Chapter 164 – Great Plains of Barrastan (15) [12-05-2020]
Chapter 164 – Great Plains of Barrastan (15)
”
ด้วยคำพูดที่คมชัดของซังจิน พวกนักล่าได้ใช้เวลามองหน้ากับอยู่ครู่หนึ่ง มันเป็นเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้นแต่ว่าพวกเขาก็รู้ได้โดยสัญชาตญาณ
'ชายคนนี้สามารถจะฆ่าพวกเราได้ถ้าต้องการ เหตุผลที่เขาไม่ทำมันเป็นเพราะตัวเขาเอง'
และด้วยเหตุนี้พวกเขาก็เริ่มมีความรู้สึกที่จะปกป้องเอ็ดเวิร์ดน้อยลงไป อ่านจากท่าทางของนักล่า ซังจินได้ย้ำคำพูดของตนอีกครั้งหนึ่ง
"ฉันจะพูดอีกครั้ง ฉันไม่สนใจคนอื่นนอกจากจอมเวทย์นั่น ฉันไม่ต้อวการที่จะสร้างความเสียหายอะไร เพียงแค่ออกไปจากทางและจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับพวกนาย"
ในตอนนี้คำพูดของซังจินได้ทำให้นักล่าเกิดความแตกแยก ความต่อการที่จะต่อสู้ได้หายไปและมือที่ถืออาวุธก็ได้ลดลง ซังจินได้ยิ้มขึ้น แต่จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของเอ็ดเวิร์ดจากด้านหลัง
"นายเป็นใคร? ทำไมถึงโจมตีฉัน?"
ซังจินไม่ได้ให้คำตอบกลับไป
'บาปในชีวิตที่แล้ว'
มันไม่ใช่สิ่งที่เขาจะให้เหตุผลได้
"ขอให้เรามาคุยกันก่อน ฉันไม่ต้องการที่จะสร้างปัญหากับนักล่าคนอื่นๆ ช่วยลดอาวุธของนายลง"
ซังจินได้พบว่าตัวเขาได้ผ่อนคลายลงจากการฟังคำพูดเหล่านั้น เอ็ดเวิร์ดคงจะจำไม่ได้ถึงสิ่งที่เขาทำให้ชีวิตที่แล้ว แต่ว่ามันก็มีบางสิ่งที่เขาอยากได้ยินก่อนที่จะฆ่าเอ็ดเวิร์ด
"กร!"
ทันใดนั้นก็ได้มีเสียงคำรามของสัตว์ดังขึ้น ด้วยความรู้สึกที่จะมีอะไรเกิดขึ้น ซังจินได้วิ่งไปหานักล่าอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นซังจินวิ่งเข้ามา พวกนักล่าก็ไม่สามารถจะตอบสนองอะไรได้และทำเพียงแค่ยืนนิ่งอยู่กับที่ ซังจินได้กัดฟันแน่น
'น่ารำคาญ'
เขาได้หยิบมูนสเปคออกมาจากฝักและพูดขึ้น
"เสียงกรีดร้องของคนตาย"
"กรี๊ดดดดดดดดดด!"
มูนสเปคได้เริ่มกรีดร้องออกมาเมื่อถูกชักออกจากฝัก มูนสเปคได้แยกเหล่านักล่าและเผยให้เห็นเอ็ดเวิร์ดที่อยู่ด้านหลัง เขาได้นั่งอยู่บนหลังเสือไซบีเรีย
คำที่เขาพูดนั้นไม่ได้พูดออกมาเพื่อต้องการจะแก้ปัญหาอย่างสันติ แต่เขาต้องการที่จะซื้อเวลาในการเรียกเสือของเขา ซังจินได้รีบวิ่งไปหาเขาทันที
แต่ว่ายังมีนักล่าอีกคนหนึ่ง Juggernaut ได้ยืนอยู่ในเส้นทาง เขาได้ยืนอยู่ด้วยความกล้าหาญแม้ว่าจะโดนข่มโดยมูนสเปค เขาจะต้องมีความต้านทานความกลัวมากเนื่องจากว่าเป็นแท้ง
เขาเคยถูกเอาชนะในการโจมตีเดียวและทำให้เหลือเพียงโล่ในมือยืนขวางทางซังจิน ซังจินได้ไปต่อโดยไม่สนใจเขาและวิ่งผ่านไป แต่แล้ว Juggernaut ก็ได้หยิบเอารูปปั้นหินแปลกๆออกมา
มันมีรูปร่างบิดเป็นเกลียวเหมือนกับแผนบางๆ และมันมีเลือดถูกละเลงอยู่ ซังจินได้คิดว่าลักษณะนี้ของมันดูน่าสนใจมาก แต่ว่าเขาไม่มีเวลาที่จะสนใจมันในตอนนี้
"เวรเอ้ย หลบไป!"
แต่แล้ว Juggernaut ก็ได้ใช้เวลาที่ซังจินจะผ่านไปเขาได้พูดออกมา
"การนำทางของเทพองค์เก่า"
ทักษะได้ถูกใช้งาน และจากนั้นรูปปั้นหินได้งอกอะไรบางอย่างที่คล้ายกับหนวดปลาหมึกพุ่งเข้าใส่ซังจิน ซังจินได้ตัดหนวดนั้นในการฟันเพียงครั้งเดียว แต่แล้วเขาก็ได้เผลอให้มันผ่านเข้ามาได้เส้นหนึ่งและพันรอบขาของเขา ซังจินได้ตะโกนขึ้น
"นี้มันคืออะไร?"
เขาได้ตัดหนวดเหล่านั้นด้วยความหงุดหงิด แต่ว่าหนวดที่ถูกตัดก็ยังขยับอยู่ราวกับมันมีชีวิต ซังจินได้เต็มไปด้วยความโกรธและเขาก็ตัดมันต่อไป แต่รูปปั้นหินก็ยังปล่อยหนวดออกมาเรื่อยๆ โดยความโมโหซะจินได้ตัดหนวดทั้งหมดทิ้งและพยายามที่จะคว้าตัวคนถึงรูปปั้นและทำลายรูปปั้นทิ้งไปอย่างง่ายดาย
'คี้เฮะ...'
รูปปั้นได้ส่งเสียงแปลกๆออกมาเมื่อมันถูกทำลายลงไป หนวดก็เหมือนกับสูญเสียชีวิตไปและแห้งเหี่ยว ซังจินได้มองไปที่ Juggernaut ราวกับต้องการจะฆ่า
Juggernaut ได้ทนต่อเสียงร้องของมูนสเปค และเขาก็ได้มองกลับไปที่ซังจิน จากนั้นซังจินก็ได้หันไปมองที่เอ็ดเวิร์ด ในขระที่ Juggernaut ซื้อเวลาให้ เอ็ดเวิร์ดก็ได้สร้างระยะห่างระหว่างพวกเขาขึ้นช่วงใหญ่ด้วยเสือของเขา
ซังจินได้หยุดลงและมองลงไปที่เข็มขัด แต่ว่ามันไม่มีไอเทมอะไรที่เขาจะใช้งานได้อีกแล้ว เขาได้ใช้ทุกๆอย่างไปในการต่อสู้กับมังกรแล้ว ซังจินได้เริ่มที่จะวิ่งไปทางเอ็ดเวิร์ดด้วยเท้าในขณะที่เขาเรียกเซริน
"เซริน"
เขาเพียงแค่เรียกชื่อของเธอ แต่เซรินก็รู้แล้วว่าทำไมซังจินถึงเรียกเธอ เขาต้องการที่จะให้เธอยิงธนูใส่เสือของเอ็ดเวิร์ด แต่ว่าเซรินไม่ยอมยกธนูขึ้น เธอเพียงแค่แกล้งทำเป็นไม่รู้
"อะ...อะไรค่ะโอปป้า?"
เธอได้ถามออกมา ซังจินได้มองไปที่เธอและพูดขึ้น
"ยิ่งนั่น..."
แต่เมื่อเขาเห็นความขัดแย้งบนใบหน้าของเธอ
"...ไม่เป็นไร"
เขาได้หยุดลง ซังจินได้หันกลับไปและมองที่เอ็ดเวิร์ดที่วิ่งหนีไปบนหลังเสือด้วยความมึนงง เสือนั้นเร็วมาก มันเป็นไปไม่ได้ที่จะจับเสือโดยที่ไม่มีเคน ราร์ หรือชาโดวรัน และที่ราบแห่งนี้ก็มีขนาดที่ใหญ่มาก แม้จะมีข้อจำกัดของแผนที่ แต่มันก็มีโอกาสที่เขาจะไม่สามารถหาเอ็ดเวิร์ดได้เจอก่อนที่เวลาจะสิ้นสุดลง
"เวรเอ้ย!"
ซังจินได้เตะพื้นด้วยความโกรธ นักล่าได้เริ่มที่จะถอยห่างไปจากซังจินเมื่อเห็นแบบนี้ แม้แต่ Juggernaut ที่ต่อต้านถึงท้ายที่สุดก็ยังขยับออกไปอย่างช้าๆด้วยความกลัวที่จะถูกทำร้ายจากความแค้น มีเพียงเซรินที่ยืนอยู่เบื้องหลังและเดินไปหาเขา
"โอปป้า บางทีนี่อาจจะมีความเข้าใจผิดบางอย่าง..."
ซังจินได้ตัดบทเธอ
"ความเข้าใจผิดอย่างนึงคือเธอ ชายคนนั้น เขาเป็นคนที่จะต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นในการจู่โจมในก่อนหน้านี้"
"แต่อาจจะมี..."
"ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร มันจะปลอดภัยกว่าเมื่อตัดปัญหาตั้งแต่ต้นลม จริงมั๊ย?"
"แต่ว่า..."
"แต่อะไร? เธอจะทำยังไงถ้าเขายิงเวทย์ใส่เธอจากด้านหลังในระหว่างช่วงกลางการจู่โจม?"
เซรินไม่สามารถจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ได้ ซังจินกำลังจะพูดอะไรเพิ่มเติมกับเซริน แต่เมื่อนั้นเสียงของโอเปอเรเตอร์ก็ได้ดังขึน
[ผู้ถูกเลือกได้ร้องของการเทเลพอต คุณจะยอมรับคำขอหรือไม่?]
ในไม่ช้าภาพของเบลเทรนก็ปรากฏขึ้น เขาได้พูดออกมาอย่างเร่งรีบ
"เคมาช่วยฉันที่ ตอนนี้..."
แต่ว่าเขาไม่สามารถจะพูดต่อได้เพราะเขายุ่งกับการป้องกันหอกของใครบางคน
ซังจินมองไปที่เซรินเงียบๆและมองลงไปกับพื้นพร้อมพูดขึ้น
"มาคุยกันเมื่อเรากลับไปที่โรงแรมแล้ว"
จากนั้นเขาก็ตอบกลับไป "ยอมรับ"
ซังจินได้ถูกเคลื่อนย้ายไปที่มิติอื่น ในมิติของเบลเทรนมันปรากฏความวุ่นวาน ดูเหมือนเหมือนว่าจะมีใครบางคนทำพลาดในสงครามกองโจร และได้ปะทะกับกองทัพใหญ่ของปีศาจในค่าย
นักล่าหลายคนได้หายไปแล้ว และมีนอนอยู่บนพื้น ซังจินได้เข้าใจสถานการณ์อย่างรวดเร็ว เขาได้รีบวิ่งเข้าไปช่วยในทันที
"ย่าห์!"
เขาได้ตัดปีศาจทั้งหมดที่เข้ามาหาเขา
"ก๊าาา!"
แม้ว่าในขณะที่มองดูปีศาจร้องอย่างเจ็บปวด ซังจินก็กำลังนึกถึงใบหน้าของเอ็ดเวิร์ดในตอนต้น
'นี่เป็นโอกาสอันดี...'
และทุกครั้งที่เขาคิด ความโกรธก็จะเข้ามาในใจของเขา ทีละคน นักล่าที่ถูกล้อมโดยศัตรูได้ถูกช่วยเอาไว้ด้วยความพยายามของซังจิน และกระดานก็ได้พลิกกลับไป แต่ว่าในช่วงกลางของการต่อสู้นี้นั้น
[ผู้ถูกเลือกได้ร้องของการเทเลพอต คุณจะยอมรับคำขอหรือไม่?]
นาดาได้เรียกเขาในเวลานี้
"เฮ้ ซังจิน พวกเรามีแผนที่จะต่อสู้กับกองกำลังหลักในเร็วๆนี้ ... เราสูญเสียนักล่าไปในระหว่างการรบแบบกองโจร นายช่วยมาช่วยพวกเราหน่อยได้มั๊ย?"
สถานการณ์ในด้านนั้นดีกว่าทางนี้มาก ซังจินได้พูดกับเธอ
"ให้ฉันเคลียบอสทางด้านนี้เสร็จก่อนนะ รอฉันด้วย"
"โอเค"
ซังจินได้ย้ายไปที่มิติของนาดาหลังจากที่เขาได้ช่วยเบลเทรนเอาชนะผู้บัญชการซาราต้าเสร็จ เมื่อนาดาเห็นซังจินที่อาบเลือดเธอก็ถามขึ้น
"...นายจะโอเคมั๊ย เค?"
เธอรู้ว่ามีแนวโน้มอย่างมากที่เลือดนั่นไม่ใช่ของเขา แต่เธอคิดว่าบางทีเขาอาจจะมีความเหนื่อยล้าทางร่างกายอยู่ ซังจินได้หยักหน้าและพูดออกมา
"ฉันโอเค ฉันไม่เป็นไร ดังนั้นไปกันเถอะ"
นาดาคิดว่าเขาได้ทำตัวแปลกไปเล็กน้อย แต่ว่าเธอก็หันไปหานักล่าคนอื่นและบอกกับพวกเขา
"ถ้างั้นมาเริ่มกัน"
หนึ่งในนักล่าได้เผชิญหน้ากับกองทัพหลักและร่ายเวทย์
"บอลเพลิง"
และปล่อยเวทย์ออกไป
"ตูม!"
เปลวเพลิงได้ปะทุขึ้นเสียงดัง ศัตรูก็ได้พุ่งเข้ามา มันเป็นจำนวนทีมหาศาลนัก นักล่าคนอื่นๆได้มองไปที่กองทัพนั้นด้วยความกลัว แต่ว่าซังจินได้มีสายตาที่ต้อนรับพวกมัน
นับตั้งแต่ที่เขาพลาดที่จะจัดการเอ็ดเวิร์ด เขารู้สึกว่าถาเขาไม่ได้เหวี่ยงดาบเขาก็จะอารมณ์เสีย ดังนั้นเมื่อซังจินเสร็จสิ้นการจู่โจมครั้งที่ 3 เขาก็ได้ใช้เวลาที่เหลือไปกับการล่าฆาตกร
การจู่โจมในครั้งนี้ไม่ได้ผลลัพธ์อะไรที่มากนัก เขาได้ใช้เวลานานในการช่วยเหลือ 'ผู้ถูกเลือก' และการหาฆาตกรในมิติอื่นมันก็เป็นเรื่องยาก (เหตุผลเดียวกับที่ไล่ตามเอ็ดเวิร์ดไม่ได้)
ด้วยแบบนี้ซังจินก็ได้ใช้เวลาไปตลอดกับมัน จนกระทั่งเขาถูกอัญเชิญกลับไปที่ฮอลล์นักล่า
*****
"วิ้ง"
ซังจินได้กลับมาถึงฮอลพร้อมกับแถวที่ไม่สิ้นสุดพร้อมด้วยเสียง ที่ฮอลล์นักล่าที่เต็มไปด้วยคนที่มองไปยังไงก็ไม่สิ้นสุดได้มองเห็นที่ว่างมากมายที่มีนักล่าหลายคนยืนสนับกันอยู่
ซังจินได้หันหัวไปรอบๆด้วยความหวังที่ว่าจะได้เห็นเอ็ดเวิร์ด แน่นอนว่ามันไม่มีทางที่จะโจมตีคนอื่นในที่นี้ มันไม่มีทางที่โอเปอเรเตอร์จะยอมให้เป็นเช่นนั้น
[ขอแสดงความยินดีด้วยนักล่าในฮอลล์นี้ได้เคลียร์บทที่สิบสี่เรียบร้อยแล้ว]
[จาก 7310067613 นักล่าที่ได้เข้าร่วมในตอนแรก]
[ปัจจุบันนี้มีนักล่าเหลือเพียง 6710 คน]
ซังจินได้คิดอย่างรอบคอบ
'...6710?'
มีจำนวนผู้รอดชีวิตมากกว่าที่เขาคิด
'จำนวนคนมากกว่าความที่แล้ว? ฉันคิดว่ามันไม่น่าจะน้อยกว่าในตอนนั้น'
จากจุดนี้เป็นต้นไปพวกเขาก็จะเริ่มได้พบกันนักล่าที่เคยพบกันมาก่อนบ่อยมากขึ้น แต่ว่าจำนวนคน 6710 นั้นมากกว่าในอดีต
เขาจำไม่ได้ถึงจำนวนที่แน่ชัด แต่มันก็ดูเหมือนว่าซังจินจะยังไม่ได้ไปพบกับเพื่อนร่วมทีมเก่าของเขาในเร็วๆนี้ได้เช่นกันเพราะยังมีคนอยู่อีกจำนวนมาก
[ทุกๆคนในทีแห่งนี้ที่เหลือรวดได้อยู่บนจุดสูงสุด]
[และได้สูจน์ความแข็งแกร่งของตัวเองแล้ว]
[โปรดอยู่รอดไปจนถึงจุดจบและพิสูจน์ความแข็งแกร่งของมนุษย์ชาติ]
[และกลายเป็นผู้ช่วยเหลือเผ่าพันธ์ให้รอด]
หลังจากคำพูดของโอเปอเรเตอร์จบลง ซังจินก็ได้ถูกวาปกลับไปที่ตลาดมืด ซังจินได้นั่งลงไปที่ร้านกาแฟราวกับว่าเขาทรุดลงไป
"คุณจะรับอะไรไหมครับ ท่านนักล่า?"
ซังจินได้ตอบกลับไป
"อะไรก็ได้เย็นๆ"
"รับทราบ"
ซังจินได้ครุ่นคิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในการจู่โจม หลายๆสิ่งมันได้เกิดขึ้น แต่เอ็ดเวิร์ดเป็นสิ่งแรกที่ขึ้นมาในใจของเขา ซังจินได้กำหมัดแน่นและทุบลงไปบนโต๊ะที่บอบบาง เขาได้สู้กับบอสลับเพียงลำพังและได้รับไอเทมมามากมาย การจู่โจมครั้งนี้มันสำเร็จ แต่ว่าการที่เขาไม่สามารถฆ่าเอ็ดเวิร์ดได้มันน่าผิดหวังมากที่สุด
"ของที่สั่งได้แล้ว"
ในไม่ช้าซังจินก็ได้รับแก้วชาเย็นที่มีน้ำแข็งอยู่ครึ่งแก้วมา ซังจินได้ดื่มมันลงไปในครั้งเดียว