MPE บทที่ 47 ความโกรธของเม็ดบัว
“กรุบ กรับ กรุบ กรับ”
มันเป็นเจ้ากิ่งก่าที่เคี้ยวดัชชุนสีทองอย่างเอร็ดอร่อย
เด็กหนุ่มทั้งสามตกใจเมื่อสัตว์อสูรของพวกเขาถูกกินต่อหน้าต่อตา
ด้วยความโกรธ ชายผมเขียวแทงมีดตรงไปยังลุงหลิวอย่างรวดเร็ว
ลุงหลิวเลื่อนเท้าซ้ายไปด้านหลังและใช้มือขวาคว้าข้อมือของฝ่าย ตรงข้ามเอาไว้ ชายผมเขียวรู้สึกราวกับ ถูกอสรพิษฉกและส่งเสียงกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
ในเวลาเดียวกัน ลิ้นของกิ้งก่าพุ่งออกมาอีกครั้ง มันพันรอบเม่น สัตว์อสูรของน้องเล็ก เจ้าเม่นถูกจับกลืนทันที น้องชายคนเล็กของกลุ่มส่งเสียงคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด ที่สัตว์อสูรของเขาถูกฆ่าต่อหน้าต่อตา
“หนูกระสุน ฆ่ามัน!” ชายผมเขียวตะโกนเรียกสัตว์อสูรของตน
ด้านหลังพวกเขา หนูสีเทาขนาดเท่าลูกฟุตบอลที่มีดวงตำสีแดงก้มตัว ลงขณะที่เส้นขนบนแผ่นหลังของมันชูชันขึ้นราวกับเม่น
*ฟุบ ฟุบ ฟุบ ฟุบ…*
เข็มสีทพุ่งออกไปจากแผ่นหลังของหนูกระสุนและทะลวงเข้าไปที่ไหล่ของลุงหลิว ในเวลาเดียวกัน ผิวของกิ้งก่าเกิดรูเล็กๆขึ้นอย่างกะทันหันแต่ในพริบตา ผิวของมันก็กลับสู่สภาพเดิมอีกครั้ง
ลุงหลิวสะบัดไหล่และดึงขนหนูสองสามเส้นออกไปอย่างไม่แยแส
“หนูลอบกัดงั้นหรือ ฮึฮึ?” ลุงหลิวหัวเราะ
เส้นขนส่วนใหญ่บนแผ่นหลังของหนูกระสุนหลุดออกไปแล้ว แม้มันจะสามารถงอกใหม่ได้แต่ก็ต้องใช้เวลาสักพัก
“แกไม่เป็นไรเลยงั้นหรือ?” ชายผมเขียวรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
เขาเคยทดสอบความสามารถนี้มาก่อน ขนของหนูกระสุนสามารถเจาะทะลวงแผ่นไม้หนาอย่างน้อย 1เซ็นติเมตร
เป็นไปไม่ได้ที่ผิวของชายแก่จะแข็งแกร่งกว่าแผ่นไม้ได้ยัง นอกเสียจากเขาจะสวมชุดเกราะกันกระสุนเอาไว้
แต่ใครจะสวมชุดเกราะในเวลานอน?
“เอาล่ะ หลังจากพวกนายไปถึงนรกแล้วก็อย่าบอกใครนะว่า พวกแกนั้นถูกฉันฆ่า ตกลงไหม?” ลุงหลิวโบกมือ
ทันทีที่เขากล่าวจบ กิ้งก่าบนผนังก็พุ่งลงมาราวกับมังกรที่กำลังออกล่าเหยื่อ
…..
ในช่วงหัวค่ำ เกาเผิงแอบใส่ลูกสนเข็มเข้าไปในตู้เย็นโดยที่ดัมมี่ไม่รู้ตัว
เมื่อดัมมี่เดินเปิดตู้เย็นอีกครั้งและเห็นลูกสนเข็มวางอยู่ในตู้อย่างเป็นระเบียบ ช่วยไม่ได้ที่มันจะรู้สึกตื่นเต้น มันคิดว่าตู้เย็นมันผลิตอาหารได้!
มันรีบคว้าลูกสนเข็มเข้าปากและกินอย่างมีความสุข ก่อนจะคายเศษซากลงไปในถังขยะ
เกาเผิงลอบสังเกตพฤติกรรมของมันและหัวเราะออกมาด้วยความขบขัน
…..
บ่ายของวันถัดมา ในชั่วโมงเรียนการฝึกสอนสัตว์อสูร ผู้ฝึกสอนจางชี้ไปที่สิ่งเล็กที่ในกรง
“นี่คือสัตว์อสูรที่พวกคุณจะต้องท้าทายในวันนี้”
[ชื่อสัตว์อสูร] หมีน้ำกลายพันธุ์
[เลเวล] 12 (ชนชั้นขุนนาง)
[ระดับ] ปกติ
[สถานะ] สุขภาพดี (เกียจคร้าน)
[ลักษณะเฉพาะ] ภาวะจำศีล<Cryptobiosis> (หลังจากเข้าภาวะจำศีล การเผาผลาญพลังงานของหมีน้ำกลายพันธุ์ จะค่อยๆช้าลงและมันจะขดตัว ขณะเดียวกันการต้านทานจะเพิ่มสูงขึ้น)
[จุดอ่อน] 1.ไฟ 2.การสูญเสียน้ำอย่างฉับพลัน
หมีน้ำกลายพันธุ์มีร่างกายสีเทาที่ไม่มีขนและไม่มีดวงตา บนใบหน้า ของมันมีเพียงปากเท่าน้น มันมีร่างกายที่แปลกประหลาดมาก
มันกำลังนอนอยู่นกรงอย่างเงียบๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่เกาเผิงได้เห็นสัตว์อสูรที่ [ลักษณะเฉพาะ] ดูเหมือนจะไม่ใช่ทุกตัวจะมีคุณสมบัติพิเศษนี้
สิ่งมีชีวิตชนิดนี้ เขาเคยได้ยินเพียงเรื่องราวของมันเท่านั้น พวกมันเป็นสัตว์อสูรที่มีพลังชีวิตสูงมากและมีรูปแบบชีวิตที่ยืดหยุ่นที่สุดในโลก มันสามารถอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมได้ทุกชนิดและการกลายพันธุ์ก็ยิ่งทำให้พลังชีวิตเพิ่มสูงขึ้นอีก
ด้วยการต้านทานที่แข็งแกร่งและยังมี [ลักษณะเฉพาะ] อีก ก็ทำให้เกาเผิงรู้สึกสนใจมากอยากจะได้มันมาเป็นพรรคพวก
ในการฝึกฝนให้สัตว์อสูรหลายตัวผลัดกันเข้าไปโจมตีหมีน้ำกลายพันธุ์แต่ไม่มีใครสร้างความเสียหายได้ แม้กระทั่งพิษของต้าซื่อก็ยังไม่สามารถทะลวงผ่านการป้องกันของมันได้
เกาเผิงได้ลองขอทำพัรธะสัญญากับมันแต่เขาก็ถูกปฏิเสธนั่นทำให้เกาเผิงรู้สึกพูดไม่ออก
เกาเผิงได้ลองคิดคร่าวๆเกี่ยวกับสัตว์อสูรตัวที่ 3ของเขา ว่าจะเอาเป็นแบบไหนดี เป็นตัวที่โจมตีไกล หรือพลังป้องกันสูง หรือพวกที่บินได้ แต่ถ้าหากเจอตัวที่มีพลังในการรักษาได้ก็ไม่เลวเหมือนกัน
ในวันถัดๆมา ผู้ฝึกสอนจางก็ในนักเรียนได้ท้าทายพวกสัตว์อสูรชนิดต่างๆ แต่เหมือนกันก็คือพวกมันต้านทานพิษสูง
เกาเผิงไม่รู้จะพูดยังดี เหมือนพวกเขากำลังฝึกฝนต้าซื่ออยู่เลย
การฝึกในกรงจะเริ่มทุกๆตอนบ่าย มันย่อมดีกว่าจากฝึกด้วยตนเอง การฝึกค่อนข้างปลอดภัยดี หากมีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นผู้ฝึกสอนจางจะส่งหมาป่าจันทราสีเงินไปห้ามทันที พวกเขาเฝ้าระวังตลอดเวลา
หลังจากจบการฝึกฝนประจำวันของต้าซื่อ เกาเผิงได้ยินเสียงคำรามของสัตว์อสูรบางตัวทำให้เขาต้องหันหน้าไปมองทางต้นเสียง เขาพบว่าเสียงดังขึ้นต้นเหตุมาจากเม็ดบัว
“ปัง ปัง ปัง”
กรงดูเหมือนจะโยกโยกทุกครั้งที่โดนโจมตี
ผู้คนมารวมตัวกันอยู่ด้านข้างกรงขัง
ที่พวกเขาได้เห็นก็คือร่างของหมาในโลหิตที่ติดค้างอยู่บนหน่อของเม็ดบัว เนื้อ อวัยวะภายใน และเลือดของหมาในโลหิตทะลักไหลออกมาจากบาดแผล
ขณะที่เม็ดบัว คำรามเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ มันสะบัดศีรษะอย่างรุนแรงหมาในโลหิตถูกส่งขึ้นนสู่อากาศ จากนั้นเม็ดบัวยกกีบเท้าหน้าขึ้นและกระทืบร่างของหมาในโลหิตที่ตกลงมา
*บึม*
หมาในโลหิตกลายเป็นซากที่ติดอยู่บนพื้น
ในลานฝึกทุกคนไม่กล้าส่งเสียงใดออกมาเลย ได้ยินแต่เสียงหายใจที่หนักหน่วงของเม็ดบัวที่เหมือนเครื่องจักรพลังสูง