเซี่ยวเหมิน
หรือบางที...อาจเป็นเพราะเขาไม่ยอมให้คนอื่นข่มเหงนางนอกจากตัวเขาเอง
“หากข้าอยู่… ใครก็เอาเจ้าไปไม่ได้” หนิงฝานกล่าวอย่างเรียบเฉย แต่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าไม่ปล่อยนางไป
เขาไม่หวาดกลัวซีเหมินเย่ ต่อให้ร่างจริงของมันยืนอยู่ตรงหน้า เขาก็ไม่กลัว
ผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกแล้วยังไง? เขามีศัตรูระดับนี้อยู่แล้ว
“เจ้าเนี่ยนะ?” ซีเหมินเย่หัวเราะราวกับได้ยินเรื่องที่ขบขัน มันส่งสายตาให้ผู้ติดตามในขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูงสุดทั้ง 3 ของมันจัดการหนิงฝาน หลับตาเมินเฉยราวกับรู้ผลแพ้ชนะ
ผู้ติดตามของมันมองหนิงฝานด้วยสายตาเย้ยหยัน ทะยานจู่โจมกระนาบจากทุกทิศทาง
“จะมากเกินไปแล้วนะ!” เมื่อเห็นศัตรูทะยานเข้ามาจากทุกทิศทาง สีหน้าเซี่ยวเหมินแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
ตระกูลซีเหมินเชี่ยวชาญเรื่องการจู่โจมประสาน และการร่วมมือของผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นสูงสุดทั้งสาม พวกมันสามารถต่อกรกับผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลงได้
ยิ่งพวกมันมาจากแดนสวรรค์ วิชาที่พวกมันมีย่อมทรงพลังกว่าผู้เชี่ยวชาญบนโลก ทำให้เซี่ยวเหมินกลัวว่าหนิงฝานจะแพ้
ซีเหมินเยว่หลับตาเพราะมันคิดว่าหนิงฝานต้องแพ้ ถึงจะอยู่ขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลางและแข็งแกร่งทัดเทียมผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลง แต่ไม่น่าจะต้านรับการจู่โจมประสานของพวกมันได้
“ไสหัวไป!” แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนเย็นชา เท้าก้าวไปเบื้องหน้า ปราณกระบี่ที่ทรงพลังแผ่ปกคลุมโถงหลัก
ศัตรูที่ทะยานหมายประชิด ราวกับถูกบางสิ่งกระแทกเข้าที่หน้าอกอย่างแรงจนกระอักโลหิตและปลิวออกไป ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง
“เจตจำนงค์กระบี่เซียนร่วงโรย… บรรลุเจตจำนงค์กระบี่ขั้นสูง!”
พวกมันไม่อาจเข้าใกล้หนิงฝานได้ หากเข้าไปยังระยะของปราณกระบี่ พวกมันจะถูกกระแทกออกมา ทั้งยังได้รับบาดเจ็บไม่น้อย
ซีเหมินเย่ขมวดคิ้ว มันได้ข่าวมาว่าหนิงฝานอยู่เพียงขอบเขตตัดวิญญาณขั้นกลาง แต่ยามนี้กลับสัมผัสได้ชัดเจนว่าอยู่ขั้นสูงสุด
“ขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูงสุด? อายุกระดูก 500 ปี? พรสวรรค์ของเจ้านับว่าล้ำเลิศ แต่เจ้าก็รู้ว่าในโลกนี้ไม่ใช่แค่พรสวรรค์เพียงอย่างเดียวที่จะทำให้เจ้าแข็งแกร่งเหนือผู้ใด… ในสายตาข้า เจ้ามันก็แค่หมดปลวก!”
หากระดับพลังทัดเทียม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือพรสวรรค์
แต่หากไร้ซึ่งขุมกำลังหนุนเสริม ไร้ซึ่งทรัพยากรมหาศาล การจะทะลวงสู่ขอบเขตไร้แบ่งแยกหรือเซียนก็เป็นได้เพียงความฝัน
ในสายตาของซีเหมินเย่ หนิงฝานเป็นเพียงผู้เยาว์ที่มีพรสวรรค์ ผิดกับตัวมันที่บรรลุขอบเขตไร้แบ่งแยก ก้าวเดินโลดแล่นอยู่ในแดนสวรรค์ และเป็นหนึ่งในผู้เยาว์ที่แข็งแกร่งดังนั้นมันจึงมองหนิงฝานเป็นเพียงมดปลวก
“เจ้า… ไปจัดการมัน”
ซีเหมินเย่หันมองชายชราในชุดคลุมเทา ชายชราพยักหน้า ก้าวเท้าไปเบื้องหน้า ปลดปล่อยแรงกดดันในขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง
อัสนีแลบลั่นรอบกาย ส่งเสียงเกรี้ยวกราดน่าขนลุก
นอกจากซีเหมินเย่แล้ว ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆต่างเร่งถอยห่าง
“ผู้อาวุโสเหลยลงมือด้วยตัวเอง? วิชาอัสนีของท่านทรงพลังหาผู้ใดในระดับเดียวกันทัดเทียม เพราะท่านครอบครองอัสนีระดับ 6 ที่ทรงอานุภาพ”
“ได้ยินว่าที่นี่มี 7 ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลส่วนใน มดปลวกอย่างพวกมันไม่มีทางเทียบชั้นผู้อาวุโสได้หรอก!”
คำกล่าวชื่นชมได้ยินไปถึงหูของชายชรา แต่จิตใจของชายชรายังสงบ แสดงให้เห็นถึงจิตใจที่เข้มแข็ง
ชายชราหันมองเซี่ยวเหมินที่ใบหนาซีดขาวด้วยแววตาที่รู้สึกผิด
ครั้งหนึ่งคุณหนูสี่แห่งวิหารพิรุณเคยดีกับมันมาก แต่วันนี้กลับต้องมาลงมือสังหารต่อหน้านาง
ชายชราถอนหายใจ ยามนี้ตนเองเป็นคนของตระกูลซีเหมิน ย่อมพักดีต่อตระกูลซีเหมิน
ชายชราหันมองหนิงฝานด้วยแววตาที่รู้สึกผิด แต่กล่าวอย่างเรียบเฉย
“ซัวหมิง เห็นแก่นหน้าคุณหนูสี่… ข้าจะปล่อยให้ดวงจิตของเจ้าให้ได้ไปเกิดใหม่!”
“ไม่จำเป็น ท่านสู้ข้าไม่ได้!”
“คุยโตเสียจริง!”
แววตาชายชราแปรเปลี่ยนเย็นชา ตนเองเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลง เหตุใดต้องกลัวตัดวิญญาณขั้นสูงสุด?
เดิมทีชายชราคิดว่าจะปล่อยดวงจิตของหนิงฝานให้ได้ไปเกิดใหม่ แต่ในเมื่ออีกฝ่ายไม่รู้จักที่สูงที่ต่ำ ชายชราก็ไม่จำเป็นต้องยั้งมือ
สองเท้าก้าวไปเบื้องหน้า อัสนีสีเงินแปรบปราบรอบกาย สองมือชูสูงก่อนที่ฝ่ามืออัสนีขนาดใหญ่จะประทับเข้าใส่หนิงฝาน
“อัสนีแปดวิถี!”
ฝ่ามืออัสนีขนาดใหญ่ที่ประทับใส่หนิงฝานเปลี่ยนรูปร่างงูอัสนี 8 ตัว ขบกัดเข้าใส่หนิงฝาน
งูแต่ละตัวทรงพลังมากพอที่จะสังหารผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณขั้นสูงสุดได้ง่ายๆ
“เป็นอัสนีที่ดี...ข้าอยากได้อยู่พอดี!”
หน้าผากหนิงฝานเปล่งแสง แส้อัสนีปรากฏ เฆี่ยนฟาดไปยังงูอัสนีทั้ง 8 ตัวที่ตรงเข้ามา
แม้อัสนีของชายชราจะเป็นอัสนีระดับ 6 แต่แส้ของหนิงฝานคืออัสนีทัณฑ์สวรรค์
แส้เฆี่ยนฟาดกระทบงูทั้ง 8 ตัว ร่างงูแตกสลาย ทหารศิลาและเซี่ยวเหมินเร่งกระตุ้นข่ายอาคม ป้องกันไม่ให้คนภายนอกแตกตื่นกับสิ่งที่เกิดขึ้น
หากอัสนีหลุดรอดออกไป เมืองเต่าทมิฬคงพินาศ
*เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง...*
สีหน้าผู้อาวุโสเหลยแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง อัสนีระดับ 6 ของตนหวาดกลัวอัสนีโลหิตของหนิงฝาน ซ้ำยังถูกดูดกลืนไป
ผู้ที่เห็นการดวงตาเบิกกว้าง อัสนีของชายชราถูกอัสนีของหนิงฝานสะกดข่มโดยสมบูรณ์
“อัสนีทัณฑ์สวรรค์! อัสนีที่ทรงพลังที่สุดของโลกเบื้องล่าง!”
ชายชราตระหนักแล้วว่าถึงหนิงฝานจะอยู่ขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูงสุด แต่เขาแข็งแกร่ง หากจะเอาชนะหนิงฝานย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย
ชายชราหันมองซีเหมินเย่ที่มีสีหน้าโกรธเคือง ชายชรารู้ว่าหากไม่สังหารหนิงฝานให้ได้ ตนเองจะถูกซีเหมินเย่สังหารแทน
“กระบี่อัสนี!”
ชายชราสะบัดแขนอาภรณ์ กระบี่อัสนี 8 เล่มปรากฏเบื้องหน้า กระบี่แต่เล่มอยู่ระดับในระดับตัดวิญญาณขั้นสูงสุด หากผสานพวกมันเข้ากันทั้งหมด จะทรงพลังเทียบเท่าผู้เชี่ยวไร้ดัดแปลง
“กระบี่อัสนีคืออาวุธที่สร้างชื่อให้ข้า… ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณมากมายตกตายภายใต้คมกระบี่เหล่านี้”
“ฮึ่ม! ซัวหมิงไม่รอดแน่ ถึงแส้ของมันจะทรงพลัง แต่ระดับของมันอยู่เพียงกึ่งไร้ดัดแปลง ไม่มีทางต้านรับกระบี่อัสนีของผู้อาวุโสได้!”
แม้ผู้อาวุโสเหลยจะเสียท่าให้หนิงฝานเล็กน้อย แต่เหล่าผู้ติดตามกลับคิดว่าหนิงฝานเอาชนะชายชราไม่ได้
ชายชราขยับมือเป็นท่าทาง กระบี่ทั้งแปดเล่มพุ่งกรีดเฉือนอากาศไปรอบทิศ ก่อนดิ่งตรงเข้าหาหนิงฝาน ปราณจากกระบี่ทั้ง 8 เล่มหนุนเสริมกันและกัน แม้เป็นผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลงก็ถูกสังหารได้ง่ายๆ
แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนเย็นชา เท้าก้าวไปเบื้องหน้า หวดเฆี่ยนแส้นับร้อยครั้งในพริบตา
แส้เฆี่ยนฟาดกระบี่ทั้งเล่ม เสียงอัสนีฟาดผ่าดังสนั่น แต่ละครั้งที่แส้สัมผัสกระบี่ มันกัดกร่อนกระบี่จนสึกหรอ
ชายชราดวงตาเบิกกว้างด้วยความไม่อยากเชื่อ มันคาดไม่ถึงว่าแส้ของหนิงฝานจะทรงพลังขนาดนี้
แต่สิ่งที่ทำให้ชายชราตกตะลึง คือการที่กระบี่ถูกแส้เฆี่ยนฟาด นอกจากกระบี่จะเสียหายแล้ว ดวงจิตของชายชรายังได้รับความเสียหายไปด้วย
*อ๊อก!*
ชายชรากระอักโลหิต ใบหน้าซีดขาว หากไม่เพราะหนิงฝานยั้งมือ ดวงจิตของชายชราคงถูกทำลาย
“ถอยไปซะ ไม่งั้นข้าจะไม่เมตตาท่านอีก!”
หนิงฝานกระชับแส้อัสนีแน่น แววตาดุดันราวกับปีศาจ ผมดำพลิ้วไหวตามสายลม
หากไม่เพราะชายชรากล่าว่าจะปล่อยดวงจิตของหนิงฝานให้ไปเกิด หนิงฝานก็ไม่คิดจะไว้ชีวิตชายชราเช่นกัน
แต่หากชายชรายังยืนกราน หนิงฝานคงต้องสังหารชายชราทิ้ง
ผู้เชี่ยวชาญตระกูลซีเหมินสั่นสะท้าน
ผู้อาวุโสเหลยผู้ครอบครองอัสนีระดับ 6 ครอบครองกระบี่อัสนี และมีวิชาที่ทรงพลัง แต่กลับพลาดท่าพ่ายให้หนิงฝานในสองกระบวนท่า
หากหนิงฝานไม่เมตตา ชายชราคงถูกสังหารไปแล้ว!
ซัวหมิงผู้นี้เก่งกาจ โหดเหี้ยม แม้จะนับว่าด้อยกว่าซีเหมินเย่ แต่ก็อยู่เหนือกว่าผู้เยาว์ในแดนสวรรค์คนอื่นๆ
แววตาที่เย็นชาและดุดันของหนิงฝานจับจ้อง ทำให้เหล่าตระกูลซีเหมินที่เย่อหยิ่งไม่กล้าสบตา
“ซีเหมินเย่… ข้าจะบอกอีกครั้งว่ามีข้าอยู่ เจ้าก็พานางไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น!”
*เปรี้ยง!*
ซีเหมินเย่บันดาลโทสะ ซัดฝ่ามือใส่ผู้อาวุโสเหลยจนร่างระเบิดกลายเป็นหมอกโลหิต เหลือเพียงดวงจิตเท่านั้น
คำกล่าวของหนิงฝานเมื่อครู่เป็นเหมือนการตบหน้าซีเหมินเย่อย่างแรง
“ไร้ประโยชน์! ไว้ฆ่ามันได้เมื่อไหร่จะเป็นคราวของเจ้า”
ดวงจิตผู้อาวุโสเหลยหวาดกลัวไม่กล้าขัดขืน
ซีเหมินเย่ทรงพลังเกินไป แค่ฝ่ามือเดียวก็สังหารตนได้แล้ว
ซีเหมินเยว่หันมองหนิงฝาน มันยอมรับว่าหนิงฝานทรงพลัง อย่างน้อยหากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงก็เอาชนะไม่ได้ แต่มันไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง
แม้ร่างจำแลงของมันจะมีพลังอยู่ในขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง แต่ร่างจริงของมันคือขอบเขตไร้แบ่งแยกที่ 1
“เจ้าชอบเซี่ยวเหมินมากงั้นเหรอ?”
หนิงฝานไม่ตอบ
“ฮึ่ม! ข้าไม่อยากจะข่มเหงเจ้า หากเจ้าทำให้ข้าบาดเจ็บได้ ข้าจะยกนางให้!”
ซีเหมินเย่ซัดฝ่ามือไปเบื้องหน้า พลังมิติผันผวนรุนแรง อากาศเบื้องหน้าถูกแหวกเป็นสองฝั่งราวกับเปิดมิติขึ้นมาใหม่
“ฝ่ามือพลิกมิติ”
หนิงฝานขมวดคิ้ว วิชานี้มีเพียงผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกที่ใช้ได้ และจากที่เขาเห็น แม้ซีเหมินเย่จะเปิดมิติใหม่เพียงหมื่นลี้ แต่นั่นแสดงให้เห็นว่ามันเข้าใจในวิชาเป็นอย่างดี
ซีเหมินเย่ภาคภูมิที่มันเหนือกว่าหนิงฝาน การที่มันใช้วิชานี้ก็เพื่อจะกันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป และข่มขู่ให้คนเหล่านั้นหวาดกลัว โดยเฉพาะหนิงฝาน
มันคิดจะเหยียบหนิงฝานให้จมดิน!
“เข้าไปในนั้นแล้วสู้กับข้า หากเจ้าทำให้ข้าบาดเจ็บได้ เซี่ยวเหมินก็เป็นของเจ้า! แต่หากแพ้...เจ้าตาย!”
ซีเหมินเย่ก้าวเข้าไปยังมิติที่ตนเองสร้างขึ้น
หนิงฝานจ้องมองมิติที่อีกฝ่ายสร้าง เขารู้ว่าดรรชนีหมอกเมฆาม่วงสามารถทะลวงมันออกมาได้ง่ายๆ อีกอย่าง มิติที่เพิ่งสร้างขึ้นนี้ ยากที่จะซ่อนสิ่งใดไว้ลอบจู่โจม
“เจ้าไม่ใช่สิ่งของ” หนิงฝานหันไปหาเซี่ยวเหมินแล้วก้าวเข้าสู่มิติไป
*ตึง*
ราวกับหินก้อนเล็กๆร่วงหล่นกระทบใจ แม้จะเป็นเพียงคำกล่าวสั้นๆ แต่กลับทำให้หัวใจของนางสั่นไหว
ไม่ใช่สิ่งของ… เขาบอกว่าข้าไม่ใช่สิ่งของ
มารดาและพี่สาวข้าถูกจัดแจงให้แต่งงานกับตระกูลซีเหมิน ทำราวกับพวกข้าเป็นสิ่งของ แต่เขา...เขาบอกว่าข้าไม่ใช่สิ่งของ
ไม่รู้เพราะเหตุใดนางถึงเกลียดหนิงฝานมาก ทุกครั้งที่เห็นรอยยิ้มของเขา นางจะโกรธอย่างไม่ถูก
แต่ครั้งนี้ รอยยิ้มของเขาช่างงดงาม และแฝงด้วยความเศร้า
เขารู้ว่าซีเหมินเย่แข็งแกร่ง แต่ก็ยังยืนกรานว่าจะสู้เพื่อนาง
เขาชอบข่มเหงข้า แต่เหตุใดเขาต้องปกป้องข้า
“อย่าไป...” นางรู้สึกกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน นางรู้ว่าซีเหมินเย่แข็งแกร่ง นางอยากจะรั้งหนิงฝานไว้ แต่เขาก้าวเข้าสู่มิติของอีกฝ่ายไปแล้ว
นางอยากตามเข้าไป แต่หากไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงก็ไม่อาจเข้าไปได้
*ตูม!*
ไม่นานหลังจากหนิงฝานเข้าไป เสียงระเบิดที่รุนแรงกลับดังออกมาจากภายใน มิติสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เป็นสัญญาณว่าการต่อสู้ของทั้งสองเริ่มแล้ว
การต่อสู้ของทั้งคู่รุนแรงจนแทบจะทำให้มิติพังทะลาย
ไม่นานนัก โลหิตสาดกระจายออกมาตามรอยแยกมิติ กระทบเข้าที่ใบหน้าเซี่ยวเหมิน
นางสัมผัสโลหิตบนใบหน้าด้วยมือที่สั่นเทา นางจดจำกลิ่นอายจางๆบนโลหิตนี้ได้ว่าเป็นของหนิงฝาน
เกิดอะไรขึ้นภายในนั้น?
เหตุใดการต่อสู้ที่เพิ่งเริ่ม โลหิตของหนิงฝานจึงสาดกระจายออกมามิติ
“อย่าเป็นอะไรไปนะ… เจ้าต้องปลอดภัย!”
น้ำตานางไหลรินไม่อาจกลั้น หนิงฝานต่อสู้เพื่อนาง เป็นตายไม่มีผู้ใดรู้
นางรู้ตัวแล้วว่าไม่อาจเสียหนิงฝานไป
ภายในมิติ หนิงฝานอาบโชคไปด้วยโลหิต แววตาเย็นชา ซีเหมินเย่เองก็กระดูกมือแตก แววตาแสดงให้เห็นถึงความประหลาดใจ
ร่างจำแลงของมันมีร่างกายอยู่ในขอบเขตกระดูกหยกขั้นสูงสุด แต่หนิงฝานอยู่เพียงขั้น 3
หลังจากปะทะกันไปหลายร้อยหมัด แม้หนิงฝานจะอาบโชกไปด้วยโลหิต แต่เขายังไม่มีทีท่าว่าจะแพ้
“ข้ายอมรับว่าเจ้าแข็งแกร่ง...แต่เจ้าอยู่เพียงขอบเขตตัดวิญญาณ ส่วนข้าอยู่ขอบเขตไร้แบ่งแยก ข้าจะบอกอะไรเจ้าให้ เหล่าผู้เยาว์ที่แข็งแกร่งในแดนสวรรค์ สามารถสร้างร่างจำแลงที่แข็งแกร่งทัดเทียมข้าได้… เพราะฉะนั้น เจ้าไม่อาจเอาชนะข้าได้!”
“งั้นเหรอ? แล้วทำไมมือของเจ้าถึงมีสภาพเป็นแบบนั้น?” หนิงฝานเช็ดโลหิตที่มุมปาก เจตนาต่อสู้รุนแรงมากขึ้น
เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับคนที่รุ่นใกล้เคียงกัน แต่แข็งแกร่งจนจทำให้เขาตื่นเต้น
ก่อนหน้านี้เพราะเขาเอาชนะผู้เยาว์จากแดนสวรรค์บางคง จึงทำให้หลงคิดว่าตนเองแข็งแกร่ง
แต่หานเนี่ยเทียนและซีเหมินเย่… ทั้งสองคือศัตรูที่เก่งกาจมาก
“ข้าจะไม่แพ้!” หนิงฝานตัดสินใจแน่วแน่
“ฮึ่ม! คุยโตเสียจริง แต่ครั้งนี้ข้าจะไม่ออมมือให้เจ้าแล้ว ดึงวิญญาณ!”
ซีเหมินเย่ยื่นมือไปเบื้องหน้า กำมือดึงเอาพลังจากโดยรอบ
หนิงฝานยิ้มที่มุมปาก สายตาจับจ้องเย้ยหยัน เขายื่นมือออกไปเบื้องหน้าเช่นกัน และฉวยเอาพลังของซีเหมินเย่มาได้ก่อน
ในเมื่อถูกหนิงฝานชิงพลังไป ซีเหมินเย่จึงตกตะลึง
“เจ้าก็มีวิชาดึงวิญญาณ! ทั้งยังเหนือชั้นกว่าข้า เป็นไปไม่ได้!”
ซีเหมินเย่ดวงตาเบิกกว้าง มันเพิ่งจะใช้วิชาดึงวิญญาณได้หลังจากบรรลุขอบเขตไร้แบ่งแยก มันคิดจะหยิบยืมพลังธรรมชาติเพื่อสังหารหนิงฝานในพริบตา แต่หนิงฝานกลับชิงไปก่อน
เมื่อได้พลังมา แรงกดดันของหนิงฝานยกระดับถึงกึ่งไร้ดัดแปลง ไม่ได้ด้อยไปกว่าซีเหมินเย่แม้แต่น้อย
หนิงฝานเกรรงฝ่ามือ ซัดสองฝ่ามือซ้อนในเวลาเดียวกัน เปลวเพลิงทมิฬลุกโหมเบื้องหน้า ก่อตัวเป็นฝ่ามือเพลิงยักษ์ใหญ่กว่าสองพันจ้าง พุ่งเข้าหาซีเหมินเย่
“วิชาระดับไร้ดัดแปลงที่แฝงด้วยพลังมิติ!!” ซีเหมินเย่เร่งซัดฝ่ามือที่อัดแน่นไปด้วยพลังมิติเข้าต้าน
*เปรี้ยง*
ฝ่ามือเพลิงและฝ่ามือมิติหักล้างทำลาย ผลจากการปะทะทำให้มิติที่สร้างขึ้นเกือบจะต้านไม่อยู่
หนิงฝานผงะถอยไป 10 ก้าว ซีเหมินผงะถอยไป 9 ก้าว และหยุดยืนอย่างมั่นคง
ซีเหมินเย่ตกตะลึงอีกครั้ง แม้มันจะซัดฝ่ามือมิติสุดกำลัง แต่หนิงฝานยังรับได้
แต่ที่น่าเหลือเชื่อกว่านั้น คือเมื่อหนิงฝานทรงตัวได้ ปีกฟู่ลี่สยายจากแผ่นหลัง ในมือทั้งสองข้างปรากฏกระบี่แยกสวรรค์และกระบี่มังกรโลหิต ทะยานใส่ซีเหมินเย่ราวกับมังกรกระหายเลือด
หนิงฝานทะยานเข้าหาซีเหมินเย่โดยไร้ซึ่งความกลัว สองมือกระชับกระบี่แน่นหมายสังหาร
“ข้าจะต้องไม่แพ้!”
ซีเหมินสัมผัสได้ถึงแรงกดดันจากกระบี่ หนิงฝานคือผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณที่ทรงพลัง ที่มันไม่เคยพบมาก่อน
“เจ้าเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ… แต่กลับใช้ผสานพลังไร้ลักษณ์เข้ากับกระบี่ได้”
ซีเหมินเย่ตกตะลึง มันสะบัดกระบี่ในมือ ฟาดฟันเข้าปะทะกระบี่คู่หนิงฝาน
กระบี่ทั้งสามเล่มปะทะกันอย่างหนักหน่วง มิติรอบข้างสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและเริ่มพังทะลาย แม้จะผ่านไป 10 กระบี่ แต่ซีเหมินเย่ยังไม่รู้สึกว่าตนเองได้เปรียบแม้แต่น้อย
นั่นเพราะวิชากระบี่ของมันเป็นรองหนิงฝานมาก
“นี่เต๋าแห่งกระบี่ของข้าสู้คนชั้นต่ำอย่างเจ้าไม่ได้งั้นเหรอ!”
ความคับแค้นก่อตัวขึ้นในใจของซีเหมินเย่อย่างหนักหน่วง
มันใช้มือข้างหนึ่งกวัดแกว่งกระบี่ปัดป้อง อีกมือหาโอกาสจู่โจม แล้วซัดเข้าที่ใบหน้าหนิงฝาน
โลหิตสาดกระจาย แต่แววตาหนิงฝานยังไม่เปลี่ยน ทั้งยังฉวยโอกาสที่ถูกจู่โจม ฟาดฟันกระบี่มังกรโลหิตเข้าใส่ลำคอของซีเหมินเย่
ซีเหมินเย่ตกตะลึง การต่อสู้แบบตาต่อตาฟันต่อไปเช่นนี้ทำให้มันเริ่มหวาดกลัว
ขณะที่กระบี่กระทบลำคอ มันเร่งถอยห่างอย่างเร่งรีบ แต่ก็ไม่อาจเลี่ยงคมกระบี่ที่ฟันเข้าลำคอของมันได้ถึงครึ่งฉื่อ ที่สำคัญ มันยังรู้สึกได้ว่าพลังจากกระบี่มังกรโลหิต ได้แพร่ไปทั่วร่าง ดูดซับแก่นโลหิตของมันไป ดูเหมือนมันจะเริ่มเสียเปรียบหนิงฝานแล้ว
“กระบี่บ้าอะไรรกัน!” ซีเหมินเย่โกรธที่มดปลวกทำให้มันได้รับบาดเจ็บ
“ข้าทำร้ายเจ้าได้… ข้าชนะ” หนิงฝานกล่าว
“หุบปาก!” แววตาซีเหมินเย่แปรเปลี่ยนบ้าคลั่ง
แม้หนิงฝานจะชนะ แต่ยามนี้ สิ่งเดียวที่ซีเหมินเย่คิดคือสังหารหนิงฝานให้ได้...