ตอนที่ 43 ปรมาจารย์ผี
ตอนที่ 43 ปรมาจารย์ผี
เมื่อกี้เหวินจ้งยังทำท่าทางเป็นอันธพาลอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับกลัวจนเสียสติ
ร่างกายล้มลงไปกับพื้น เหงื่อเย็นๆไหลซึมออกมา พร้อมกับร่างกายที่สั่นเทา
เขามองหน้าคุณหนูเหวิน และพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ “เยี่ยน เยี่ยนเยี่ยน ไม่ ไม่เกี่ยวกับฉัน! อารอง อารองอยากทำให้เธอตกใจเท่านั้น ไม่ ไม่ได้อยากฆ่าเธอเลยสักนิด! เพราะเขา ใช่ เพราะเขาตัดสินใจฆ่าเธอด้วยตัวเอง”
“เยี่ยนเยี่ยน เยี่ยนเยี่ยนครั้งนี้เธอต้องยกโทษให้อารองนะ ถ้าอารองตายไป น้องชายปัญญาอ่อนของเธอ จะไม่มีใครดูแลนะ!”
หลังจากพูดจบ เหวินจ้งก็ร้องไห้โฮ ใบหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เมื่อพวกเราได้ยินสิ่งนี้ ต่างอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ดูเหมือนเขาจะมีความสามารถซื้อตัวนักฆ่าได้จริงๆ
นักพรตตู๋ที่อยู่ด้านหน้าจึงถามต่อ “คนที่นายพูดถึงคือใคร นายสั่งให้ใครไปทำร้ายคุณหนูเหวิน แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน”
เมื่อได้ยินนักพรตตู๋พูดออกมาแบบนี้ เหวินจ้งก็ไม่รอช้า ถึงตัวจะสั่น แต่เขากลับพูดด้วยแววตาที่เลื่อนลอย “เขา เขาเป็นผีตนหนึ่ง ส่วนเรื่องอื่น เรื่องอื่นฉันก็ไม่รู้แล้ว!”
เมื่อทุกคนเห็นแววตาของเหวินจ้ง ก็รู้ทันทีว่าเขากำลังโกหก
สีหน้าของเฟิงเฉ่วหานเข้มขึ้นทันที ไม่พูดอะไรสักคำ เข้าไปเตะที่หน้าของเหวินจ้งทันที
“ปัก” เหวินล้มลงกับพื้น วินาทีต่อมาเขาถึงกับกระอัดเลือดออกมาจากปาก
“ถ้ายังไม่พูดความจริง ตอนนี้ฉันจะฆ่าแกเอง!” เฟิงเฉ่วหานขู่ด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
เหวินจ้งกลัวมาก “ท่าน ท่านนักพรต ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากพูด แต่ถ้าผมพูด ถ้าพูดแล้วผมจะต้องตาย!”
“อ่อ งั้นแกก็คงไม่กลัวว่าจะตายในเงื้อมมือพวกเราซินะ” นักพรตตู๋พูด จากนั้นเขาก็ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว
จู่ๆคุณหนูเหวินที่ยืนอยู่หน้าประตูก็ยกมือขึ้น หายตัวไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ปรากฎตัวที่หน้าของเหวินจ้ง
“อารอง คุณยังอยากหาที่หลบภัยไหม” น้ำเสียงที่เย็นชา ยังตามมาด้วยสายลมอันเยือกเย็น
เสียงพึ่งจางหาย มือข้างหนึ่งของคุณหนูเหวิน ก็ตรงเข้าไปบีบคอเหวินจ้งทันที
ตอนนั้น เหวินจ้งดิ้นทุรนทุราย ใบหน้าแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่าเขากำลังทรมาน
เหวินจ้งไม่สามารถหายใจได้ ชีวิตของเขาได้พบกับภัยคุกคามแล้ว
เขาจึงไม่กล้าปิดบังอีกต่อไป เขาพยายามเปล่งเสียงออกมา “ฉัน ฉันพูด ฉันพูดแล้ว……”
เมื่อนักพรตตู๋ได้ยินแบบนี้ จึงส่งสัญญาณให้คุณหนูเหวินปล่อยมือ
ที่จริงคุณหนูเหวินรู้สึกไม่พอใจนิดหน่อย แต่เพื่อตามหาตัวจริงของฆาตกรที่ฆ่าเธอ และยังมีผีชั่วที่จับเธอไปเป็นทาส เธอจึงต้องอดทนต่อไป
หลังจากคุณหนูเหวินปล่อยมือ เหวินจ้งก็จับที่คอของเขาทันที เขาไอออกมาอย่างต่อเนื่อง ในเวลาเดียวกันยังหายใจเข้าเฮือกใหญ่ด้วย
ผ่านไปไม่กี่วินาที เหวินจ้งถึงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ตื่นตกใจ “เขา เขาเป็นลูกศิษย์ของปรมาจารย์ผี ส่วนเจ้าลูกศิษย์นั่น ชื่ออะไรฉันก็ไม่รู้ รู้แค่ว่าปรมาจารย์ผีส่งเขามาก็เท่านั้น”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เหวินจ้งก็รีบพูดเพิ่ม “แต่ แต่ฉันกล้าสาบานว่า ฉันไม่ได้บอกให้เขาฆ่าเยี่ยนเยี่ยนจริงๆนะ ฉัน ฉันแค่อยากให้เขาทำให้เยี่ยนเยี่ยนตกใจจนขวัญผวา ทำให้จิตใจสับสนวุ่นวาย แบบนี้ แบบนี้ฉันจะได้มีเหตุผลให้ถูกเลือก เป็นประธานคนใหม่……”
ปรมาจารย์ผี เมื่อได้ยินสามคำนี้ ผมก็มึนงงทันที
ผมหันไปมองอาจารย์และนักพรตตู๋ ดูว่าพวกเขาพอจะรู้อะไรบ้างไหม
แต่สองคนนั้นกลับแสดงท่าทางออกมาเหมือนกัน พวกเขาเองก็ไม่รู้เช่นกัน เพียงแค่ส่งสัญญาณให้เหวินจ้งพูดต่อ
เพื่อเอาชีวิตรอดเหวินจ้ง ถึงกับพูดออกมาทั้งหมด
เขาบอกว่ามีโอกาสได้พบกันโอยบังเอิญ ตอนไปดื่มเหล้าที่ KTV กับเพื่อนนักธุรกิจคนหนึ่ง
จากนั้นเพื่อนคนนั้นก็เมา และพูดชื่อ “ปรมาจารย์ผี” ออกมา
บอกว่าปรมาจารย์ผีคนนี้สามารถทำได้ทุกอย่าง เพียงไปขอร้องเขา และให้ของล้ำค่าหนึ่งชิ้น ปรมาจารย์ผีนั้นก็จะหาวิธีทำให้ความปรารถนาของคุณสมหวัง
เพื่อนที่เมาของเขาคนนั้นยังบอกอีกว่า ช่วงนี้เขายังได้ที่ดินมาผืนหนึ่ง ก็เพราะไปขอจากปรมาจารย์ผีนั้นเอง
และยังบอกว่า ถ้าไม่ได้ความช่วยเหลือจากปรมาจารย์ผี คุณสมบัติ การเงิน ขนาดและเรื่องอื่นๆของบริษัทพวกเขา คงไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งได้แน่
แต่สองสามวันก่อนเขาได้เสนอราคา และมีบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง ได้ประกาศถอนตัวจากการเสนอราคาไปอย่างลึกลับ
หลังจากที่เหวินจ้งได้ยิน เขาก็อึ้งไปทันที
แน่นอนว่าเขาต้องรู้ดีว่า ขนาดของบริษัทเพื่อนของเขา คิดว่าเพื่อให้ได้ที่ดินผืนนั้นมา ต้องนำไปจ่ายค่าประชาสัมพันธ์แน่นอน แต่คิดไม่ถึงว่าเขากลับไปขอจาก “ปรมาจารย์ผี”
หลังจากผ่านไปสองสามวัน เหวินจ้งก็พบว่าตัวเองไม่สามารถขึ้นเป็นประธานคนใหม่ของบริษัทได้ แต่ไม่รู้อะไรสะกิดใจจู่ๆเขาก็คิดถึงปรมาจารย์ผีขึ้นมา
หลังจากถูกคุณหนูเหวินผู้หญิงที่อ่อนแอและยังนั่งอยู่ในรถตบหน้าหนึ่งครั้ง เขาก็ยังคงโกรธแค้นอยู่ในใจ
ดังนั้น เช้าวันรุ่งขึ้นเขาจึงไปค้นหาคนที่ชื่อ “ปรมาจารย์ผี”
เมื่อไปถึงที่นั้น เหวินจ้งก็บอกว่าตัวเองมีเรื่องจะขอร้อง จากนั้นก็มอบของล้ำค่าที่ตัวเองนำมาหนึ่งอย่าง มันคือหยกรูปปี่เซียะซึ่งมีมูลค่านับแสนหยวน
เมื่ออีกฝ่ายรับของขวัญเรียบร้อย เขาก็ตอบตกลงจะช่วยเหวินจ้ง ในเวลาเดียวกันยังนำหุ่นกระดาษมาให้
เหวินจ้ง
บอกให้เขียนวันเดือนปีเกิดของคุณหนูเหวินลงไป จากนั้นก็นำกลับไป วางในที่ที่คุณหนูเหวินเดินเข้าเดินออกบ่อยๆ และยังกำชับอีกว่าต้องให้คุณหนูเหวินได้สัมผัสกับตัวหุ่น
หลังจากที่เหวินจ้งออกมา เขาก็แอบเขียนวันเดือนปีเกิดของคุณหนูเหวินลงบนหุ่นกระดาษ จากนั้นก็นำไปวางบนโต๊ะทำงานของคุณหนูเหวิน……
เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อคุณหนูเหวินมาทำงาน ก็เห็นว่ามีหุ่นกระดาษวางอยู่บนโต๊ะ จากนั้นเธอก็สัมผัสมัน แต่วินาทีนั้นหุ่นกระดาษกลับมอดไหม้ทันที
ดังนั้น คาถาของปรมาจารย์ผีจึงเริ่มทำงาน
จากนั้น คุณหนูเหวินก็ได้เจอกับเหตุการณ์ร้ายก่อนเสียชีวิต จนกระทั่งขับรถชนในวินาทีสุดท้าย
เมื่อฟังเรื่องนี้จบ ผมก็ตกตะลึง และยังช็อกอีกด้วย
คิดไม่ถึงว่าคนที่อยู่เบื้องหลังจะมีเบื้องหลังอีกชั้น ถ้างั้นเจ้าผีชั่วนั้นก็ต้องมีคนบงการนะซิ
หมอกหนาเริ่มจางลงทีละชั้น ขนาดที่ยังหาผีชั่วไม่เจอ บ้าเอ้ยดันมีปรมาจารย์ผีอะไรนั้นเข้ามาอีก
ได้ยินชื่อนี้ก็รู้ทันทีว่ามันไม่ใช่ของดีอะไร สวรรค์คงรับรู้ว่าเจ้านี้ไปก่อกรรมทำเข็ญไว้เท่าไหร่
ผมไม่พูดอะไร แต่นักพรตตู๋กลับแสดงสีหน้าสงสัย “แล้วปรมาจารย์ผีอยู่ที่ไหน”
“ปอ ปรมาจารย์ผี อยู่ในป่าช้าเก่าของวัดร้าง!”
“ฉัน ฉันรู้แค่นี้แหละ พวกคุณอย่าฆ่าฉันเลย เยี่ยนเยี่ยน อารองสำนึกได้แล้ว อารองแค่อยากทำให้เธอตกใจเท่านั้น ไม่ได้อยากฆ่าเธอเลยนะ!” พูดด้วยน้ำเสียงของคนร้องไห้ เขารู้สึกผิดแล้ว
แต่พวกเรากลับไม่สงสาร ทันใดนั้นอาจารย์ที่ยืนอยู่ข้างๆเขาก็ด่าว่า “แกหลอกคนอื่นได้ แต่หลอกพวกเราไม่ได้ ตะปูทุกข์ระทมที่ตอกลงในหัวของคุณหนูเหวิน หลังจากที่เธอตายแกเป็นคนตอกมันเข้าไปซินะ”
“แกบอกว่าแค่อยากทำให้คุณหนูเหวินตกใจ แล้วทำไมหลังจากที่เธอตายแกยังต้องใช้ตะปูทุกข์ระทมด้วยฮะ เป้าหมายของแกคือต้องการกดขี่วิญญาณ ควบคุมศพ ให้ไปทำร้ายครอบครัวของเขา ไอ้หน้าเนื้อใจเสือ ยังกล้ามาทำเป็นตีหน้าซื่อ”
อาจารย์ไม่เกรงใจ เปิดเผยหน้ากากจอมปลอมที่เหวินจ้งใส่อยู่ทันที
เมื่อเหวินจ้งได้ยิน เขาก็ตกใจ คิดไม่ถึงว่าพวกเราจะเห็นทุกอย่าง
แต่เขายังเล่นลิ้น “ฉัน ฉัน ฉันไม่ได้ทำ ใช่ฉันไม่ได้ทำ!”
“ฮึ! ใกล้จะตายอยู่แล้ว ยังไม่รู้จักสำนึกอีก! คุณหนูเหวิน อารองเป็นของคุณแล้ว” อาจารย์พูดออกมาอีกครั้ง
เมื่อเหวินจงได้ยินประโยคนี้ เสียงที่เคยสะอึกสะอื้นจากการร้องไห้ ก็หยุดทันที เขาไม่ส่งเสียงใดๆออกมา
ไม่เพียงแค่นี้ ทันใดนั้น เหวินจ้งก็เงยหน้าขึ้นเผยใบหน้าที่น่าเกลียดน่ากลัว “ในเมื่อไม่ยอมปล่อยฉันไป งั้นฉันก็จะฆ่าใครสักคน!”
หลังจากพูดจบ เขาก็หยิบยันต์ดำออกมาจากกระเป๋า เล็งมาที่ผมที่อยู่ใกล้สุด จากนั้นเขาก็พุ่งเข้ามาทันที
เมื่อจู่ๆเหวินจ้งพุ่งออกมา จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนคาดไม่ถึง
อาจารย์และนักพรตตู่ต่างตกใจ โดยเฉพาะวินาทีที่เห็นยันต์สีดำ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง
ยันต์แบ่งออกเป็นดีหรือชั่ว คาถาเองก็แบ่งออกเป็นดีหรือชั่วเช่นกัน สำหรับคาถาที่ชั่วร้าย ทุกคนต่างรู้ดีว่ายันต์ที่ใช้จะเป็นสีดำ
เมื่ออาจารย์เห็นสิ่งนี้ ก็รีบตะโกนบอกผมว่า “ระวัง!”
ในเวลาเดียวกัน ยังเอื้อมมือมาหยุดเหวินจ้งเอาไว้
แต่เหวินจ้งอยู่ตรงหน้าของผม ในระยะค่อยข้างใกล้ และยังเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน
ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่าการช่วยเหลือของอาจารย์นั้น มาไม่ทันแล้ว
และเจ้าเหวินจ้งยังมีใจคิดสังหาร จึงไม่ลังเลถือยันต์ดำที่อยู่ในมือ ตรงเข้ามาแปะที่นิ้วของผม……