MPE บทที่ 52 ร้อนแรง
ดัมมี่เดินออกมาจากห้องทำงานของสำนักงานด้วยร่างกายที่ใหญ่โต
เกาเผิงสั่งให้พนักงานนำผ้าคลุมผืนใหญ่มาคลุมร่างกายของมันเอาไว้
ดูเหมือนระดับมหากาพย์จะเป็นระดับสูงสุดของมันในช่วงเวลานี้ เพราะว่าวัสดุที่ใช้ในการยกระดับสู่ขั้นต่อไปไม่ใช่สิ่งที่เกาเผิงจะสามารถหามาได้
ดังนั้นเกาเผิงจึงต้องมุ่งความสนใจไปที่ต้าซื่อแทน ก่อนที่จะยกระดับมัน มันต้องดื่มผงใบไม้เงินให้กินเป็นเวลา 2สัปดาห์ และให้กินแก่นคริสตัลสัตว์อสูรธาตุสายไฟชนชั้นนักรบ 1ก้อน
ด้วยการที่ดัมมี่ยกระดับขึ้นความอยากอาหารก็เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน นั่นทำให้เกาเผิงรู้สึกขมขื่นเล็กน้อย เขาต้องหาเงินให้มากกว่านี้เพื่อให้เพียงพอต่อสัตว์อสูรที่หิวโหยของเขา
“ลุงเกา” หลิวจ้าวหยูมองดัมมี่ด้วยใบหน้าซีดเผือด เธอเห็นการปรากฏตัวของดัมมี่ตั้งแต่แรกก่อนที่มันจะถูกผ้าคลุม มันจึงช่วยไม่ได้ที่เธอจะรู้สึกหวาดกลัวกับสัตว์อสูรตัวนี้
“อย่าเรียกฉันว่าลุง เราอายุใกล้กับฉัน มันรู้สึกแปลกๆ” เกาเผิงกล่าว
“โอ้…” หลิวจ้าวหยูพยักหน้าเห็นด้วย
“แต่เธอสามารถเรียกฉันว่าคุณเกาหรือท่านเกาได้” เกาเผิงกล่าว
“…..”
“…..”
“เธอคงรู้ถึงค่าธรรมเนียมของฉันแล้วสินะ การยกระดับแมวมิ้นท์ชนชั้นขุนนางของเธอมีค่าใช้จ่าย 60เครดิตพันธมิตร”
หลังจากแจ้งค่าธรรมเนียมเกาเผิงจึงกวักมือเรียกแมวมิ้นท์ของหลิวจ้าวหยูมา
แมวมิ้นท์ลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเดินเข้าไปหาเกาเผิงอย่างช้าๆ
“เห็นแก่พ่อของเธอ ฉันจะลดราคาให้ 10 เปอร์เซ็นต์” เกาเผิงกล่าว
“ขอบคุณมาก” หลิวจ้าวหยูรู้สึกมีความสุขเมื่อได้ยินเรื่องนี้
ในความเป็นจริงจากการประเมินของเกาเผิง การยกระดับแมวมิ้นท์ใช้ต้นทุนประมาณ 2เครดิตพันธมิตร กำไร52เครดิตพันธมิตรยังถือเป็นกำไรที่ค่อนข้างมาก
แม้ว่าเขาจะต้องแบ่งค่าธรรมเนียมให้ก้บสำนักงานอีก 10% ก็ตาม
หลังจากเตรียมน้ำสมุนไพรที่เดือดพล่านเสร็จ แมวมิ้นท์กลับไม่ยอมลงไปในหม้อ มันวิ่งไปหลบอยู่ที่มุมหนึ่งของห้องและเริ่มส่งเสียงข่มขู่
“เมี๊ยว.!!”
แต่เสียงของมันกลับทำให้เกาเผิงไม่รู้ว่าควรหัวเราะหรือร้องไห้
เขาชี้นิ้วไปที่มันและกล่าว “จะมาด้ววตัวเองหรือให้ฉันจับแกมา?”
“เมี๊ยว!!…”
“ดัมมี่ไปจับมัน!” เกาเผิงออกคำสั่งให้ดัมมี่ที่ยืนนิ่งอยู่ด้านหลังเขา
ดัมมี่ทำตามคำสั่งของเกาเผิงอย่างเคร่งครัด แมวมิ้นท์กระโดดขึ้นไปเกาะอยู่บนผนังด้วยกรงเล็บที่แหลมคม แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้มันหลุดรอดไปจากอุ้งมือของปีศาจร้ายได้
แมวมิ้นท์ยังพยายามดิ้นรนขัดขืนต่อไป แต่ในที่สุดมันก็รู้ว่าไม่สามารถต่อต้านและทำได้เพียงนอนนิ่งอยู่ในมือของดัมมี่ด้วยความสิ้นหวังเท่านั้น
ดัมมี่โยนแมวมิ้นท์ลงไปในหม้อน้ำสมุนไพรก่อนจะปิดฝาลง
แมวมิ้นท์จมลงไปในหม้อน้ำเดือดราวกับกำลังจะตาย
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เกาเผิงเปิดฝาหม้อออก น้ำสมุนไพรพลันระเบิดขึ้นสู่อากาศ
*ปัง*
หลังจากทุกสิ่งเริ่มสงบลง เกาเผิงมองเห็นแมวมิ้นท์เกาะอยู่บนเพดานราวกับสติกเกอร์ติดผนัง
เกาเผิงกวาดตามองข้อมูลของแมวมิ้นท์และรู้สึกพึงพอใจเมื่อเห็นว่า มันยกระดับเป็นระดับสูงแล้ว
หลังจากประสบความสำเร็จ เกาเผิงจึงเปิดประตูและเรียกหลิวจ้าวหยูเข้ามารับแมวมิ้นท์ของเธอ
เมื่อเห็นหลิวจ้าวหยู แมวมิ้นท์ที่หลบอยู่ในมุมห้องได้กระโดดเข้าสู่อ้อมกอดของเธอและถูศีรษะประจบประแจงทันที
“อา…จมูกของมันมีเลือดไหล” หลิวจ้าวหยูตกใจเมื่อเห็นคราบเลือดที่จมูกของมัน
“มันร้อนแรงเกินไป” เกาเผิงกล่าว
“ร้อนแรง?” หลิวจ้าวหยูสับสน
“สมุนไพรมันมีประสิทธิภาพที่รุนแรงมาก ขณะที่ร่างกายของแมวมิ้นท์ค่อนข้างอ่อนแอ มันไม่สามารถรับสารอาหารทั้งหมดได้ในครั้งเดียว นั่นจึงเป็นเหตุที่มีเลือดไหลออกมาจากจมูกของมัน” เกาเผิงอธิบาย
หลังจากหลิวจ้าวหยูกลับไป เสียงโทรศัพท์ได้ดังขึ้น มันสายเรียกเข้าของหลิวเฉินหลินที่โทรมาขอบคุณและชื่นชมเด็กหนุ่ม
อย่างไรก็ตามแม้ เกาเผิงจะพูดคุยอย่างใจเย็น แต่ทัศนคติของเขาก็ยังไม่เปลี่ยน หลังจากงานเลี้ยงในวันนั้น
เกาเผิงรู้สึกไม่พอใจคนหลิวเฉินหลินเป็นอย่างมาก
แต่มันจะดีกว่าที่เขาจะไม่แสดงความขุ่นเคืองออกมา