บทที่ 105 - คนเหล่านั้นที่ปีนไปในดันเจี้ยน (4)
บทที่ 105 - คนเหล่านั้นที่ปีนไปในดันเจี้ยน (4)
”
เมื่อฉันได้ไปที่ร้านขายของในวันต่อมา ฉันก็ได้เจอกับเอลฟ์ที่สวยงาม ผมสีดำยาวไหลลงมาและตาสีทองสดใส หน้าอกที่ยั่วยวนและรูปร่างเพรียวบาง โดยไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่ก็คือโรเล็ตต้าตัวจริง ตอนที่เธอได้เห็นฉัน หูยาวของเธอได้จยับไปมาอย่างตื่นเต้น ฉันได้สงสัยในทันทีว่าเธอก็อาจจะบินได้โดยการใช้หูของเธอ
"ฉันว่ามันเป็นการบังเอิญอะไรแบบนี้ที่ได้เจอกับนายชิน"
"ไร้ความอายอะไรแบบนี้ โรเล็ตต้าหลินได้บอกทุกอย่างกับฉันแล้ว"
โรเล็ตต้าได้หรี่ตาลงและจ้องมองมาที่ฉัน
"แม้ว่านั่นมันจะหมายความเหมือนกัน นายก็ไม่สามารถจะพูดแบบ 'น่ารัก' ได้เลยหรอ?"
"ถ้าฉันพูดน่ารักๆ เธอก็จะตกใจและมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นฉันจึงไม่ทำ"
"....ชิ"
โรเล็ตต้าได้เดาะลิ้นของเธอและหันหนีไป มันดูน่ารักมากกว่าคำพูดที่หน้าไม่อายก่อนหน้านี้อีก แต่ว่าฉันไม่ได้พูดออกมา ถ้าฉันพูดเธอก้จะมีความสุขและอาย ฉันก็จะยิ่งตื่นเต้น โรเล็ตต้าได้ไอออกมาแห้งๆและพูดต่อ
"บอสยมทูตชั้นที่ 40 เพราะชินได้เอาชนะมันแล้ว ดังนั้นตอนนี้ชินกำลังอยู่ในระหว่างพิชิตมันโดยสมบูรณ์งั้นหรอ?"
"ใช่แล้ว ฉัยได้จดจำทุกรูปแบบของเขาไว้แล้วดังนั้นในตอนนี้การฆ่าเขามันเป็นเรื่องง่ายๆเลย"
"นี่มันเป็นครั้งแรกเลยนะที่ฉันได้ยินคนบอกว่ามันง่ายที่จะฆ่ายมทูต ชินสามารถจะทำมันได้หลังจากเลเวล 45..."
"ไม่ ฉันจะไม่ทำแบบนี้อีกต่อไป
ด้วยคำพูดของโรเล็ตต้า ฉันได้ตอบกลับไปอย่างรวดเร็วซึ่งแม้แต่ฉันก็ตกใจ
"ฉันต้องการที่จะให้ทักษะความสามารถของฉันพัฒนา ไม่เพียงแต่แค่สเตตัสเท่านั้น แต่จะต้องเป็นทักษะโดยรวมด้วย เพราะว่าฉันต้องการจะแข็งแกร่งขึ้น"
"...ถ้านั่นเป็นสิ่งที่ชินต้องการ ถ้างั้นฉันจะสนับสนุนอยู่เบี้องหลัง จากตอนนี้ไปฉันจะสนับสนุนชินโดยตรง ดังนั้นทำให้ดีที่สุดนะชิน"
"ด้วยความช่วยเหลือจากโรเล็ตต้านั่นมันทำให้ฉันรู้สึกมั่นใจ ฉันแน่ใจเลยว่าฉันจะไม่ทำให้โรเล็ตต้าผิดหวัง"
ด้วยคำพูดนี้ โรเล็ตต้าได้ตีหน้าอกและยิ้มออกมาก จากนั้นฉันก็โบกมือให้กับโรเล็ตต้าที่อยากให้ฉันได้รับชัยชนะและเดินไปล่ายมทูตอีกครั้ง แน่นอนว่าฉันไม่ได้กลัวเขาอีกต่อไป
สามสัปดาห์ต่อมาฉันก็ได้เสร็จสิ้นการกินอิลิกเซอร์เสริมแกร่งวิญญาณและได้รวบรวมเซ็ตยมทูตจนเสร็จ เคียวของยมทูตได้เพิ่ม % ของหอกกลืนกินขึ้น 1% ในตอนนี้มันได้ 3% แล้ว เพราะว่าฉันได้รับว่าหอกของฉันจะไม่พัฒนาขึ้นจากกว่ากินอาวุธเดิมดังนั้นฉันก็เลยไม่ได้ให้มันกินอีกครั้ง
[วิญญาณของคุณได้กระจ่างใสชัดเจนและมีความแข็งแกร่งขนถึงขีดสุด พลังเวทย์และเสน่ห์เพิ่มขึ้น 3 นอกจากนี้โชคเพิ่มขึ้น 5]
[คุณได้สวมใส่ชุดเซ็ตยมทูต พลังเวทย์และความแข็งแรงเพิ่มขึ้น 20 เมื่อสวมใส่เซ็ตยมทูตจะสามารถใช้ทักษะ 'ชาโดว บิ้ง' ได้วันละครั้ง ชาโดว บิ้งจะเป็นการเทเลพอตคุณไปอยู่ด้านหลังของเป้าหลายและโจมตีไปในทันที การโจมตีจะติดคริติคอลเสมอ]
ชุดเซ็ตยมทูตได้ถูกสร้างขึ้นมาจากผ้าที่ขาดรุ่งริ่งที่ยมทูตใส่อยู่ ความจริงแล้วฉันมองดูเหมือนกับยมทูตมาก อย่างไรก็ตามพลังป้องกันของมันก็เศร้าอย่างน่าเหลือเชื่อเมื่อเทียบกับเกราะเกล็ดมังกรสีชาดและแม้แต่กับเซ็ตดูลาฮาน ดังนั้นฉันจึงแยกทักษะออกมาและเก็บมันไว้ในเลข 8 นาฬิกา แล้วก็เก็บชุดเช็ตยมทูตกลับไปในช่องเก็บของไว้ใช้สำหรับงานฮาโลวีนปีหน้า
ในขณะที่ฉันพิชิตชั้นที่ 40 เร็นก็ได้เริ่มการพิชิตชั้นที่ 35 น่าแปลกใจมากที่เพลรูเดียได้เข้าร่วมกับเอลลอสและไปถึงชั้นที่ 33 ในเวลาสั้นๆ พวกเขาทั้งคู่ไม่ต้องการจะร่วมมือกับนักสำรวจจากทวีปอื่นดังนั้นฉันก็เลยสงสัยว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขากัน อย่างไรก็ตาม ฉันค่อนข้างสงสัยว่าฉันมีอิทธิพลต่อพรรคพวกของพวกเขา
สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือการที่ชินะติดต่อมาหาฉัน
[พี่ ฉันผ่านชั้นที่ 30 แล้ว!]
"โอ้ มันเร็วมากเลยนะ ยินดีด้วย"
[หนูได้ยินมาจากพี่สาวแล้วว่าพี่ชายได้ผ่านชั้นที่ 40]
"พี่สาว? โอ้ ใช่สิเพลรูเดีย เธอควรจะบอกฉันในตอนแรกที่พบกันนะ"
[แต่ว่าฉันต้องการให้พี่ชายแปลกใจด้วยการบอกทีหลังนะ แต่หนูไม่คิดว่าพี่สาวจะใช้โอกาสบอกไปก่อนหนูอย่างรวดเร็ว...]
"ฉันได้ยินนะ"
[แน่นอนสิหนูต้องการให้พี่ได้ยิน! มันเป็นการประกาศสงครามกัน หนูไม่มีพื้นที่พักอาศัย แต่ว่าหนูมีหน้าอกที่ใหญ่กว่าของพี่สาว! หนูมีความสามารถที่จะแข่งขันได้ นอกจากนี้ก็ความซื่อสัตย์ที่เหมือนพี่สาว แล้วก็เสน่ห์ใช่ไหม?]
"ฉันรู้แล้วว่าเธอมีเสน่ห์ แต่ว่าเธอไม่ได้ดีสำหรับฉัน"
[ฉัน...ร้องไห้ได้ไหม? ถ้าฉันไม่มีเสน่ห์พ่อดึงดูดพี่ นั่นก็ไม่ได้มีอะไรที่น่าหลงใหลเลย]
ฉันได้ยิ้มขมออกมาและตอบกลับไป
"ยังมีผู้ชายที่ดีกว่าฉันมาก บางสิ่งบางอย่างมันอาจจะผิดด้วยดวงตาของเธอ"
[ฉันเชื่อมั่นในพลังของตาฉัน แต่ว่าฉันชอบพี่ชายโดยไม่สนใจสิ่งอื่น!]
เหมือนกับที่เพลรูเดียบอก ชินะได้บอกว่าเธอชอบฉัน แม้ว่าเพลรูเดียจะไม่เชื่อชินะเพราะมองไม่เห็นหัวใจของชินะ แต่ฉันก็ไม่สามารถจะตัดสินใจได้ เพราะอย่างนั้นฉันก็เลยได้พูดออกไปแบบนี้
"ใช่แล้ว ถ้างั้นมาพยายามให้ดีที่สุดที่จะมาให้ทันฉัน พวกเราจะได้เจอหน้ากับถ้าพวกเราต้องการคุณกัน เธอคงยังไม่ลืมฉันใช่ไหม?"
[หนูไม่เคยลืมเลย! หนูคิดถึงพี่ทุกๆคนเลยจริงๆนะ! เตรียมตัวรอให้ดี สมาชิกในปาตี้ของหนูแข็งแกร่งมากดังนั้นพวกเราจะตามพี่ชายไปอย่างรวดเร็ว!]
""สมาชิกปาตี้?"
ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นอีกครั้ง
[ฮุฮุ พี่อาจจะรู้อยู่แล้วก็ได้ เมื่อไม่นานมานี้มีนักสำรวจจากโลกที่มีชื่อเสียงในชั้นล่าง เธอมีชื่อว่าแม่มดเงา! เธอด้รับชื่อเสียงในการช่วยนักสำรวจเริ่มต้นผ่านมาชั้นที่ 6 ประมาณ 2 สัปดาห์ แต่เธอพึ่งจะมาปรากฏตัวในพื้นที่พักอาศัยในเวลาวันที่ก่อน! หนูไม่เคยได้ยินนักสำรวจที่เติบโตได้รวดเร็วแบบนี้มาก่อนเลย! หนูจะไม่ยอมพลาดโอกาสนี้และได้รับเลือกให้เธอเข้ามาในปาตี้ของหมู]
"...."
[พี่รู้มั๊ย คนๆนี้แข็งแกร่งมากจริงๆ! เธออาจจะไม่จำเป็นต้องเข้าปาตี้เลย เธอแข็งแกร่งมาก! พวกเราได้ท้าทายชั้นที่ 30 ด้วยกัน แต่ในขณะที่เราพึ่งจะได้จัดการโครงกระดูก เธอก็ได้เล่นกับอัศวินโครงกระดูก จากนั้นเธอก็บอกว่ามันง่ายกว่าเมื่อเธอเอาชนะเพียงลำพัง]
"....ถ้าเธอแข็งแกร่งแล้วทำไมเธอถึงเข้าปาตี้ของเธอ?"
[หนูไม่รู้ เธอบอกว่าเธอจะไปร่วมปาตี้กับคนที่เธอชอบและบอกว่าเธอต้องการจะเข้าร่วมปาตี้เราเพื่อฝีกฝน]
"อา ฉันเข้าใจแล้ว ขอให้โชคดีด้วยกันนะ"
เยอึนเธอได้ผ่านชั้นที่ 30 แล้ว! ถ้าฉันไม่รีบเธอจะต้องตามฉันทันแน่ๆ ฉันจะต้องเผาไหม้จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ ฉันได้ให้กำลังใจชินะอีกสักหน่อยแล้วเดินขึ้นไปที่ชั้น 41 ฉันคิดว่าฉันจะต้องพาเยอึนไปหาเฟรนฟรายกินในทันที เพราะว่าเธอได้ผ่านชั้นที่ 25 แล้ว พ่อฉันก็ยังผ่านชั้นที่ 50 ไปแล้ว และได้โม้เกี่ยวกับการเป็นนักสำรวจระดับทอง แต่ว่าฉันก็ไม่สนใจ
ชั้นที่ 41 ฉันได้เป็นอิสระจากซอมบี้ อันเดต กูล โครงกระดูกและผี ฉันมีความสุขที่ได้เป็นอิสระจากกลิ่นเน่าเปื่อยของเนื้อ แต่ว่าความสุขนี้ก็อยู่ได้ไม่นาน
มอนสเตอร์จากชั้นที่ 41 เป็นหมาป่า พวกมันได้ปล่อยกลิ่นอายความเป็นสัตว์ป่าและกระโจนเข้ามาหาฉันจากทุกทิศทาง นอกจากนี้ช้้นที่ 41 ถึง ชั้นที่ 45 ได้เต็มไปด้วยหมาป่าขนสีต่างๆและหลากสายพันธุ์ มีหมาป่าที่มีขนาดใหญ่ถึง 2.3 เมตร จากนั้นก็มีพวกมนุษย์หมาป่าซึ่งเป็นหมาป่าที่ยืนสองขา นอกจากมนุษย์หมาป่าหมาทั้งหมดก็มีขนาดใหญ่และแข็งแกร่งมากกว่าริยูตอนเป็นรูปธรรม ยังไงก็ตามริยูก็ยังเร็วกว่าและประสานได้เยี่ยมกว่า
แม้ว่าริยูจะต่อสู้ได้ดี แต่ฉันก็ไม่เคยได้ต่อสู้กับมอนสเตอร์ประเภทสัตว์ร้ายมาก่อน ดังนั้นฉันจะต้องใช้ระยะเวลาซักพักหนึ่งเพื่อคุ้นเคยกับมัน ในตอนท้ายที่สุดมันก็ไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมฉันต้องหลบการโจมตีและสวนกลับไปเมื่อพวกมันเปิดโอกาส
มันเป็นผลลัพธ์ให้ฉันไปปถึงชั้นที่ 45 ในเวลาเพียงแค่ 4 วัน
[กรรร....]
โรเล็ตต้าได้บอกว่าการต่อสู้กับบอสชั้นที่45 และ 50 จะเป็นการต่อสู้ด้วยพลังเพียวๆ ฉันเชื่อเธอ แต่ว่าฉันไม่คิดว่าความแข็งแรงนั้นนั้นจะหมายถึงขนาด
"เขายาวกว่า 10 เมตร...."
แม้ว่าหมูยักษ์ที่ฉันได้เจอในกวางโจวจะมีขนาดใหญ่กว่าเมื่อนำมาเทียบกัน แต่ในแง่ของจิตวิญญาณหมาป่าขนดำนี้เหนือกว่าหมูป่าเหล็กยักษ์
ชั้นที่ 45 เป็นพื้นที่รกร้าง หมาป่าขนสีดำกำลังนั่งอยู่ตรงกลางของที่รกร้างว่างเปล่าขาของมันพับอยู่และปิดตา เมื่อฉันได้เข้าไปหามันและยกหอกขึ้น ตาของมันก็เปิดขึ้น แรงกดดันจำนวนมากได้ออกมาจากเขาอย่างน่าเหลือเชื่อซึ่งมันทำให้ฉันระเบิดรอยยิ้มออกมา
"เยี่ยม ฉันต้องการที่จะต่อสู้กับมอนสเตอร์ขนาดใหญ่แบบนี้มาเสมอบนโลก ฉันจะฝึกตัวเองโดยใช้นาย"
[กรรร....!]
หมาป่าได้ขยับขาไปข้างหน้าและย่อตัวลง ดูเหมือนว่ามันจะเตรียมตัวที่จะพุ่งเข้ามาหาฉัน ด้วยน้ำหนักและความเร็วของมันก็จะทำให้เกิดแรงกระแทกอย่างมหาศาล ฉันได้ย่อตัวลงบนหลังของริยูและเตรียมตัวที่จะพุ่งออกไปข้างหน้า ฉันได้กระซิบกับริยู
"ฉันไว้ใจเธอนะริยู มาลุยกันเธอ"
[บรูววววววววว]
ในขณะที่ริยูพุ่งออกไปข้างหน้าก่อนหมาป่ายักษ์
[ก๊าซซซซซซซ!]
หมาป่ายักษ์ได้พุ่งเข้ามาหาเขา เมื่อมันได้ก้าวขาไปข้างหน้าพายุทรายก็ได้พัดถล่มในดินแดนรกร้างป้องกันการมองเห็นของฉัน ฉันได้โฟกัสไปที่การระบุตำแหน่งและวิธีการโจมตีของมัน
"ริยู กระโดดเฉียงหน่อย"
[บรูววววว!]
ฉันได้ถือหอกตั้งขึ้นและใช้ใบมีดธาตุด้วยมือทั้งสอบข้างที่เหมือนกับการจะไม้เบสบอล เมื่อริยูได้พุ่งผ่านต้นขาหมาป่ายักษ์แล้วฉันก็ฟาดหอกออกไปอย่างสุดแรง
[ติดคริติคอล]
[ก๊าซซซซซซซซ]
ได้มีเลือดพุ่งออกมาและหมาป่ายักษ์ก็ร้องขึ้น สิ่งที่ฉันไม่ได้คาดคิดก็คือมันพบว่าเราอยู่ตรงไหนและเหวี่ยงหามาเหมือนกับแซ่! ริยูได้รีบปล่อยลมหายใจน้ำแข็งออกมาและกระโดดหลบไปด้านข้าง อย่างไรก็ตามหางซึ่งดูเหมือนจะติดลมหายใจน้ำแข็งของริยูกลายเป็นใหญ่ขึ้นและฟาดพวกเรา มันทำให้หางมันให้ใหญ่ขึ้น! ฉันได้กัดฟันแน่นและตะโกนขึ้น
"ชาโดว บิ้ง!"
ทันใดนั้นฉันและริยูก็ถูกเทเลพอตไปที่หลังคอของหมาป่ายักษ์ทันที
[กรร?]
หมาป่ายักษ์ได้ทำเสียงโง่ๆออกมาและหันหัวมาทางเรา ในระหว่างนี้ร่างกายของมันก็ได้หันไปทางอื่นและมันก็ได้หันหัวอีกครั้ง จากนั้นร่ายกายของมันก็หันไปทางอื่นอีก มันได้ค่อยๆเริ่มหมุนเป็นวงกลม โชคดีที่มันยังดูเหมือนจะมีสติปัญญาสมเป็นสัตว์ร้ายอยู่
ในขณะนั้นฉันก็ได้มุ่งเน้าพลังไปที่ปลายหอกสำหรับสร้างความเสียหายคริติคอลที่ทักษะชาโดว บิ้งบอกไว้ เหมือนกับในทุกๆครั้งฉันได้ยกหอกที่การเป็นสายฟ้าของไพก้าและออร่าสีขาวของฉันขึ้น และแทงลงไปที่หลังคอของหมาป่า
[ติดคริติคอล!]
[ก๊าซซซ!]
เลือดได้พุ่งออกมาจากพื้นที่ๆหอกฉันแทงลงไปและสาดมาโดนฉันกับริยู มันดูเหมือนว่ามันจะได้รับความเจ็บปวดอย่างมากจากการโจมตี ในขณะนั้นมันก็เริ่มกระโดดอย่างบ้าคลั่งเพื่อให้ฉันตจกลงไป ด้วยใบหน้าที่อาบด้วยเดลือด ฉันได้กัดฟันแน่นและยกหอกขึ้นอีกครั้งพร้อมตะโกน
"ริยูจับไว้!"
[โอเค!]
ริยูได้ยืดกรงเล็บของเธอและจับหมาป่ายักษ์ไว้ และฉันก็ได้เอาขารัดตัวริยูไว้ ในตอนนี้พวกเราอยู่ในตำแหน่งที่ดีแล้ว ฉันไม่ต้องการที่จะหลุดไป
[บรูวววว]
"ริยูจับไว้อีกนิด!"
[บรูวววว....!]
มันดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับริยู ดังนั้นฉันก็เลยตัดสินใจที่จะจัดการหมาป่ายักษ์ให้รวดเร็ว
"สายฟ้าขาวจู่โจมต่อเนื่อง!"
การโจมตีด้วยหอกได้สร้างหลุมขึ้นซึ่งมันได้ขยายขึ้น เลือดสีแดงได้กระเด็นมาโดนฉันอย่างต่อเนื่อง แต่ว่ามันก็ไม่เพียงพอที่จะหยุดฉันได้ สิ่งเดียวในตอนนี้ที่ฉันเห็นอยู่ก็คือหลุมที่ฉันจะต้องเจาะ
[ก๊าซซซซซซ!]
แม้ว่าฉันจะชอบที่จะโจมตีแบบนี้จนมันตายไป แต่แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย ก่อนที่สายฟ้าขาวจู่โจมต่อเนื่องของฉันจะจบลง หมาป่ายักษ์ก็ได้หอนออกมา จากนั้นมันก็เริ่มกลิ้งไปด้านข้าง ฉันได้รีบยกเลิกทักษะและเกาะริยูแน่น
"ริยูโดดออกไปเร็ว!"
[โอเคร!]
ก่อนที่ฉันกับริยูจะถูกทับแบน ริยูก็ได้กระโดดถอยออกมาและลงไปบนพื้น เมื่อสังเกตุเห็นฉันกับริยูออกมา หมาป่ายักษ์ก็ได้หยุดกลิ้งและยืนขึ้น จากนั้นฉันก็เห็นแสงแห่งความตย
[ก๊าซซซซซซซซ!]
[หมาป่ายักษ์ได้ใช้เห่าหอนโลหิต! พลังป้องกันทั้งหมดของหมาป่ายักษ์จะถูกเปลื่ยนแปลงไปเป็นพลังโจมตี!]
มันถูกเรียกว่าหมาป่ายักษ์!? ไม่สิ ตอนนี้มันไม่ใช่เวลา ขนของมันได้ย้อมไปด้วยสิแดงในเวลาเดียวกันอุ้งเท้าหน้าของมันก็ได้ขยายขึ้นจนผิดปกติ ใช่แล้วนี้มันเป็นการต่อสู้ด้วยพลังเพียวๆ....ฉันรู้สึกดีใจเพราะมันจะกลายเป็นง่ายขึ้น ฉแนได้ยกมุมปากขึ้นและเสริมพลังให้กับหอกของฉัน
"มาสู้กัน เจ้าหมาอ้วนเอ้ย!"
[ก๊าซซซซ!]