ตอนที่แล้วMPE บทที่ 43 ยืนยันทางเลือก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMPE บทที่ 45 นายทำไม่ได้หรอก อย่ามาโกหกหน่อยเลย!

MPE บทที่ 44 การฝึกในกรง


“เอาล่ะ เมื่อพวกเธอเลือกแล้วก็ต้องรับผิดชอบต่อการตัดสินใจตนเองและดูแลสัตว์อสูรของตัวเองให้ดี”

ผู้ฝึกสอนจางเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับการฝึกสัตว์อสูรของเขาก่อนจะนำหุ่นไม้แกะสลักออกมาหลายชิ้น

“วันนี้ ฉันจะแสดงวิธีฝึกการเพิ่มพลัง”

“สัตว์อสูรที่แตกต่างกันย่อมมีวิธีการโจมตีที่แตกต่างกัน แต่โดยทั่วไปแล้วพวกมันมีพื้นฐานอย่างเดียวกันคือการใช้ฟัน ขาและ

หางในการโจมตี แต่สำหรับพวกเรา ผู้ฝึกสัตว์อสูรย่อมใช้วิธีที่แตกต่างกัน”

หลังจากกล่าวจบ ผู้ฝึกสอนจางพลันสะบัดมือออกไปด้วยความเร็วสูง ฟันฉับไปที่หุ่นไม้ราวกับมีด

*ฉับ*

หุ่นไม้แกะสลักถูกแยกออกเป็นสองส่วน

นักเรียนทุกคนตกใจ

ผู้ฝึกสอนจางดึงมือกลับ “นั่นเป็นตัวอย่าง ฉันใช้มือเปล่าโจมตีที่มุมด้านขวาของฝ่ายตรงข้ามอย่างกะทันหัน นั่นเป็นวิธีการโจมตีของฉัน”

“อาจารย์ หมายความว่าคุณโจมตีฝ่ายตรงข้ามขณะที่พวกเขาไม่ทันระวังตัวงั้นหรือ?” ตันเฉียนจินเปิดปากถามโดยไม่ยั้งคิด

ผู้ฝึกสอนจางขมวดคิ้วตอบ “ถูกต้อง เมื่อศัตรูสูญเสียสมาธิ จงฉวยโอกาสนั้นโจมตีโดยไม่ต้องแจ้งเตือน ไม่ว่าอย่างไรมันก็คือสงคราม”

อาจารย์ทหารเปิดวีดีทัศน์แสดงภาพและวิธีการฝึกฝนรูปแบบต่างๆให้นักเรียนดู ปัญหาเดียวก็คือเขาถ่ายทอดความรู้จำนวนมากในครั้งเดียวทำให้นักเรียนเริ่มรู้สึกมึนงง

เกาเผิงเรียนรู้สิ่งต่างๆอย่างตั้งใจ มีหลายสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นในตำราเล่มไหน มันทำให้เขาตระหนักถึงปัญหาของตนเองในปัจจุบันและวิธีแก้ไขอีกด้วย นั่นทําให้เกาเผิงรู้สึกมีความสุขมาก

หลังจากการอภิปรายจบ

มู่ไท่ยิงเดินเข้ามาหาเกาเผิง เม็ดบัวติดตามอยู่ด้านหลังมู่ไท่ยิง แต่ดูเหมือนมันจะไม่ขี้กลัวเหมือนก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตามมันยังมองผู้คนด้วยความเขินอายเล็กน้อย

“เฮ้ นี่สําหรับนาย” มู่ไท่ยิงกล่าวและส่งสมุดเล่มหนาให้เกาเผิง ส่วนเกาเผิงก็ส่งสมุดโน้ตสีฟ้าให้

ทั้งสองแลกเปลี่ยนสมุดบันทึกให้กัน เกาเผิงที่เรียนคลาสสายโจมตี ส่วนมู่ไท่ยิงเรียนคลาสสายป้องกัน ในสมุดที่เขาได้มีเนื้อหาในคลาสนั้น

เกาเผิงรู้สึกพอใจมากที่ได้รับสมุดบันทึกเล่มนี้ “ขอบคุณมาก”

“ไม่เป็นไร เราอยู่ทีมเดียวกันก็ต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน” มู่ไท่ยิงกล่าว เธอโบกสมุดโน้ตสีฟ้าในมือของเธอ

ในช่วงบ่ายมันเป็นเวลาฝึกฝน

กรงขังสัตว์อสูรจำนวนมากถูกนำลงมาจากรถบรรทุก มีกรงขังสัตว์อสูรจำนวน 200 กรงอยู่ในสนามขณะที่สัตว์อสูรที่ถูกกักขังอยู่ภายใน ส่งคำรามเสียงต่ำและจ้องมองผู้คนที่

อยู่ด้านนอก

“สัตว์อสูรเหล่านี้เป็นคู่ต่อสู้ของพวกเรางั้นหรือ?” นักเรียนบางคนสงสัย

ชายอ้วนที่ยืนอยู่ไม่ไกลกล่าวด้วยความมั่นใจ “พุดเดิ้ลของฉันแข็งแกร่งที่สุด มันสามารถโจมตีสัตว์อสูรเหล่านี้ได้อย่างไม่มีปัญหา”

“พุดเดิ้ลของนายดูแข็งแกร่ง แต่เมื่อมันอยู่ในสนามรบ มันกลับหดหัวด้วยความหวาดกลัว ราชาแมงป่องหางเหลืองของฉันสิเยี่ยมที่สุด” อีกคนกล่าว

“ไร้สาระ! มันก็แค่แมงป่องหางเหลืองทั่วไป นายตั้งชื่อให้มันว่าราชาด้วยตัวเองไม่ใช่หรือ?” ชายอ้วนเย้ยหยัน

“ฉันไม่ได้ตั้งชื่อให้มัน แต่เมื่อมันวิวัฒนาการ มันจะกลายเป็นราชาแมงป่องอย่างแน่นอน”

เมื่อเห็นสัตว์อสูรที่อยู่ในกรง เด็กนักเรียนต่างรู้สึกตื่นเต้น

“เราจะแบ่งกลุ่ม 5คน เราจะฝึกภาคปฏิบัติกันในไม่ช้า” ผู้ฝึกสอนจางกล่าว

เด็กนักเรียนแบ่งกลุ่มกันอย่างรวดเร็ว

“ขออาสาสมัครหนึ่งคน” ผู้ฝึกสอนจางกล่าว

เมื่อถึงเวลาต่อสู้จริง กลุ่มนักเรียนกลับไม่กล้าเหมือนอย่างเมื่อกี้

“ฉันหวังว่าพวกนายจะคว่าโอกาสในการต่อสู้ครั้งแรกไว้นะ เพราะหลังจากการต่อสู้ครั้งแรกผ่านไป สัตว์อสูรจะไม่อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด หลังจากสู้หลายครั้ง สัตว์อสูรที่อยู่ในกรงจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ดังนั้นพวกนายควรคว้าโอกาสนี้ไว้”

แม้ผู้ฝึกสอนจางจะกล่าวเช่นนี้ แต่เมื่อเด็กนักเรียนเห็นหมีตัวโตที่พุ่งชนกรงอย่างต่อเนื่อง พวกเขากลับไม่มีความกล้าที่จะก้าวออกมา

“อาจารย์ครับ เราเปลี่ยนสัตว์อสูรได้ไหมครับ?” นักเรียนชี้นิ้วไปทางสุนัขที่อยู่อีกกรงหนึ่ง

แม้หมีจะดูตัวใหญ่แต่ก็เทียบกับสุนัขที่อยู่อีกกรงไม่ได้เลย

[ชื่อสัตว์อสูร] หมีขนเหล็ก

[เลเวล] 9 (ชนชั้นสามัญ)

[ระดับ] ปกติ

[สถานะ] ได้รับบาดเจ็บ (หงุดหงิด)

[ชื่อสัตว์อสูร] หมาในโลหิต

[เลเวล] 10 (ชนชั้นสามัญ)

[ระดับ] สูง

[สถานะ] ได้รับบาดเจ็บปานกลาง (ตื่นตัว)

ใครจะคิดว่าหมาในโลหิตเป็นสัตว์อสูรระดับสูง ขณะที่หมีขนเหล็กอยู่แค่ระดับปกติ

นอกจากนี้มันยังได้รับบาดเจ็บมากกว่าอีกด้วย ถึงมันจะบาดเจ็บแต่ก็อย่าได้ดูเบามันเด็ดขาดเพราะเราไม่รู้ว่ามันจะทำอะไรได้บ้าง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด