บทที่ 106 - คนเหล่านั้นที่ปีนไปในดันเจี้ยน (5)
บทที่ 106 - คนเหล่านั้นที่ปีนไปในดันเจี้ยน (5)
”
[ก๊าซซซซซ!]
ด้วยเสียงคำรามที่ดังสนั่น มันได้พุ่งมาข้างหน้าด้วยความเร็วที่มากกว่าก่อนหน้านี้มากและใช้อุ้งเท้าที่ขยายใหญ่โจมตีมา ซึ่งฉันแทบจะหลบการโจมตีนี้ไม่พ้น
"ริยูให้ความสำคัญกับการหลบการโจมตีก่อน เดี๋ยวฉันจะโจมตีเอง"
[บรูววว]
นอกเหนือจากทักษะของบอสแล้ว ใบมีดธาตุก็เป็นอีกทางหนึ่งที่ไว้ใช้โจมตีโดยที่ไม่ทำให้โดนความเสียหายคืนมา ฉันได้เริ่มดีใจที่ได้รับทักษะนี้มัน ฉันได้เรียกธาตุเข้าไปในใบมีดหอกของฉันอีกครั้งพร้อมกับดื่นมานาโพชั่นเหมือนกับเป็นการหายใจ
[กรี๊ด ใบหน้าที่จริงจังของเจ้าชายเท่โครต!]
[เมื่อไรรถไฟเหาะจะออกอะ?]
[เข็มขัดอยู่ไหน? หรือว่าฉันจะต้องจับหอกเอาไว้?]
[วูว...ฉันจะไปอีกแล้ว ฉันจะได้โยนขึ้นไปอีกแล้ว!]
ฉันได้เหวี่ยงหอกออกไปโดยที่ไม่สนใจเสียงเหล่านั้น อุ้งเท้าหน้าของหมาป่าได้ถูกฟันและทำให้เลือดไหลออกมา ในเวลานั้นริยูก็ลงไปบนพิ้นและวิ่งไป ทันทีหลังจากนั้นขาหมาป่าก็เหยียบในที่ๆเราลงไปเหยียบก่อนหน้านี้
[บรูววววว]
"มันเหมือนกับการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดยักษ์เลยจริงๆ"
ฉันได้จบหอกแน่นและเรียกธาตุีกครั้ง ด้วยขนาดของมันทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการมันอย่างรวดเร็ว ฉันได้คิดว่าจะดึงการต่อสู้นี้ให้ยาวนานไป ริยูได้เปลื่ยนทิศทางและวิ่งต่อไป เป้าหมายของฉันมันก็ยังไม่ได้เปลื่ยนไปมันยังคงเป็นอุ้งเท้าหน้าของมันที่เล็งได้ง่าย
[ก๊าซซซซซ]
[อุ้งเท้าหน้ามาแล้วว!]
เมื่อมองไปที่สายตาที่เผาไหม้ของหมาป่ายักษ์ที่โจมตีด้วยความโกรธ ฉันได้ยกหอกขึ้นอีกครั้ง ฟันไปที่เท้าหน้าของมันที่ลอยผ่านอากาศและพุ่งเข้ามาหาฉัน ในขณะที่ฉันได้ใจว่าการโจมตีเพียงคนครั้งเดียวก็พอที่จะทะลุการป้องกันและสร้างความเสียหายร้ายแรงได้ ฉันก็หัวเราะออกมาดังขึ้น
"ด้วยแค่นั้นนะ...แกจับฉันไม่ได้หรอก!"
ริยูได้กระโดดขึ้นไปและฉันก็กระโดดขึ้นจากหลังของริยู มันไม่สามารถจะคาดเดาการเคลื่อนไหวของฉันได้ทำให้อุ้งเท้าของมันเหวี่ยงผ่านเท้าของฉันไป ในขณะเดียวกันหองของฉันก็แทงลงไปด้วยแรงทั้งหมดที่ฉันรวบรวมได้ ใบมีดหอกธาตุได้แถงทะลุหนังของมันเข้าไปได้อย่างง่ายดาย และเจาะลึกเข้าในในอุ้งเท้าหน้าของมัน จากนั้นใบมีดธาตุก็ระเบิดขึ้น
[ติดคริติคอล]
[ก๊าซซซซซ!]
"ริยู!"
[บรูววว!]
หลังจากที่ดึงหอกออกมา ฉันก็ได้กลับไปบนหลังของริยูที่รอรับฉันอยู่ อย่างไรก็ตามฉันไม่มีเวลาที่จะตรวจสอบผลลัพธ์จากการโจมตีตั้งกี้ ขนของหมาป่ายักษืทั้งตัวได้ลุกขึ้นด้วยความโกรธและพุ่งเข้ามาทางฉัน ฉันไม่สามารถจะปล่อยให้ถูกโจมตีได้แม้แต่ครั้งเดียว ฉันไม่อยากจะเสียเวลาทั้งสัปดาห์ไปเปล่าๆ
ฉันได้ชูหอกขึ้นและแทงลงไปบนพื้นพร้อมตะโกนออกมา
"เอ้าเบริส" (ชื่อท่าเก่าระเบิดออกแต่ขอทับศัพท์เลยดีกว่า)
แคร๊ก! พื้นดินได้แตกหอกและเศษหินก็ลอยขึ้นไปทางของหมาป่ายักษ์ แม้ว่ามันจะไม่สามารถเทียบได้กับเมื่อตอนที่ดูลาฮานให้มันก็ตาม แต่ว่าหินนับร้อยก็ได้พุ่งเข้าไปใส่หมาป่ายักษ์
ด้วยพื้นที่ๆหอกของฉันแทงลงไปเป็นศูนย์กลางพื้นดินก็ได้สั่นและมีเศษหินขนาดใหญ่ลอยไปหาหมาป่า หินพวกนี้เร็วและแรงมาก มันเป็นการโจมตีครั้งที่สองของทักษะบอสและฉันก็มีความคาดหวังกับมันมาก ความแรงของมันมากกว่าที่ฉันคิดซะอีก
[ติดคริติคอล!]
[ติดคริติคอล!]
เพราะหมาป่ายักษ์กำลังพุ่งมาข้างหน้าด้วยความเร็วสูงสุดของมันทำให้ไม่สามารถจะหลบเศษหินเหล่านี้ได้และต้องรับเศษหินทั้งหมดไป ด้วยพลังป้องกันที่น้อยจากการใช้ทักษะทำให้มันบาดเจ็บได้ง่ายๆ ในตอนนี้ที่ฉันคิดก็คือตราบใดที่ฉันไม่โดนโจมตีมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะต้องกลัวทักษะของบอสตัวนี้
[ก๊าซซซซซ!]
เลือดสีแดงเข้มของมันได้ย้อมอยู่บนขนสีแดงจนเต็ม อย่างไรก็ตามมันก็ยังไม่หยุดลงและพุ่งต่อมา ด้วยขนาดที่ใหญ่โตคงจะทำให้มันมีพลังชีวิตที่มหาศาล บอสตัวอื่นๆอาจจะตายไปแล้วจากการเสียเลือดแบบนี้ แต่มันกลับดูจะบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย สิ่งสำคัญในการต่อสู้กับมอนสเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ก็คือความแข็งแกร่งและความทนทานต่อการโจมตีของมันไปจนกว่ามันจะตายลง ฉันได้เรียนรู้บางสิ่งที่สำคัญ
"ริยู ไปกันเถอะ ไปตัดอุ้งเท้าหน้าของมันกัน!"
[บรูวว!]
30 นาทีหลังจากนั้นในที่สุดเวลาที่ฉันรอคอยก็มาถึง ผลลัพธ์ของการมุ่งเน้ไปที่การโจมตีของฉันในที่สุดก็ทำให้อุ้งเท้าหน้าของมันถูกตัดออกมาจากร่างกาย
[ก๊าซซซซ+]
มันนได้กรีดร้องออกมาและกลิ้งไปกับพื้น ในเวลาเดียวกันเท้าหน้าของมันก็หายไปกลายเป็นอนุภาคแสง ด้วยรอยยิ้มฉันได้จับด้ามหอกแน่น มันได้สูญเสียทั้งความเร็วและความแข็งแรง
"ริยูเรารีบไปจบเรื่องนี้กัน"
[บรูวววว!]
ริยูได้พุ่งไปข้างหน้า ในขณะที่ฉันและริยูได้แชร์ความติดกัน ริยูได้พาฉันไปในจุดที่ฉันต้องการโดยที่ไม่ต้องบอก ฉันได้ยกหอกของฉันขึ้นและรวบรวมพลังงานเข้าด้วย ฉันได้ปลุกกล้ามเนื้อที่หลับอยู่และบีบเค้นความแข็งแกร่งออกมา หมาป่ายักษ์ก็ยังดิ้นรนที่จะยกร่างกายของมันขึ้น ฉันได้ใช้สายฟ้าสีขาวข้ำในมือและเล็งไปที่คอของหมาป่ายักษ์ ที่ๆฉันได้เจาะลงไปในตอนที่ใช้ชาโดว บิ้ง
จากนั้นฉันก็แทงออกไป
[คุณเลเวล 46 คุณได้รับสิทธิในการไปชั้นที่ 46]
[คุณได้รับโบนัสสเตตัส 5 แต้ม]
[คุณกลายเป็นระดับเงิน 2]
[น่าทึ่ง! คุณเป็นคนแรกของดันเจี้ยนที่หนึ่งในประวัติศาตร์ที่ประสบความสำเร็จในการต่อสู้โซโล่กับหมาป่ายักษ์ในการลองครั้งแรก! ดันเจี้ยนจะจดจำคุณในฐานะนักสำรวจที่ยิ่งใหญ่ คุณได้รับแต้มทักษะ 2 แต้มเป็นรางวัล เหล่าเทพที่รักการต่อสู้และสงความได้เริ่้่มมีความสนใจในตัวคุณ แต้มทักษะปัจจุบัน: 18]
[คุณได้รับฉายา 'ผู้พิชิตหมาป่ายักษ์' สเตตัสทั้งหมดเพิ่มขึ้น 2 ฉายานี้จะมีผลแม้ว่าจะไม่ได้สวมใส่]
[คุณได้เอาชนะหมาป่ายักษ์เพียงลำพัง คุณได้รับรางวัลพิเศษ 'หมวกโลหิตของหมาป่ายักษ์']
[คุณได้รับ 200,000 ทอง]
[คุณได้รับรางวัลที่ซ่อนอยู่สำหรับนักสำรวจคนแรก ยินดีด้วยโชคของคุณเพิ่มขึ้น 1]
[ไอเทมลับ รอยสักหมาป่ายักษ์]
จริงๆแล้วเมื่อเทียบกับยมทูต หมาป่ายักษ์นั้นต่อสู้ด้วยง่ายกว่า ยมทูตนั้นมีการโจมตีที่หลาดหลาย แต่หมาป่ายักษ์ไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรที่ฉันจะต้องกลัวนอกเหนือไปจากความสามารถทางร่ายกายและทักษะที่ขยายตัวเองซึ่งทำให้เปลื่ยนจากการป้องกันไปโจมตี ฉันจำไดเว้ามันเป็นบอสที่ง่ายกว่าราชินีวิญญาณอีก
เหมือนอย่างเคยฉันได้เรียกหน้าต่างบันทึกข้อความและอ่านข้อความพวกนั้น มีสองสิ่งที่น่าสนใจก็คือ อย่างแรกพระเจ้าได้เริ่มสนใจในตัวของฉันมากขึ้น นี่หมายความว่าฉันใกล้จะได้ชื่อที่แท้จริงของเทพงั้นหรอ? ธาเลเรียของเฮอมีสมีประโยชน์มากอยู่แล้ว ไม่สิ ฉันยังมีขีดความสามารถที่จะรับพลังของเทพที่แท้จริงคนอื่นได้อีกหรือป่าว?
ฉันได้คิดเรื่องนี้อย่างจริงจังอยู่พักหนึ่ง แต่แล้วฉันก็ไม่จำเป็นจะต้องไปกังวลถึงเรื่องที่จะเกิดในอนาคต ความจินแล้วฉันอาจจะเข้าใจผิดก็ได้ ฉันได้ตัดสินใจที่จะคิดเรื่องนี้ในภายหลังและไปที่เรื่องต่อไป
รางวัลลับรอยสักหมาป่ายักษ์ เห็นได้ชัดเลยว่ามันไม่ใช่ทั้งเวทมนตร์หรือทักษะ ในขณะนั้นก็มีแสงสีฟ้าอะไรบางอย่างไหลเข้ามาที่แขนของฉันและไหลต่อลงไปที่ขาของฉัน ฉันได้รีบถอดเกราะออกและตรวจสอบขาทันที รูปแบบการแกะสลักบางอย่ามันอยู่ตรงต้นขาของฉันและเรืองแสงสีฟ้าออกมา
[คุณได้รับรอยสักหมาป่ายักษ์ ความเร็วเพิ่มขึ้น 15% และเพิ่มพลังโจมตีของทักษะที่พุ่งขึ้น 50%]
"ว้าว..."
แม้ว่าฉันจะไม่ได้มีทักษะประเพจพุ่ง แต่ว่าพลังโจมตีของฉันก็เพิ่มขึ้น 110% ด้วยเกราะเกล็ดมังกรโลหิตที่เพิ่ม 60% ในตอนนี้เจ้านี่ก็มาอีก ฉันได้สำรวจตัวเองอย่างจริงจังว่าฉันมีทักษะพุ่งหรือไม่ บวกกับความเร็วอีก 15% มันแทบจะเท่ากับชื่อที่แท้จริงของพระเจ้าที่ฉันมีเลย!
แต่ว่าโชคร้ายที่ฉันอาจจะไม่สามารถอยู่ในโลกที่เร็วกว่าคนอื่นๆ 30% ได้ เพียงแค่ 15% ตอนแรกก็ลำบากอยู่แล้ว แต่ว่าฉันยังได้มาเพิ่มอีก 15%....มันอาจจะเป็นเรื่องลำบากในการทำความคุ้นเคยกับมัน
ฉัยได้บ่นในความสุขและออกมาจากห้องบอส หลังเคาเตอร์ขายของโรเล็ตต้าได้นอนอยู่บนเตียงที่เธอเตรียมเอาไว้และอ่านหนังสือ เธอได้ลุกขึ้นยืนช้าๆหลังจากเห็นฉันและทักทายออกมา
"โอ้ ชินมาถึงที่นี่แล้ว?"
"โรเล็ตต้าเธอกำลังทำอะไรอยู่นะ"
"ฉันกำลังคิดเกี่ยวกับวิธีการสร้างบ้านแบบพกพาน่ะ แล้วชินทำไมความสมดุลของชินดูแปลกๆ"
เมื่อฉันได้บอกเธอเกี่ยวกับผลของรอยสักหมาป่ายักษ์ เธอก็ได้จ้องมาที่ขาของฉันราวกับว่าสามารถมองผ่านเกราะไปแล้ว จากนั้นก็หยักหน้า
"ฉันไม่สามารถจะมองเห็นมันได้ดังนั้นช่วยถอดเกราะออกและโชว์ให้ฉันดูที"
"ฉันจะไม่โชว์อะไรให้เธอดูทำนั้น! ทำไมถึงขออะไรแบบนี้โดยเป็นธรรมชาติได้หละ?"
"ชิ เขาเกือบจะหลงกลแล้ว...."
โรเล็ตต้าได้เดาะลิ้นของเธอ จากนั้นก็ไอแห้งๆและแนะนำกับฉัน
"ถ้าชินต้องการที่จะได้รับทักษะประเภทพุ่ง ทำไมไม่ลองไปหาดูในพื้นที่พักอาศัยล่ะ? ไม่ว่าจะเป็นทักษะที่ใช้งานอัตโนมัติเหมือนกับทักษะที่ได้รับจากบอสประจำชั้น ทักษะจากนักสือที่ดรอปจากดันเจี้ยนหรือได้รับจากรางวัลเควสก็สามารถจะแลกเปลื่ยนได้ที่นั่น ชิน ชินมีทองเหลือมากมายเลยใช่ไหมล่ะ? ชินไม่ได้ซื้ออะไรนอกจากของในร้านขายของเลยนี่นอกจากโพชั่น ตั๋วตีบอสและหุ่นไล่กา... ฉันได้มาที่นี่เพื่อสนับสนุนชิน แต่ชินไม่ค่อยให้ฉันช่วยเลย ฉันเศร้าจัง"
"โพชั่น ตั๋วต่อสู้ และหุ่นไล่กานั่นมันก็เยอะแล้วนะ ฉันได้ใช้ทองหมายหมือไปต่อวันเลยนะ....ยังไงก็ตาม ฉันจะไปที่นั่น"
"พาฉันไปกับชินด้วย! ฉันเบื่อแล้ว"
โรเล็ตต้าได้กระพือหูของเธอและกระโดดออกมาจากเตียงพร้อมกับคล้องแขนฉัน ฉันได้พยายามที่จะไม่สนใจกลิ่นหอมของโรเล็ตต้าและความรู้สึกที่อยู่ตรงแขนของฉัน แต่ว่ามันไม่ง่ายเลย
"มันร้อนนะ ปล่อยเถอะ"
"ฉันรู้ว่าชินไม่ร้อนเลย ดังนั้นเราจะไปกันแบบนี้แหละ ไปกันเลย"
"เธอนี้มัน..."
ในตอนนี้โรเล็ตต้าได้เกาะติดหนึบกับฉันดังนั้นฉันก็ไม่มีทางจะแกะเธอออกไปได้ ฉันได้ไปที่เขตที่พักอาศัย เมื่อฉันได้มาถึงที่ทางเข้าคฤหาสน์ของฉัน ฉันก็เห็นศพของหมูป่าเหล็กยักษ์ซึ่งยังคงอยู่ในสวน ขอโทษนะเจ้าหมูยักษ์ ฉันจะต้องกินนาย แต่ว่าฉันยุ่งอยู่กับปลาทูน่าละลายในช่องเก็บของของฉัน...
ในขณะที่ฉันมองไปที่หมูป่ายักษ์อย่างเงียบๆ โรเล็ตต้าก็ได้มองดูอย่างประหลาดใจและเคาะไปที่ขาเหล็กของหมูป่า
"มันเป็นแบบที่จะแข็งแกร่งขึ้นหลังจากตาย ชินมีเพื่อนเป็นเนโครแมนเซอร์งั้นหรอ?"
"หือ? อะไรนะ?"
"ชินกำลังฟักมันไม่ใช่หรอ? ปกติมันจะอ่อนแอ แต่พลังสายฟ้าได้แทรกเข้าไปในตอนที่มันตาย ไม่ต้องพูดถึงสถานที่แห่งนี้ที่เป็นทางเข้าสวนแฟรี่ที่เต็มไปด้วยธาตุต่างๆ พลังงานสายฟ้ากำลังสร้างร่ายกายของมัน บีบอัดร่างกายและขยายพลังงาน ถ้าชินปล่อยมันไว้แบบนี้มันจะกลายเป็นอันเดตที่ทรงพลังอย่างแน่นอน มันจะแข็งแกร่งกว่าตอนที่ยังมีชีวิตอยู่มาก"
"...."
ไม่นะ มันแค่บอกว่ามันจะไม่เน่าดังนั้นฉันก็เลยเก็บมันไว้เป็นอาหารที่นี่....ฉันไม่รู้จะบอกกับเธอยังไงดี ในตอนนี้ฉันได้มองไปที่มันมันมีร่างกายที่ยาวกว่า 70 เมตรในตอนนี้เหลือเพียง 60 เมตร ขนสีดำที่ถูกเผาก็ยังดูเหมือนจะมีประกายสายฟ้า
ฉันได้ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน
"ฮ่าๆๆๆ ออกไปข้างนอกกันเถอะ โรเล็ตต้า!"
"ถ้างั้นมันก็เป็นเรื่องบังเอิญ...."
บางทีฉันอาจจะเรียนรู้เกี่ยวกับเนรโครแมนเซอร์ในภายหลัง! ในตอนนี้ฉันได้แต่เก็บเรื่องนี้เอาไว้ก่่อนและลากโรเล็ตต้าออกจากคฤหาสน์ไปสู่ที่พักอาศัย ทิ้งทัศนิยภาพเบื้องหลังสวนไว้เป็นศพหมูป่าเหล็กยักษ์ ที่น่าชื่นชมก็คือฉันกำลังฟูมฟักมันด้วยตัวเอง