Chapter 162 – Great Plains of Barrastan (13) [08-05-2020]
Chapter 162 – Great Plains of Barrastan (13)
”
"แกว๊ก! แกว๊ก!"
เหนือสนามรบได้มีนกยักษ์ตัวหนึ่งกำลังบินอยู่ มันก็คือร็อคที่ถูกอัญเชิญมาโดยเซรินผ่านทางอาหรับราตรี
ตามคำอธิบายในหนังสือร็อคสามารถจะจับช้างได้ทั้งตัวด้วยเล็บเพียงข้่างเดียวในขณะที่บินร่อนไปทั่วท้องฟ้า นกยักษ์ได้ใช้ปากของมันจิกปีศาจและใช้กรงเล็บของมันจับปีศาจเต็มมือและปล่อยพวกมันลงมาหลังจากบินขึ้นไปบนท้องฟ้า
"อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!"
ปีศาจได้หล่นลงมาจากท้องฟ้าตายด้วยการคอหักไม่ก็สะโพกหัก ในช่วงกลางของสนามรบก็ได้มีชายคนหนึ่งตะโกนออกมา
"ย๊ากกกกกกกก!"
ชื่อของชายคนนั้นก็คือธอร์เทพเจ้าสายฟ้าที่เอ็ดเวิร์ดได้เลิกออกมาโดยการใช้ตำนานแห่งยุโรปเหนือ เขาได้ใช้ค้อนสายฟ้าทุบและกวาดล้างเหล่าศัตรู
ในบางครั้งจะมีปีศาจหนึ่งหรือสองตัวแทงหอกหรือไม่ก็เหวี่ยงดาบไปที่เขา แต่ว่าเขาจะฆ่าพวกปีศาจต่อไปโดยที่ไม่มีบาดแผล ต้องขอบคุณซัมม่อนทั้งสองนี้ที่ทำให้กอพทัพของศัตรูไม่สามารถจะรักษารูปแบบของพวกเขาได้
ในระหว่างช่วงเวลานั้นนักล่าก็ได้พุ่งเข้าไปหาผู้บัญชาการของศัตรูซาราต้า พวกเขาเชื่อว่าถ้าพวกเขาฆ่าผู้บัญชาการของศัตรู ศัตรูที่เหลือก็จะสูญเสียความตั้งใจจะต่อสู้ไป เซรินเป็ยเพียงคนเดียวที่ยังยืนอยู้ข้างหลังในขณะยิงธนู
"ฟิ่ว"
"ฟิ่ว"
"ฟิ่ววววว"
เซรินไม่สามารถจะหยุดพักได้แม้แต่วินาทีเดียวตั้งแต่เริ่มการต่อสู้ เธอได้ยิงลูกธนูออกไปนับหมื่นแล้วตั้งแต่ที่เริ่มยิงธนูในตอนเด็ก แต่อย่างไรก็ตามนี่เป็นครั้งแรกที่เธอยิงลูกธนูเป็นจำนวนมากในครั้งเดียว
ลมหายใจของเธอแผ่ว ไหล่ของเธอเริ่มปวดและแขนของเธอก็โดนไหม้ อย่างไรก็ตามเธอไม่สามารถพักได้ ที่เบื้องหน้าเธอนักล่าคนอื่นๆกำลังต่อสู้กับบอส
หน้าที่ของเธอคือการป้องกันมอนสเตอร์ตัวอื่นๆที่จะเข้าไปใกล้ ถ้าเธอหยุดลงไปนักล่าพวกนั้นก็จะถูกล้อม ด้วยเหตุนี้เธอก็จะต้องยิงลูกธนูออกไปแม้ว่าจะอยู่ในสถานะที่เหนื่อยล่า ในท้ายที่สุดเสียงที่เธอรอคอยมานานก็ดังออกมา
[บอสมอนสเตอร์ผู้บัญชาการซาราต้าได้ถูกเคลียร์]
ในเวลาที่ผู้บัญชาการศัตรูตายไป ปีศาจทั้งหมดก็ได้ยุ่งอยู่กับการหลบหนี อย่างไรก็ตามเซรินก็ยังยิงลูกธนูต่อไปโดยไม่หยุดพัก
"ฟิ่ว!"
ทุกๆครั้งที่ลูกธนูได้ถูกยิงออกไปจะต้องมีปีศาจตัวหนึ่งล้มลง มันเพียงแค่หลังจากที่ปีศาจหายไปจากระยะสายตาเท่านั้นเธอจึงหยุดที่จะยิงลูกธนูออกไปเหมือนกับหุ่นยนต์ เมื่อการต่อสู้ในจบลงในที่สุดเธอก็สามารถปลดปล่อยความวิตกกังวลและตรึงเครียดไปได้ จากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงมาจากเหล่านักล่า
"เฮ้นี่!"
เธอได้หันหัวไปและเห็นเหล่านักล่าที่มารวมตัวกันอยู่ เซรินได้คล้องธนูไว้กับไหล่และวิ่งไปหาพวกเขา ที่นั่นนักล่า 'Juggernaut' ได้นอนทรุดตัวอยู่ แม้ว่าเขาจะไม่มีบาดแผลแต่มันก็เห็นได้ชัดว่าเขาหมดสติ
'เขาตายแล้วหรอ?'
ในขณะที่เซรินคิดแบบนี้ ลูกบาศก์ของชายคนนั้นก็ส่งเสียงออกมา
[คำเตือนพลังชีวิตต่ำกว่า 20%]
เขายังไม่ตาย เมื่อเธอมองดูดีๆแล้วมันมีมีดขนาดเล็กแทงเขาอยู่
"บอสได้แทงมีดเข้าไปที่เขาก่อนที่จะตาย"
ตอนนี้ที่เธอมองมันแผลได้มีสีม่วงแปลกๆออกมา
"มีดสั้นนี่มีพิษ พวกเราจะต้องเอามันออกมา"
นักล่าได้จับมีดและดึงมันออกมา ครู่หนึ่งเลือดก็ได้เริ่มพุ่งออกมาจากบาดแผล ขระนั้นเองหนึ่งในนักล่าก็ได้เอาโพชั่นออกมาและป้อนมันให้กับJuggernaut
มันเป็นโพชั่นพลังชีวิตเกรดพิเศษที่มีราคาแพงถึง 1000 เหรียญทอง อย่างไรก็ตามแม้อย่างนั้นเสียงของลูกบาศก์ก็ได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง
[คำเตือนพลังชีวิตมีน้อยอย่างมาก พลังชีวิตต่ำกว่า 10%]
คนจากด้านหลังได้กล่าวเสริมออกมา
"มันเป็นพิษร้ายแรงที่ทำให้การใช้โพชั่นไม่ทำงาน ไม่มีใครมียาแก้พิษเลยหรอ?"
เซรินได้หยิบเอายาแก้พิษออกมาจากเข็มขัดของเธอ นี่ก็เป็นยาแก้พิษเกรดพิเศษที่มีราคาแพงทำให้มันช่วยรักษาพิษได้เกือบจะทุกชนิด นักล่าได้โยนมันเข้าไปในปากของ Juggernaut ในทันที อย่างไรก็ตามในขณะนั้นเขาก็ได้เริ่มไอขึ้น
"แค่ก"
"เขาเสียเลือดมากเกินไป เขาจะตายถ้าเป็นแบบนี้"
ในขณะที่นักล่าไม่สามารถจะทำอะไรได้เซรินก็มองหาเอ็ดเวิร์ดโดยที่ไม่ตั้งใจ ถ้าเป็นเขาแล้วอาจจะมีบางอย่างที่เขาสามารถจะทำได้ เมื่อเซรินได้หันไปเธอก็พบว่าเขาอยู่ห่างจากนักล่าเพียงเล็กน้อยและนั่งสมาธิพร้อมกับหลับตาอยู่ เซรินต้องการจะไปเขย่าตัวเขาและพูดออกมาว่า
'นี่มันไม่ใช่เวลาทำแบบนี้'
แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเธอได้เข้าไปใกล้เขา เขาก็ได้ลืมตาขึ้น เมื่อเซรินลังเลเล็กน้อย เขาก็ได้ลุกขึ้นมาและเดินผ่านเธอไปพร้อมกับพูดกับนักล่า
"ช่วยถอยไปหน่อยนะ"
เมื่อเอ็ดเวิร์ดได้ปรากฏตัวนักล่าก็ได้หลบให้เขาโดยไม่พูดอะไร เอ็ดเวิร์ดได้มองลงไปที่แผลจากนั้นเขาก็แตะแหวนครั้งหนึ่งในขณะที่พูดขึ้น
"ระบุ: สีขาว"
ครู่หนึ่งสีของแหวนก็ได้กลายเป็นสีขาว เขาได้วางมือลงไปบนแผลของ Juggernaut และร่ายเวทย์
"ด้วยพลังของเทพเจ้าช่วยหนึ่งชีวิตนี้ หัตถ์แห่งพระเจ้า"
ครู่หนึ่งแสงสว่างจ้าก็ได้ส่องออกมาจากมือของเขา
*****
"ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณนายจริงๆเลยเอ็ดเวิร์ด ขอบคุณจริงๆ"
"มันไม่มีอะไรหรอก อย่ากังวลเลย"
ในขณะที่พวกเขากำลังค้นหาชิ้นส่วนลับคนที่เกือบจะตายไปแล้วเมื่อก่อนหน้านี้ก็ได้ขอบคุณเอ็ดเวิร์ดซ้ำไปซ้ำมา เขาไม่สามารถจะขยับตัวได้เพราะพิษอัมพาตแต่เขาก็สามารถจะเห็นในสิ่งที่ทุกคนทำได้ เขาได้ก้มหัวในขณะที่พูดขึ้น
"เมื่อเราได้รับรางวัลการจู่โจมครั้งนี้ ฉันจะตอบแทนนายไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม"
"นายไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น..."
"ไร้สาระ นายช่วยฉันแม้ว่ารางวัลการจู่โจมของนายจะลดลง"
มันมีเหตุผลว่าทำไมเขาถึงต้องขอบคุณเอ็ดเวิร์ดอย่างมาก ในระหว่างการจู่โจมจนกว่าบอสจะตายพวกเขาก็จะเป็นพันธมิตรกัน แต่อย่างไรก็ตามหลังจากฆ่าบอสแล้วพวกเขาก็จะถูกแบ่งรางวัลกัน ความจริงมีคนหลายคนที่จะทิ้งเอาไว้แบบนั้นแม้ว่าจะเห็นคนที่กำลังจะตาย แต่ว่าแม้อย่างนั้นเอ็ดเวิร์ดก็ได้เสียสละผลงานที่จะเพิ่มขึ้นและมาช่วยเขาแทนที่จะปล่อยให้ตาย
จากนั้นเขาก็ไปหาเซรินและแสดงความขอบคุณออกมา
"นายก็ด้วย ฉันเห็นนายมอบยาแก้พิษให้ฉัน ขอบคุณนะ"
"อ่า...ไม่เป็นไร"
เซรินได้หยักหน้าครั้งหนึ่ง ในความจริงแล้วเธอกำลังจดจ่อกับสิ่งอื่น
'ฉันควรจะเรียกโอปป้าซังจินในตอนนี้ดีมั๊ย?'
เซรินได้เรียกโอเปอเรเตอร์และตรวจสอบเวลาที่เหลืออยู่
"โอเปอเรเตอร์เหลือเวลาอยู่เท่าไหร่?"
[จะกลับสู่ฮอลล์นักล่าในอีก 2 ชม. 20 นาที]
มันมีเวลาทั้งหมด 3 ชม. 30 นาทีสำหรับการจู่โจม ดังนั้นเวลาที่ได้ผ่านไปก็คือ 1 ชม. 10 นาที เวลาที่ผ่านไปก็คือ 1 ใน 3 ของเวลาทั้งหมด ซึ่งถ้ามันเป็นเวลา 1 ใน 5 ของทั้งหมด ซังจินได้บอกเอาไว้ว่าสามารถเรียกเขาได้ในเวลานี้ แต่ว่ามันก็ยังแปลกที่ซังจินยังไม่มาหาเธอในเวลานี้ เซรินได้คิดถึงรายละเอียดของมัน
'ถ้ามันเป็นในเวลานี้ถ้างั้นก่อนที่ฉันจะเรียกเขา...เขาก็ควรจะมาถึงแล้ว...เขายังไม่เสร็จสิ้นการจู่โจมงั้นหรอ?'
เมื่อเธอได้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันก็ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น ไม่เพียงแต่การจู่โจมปัจจุบันมันจะยากรำบากเท่านั้น แต่พื้นที่ของมันยังกว้างมากอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าซังจินจะพยายามมากยังไงมันก็จะต้องใช้เวลาเพื่อที่จะให้เสร็จสิ้นการจู่โจมแบบ 100% ในที่สุดเซรินก็ได้ตัดสินใจ
'ถ้าโอปป้าเสร็จสิ้นการจู่โจมแล้ว... ถ้างั้น...เขาก็จะมาที่นี่ก่อนที่ฉันจะเรียกเขา'
ด้วยเหตุนี้เธอก็เลยตัดสินใจที่จะรอให้ซังจินมาแทนที่จะเรียกเขา ถ้าเขาเสร็จสิ้นการจู่โจมแล้วเขาก็จะต้องใช้การตรวจสอบในทันทีและจากนั้นเขาก็จะรีบมาที่นี่ ตอนนี้เธอจะต้องพิจารณาว่าจะทำยังไงเมื่อซังจินมาถึง
'เอ็ดเวิร์ดดูเหมือนจะเป็นคนที่ค่อนข้างดี...ทำไมโอปป้าซังจินถึงเกลียดคนแบบเอ็ดเวิร์ดกันนะ?'
ในขณะที่เซรินกำลังคิดอยู่ หนึ่งในนักล่าก็ได้ตะโกนขึ้น
"เฮ้! ดูนี่!"
เซรินได้เงยหน้าขึ้นและมองไปข้างหน้า นักล่าสองคนกำลังลากศพขึ้นมาจากลำธาร
"มันมีอะไรแปลกๆเกี่ยวกับศพนี้ใช่มั๊ย?"
"แน่นอน"
ในหมู่นักล่าทั้งสิบคนมีคนที่มีฉายานักล่าสมบัติอยู่ทั้งหมด 4 คน หลังจากการจู่โตมสิ้นสุดมันก็เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะค้นหาชิ้นส่วนลับ และความพยายามของพวกเขาก็สำเร็จผลในที่สุด
"เฮ้ข้างในหน้าอกนั่น ฉันเห็นแสงสีฟ้า"
"งั้นเรามาผ่าท้องเขากัน"
เซรินได้ยืนมองฉากนี้อยู่ห่างๆ ครู่หนึ่งเสียงของโอเปอเรเตอร์ก็ดังขึ้น
[ขอแสดงความยินดีด้วย! คุณได้รับชิ้นส่วนลับ]
[การเตรียมการขั้นสุดท้ายของอเลนดิล]
"โอ้ๆ! มันเป็นอัญมณี!"
"เราพบมันแล้ว!"
อย่างไรก็ตามในขณะที่นักล่ากำลังตื่นเต้นไปกับการค้นพบชิ้นส่วนลับ ก็ได้มีคนๆหนึ่งลงมาจากท้องฟ้าในทันที
'ฟึบ'
เซรินได้หันไปมองเขาสั้นๆ
'เป็นโอปป้าซังจินหรอ?'
อย่างไรก็ตามชายที่ปรากฏตัวนั้นสูงกว่าซังจิน เป็นชายรูปหล่อที่เธอไม่รู้จัก ดวงตาของเหล่านักล่าได้ถูกดึงไปโดยเขา ในช่วงเวลานั้นชายคนนั้นก็พูดขึ้น
"ดูนี่มนุษย์ ส่งมันมา"
นักล่าได้งุนงงไปแต่ในไม่ช้าพวกเขาก็เตรียมตัวที่จะต่อสู้ แม้แต่เซรินเธอก็ได้เอาธนูออกมา อย่างไรก็ตามชายคนนั้นก็ได้พูดเพิ่มขึ้น
"พวกนายต้องการจะต่อสู้กับฉันงั้นหรอ? พวกนายจะตายนะ"
'พวกเราจะตาย?'
เพียงประโยคเดียวนี้ร่างกายของเซรินก็รู้สึกเหมือนจะแข็งทื่ออย่างกระทันหัน อย่างไรก็แม้มันจะมีเรื่องนี้เธอก็ยังหยิบลูกธนูออกมาและวางมันบนคันธนู หลังจากนั้นเธอก็มองไปที่นักล่าคนอื่นๆ
นักล่าคนื่อนไม่สามารถจะขยับได้ ในหมู่พวกเขามีเพียงเอ็ดเวิร์ดเท่านั้นที่ถอยหลังไปเล็กน้อย ถ้ามันเป็นแบบนี้พวกเขาก็ไม่สามารถจะต่อสู้ได้ ในเวลานี้ชายคนนั้นก็ได้มองไปทางเซรินและพูดออกมา
"ลดธนูลงซะแม่คนสวย ถ้าเธอไม่ต้องการที่จะบาดเจ็บละก็นะ"
เซรินประหลาดใจมาก มันราวกับว่าชายคนนี้สามารถมองผ่านหน้ากากและเห็นตัวตนที่แแท้จริงของเธอได้ เมื่อนั้นเองเธอก็ได้ลดธนูลงไปโดยที่ไม่รู้ตัว ชายคนนั้นก็พูดต่อมา
"มนุษย์ฉันจะพูดอีกแค่ครั้งเดียวดังนั้นฟังให้ดีนะ ถ้านายส่งอัญมณีมาให้ฉัน ฉันจะปล่อยให้พวกนายมีชีวิต ถ้าพวกนายไม่ส่งมันมา พวกนายก็จะตาย พวกนายจะเลือกอะไร?"
ในตอนนั้นเองที่นักล่าคนอื่นๆก็ได้ตระหนักว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา จากการที่เขาเรียกพวกเราว่ามนุษย์ มันสามารถจะเดาได้ว่าเขาอาจจะเป็นบอสลับก็เป็นได้ นักล่าได้หันหน้าไปมองเซรินและเอ็ดเวิร์ดเพราะว่าทั้งคู่เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุด มันดูเหมือนว่าพวกเขากำลังขอให้ทั้งคู่ตัดสินใจ เซรินได้นึกไปถึงสิ่งที่ซังจินได้พูดในระหว่างตอนเช้า
'อย่าต่อสู้กับบอสลับจากการจู่โจมแบบ 10 คน'
เธอได้บอกกับนักล่า
"เรา...เราจะมอบมันให้เขา"
เอ็ดเวิร์ดก็ยังหยักหน้าโดยไร้ซึ่งคำพูดใดๆ นักล่าได้ส่งอัญมณีไปให้กับชายคนนั้น
"หืม หืม ดีนี่ ฉลาดดีนะ"
หลังจากนักล่าได้เข้ามาใกล้และเขาก็ได้คว้าอัญมณีไป เขาก็ได้กล่าวคำอำลา
"พวกนายทำงานให้ฉันได้ดีมาก ถ้างั้นฉันไปล่ะ"
ชายคนนั้นได้เปิดพอทัลสีฟ้าขึ้นมากลางอากาศ
"เปิด"
แล้วก็หายตัวเข้าไปภายในนั้น
"ฟู่ววว...."
ในเวลาที่ชายคนนั้นได้หายไปนักล่าทุกคนก็ได้ถอนหยใจออกมาแม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ช่วงสั้นๆ แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่จะหายใจเมื่อเผชิญหน้ากับเขา หนึ่งในนักล่าได้พูดขึ้น
"ชายคนนั้น...เป็นบอสลับใช่มั๊ย?"
"เขาน่าจะเป็นนะ ความรู้สึกกดดันนั่น...ฉันไม่คิดว่าเขาจะเป็นมนุษย์"
ในขณะที่นักล่ากำลังคุยกันอยู่ทันใดนั้นก็ได้มีเส้นแสงปรากฏขึ้นจากท้องฟ้า นักล่าได้สะดุ้งตกใจทันที่เพราะบอสลับเพิ่งจะไปเพียงแค่แปปเดียวเอง
"อะ...นั่นอะไร?"
ยกเว้นเซริน นี่มันเป็นเพราะว่าเธอได้เห็นมันมาหลายครั้งแล้ว ครู่หนึ่งซังจินก็ได้ปรากฏตัวจากเสาแสง อย่างไรก็ตามดาบทั้งสองเล่มของเขาได้ถูกชักออกจากฝักแล้วมันราวกับว่าเขาพร้อมที่จะแกว่งมันในตอนนี้ เซรินที่เห็นแบบนี้ได้คิดขึ้น
'ฉันควรทำยังไงดี?'