MPE บทที่ 46 ขออนุญาตดื่มน้ำหน่อยนะครับ
เกาเผิงกลับบ้านมาทำอาหารเย็น หลังทำอาหารเสร็จ เขาก็ได้รับสายโทรศัพท์จากสมาคมนักล่า
“คุณลูกค้าที่รัก ภารกิจของคุณที่มอบให้กับสมาคมนักล่า นักล่าหมายเลข 001348721 ได้ปฏิบัติภารกิจสำเร็จแล้วโปรดตรวจสอบอีกครั้งก่อนทำการยอมรับ”
ในที่สุดก็มีนักล่าทำภารกิจของเขาสำเร็จ เกาเผิงรู้สึกโล่งใจ หากภารกิจยังไม่สำเร็จ เขาอาจต้องเปลี่ยนวิธีวิวัฒนาการสัตว์อสูรของเขา
รางวัลสำหรับภารกิจคือเครดิตพันธมิตรที่ต้องวางไว้ก้บสมาคมล่วงหน้า เมื่อภารกิจสำเร็จและลูกค้าได้รับสิ่งที่ต้องการ สมาคมนักล่าจึงจะมอบค่าคอมมิชชั่นให้กับผู้รับภารกิจ
ก่อนจะออกจากบ้าน เกาเผิงเห็นดัมมี่เปิดประตูตู้เย็นอย่างงุ่มง่ามแต่ก็ไม่มีอะไรอยู่ภายในนั้น และมันก็ปิดตู้เย็น รอสักครู่และเปิดอีกครั้ง… มันทำอย่างนี้ซ้ำไปซ้ำมา
เกาเผิงรู้สึกขมขื่นมันคิดว่าอาหารจะปรากฎออกมาหากมันเปิดตู้เย็นอย่างงั้นเหรอ?
เกาเผิงมุ่งหน้าไปยังสมาคมนักล่าเพื่อรับสิ่งที่เขาต้องการ
เมื่อมาถึงสมาคมนักล่าเกาเผิงไม่ได้สังเกตเลยที่ฝั่งตรงข้ามของสมาคมนักล่ามีชาย 3คน ยืนมองทุกคนที่เข้าออกสมาคมนักล่าอยู่นอกจากนี้ยังมีดัชชุนสีทองอยู่กับพวกเขา
ชายที่อายุน้อยที่สุดเปิดปากถาม “พี่ใหญ่ เราจะถูกจับไหม?”
ดวงตาของชายที่ถูกเรียกว่า ‘พี่ใหญ่' ส่องประกายอย่างน่าขนลุก
“โรคที่หายากของพ่อสามารถรักษาให้หายได้หายได้ด้วยปลิงดูดเลือดเท่านั้นซึ่งมันแพงมาก ถ้าเรารับภารกิจก็ไม่รู้ว่ามันจะเสร็จตอนไหน ฉะนั้นทางที่ดีเราจึงต้องปล้นทรัพย์ นายไม่ต้องการให้พ่อหายป่วยรึไง?”
เด็กหนุ่มผมเขียวอีกคนกล่าว “ไม่ต้องกังวลไปปลาใหญ่กินปลาเล็กตราบใดที่เราระมัดระวังและไม่ทิ้งหลักฐานใดๆ เราจะไม่เป็นไร”
“แน่นอนว่า ฉันต้องการให้พ่อหายป่วยแต่ในช่วงนี้คนทั่วไปไม่สามารถหาซื้อลูกสนเข็มได้ แล้วถ้าเกิดว่าเจอตอขึ้นมาล่ะจะทำยังไง” ชายที่อายุน้อยที่สุดถามด้วยความกังวล
“เจ้าโง่ เราตรวจสอบมาแล้ว เราแค่เอาเงินของเขามาก็พอ เราจะไม่ทำร้ายเขา แค่นี้ก็ไม่มีปัญหาแล้ว” เด็กหนุ่มมองพี่ใหญ่ด้วยความกังวล
ทันใดนั้นดัชชุนสีทองที่นั่งนิ่งๆกลับลุกขึ้นอย่างงกะทันหัน
พวกเขาสั่งให้ตามกลิ่นไปอย่างเงียบๆ แน่นอนว่าทั้งสามสะกดรอยตามเกาเผิง
พวกเขาตามมาถึงอาคารเกาๆแห่งหนึ่งและรู้สึกตกตะลึงมันไม่ได้ดีไปกว่า ที่อยู่ของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย!
คนที่อาศัยอยู่ที่นี่มีปัญญาซื้อสูนสนเข็มได้อย่างงั้นเหรอ? ไม่อยากจะเชื่อ ลูกสนเข็มเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงต่อสัตว์อสูรบางชนิด ดังนั้นคนที่สามารถซื้อมันได้ต้องเป็นคนมีตังค์เท่านี่น
“พี่ใหญ่…” เด็กหนุ่มผมเขียวเรียกพี่ชายคนโตของเขา เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการถามว่า ‘จะทำอย่างไรต่อไป’
พี่ใหญ่พิจารณาอยู่ชั่วครู่ก่อนจะโบกมือ “รอก่อนให้ถึงเที่ยงคืนแล้วค่อยเริ่มแผนกัน”
“พวกเราจะทำจริงๆหรือ?” น้องเล็กที่ขี้หลาดรู้สึกประหม่ำ
“แน่นอน พี่ว่าเด็กคนนี้อาจถูกลอตเตอรี่ก็ได้” พี่ใหญ่กล่าว
“ไม่เป็นไร เรามาถึงที่นี่แล้วอย่าทำให้ฉันต้องผิดหวัง” ชายผมเขียวตบไหล่น้องชาย
ในเวลาเที่ยงคืน ทั้งสามค่อยๆเดินขึ้นบันไดอย่างเงียบๆ พี่ชายคนโตใช้ลวดสองเส้นไขประตู
ในห้องต้าซื่อถูกปลุกให้ตื่น ส่วนดัมมี่ที่ยืนอยู่ในห้องนอน เปลวไฟสีฟ้าของได้ลุกโชนอย่างรุนแรง
*คลิก…* เสียงปลดล็อคประตูดังขึ้น
“พี่ใหญ่ทำได้ดีมาก ไม่แปลกใจเลยที่พี่ถูกเรียกว่า ราชาแห่งการปลดล็อคของเขตปาเฉียว” ชำยผมเขียวสรรเสริญ
แต่ใบหน้าของพี่ใหญ่กลับแข็งค้างพร้อมกับเหงื่อที่ไหลลงมาจากหน้าผาก
“ไม่ ฉันยังสะเดาะประตูยังไม่เสร็จเลย” แล้วเสียงมาจากไหน?
“นี่ก็ดึกแล้ว พวกเธอมาทำอะไรกันที่นี่?” ลุงหลิวในชุดนอนส่งเสียงมาจากด้านหลังของประตู
น้องชายคนเล็กตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์ ส่วนชายผมเขียวรีบจับมีดที่ซ่อนอยู่ในเสื้อ ขณะที่พี่ใหญ่ตอบกลับไปด้วยความอับอาย
“ขอโทษที่ มารบกวนนะครับ พอดีเราพึ่งรู้ว่า เรามาผิดอพาร์ตเมนต์”
“อืม เข้าใจแล้ว พวกนายมาผิดที่” ลุงหลิวพยักหน้ำและกำลังจะปิดประตู
แต่ทันใดนั้น มือข้างหนึ่งกลับหยุด บานประตูเอาไว้ พี่ใหญ่กล่าวเสียงต่ำ “พอดีพวกผมหิวน้ำมาก เป็นไปได้ไหมที่พวกเราจะขอน้ำดื่มสักหน่อย?”
“แน่นอน เข้ามสิ” ลุงหลิวมองคนทั้งสามอย่างลึกซึ้งก่อนจะเชิญพวกเขาเข้ามาในห้องของพร้อมกับเจ้าดัชชุน
ชายผมเขียวเดินเข้าไปเป็นคนสุดท้ายและล็อคประตูห้อง
“เด็กน้อย ทำไมต้องล็อคประตูด้วย?” ลุงหลิวถาม
“ฮ่าฮ่าฮ่า” ชายผมเขียวหัวเราะ “พอดีเราไม่ต้องการรบกวนเพื่อนบ้านคนอื่นๆน่ะครับ”
“ไม่เป็นไรผนังห้องของฉันเป็นผนังเก็บเสียงน่ะ ถึงฉันจะเปิดดิสโก้เต้นรำเพื่อนบ้านก็ไม่ได้ยินเลย” ลุงหลิวเผยรอยยิ้มอย่างมีความนัย
“โอ้ จริงหรือ?” ใบหน้าของชายผมเขียวเปลี่ยนเป็นดุร้าย “นั่น เยี่ยมมาก”
แต่พี่ชายคนโตกลับ รู้สึกถึงบางสิ่งที่ผิดปกติ เขากำลังจะพูดอย่าง แต่มันก็สายไปแล้ว
ลิ้นโปร่งแสงยื่นออกมาตวัดไปที่ชุนสีทองในทันที!