Chapter 159 – Great Plains of Barrastan (10) [02-05-2020]
Chapter 159 – Great Plains of Barrastan (10)
”
เมื่อซังจินได้ตะโกนออกมา เบสโกโร่ก็เริ่มใช้งานคลั่งในทันที ในเวลาเดียวกันเสียงของยอนฮัวเรทก็ดังออกมา
'ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!'
เลือดของซังจินได้เดือดขึ้นอย่างที่ไม่สามารถควบคุมได้ในขณะที่เขาได้เหวี่ยงดาบใส่มังกรด้วยความเร็ซแสง แต่ว่ามังกรก็ยังคงสามารถที่จะหลบเลี่ยงทักษะที่น่ากลับนี้ได้ซึ่งมันเกิดจากประสบการณ์และสัญชาตญาณของเขา อย่างไรก็ตามแม้อย่างนั้นมันก็ยังไม่พอ
'ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!!!!'
ซังจินได้เริ่มที่จะคลั่งมากขึ้นด้วยเสียงตะโกนของยอนฮัวเรท ดาบที่เขาถือได้เร็วยิ่งขึ้นและมันได้เฉือดโดนแขนและขาของมังกร ในตอนที่เขาได้ทำแบบนั้น เขาก็ได้ทำให้พลังทักษะคลั่งของเบสโกโร่ทำให้ดาบของเขาได้เร็วยิ่งขึ้นไปอีก
มันเป็นการรวมตัวกันของการใช้ทักษะหลายๆอย่างเพื่อล้มศัตรู ในระหว่างนี้มังกรก็ได้พยายามฝืนทนต่อความเจ็บปวดและร่ายเวทย์ แต่ว่าใบมีดที่บ้าคลั่งของซังจินไม่ยอมให้โอกาสเขาได้ทำ
*****
เมื่อสติของซังจินได้กลับมาเขาก็ได้ยินเสียงเตือนจากโอเปอเรเตอร์
[อันตราย พลังชีวิตต่ำกว่า 10%]
ซังจินได้สูดหายใจในขณะที่ถอดยอนฮัวเรทออกจากคอ
"ฮ่าห์....ฮ่าห์...."
เมื่อเขาได้หันไปมองรอบๆ เขาก็ได้เห็นซากศพที่ไม่สามารถจะระบุตัวตนได้
'มันไม่น่าเชื่อเลยเค!'
เบสโกโร่ได้แสดงความยินดีอออกมาและตามมาด้วยคำชมของมูนสเปค
'นายท่านทำได้ยอดมาก'
อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นแบบนั้นซังจินก็ไม่สามารถที่จะผ่อนคลายได้
"ฮู...ฮู..."
ในขณะที่ซังจินหอบหายใจ เขาก็มองไปที่ซากเนื้อสับครู่หนึ่ง และจากนั้นในที่สุดเขาก็ผ่อนคลายลง
"ฮ่าห์....."
เขาได้ใช้ทักษะใช้งานทั้งหมด พลังชีวิต มานา และแรงทั้งหมดที่เขามี เขาได้ใช้ทุกๆอย่างไปอย่างแท้จริง ถ้าหากว่ามังกรลุกขึ้นมาอีกครั้งในตอนนี้ ซังจินก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้แล้ว
"ฟู่..."
ซังจินได้ถอนหายใจออกมาในขณะที่ทรุดตัวลงไป เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา เขาได้พยายามอย่างดีที่สุดในการที่ทำในสิ่งที่เขาคิดว่ามันแทบจะเป็นไปไม่ได้ให้เป็นจริง
"ฉันทำได้"
ซังจินได้จับมือเข้าด้วยกันแน่น อย่างไรก็ตามในเวลานั้นเองก็ได้มีแสงสว่างส่องมาที่ด้านหน้าของเขา มันเป็นแสงสีน้ำเงินเข้าจนเกือบจะเป็นน้ำทะเล
"วิ้งงงงงงงง"
ซังจินได้ตกใจเมื่อมองไปที่แสงนั้น เมื่อเขามองมันดีๆเขาก็พบว่าแสงนั้นมันปรากฏขึ้นมาจากซากศพที่เขาได้หั่นมัน
แสงมันได้สว่างมากขึ้นเรื่อยๆและดูเหมือนมันจะกลายเป็นทรงกลม ซังจินได้หันหน้าไปมองที่ลูกบาศก์โอเปอเรเตอร์ซึ่งในก่อนหน้าหลังจากที่ได้เตือนถึงพลังชีวิตมันก็ได้เงียบไป มันไม่ได้ประกาศตามปกติที่ควรเป็น
'บอสลับเคลียร์'
"ไม่มีทาง...."
เมื่อซังจินรู้ตัว ในที่สุดแสงทรงกลมมันก็ได้ค่อยๆเปลื่ยนเป็นใหญ่ขึ้น แสงทรงกลมมันได้เปลื่ยนไปเป็นรูปร่างอย่างช้ๆ มังกรขนาดใหญ่ได้ปรากฏตัวขึ้นมา แม้แต่เบสโกโร่ที่มีจิตวิญญาณที่สูงอยู่เสมอก็ยังหมดคำพูดไป
'โอ้ พระเจ้า...'
มูนสเปคที่พูดแต่ในทางบวกเสมอก็ไม่สามารถจะซ่อนความคิดของเธอได้
'มีสิ่งนี้ในโลกได้ยังไง...'
แน่นอนว่าคนที่ประหลาดใจที่สุดก็คือซังจิน เขาได้ใช้ทุกอย่างออกและได้รับชัยชนะ ไม่สิ เขาได้คิดว่าเขาได้รับชัยชนะ แต่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่ใช่เลย ซังจินต้องการจะปฏิเสธสิ่งที่เกิดขึ้นนี้
อย่างไรก็ตามครู่หนึ่งมังกรขนาดใหญ่โตที่มีเกล็ดสีน้ำเงินก็ได้ปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าซังจิน แม้แต่ขนาดโดยประมาณของมันก็ใหญ่กว่าคาลกัลป์อย่างน้อยสองเท่า ซังจินได้มองขึ้นไปที่มังกรจากนั้นเขาก็ได้ใช้มูนสเปคพยุงตัวเองและพูดขึ้น
"ขอบคุณนะเบสโกโร่ มูนสเปค"
ทังคู่ไม่มีคำพูดอะไรที่จะตอบกลับคำของซังจิน มันดูเหมือนว่าแม้แต่ทั้งคู่ก็ได้ตระหนักแล้วว่าในตอนนี้มันไม่มีโอกาสที่จะชนะ ดวงตาใหญ่ของมังกรได้กระพิบขึ้นและมองลงมาที่ซังจิน ซังจินได้พึมพัมขึ้นกับตัวเอง
"ถ้างั้นนี่ก็เป็นการต่อสู้สุดท้าย"
เขาได้พูดเรื่องนี้กับวิญญาณทั้งสองและตัวเองเช่นกัน ซังจินได้ถือดาบคู่ขึ้น แม้ว่าถ้าเขาจะต้องตาย เขาก็จะต่อสู้ไปจนถึงที่สุด อย่างในก็ตามในขณะนั้นมังกรก็พูดขึ้น
"แปลงร่าง"
ในไม่ช้าร่างขนาดมหึมาก็ได้เริ่มส่องแสงออกมา ซังจินได้มองไปที่แสงดังกล่างในขณะที่ถือดาบเอาไว้ ในช่วงเวลานั้นเองเสียงของโอเปอเรเตอร์ก็ดังขึ้นมา
[ขอแสดงความยินดีด้วย! บอสลับนักวิจัยเวทย์อาเซอร์อาซได้ถูกเคลียร์]
ซังจินได้มองตรงไปที่ลูกบาศก์อย่างมึนงง จากนั้นเขาก็มองกลับไปทางแสง แสงมันได้รวมตัวกันและได้กลับมาเป็นรูปร่างของมนุษย์มันได้กลับไปยังรูปแบบก่อนที่พวกเขาจะเริ่มต่อสู้กับ เขาได้หยิบคทาที่ตกอยู่บนพื้นและพูดออกมา
"ย้อนกลับ"
ครู่หนึ่งคทาก็หายไป จากนั้นมังกรก็เดินตรงมาหาซังจิน แม้ว่าซังจินจะได้ยินเสียงแจ้งเตือนชัดเจนแล้ว แต่เขาก็ยังคงรู้สึกกังวลในขณะที่มองไปที่มังกร จู่ๆนั้นเองมังกรก็ปรบมือขึ้น
"แปะ แปะ แปะ"
เสียงปรบมือของเขได้ดังกระจายไปทั่วพื้นที่ราบแห่งนี้ ซังจินได้มองขึ้นและลงไปที่มังกร เบสโกโร่ก็ได้พึมพัมขึ้น
'เขาจะไม่โจมตีต่อแล้วหรอ?'
ในเวลาเดียวกันมังกรก็พูดขึ้น
"น่าทึ่ง น่าประทับใจมากจริงๆ นายเป็นมนุษย์คนแรกที่บังคับให้ฉันยกเลิกการแปลงกายของฉัน นายชื่ออะไรกัน?"
มังกรได้ยื่นมือออกมาทางซังจิน ซังจินได้ตั้งท่าราวกับว่าเขากำลังจะตัดมือของมังกรในทันที จากนั้นมังกรก็พูดขึ้น
"อ่า....การต่อสู้มันได้จบไปแล้วมนุษย์ ฉันไม่ได้มีความตั้งใจที่จะต่อสู้กับนายอีกต่อไป"
อย่างไรก็ตามซังจินก็ไม่ได้ลดการป้องกันลงไป มังกรได้มองไปที่มือของตัวเองและจากนั้นเขาก็ดึงมือกลับมาในขณะที่พูดขึ้น
"แต่...มันดูเหมือนว่านายก็ยังไม่มีความตั้งใจที่จะจับมือกับฉัน"
ซังจินไม่ได้พูดอะไรอีก เสียงที่ออกมาจากลูกบาศก์มันชัดเจนแต่ว่าเขาไม่สามารถขยับเข้าไปหาฝ่ายตรงข้ามที่เขาพยายามจะฆ่าในไม่กี่นาทีที่ผ่านมา พวกเขาทั้งคู่ไม่ได้ทำสัญญากันเหมือนในตอนอาเรี่ยน มังกรก็ยังคงพูดต่อไปใส่หน้าซังจิน
"มันไม่น่าเชื่อเลย ทั้งเทคนิคดาบที่พิเศษและการยืมพลังจากสมบัติในตำนาน...มันน่าประทับใจจริงๆ แต่ว่า...เหลือสิ่งอื่นใด ...ความดื้อรั้นของนายมันเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง สายตาของนายที่มองเข้ามาที่ฉันมันยังคงเป็นแบบเดิม ถ้าหากเป็นมนุษย์ธรรมดาพวกเขาก็คงจะตกอยู่ในความสิ้นหวังไปแล้ว...นายคิดแต่จะต่อสู้กับฉันอยู่ตลอดเวลา ในตอนแรกฉันก็สงสัยนะว่าทำไมอาเรี่ยนถึงให้สิ่งนั้นกับนาย...แต่ว่ามันดูเหมือนว่าฉันจะรู้เหตุผลแล้วเช่นกัน"
ซังจินไม่ได้รู้สึกมีความสุขเลยแม้ว่าจะได้รับคำชมจากมังกร ในขณะที่ซังจินจ้องมองไปที่เขา ทันใดนั้นมังกรก็ถามออกมา
"ด้วยแบบนี้...นายใช้ย้อนเวลาได้ยังไง?"
ซังจินได้ตกใจกับคำถามของมังกร การย้อนเวลานั้นจะเห็นแค่เฉพาะผู้ใช้เท่านั้น ด้วยเหตุนี้คนอื่นๆจะไม่สามารถจำอะไรได้เลย อย่างไรก็ตามมังกรได้รู้ว่าซังจินได้ใช้เวทย์ย้อนเวลา ในตอนนี้มังกรกรก็ได้พูดขึ้นราวกับว่าเขาได้อ่านใจของซังจิน
"นายไม่ต้องแปลกใจไปหรอกเพราะว่าฉันนั่นได้เกิดมาด้วยเกล็ดสีน้ำเงิน นอกจากนี้สำหรับเวลาที่ผ่านไปเป็นพันปีฉันก็ได้ศึกษาเกี่ยวกับเวทย์ในมิติของฉัน"
มังกรไม่ได้อธิบายในรายละเอียดอะไร แต่ว่ามันก็พอที่จะเข้าใจได้เล็กน้อย อ้างอิงจากที่ซาดาเมียร์บอกเวทมนตร์ดังเดิมนั้นเป็นของมังกร
สีน้ำเงิน แดง เขียว ขาว ดำ เขาได้บอกว่าสีทั้งห้านั้นเดิมทีมันมาจากสีเกล็ดของมังกร ถ้าหากมังกรที่เป็นมังกรน้ำเงินแล้วมันก็เป็นเรื่องปกติที่เขาจะต้องรู้บางส่วยของเวทย์น้ำเงินที่ยิ่งใหญ่ย้อนเวลา นอกจากนี้โอเปอเรเตอร์ยังได้บอกว่ามังกรตนนี้เป็นนักวิจัยเวทย์อีกด้วย
"ถ้าตามที่ฉันคาดันเป็นเพราะแหวนใช่มั๊ย? แหวนที่อาเรี่ยนให้กับนายสินะ?"
ซังจินไม่ได้พูดอะไร แต่ว่ามังกรก็สามารถจะถามและได้รับคำตอบของคำถามตัวเองได้อย่างง่ายดาย
"อย่างที่คาดไว้เลย แหวนนั่นไม่ได้เพียงแค่เพิ่มพลังเวทย์ของนายอย่างง่ายๆ ผลของมันคืออะไร?"
ซังจินได้กระพริบตางุนงงในขณะที่ยืนอยู่ตรงนั้น เวลานี้ก็เช่นกันมังกรไม่ได้ถามอีก เขาได้ยื่นมือออกไปจากซังจินอย่างง่ายๆและพึมพัมบางอย่าง เป็นที่ครั้งที่ซังจินรู้สึกเซ ไม่สิเขาไม่ได้เซแต่มันถูกทำให้มันรู้สึกเหมือนกับว่าเขาเซ
โอ้ๆ...อย่างนี้นี่เอง"
ซังจินเคยรู้สึกแบบนี้มาก่อน มันดูเหมือนว่ามังกรจะใช้มือในการอ่านความทรงจำของซังจิน
"ฉันเข้าใจแล้ว น่าเหลือเชื่อเลยมันเป็นไอเทมของจอมเวทย์อนาทอลนี่เอง...มันคือไอเทม...ที่นาอิจฉาจริงๆเลย..."
ดวงตาของมังกรได้ส่องสว่างขึ้นหลังจากที่มองไปที่แหวนที่ซังจินใส่อยู่ แม้ว่าด้วยรูปลักษณะที่หล่อเหลาของเขาในขณะนี้ก็ได้เปลื่ยนไปเป็นความโลภและชิงชัง
เมื่อได้เห็นแบบนี้ซังจินซึ่งได้คลายกังวลไปแล้วก็กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง แม้ว่าในความเป็นจริงเขาจะไม่มีโอกาสชนะถ้าพวกเขาสู้กันจริงๆ แต่เขาก็จะไม่งอมืองอเท้าไม่ทำอะไรเลย อย่างไรก็ตามมังกรก็ได้รีบมองออกไปจากแหวน
"อย่างไรก็ตามอย่างที่สัญญาในก่อหน้านี้ ฉันจะปล่อยให้แหวนนั่นมันเปล่งประกายในมือของนายต่อไป อย่างที่อาเรี่ยนบอก...มันเป็นไอเทมที่เชื่อมต่อกับชะตาของนายโดยตรง ในความจริงแล้วถ้ามันมาอยู่กับฉันมันก็เป็นแค่ของเก่าๆและไม่ได้ใช้มันนัก"
มังกรได้กระตือรือร้นที่จะพูดคุยกับซังจินอยู่ฝ่ายเดียว ทันใดนั้นเขาก็ตัดสินใจที่จะจากไป
"ถ้างั้นไว้เจอกัน การได้ย้อนเวลามันเป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้างสดชื่นสำหรับฉันเลย ถึงแม้ว่านายจะไม่ได้ต้องการมัน แต่ว่าฉันก็ต้องขอบคุณนาย ฉันสามารถจะได้เรียนรู้สิ่งที่ดี"
'ตึบ'
มังกรได้ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางมาชนกัน
จากนั้นเองมันก็ได้มีประตูพอทัลทรงรีโผล่ออกมา มันดูราวกับว่ามีใครมารูปซิปมันกลางอากาศให้เปิดขึ้นมา มังกรได้ก้าวขาเข้าไปในพอทัล ซังจินก็ยังคงมองไปจนจบว่าเขาจะจากไปหรือไม่ อย่างไรก็ตามเบสโกโร่ก็ได้พูดขึ้น
'ชายคนนี้จะจากไปโดยที่ไม่ให้อะไรเลยหรอ?'
ในตอนนี้ซังจินก็ได้คิดเกี่ยวกับมัน มังกรไม่ได้ให้อะไรกับเขาเหมือนกับอาเรี่ยน อย่างไรก็ตามการไปคว้ามังกรที่กำลังเข้าพอทัลมันเป็นเรื่องที่น่าขำ ซังจินได้อยู่ตรงนั้นด้วยความลังเล เมื่อนั้นเองมังกรก็ได้พูดออกมา
"อ่า ใช่แล้วก่อนหน้านี้เมื่อฉันได้อ่านความทรงจำของนายมีบางอย่างที่ฉันอยากจะรู้เหมือนกัน"
เขาได้ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยขาข้างหนึ่งเข้าไปในพอทัล ซังจินรได้เอียงหัวงงในขณะที่มังกรพูดต่อ
"ทำไมเอ็ดเวิร์ดในตอนนั้นถึงปล่อยเวทย์ใส่พรรคพวกของตนเอง?"
ซังจินไม่รู้จะพูดอะไรออกไป มังกรตัวนี้ได้มองเข้าไปในชีวิตของเขาถึงตอนนั้นในทันทีเลยหรอ? มังกรได้ก้าวเท้าข้ามกลับมาจากพอเท้าและเดินกลับมาอีกครั้ง
"มันมีหัวข้อที่ฉันกำลังคิดเมื่อเร็วๆนี้....ถ้านายสามารถจะรู้อดีตทั้งหมดแล้วนายจะไม่สามารถทำนายอนาคตได้อย่างครบถ้วนหรือไม่? อะไรแบบนั้นน่ะ ด้วยความคิดนี้...ฉันจะให้สิ่งนี้กับนาย"
เขาได้ยืนมือออกมาในอากาศและพูดขึ้น
"มานี่"
ครู่หนึ่งบนมือของมังกรก็ได้มีแว่นกันแดดที่ดูเหมือนจะมีเลนส์ที่หนาเล็กน้อยปรากฏออกมา มังกรได้โยนมันมาให้กับซังจิน ด้วยมือทั้งสองข้างของซังจินที่ถือดาบอยู่ทำให้เขาต้องกอดมันเอาไว้ในอ้อมอก
"และ...บางที...นายยังต้องการสิ่งนี้ มานี่"
ในคราวนี้คทาที่มังกรได้ใช้ในก่อนหน้านี้ก็ได้ปรากฏออกมา เขาได้โยนมันให้ซังจินเช่นกัน ซังจินได้เก็บบลัดเวนเจนลงไปอย่างรวดเร็วในขณะที่รับคทาไว้ในมือ เมื่อให้ของขวัญทั้งสองกับซังจินแล้ว มังกรก็บอกต่อมา
"ถ้าเป็นสองอย่างนี้ อย่างนั้นมันก็เพียงพอสำหรับนายที่จะเอาชนะชะตากรรมแล้ว นั่นคือตามที่อดีตของนายที่ฉันได้อ่านน่ะนะ"
ซังจินได้ลดความหวาดระแวงของเขาต่อมังกรหลังจากที่ได้รับของขวัญมาสองชิ้น เขาได้มองไปที่คทาที่มังกรได้โยนมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งมันมีอัญมณีสีฟ้าฝังอยู่ในคทา เขาได้ถามกลับไป
"นาย...นายไม่จำเป็นต้องใช้อัญมณีนี้หรอ?"
"อ่า...จริงๆแล้วฉันต้องการมัน แต่ว่าฉันไม่ได้จำเป็นที่จะต้องได้รับมันที่นี่และเดี๋ยวนี้ สิ่งของเหล่านี้...ฉันจะต้องการพวกมันในประมาณสามร้อยปีต่อไป และมันจะยังคงมีสงครามอยู่เสมอๆ อัญมณีเหล่านี้ก็จะอยู่รอบๆนั้นและจากนั้นมันก็จะกลับมาสู่ฉัน แม้ว่านายจะใส่มันไปในลูกบาศก์และนำมันกลับไปที่โรงแรม เก้าสิบเก้าราตรีก็ตาม"
มันดูเหมือนว่ามังกรจะรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของเขาในมิติอื่นๆ มันเป็นช่วงสั้นๆเขามองไปที่ลูกบาศกฺ
"นั่นมันเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจอย่างแท้จริง ใช่มั๊ย?"
ซังจินก็ได้มองไปที่ลูกบาศก์เช่นกัน มันอาจจะเป็นไปได้ว่าเจ้าลูกบาศก์และโอเปอเรเตอร์นี้มันคือ 'ชะตากรรมที่น่าเศร้า' ของเขา
"อย่างไรก็ตามชนิดที่...เที่ยงแท้...ถ้างั้น...."
มังกรได้พึมพัมกับตัวเองในขณะที่ยืนอยู่ตรงนั้นและพูดว่า
"มานี่"
ตามที่ได้คาดไว้มันได้มีอะไรบางอย่างปรากฏขึ้นกลางอากาศและหลังจากที่เห็นมัน ซังจินก็รู้สึกประหลาดใจอย่างมาก