MPE บทที่ 36 ยักษ์ใหญ่ที่อ่อนโยน
“แรดเหล็กของเธอยังไม่โตเต็มวัยใช่ไหม?” เกาเผิงกวาดตามองแรดเหล็กที่ยืนอยู่ด้านหน้า
แรดเหล็กที่โตเต็มวัยได้รับการยกย่องว่าเป็นสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่ในสุดท่ามกลางสัตว์อสูรชนชั้นนักรบ
ผิวของมันเหมือนกำแพงเหล็กกล้าที่สามารถป้องกันและปะทะกับสัตว์อสูรได้ทุกชนิด นอกจากนี้ หน่อบนศีรษะของมันก็ไม่ใช่เครื่องประดับที่ไร้ประโยชน์ แต่มันเป็นอาวุธที่ทรงอานุภาพมาก
“ถูกต้อง เม็ดบัวอายุเพียงแค่หนึ่งปีเท่านั้น แต่หากเปรียบเทียบกับมนุษย์ ก็คงราวๆ 12 ปี” มู่ไท่ยิงกล่าว
“หนึ่งปี” เกาเผิงรู้สึกทึ่ง
ทางด้านต้าซื่อที่ได้ยินบทสนทนา มันรีบยกตัวขึ้นมาเอนตัวลงบนไหล่ของเกาเผิงและพูดกับเด็กหนุ่มอยู่ในใจ “เค้าอายุ 3 ปี เค้าอายุ 3 ปี”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ จึงช่วยไม่ได้ที่เกาเผิงจะยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มและเขาลูบศีรษะต้าซื่อ “จ้าๆ ฉันรู้ว่านายอายุ 3 ปี”
เขามองไปที่แรดเหล็กตัวใหญ่ยักษ์
มันมีความสามารถทั้งด้านการโจมตีและการป้องกัน ขึ้นอยู่กับเจ้านายของมัน มู่ไท่ยิง ว่าจะใช้มันอย่างไร
“เธอต้องการให้เม็ดบัวเป็นสัตว์อสูรประเภทไหน?”
“ฉันต้องการให้เธอสัตว์อสูรสายป้องกันน่ะ” มู่ไท่ยิงลูบนอแรด “เม็ดบัวค่อนข้างขี้อายและขี้กลัวน่ะ เธอมักจะหลีกทางให้สัตว์ตัวเล็กตัวน้อยเสมอ”
ห๊ะ? นี่ทําให้เกาเผิงพูดไม่ออกและรู้สึกว่าไม่ควรตัดสินจากรูปร่างภายนอก
เมื่อถูกมองอย่างพิจารณาโดยเกาเผิง เม็ดบัวรู้สึกอาย มันจึงเอาหน่อดันมู่ไท่ยิงเบาๆ
“นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการ ถ้านายไม่พอใจก็ลืมๆ มันซะเถอะ” มู่ไท่ยิงกล่าวอย่างจริงจัง
เกาเผิงไตร่ตรองอยู่ชัวครู่ก่อนเปิดปากถาม “ตอนนี้มันขี้อาย แต่ถ้ามันโกรธล่ะ? มันจะเป็นยังไงเหรอ เธอเคยลองทำให้มันไม่พอใจเพื่อทดสอบความก้าวร้าวของมันหรือเปล่า? ฉันรู้มาว่าแรดเหล็กมีพลังโจมตีที่สูงมาก”
มู่ไท่ยิงมึนงงกับคำถามของเกาเผิง ก่อนจะเผยรอยยิ้มเขินอายออกมา “ขอโทษด้วย เพราะครอบครัวของฉันและฉันรักเธอมาก พวกเราปฏิบัติกับเธออย่างดีเสมอ ฉันไม่รู้ว่าเวลาเธอโกรธ เธอจะเป็นอย่างไร?”
“แต่เธอยังไงเธอก็เหมาะกับสัตว์อสูรสายป้องกันนะ เพราะความจริงที่ว่าเธอรู้สึกเจ็บปวดช้า มันจึงทำให้เธอมีความอดทนสูง”ความตั้งใจของมู่ไท่ยิงที่จะทำให้เม็ดบัวเป็นสัตว์อสูรสายป้องกันเริ่มค่อยๆหายไป
ใครก็ตามที่เห็นเม็ดบัวของเธอ พวกเขาจะคิดว่ามันแข็งแกร่งและดุดันแน่ๆ มันต้องเป็นสัตว์อสูรสายโจมตีแน่ๆ แต่ความเป็นจริงนั้น ด้วยนิสัยของมันไม่เหมาะกับสายโจมตีเลย เธอถอนหายใจ คิดว่าเกาเผิงต้องปฏิเสธรวมกลุ่มกับเธอแน่ๆ
เม็ดบัวที่รู้สึกถึงความหดหู่ของเจ้านาย เธอจึงก้มศีรษะลงมาหาคลอเคลียมู่ไท่ยิงเพื่อปลอบโยนเธอ
มู่ไท่ยิงหัวเราะและผลักศีรษะของมันออกไป “ฮ่ะๆ อะไรของเธอเนี่ย”
“เธอบอกว่าต้องการรวมกลุ่มกับฉันใช่ไหม? ฉันตกลง แต่มันอาจจะเงื่อนไขสักเล็กน้อย” เกาเผิงกล่าว
“ห๊ะ?” มู่ไท่ยิงตะลึง นี่ไม่ใช่คำตอบที่เธอคาดคิด เธอหันหน้ากลับมาเกาเผิง
เกาเผิงยักไหล่ “ถึงมันจะขี้อายแต่ก็ไม่เป็นไรหรอก ถ้าลองได้ฝึกฝนสักหน่อยความขี้อายของเม็ดบัวจะต้องหายไปแน่ๆ ถึงตอนนั้นเธอคิดเรื่องประเภทของสัตว์อสูรอีกทีนะ”
มันเป็นเรืองยากที่จะพบสัตว์อสูรที่มีพรสวรรค์ มีเพียงการฝึกฝนเท่านั้นที่จะทําให้พวกมันแข็งแกร่งขึ้น
จากนักเรียนทั้งหมด มีสัตว์อสูรระดับสมบูรณ์อยู่เพียงสองตัวเท่านั้น หนึ่งคือหมีเงาประกายสายฟ้าของเพือนร่วมชั้นของเกาเผิงและอีกตัวหนึ่งคือแรดเหล็กของมู่ไท่ยิง
การตรวจสอบระดับของสัตว์อสูรนั้นไม่ใช่เรืองง่าย อย่างไรก็ตามด้วยความสามารถพิเศษของเกาเผิง เขาสามารถบอกได้ทันทีทีมองเห็น
“สัตว์อสูรของเธอมีพรสวรรค์ เธอควรฝึกมันให้หนัก” เกาเผิงค่อยๆเดินเข้าไปหาเม็ดบัว
เม็ดบัวเริมรู้สึกประหม่าเมือคนไม่คุ้นเคยเดินเข้ามาใกล้
“เฮ้ ยักษ์สาว” เกาเผิงทักทายมันพร้อมรอยยิ้ม
“ฮือ…” เม็ดบัวครางออกมาเล็กน้อยก่อนจะวิ่งหนีไป
“มันขี้อายเกินไป เธอต้องฝึกมันอย่างหนักเลยนะ ฉันรู้ว่าเธอไม่เต็มใจที่จะทรมานมันจากการฝึกหนัก แต่ถ้าเธอไม่พยายามมันจะเป็นการทำลายอนาคตของเม็ดบัว” เกาเผิงกล่าว
…..
ก่อนกลับบ้านเกาเผิงแวะตลาดซื้อของบางอย่าง
ในที่สุดก็เวลาแล้ว ที่จะยกระดับต้าซื่อจากระดับสูงเป็นระดับสมบูรณ์แล้ว
เมื่อกลับถึงห้อง เกาเผิงเตรียมของอย่างระมัดระวัง เนื่องจากวัสดุทั้งหมดมีความเป็นพิษสูง หากเกิดอุบัติเหตุทีไม่คาดคิด เขาอาจพบปัญหาใหญ่
เกาเผิงสวมชุดสีขาวพร้อมผ้าปิดปากและถุงมือเหมือนนักวิทยาศาสตร์และยังสวมหมวกป้องกันรังสี นั่นทําให้ต้าซื่อรู้สึกขบขันและวิ่งไปรอบๆเกาเผิง
“อย่าซน เดี๋ยวก็ฉันก็ไม่ยกระดับให้ซะนี่?”
เกาเผิงใช้เวลาต้มวัตถุดิบเป็นเวลา 2ชัวโมง ในที่สุดเขาก็เปิดฝาหม้อทำให้ควันสีดำลอยขึ้นมา
หลังจากควันสีดำจางหายไป ในหม้อจึงเหลือเพียงตะกอนสีดำอยู่ด้านล่าง
เกาเผิงวางหม้อลงบนพื้น “ได้เวลาอาหารค่ำของนายแล้วต้าซื่อ”