MPE บทที่ 57 ไก่มังกร
เมื่อเปรียบกับหลายวันก่อน ดูเหมือนเม็ดบัวจะมีความกล้าเพิ่มมากขึ้น อย่างน้อยๆก็กับคนแปลกหน้า เธอไม่กลัวและกล้าสบตาพวกเขา หลังจากคุยกันสักพัก มู่ไท่ยิงก็ออกไปพร้อมกับเม็ดบัว
ซิลลี่ที่เกาะบนฝ่ามือของเกาเผิง มันมีความสุขในการเป็นหมวกและไม่ต้องแกล้งตายอีกต่อไปแล้ว ที่ผ่านมามันต้องคอยหลบซ่อนจากสัตว์อสูรจำพวกนกตลอดเวลา ทำให้มันรู้สึกไม่ปลอดภัย
เกาเผิงรู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวเบาๆของซิลลี่เหมือนกับมันเคลื่อนที่ในอากาศด้วยพ่นลม เขารู้สึกจั๊กกะจี้เลยสะบัดมือ ซิลลี่เลยบินขึ้นไปคลุมศีรษะเกาเผิง มันกลายเป็นหมวกสีรุ้ง ขนาดของหมวกไม่ใหญ่มาก มันสามารถคลุมศีรษะได้พอดี
เกาเผิงมองไปที่ท้องฟ้า เปิดขวดชาเขียวและจิบชา 'ฟู่~ ~ ~ ชาเขียวนี่มันอร่อยจริงๆ'
วันนี้สัตว์อสูรสำหรับฝึกต่อสู้ถูกนำไว้ในกรง เป็นแมงป่องเกราะม่วง ที่มีขนาดใหญ่ ขนาดของมันโดยไม่รวมหางมากกว่า 6ฟุต หางยาวพอๆกับลำตัวของมัน พร้อมกับก้ามขนาดยักษ์ที่ส่องแสงแวววาว แมงป่องยักษ์มีสีม่วงทั้งตัว มันดูแข็งแกร่งอย่างมาก ตอนนี้มันนอนขดตัวและส่งเสียงบีบก้ามอยู่ข้างใน
[ชื่อสัตว์อสูร] แมงป่องเกราะม่วง
[เลเวล] 14 (ชนชั้นขุนนาง)
[ระดับ] สูง
[คุณสมบัติ] ธาตุ โลหะและดิน
[สถานะ] สุขภาพดี (มีความสุข)
[จุดอ่อน] ธาตุมืดและไฟฟ้า
[ความชอบ] การได้หนีบของแข็งๆด้วยก้ามของมัน
“ใครก็ตามที่ตั้งใจจะท้าทายยุคสมัยของสัตว์อสูร ที่นอกเมืองฉางอานสัตว์อสูรประเภทแมงป่องอยู่มากมาย ดังนั้นพวกคุณที่ตั้งเป้าที่จะเป็นนักฝึกสัตว์อสูรในอนาคต คุณควรใช้โอกาสนี้เพื่อหาทางรับมือสัตว์อสูรประเภทแมงป่อง” ผู้ฝึกสอนเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
‘แมงป่องเกราะม่วง’ ลักษณะสัตว์อสูรปรากฏขึ้นในหัวของเกาเผิง เดิมทีมันเป็นแมงป่องที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายมาก่อน มันเคยอาศัยอยู่ใกล้ๆฉางอาน หลังจากเกิดมหาภัยพิบัติ พวกมันได้กลายพันธุ์กลายเป็นแมงป่องเกราะม่วง แมงป่องเหล่านี้เป็นแมงป่องสายพันธุ์ไม่มีพิษที่หายาก แม้มันจะไม่มีพิษ แต่ร่างกายของมันกลับต้านทานและมีภูมิคุ้มกันต่อพิษสูง พวกมันใช้ก้ามที่ใหญ่ของมันบดขยี้ร่างกายและหัวของเหยื่อ แมงป่องที่นำมาฝึกเหล่านี้มีขนาดเล็กกว่าปกติของมัน ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเจริญเติบโต แมงป่องเกราะม่วงตัวเต็มวัยจะขนาด 9ฟุต และหางยาว 6เมตร แมงป่องเกราะม่วงจะมีนิสัยที่เหมือนกับแมงป่องทั่วไปคือ
โหดร้ายและทารุณ
*กึก กึก กึก*
เสียงบีบของก้ามดังถี่ขึ้นเรื่อยๆ แม้จะดูเหมือนจะทำเพื่อข่มขู่ศัตรูของมัน แต่สำหรับแมงป่องเกราะม่วง มันบีบก้ามของมันอย่างเร้าใจ ดูเหมือนมันจะทำเพื่อความสนุก ยิ่งสนุกมันจะบีบมากขึ้นอีก จากนั้นมันก็สั่นหัวกับหางอย่างตื่นเต้น มันทำเพื่อความบันเทิงของตัวเองในกรง มันจะทำอย่างนี้แรงขึ้นอีกถ้ามีใครเปิดเพลงให้มันซึ่งเป็นที่ควรจัดสรรให้
‘หึ แค่บีบก้ามไปมาก็มีความสุขแล้ว อา ช่วงเป็นแมงป่องที่โง่จริงๆ’ ต้าซื่อชำเลืองอย่างหงุดหงิด
เมื่อผ่านการฝึกฝน เหล่านักเรียนมีความกล้าเพิ่มมากขึ้น ดูไม่ค่อยจะกลัวที่จะท้าทายเหล่าสัตว์อสูรสักเท่าไหร่
“ครูฝึกครับ ผมอยากจะลองท้าทายสัตว์อสูรดูครับ” นักเรียนคนหนึ่งได้ยกมือขึ้น นอกจากเกาเผิงแล้ว ก็มีคนอื่นๆยกมือขึ้นเหมือนกัน
เกาเผิงมองไปที่เหล่าเพื่อนร่วมชั้น คนอื่นมองไม่เห็นระดับและชนชั้นแต่เขาเห็นทุกอย่าง แมงป่องพวกนี้มีระดับความยากกว่าที่พวกเขาจะรับมือได้ สัตว์อสูรของบางคนเพิ่งจะเลเวล 10 ส่วนคนอื่นๆก็ เลเวล 7 ไม่ก็ 8 ยังเป็นชนชั้นสามัญอยู่เลยแต่แมงป่องเกราะม่วงอยู่ในระดับขุนนาง พวกเขาไม่มีทางสู้ได้ ตอนนี้ต้าซื่ออยู่ในระดับขุนนางและเลเวลพอๆกับแมงป่องเกราะม่วงแล้ว แต่แมงป่องมีภูมิต้านทานพิษสูงมาก ถ้าสู้กันโอกาสชนะคง 50-50 นั่นเป็นเหตุผลที่เกาเผิงต้องการคนอื่นๆเป็นหนูทดลอง เพื่อจะได้ประเมินความเสี่ยง จะได้ปลอดภัยมากขึ้น
เกาเผิงลุกขึ้นยืน พร้อมกับต้าซื่อที่ข้างๆเขา สีหน้าของเขาเคร่งเครียดมาก ท่าทางของเขาดูเหมือนมืออาชีพมาก แต่จะให้ดูเหมือนมากกว่านี้ ถ้าไม่มีหมวกสายรุ้งบนหัวของเขา
“เกาเผิง นายไม่ลองท้าทายเจ้าสัตว์อสูรตัวนี้ดูล่ะ” ผู้ฝึกสอนจางถามเกาเผิง แมงป่องเกราะม่วงที่มาวันนี้ มันถูกเตรียมการมาพิเศษเพื่อเกาเผิงโดยเฉพาะ ในสัตว์อสูรของคลาสนี้ทั้งหมด มีเพียงตะขาบหลังม่วงสายฟ้าของเกาเฟิงเท่านั้นที่แพ้ทางแมงป่องเกราะม่วงอย่างรุนแรง
“ผมขอสละสิทธิ์ไว้รอบหน้านะครับ ผมไม่สามารถท้าทายสัตว์อสูรคนแรกได้ตลอดหรอกครับ มันจะไม่ยุติธรรมกับเพื่อนๆเอานะครับ” เกาเผิงส่ายหัวเบาๆ
สำหรับนักเรียนคนอื่นๆ ลึกๆแล้วก็รู้สึกไม่ดีกับเกาเผิงกันทุกคน แต่เมื่อได้ยินเกาเผิงพูดแบบนั้นความคิดของพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไป พวกเขารู้สึกผิดที่คิดแบบนั้น พวกเขามองเกาเผิงเป็นคู่แข่งมาตลอด ไม่คิดว่าเกาเผิงจะใส่ใจพวกเขามากขนาดนี้
มุมปากของผู้ฝึกสอนจางได้บิดเบี้ยว ’นี่แกไม่เชื่อใจฉันรึไง ฉันเป็นถึงผู้ฝึกสอนมีความรู้ ความสามารถในการควบคุมสัตว์อสูร ฉันจะปล่อยให้แกตายรึไง’ แต่เขาเป็นแค่ผู้ฝึกสอน เขาทำได้แค่รับผิดชอบการฝึก ไม่สามารถยุ่มย่ามได้มากขนาดนั้น เขาควรจะเลือกสัตว์อสูรที่ตัวอื่นมาท้าทายแมงป่องนี่
“งั้นนักเรียนคนนั้นจะเป็นคนแรกที่ท้าทาย” ผู้ฝึกสอนจางส่ายหัวแล้วชี้ไปที่ สัตว์อสูรที่แข็งแกร่งใกล้เคียงกับต้าซื่อ
มันคือไก่มังกร ถึงมันจะมีคำว่ามังกรต่อท้าย แต่จริงๆ มันคือไก่ฟ้าที่กลายพันธุ์หลังเกิดมหาภัยพิบัติ ร่างกายของมันอุดมไปด้วยกล้ามเนื้อ หงอนสีแดงที่เปล่งประกายดั่งโลหิตที่หลั่งลงมา มันเป็นสัตว์อสูรที่ไม่มีความสามารถในการบิน แต่มันมีกล้ามเนื้อที่พัฒนาแข็งแกร่งและหนาทั่วร่างกาย กล้ามที่แน่นๆคงจะรสชาติอร่อยแน่ๆ
‘นี่ฉันคิดอะไรอยู่เนี่ย!!’ เกาเผิงสั่นหัว
ไก่มังกรสูง6 ฟุต ตาสีเหลือง และจะงอยปากสีดำเท่าฝ่ามือ
เกาเผิงเคยเห็น ไก่มังกรจิกเหล็กหนา1เซน ในระหว่างการฝึก
ทุกอย่างก้าวของมันทั้งทรงพลังและสง่าผ่าเผย
มันเป็นสัตว์อสูรชนชั้นขุนนางแบบต้าซื่อและมีเลเวล 11 แต่น่าเสียดายที่ระดับของมันยังเป็นปกติอยู่
ไก่มังกรเดินเข้าไปในกรงอย่างช้าๆ มันไม่ได้เริ่มโจมตีโดยทันที แต่มันเดินวนรอบแมงป่องเกราะม่วงอย่างระมัดระวังแทน
แมงป่องเกราะม่วงรู้สึกว่ามีใครเข้ามาในกรง มันหยุดบีบของทันที มันรู้สึกหงุดหงิดที่ถูกขัดขวางความบันเทิงของมัน แววตาที่มุ่งร้ายมองไปที่ไก่มังกร
ไก่มังกรตกตะลึงกับขนาดของแมงป่องยักษ์ในครั้งแรกที่ได้เจอ มันยังคงเดินวนเหมือนเดิมโดยไม่แม้แต่จะริเริ่มโจมตี
แมงป่องเกราะม่วงเริ่มที่จะขยับตัว มันยืดเส้นยืดสาย พร้อมที่จะขยับตัว
*ปัง*
ก้ามทั้งสองของของแมงป่องเกราะม่วง ทุบไปที่พื้นคอนกรีต ส่งเสียงดังไปทั่ว
แมงป่องเกราะม่วงพุ่งไปหาไก่มังกร
‘หยุดเดินวนรอบๆกูสักที!!!’