MPE บทที่ 31 การฝึกพิเศษ
1ชั่วโมงผ่านไปอย่างรวดเร็ว นักเรียนส่วนใหญ่ ประสบความสำเร็จ มีนักเรียนเพียงไม่กี่คนที่ถูกกักตัวเอาไว้และพยายามฝึกกับสัตว์อสูรของตนอย่างดุเดือด
ตัวอย่างเช่น นักเรียนชายอ้วนเตี้ยผู้หนึ่งที่ครอบครองฮัสกี้ขนทองสัตว์อสูรระดับสูง
ตั้งแต่ที่เจ้าฮัสกี้มันได้ยกระดับมา มันก็สร้างปัญหาให้เขามาขึ้น ขณะที่คนอื่นๆ ทำการประเมินเสร็จแล้ว แต่ของเขาไม่วี่แววว่าจะทำได้เลย เพราะเจ้าฮัสกี้กำลังสนุกกับการวิ่งเล่น “กลับมานะ กลับมาเดี๋ยวนี้นะ!”
ฮัสกี้ขนทองหันหน้ากลับมามองเจ้านายของมันและเผยใบหน้าขบขันเมื่อเห็นการแสดงออกของเด็กอ้วน หลังจากนั้นมันยังเพิ่มความเร็วขึ้นอีกด้วย
เด็กคนอื่นๆ ทำได้เพียงถอนหายใจเมื่อเห็นสหายคนนี้
“เพื่อน นายเลือกฮัสกี้ขนทอง มาพันธะสัญญาเลือด มันเป็นสัตว์อสูรที่เอาแต่ใจ บางทีวันหนึ่งมันอาจร่วมมือกับสัตว์อสูรป่ารังแกนายก็ได้”
ทันใดนั้นฮัสกี้ขนทองกลับหยุดฝีเท้าลงอย่างกะทันหัน มันขมวดคิ้วและมองไปยังหมาป่าจันทราสีเงินตัวโตที่ยืนอยู่ด้านหน้า
หมาป่าจันทราสีเงินมองมันด้วยสายตาเย็นชาและเริ่มขู่คำรามเสียงต่ำ
“โฮ่งโฮ่ง…โอวโอว…” ฮัสกี้ขนทองพยายามเลียนแบบ แต่หมาป่าจันทราสีเงินกลับพุ่งเข้ามาใช้อุ้งเท้าตบศีรษะฮัสกี้ขนทองและเหยียบมันลงไปที่พื้นในพริบตา
ฮัสกี้ขนทองไม่ได้ต่อต้านขัดขืน มันเพียงนอนนิ่งอย่างน่าสมเพชอยู่บนพื้นเท่านั้น
ในกลุ่ม 10 มีนักเรียน 3 คนเท่านั้นที่ล้มเหลวในการฝึกครั้งนี้ทั้ง 3คนถูกนำตัวไปฝึกอบรมเป็นการส่วนตัว สำหรับ 35 คนที่เหลือ พวกเขาเข้าสู่การฝึกขั้นที่สอง
ผู้ฝึกสอนทหารจางออกคำสั่งให้หมาป่าจันทราสีเงินโจมตีกำแพงอิฐเพื่อเป็นตัวอย่าง เมื่อได้รับคำสั่งจากเจ้านาย หมาป่าจันทราสีเงินจึงถอยหลังกลับสองสามก้าว ย่อตัวลง จากนั้นจึงพุ่งออกไปในอากาศอย่างรวดเร็วก่อนที่มันจะ บิดตัวเอาหางขนาดใหญ่ฟาดไปราวกับแส้เหล็ก มันฟาดกำแพงอิฐอย่างรุนแรง
*ปัง*
เสียงดังขึ้นพร้อมกับกำแพงอิฐที่พังทลายลง
“ทหารกองกำลังพิเศษจะได้รับการฝึกฝนให้สามารถต่อสู้ภายใต้สถานการณ์ที่ปราศจากอาวุธ สัตว์อสูรก็เช่นกัน สิ่งที่แตกต่างมีเพียงวิธีการฝึกฝนเท่านัน”
“เดิมทีหมาป่าจันทราสีเงินตัวนี้เป็นเพียงลูกหมาป่าที่ไร้พิษสงแต่ฉันได้ติดปีกให้มัน ทำให้มันร้ายกาจได้ถึงขนาดนี้”
ผู้ฝึกสอนจางลูบศีรษะหมาป่าจันทราเงินของตนอย่างแผ่วเบา
“ความแข็งแกร่งของหมาป่าจันทราสีเงินไม่ได้อยู่ที่ปลายหาง แต่หลังจากผ่านการฝึกฝนมานานหลายเดือน มันจึงสามารถพัฒนาความสามารถชนิดนี้ขึ้นมาและมันยอดเยียมกว่าการใช้คมเขี้ยวหรือกรงเล็บนี่เป็นตัวอย่างการฝึกฝนที่ฉันตัดสินใจเลือกด้วยตัวเอง”
หลังกล่าวจบคำ ผู้ฝึกสอนจางจึงหันหน้าไปทางผู้ฝึกสอนอีกคน “หลี่นายแสดงความสามารถของหมาป่าจันทราสีเงินของนายให้ทุกคนได้เห็นทีสิ”
ผู้ฝึกสอนอีกคนที่ถูกเรียกว่าหลี่พยักหน้า เขามองสัตว์อสูรของตนก่อนจะโยนอิฐก้อนหนึ่งขึ้นสู่อากาศ
หมาป่าจันทราเงินที่นอนอย่างเกียจคร้านในตอนแรก ได้ทะยานร่างขึ้นไปและเปิดปากขย้ำอิฐก้อนนั้นจนกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยร่วงหล่นสู่พื้นแทบจะในทันที
นี่คือพลังอํานาจในการกัด!
“นี่คือการสาธิตกลยุทธ์ในฝึกฝนของเรา ต่อไปพวกเธอต้องตัดสินใจและพัฒนาวิธีฝีกของตนเองขึ้นมา” ผู้ฝึกสอนจางกล่าว “แต่ก่อนที่พวกเธอจะเริ่มต้น ฉันขอแนะนำให้พวกเธอใช้วัสดุที่หาง่าย เช่น ในการพัฒนารูปแบบการกัด พวกเธอควรเลือกใช้ท่อนไม้ในการเริ่มต้น จากนั้นค่อยพัฒนาเป็นวัสดุชนิดอื่นต่อไป พวกเธอควรเตรียมอาหารและยาจำนวนมาก ของเหล่านี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการฝึกฝนของพวกมันเช่นกัน”
ผู้ฝึกสอนจางชี้ไปที่รถบรรทุกคันโต บนรถบรรทุกนายทหารสั่งให้ลิงขนแดงยกลังไม้จำนวนมากลงมา
“ในลังไม้เหล่านี้มีสิ่งจำเป็นในการฝึกฝนของพวกเธออยู่ ฉันต้องการสองสามคนจากกลุ่ม 10 นำลังมาที่นี่”
เด็กผู้ชายสองสามคนยกมือรับหน้าที่อย่างกระตือรือร้นราวกับมันเป็นงานที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับพวกเขา อย่างไรก็ตามเกาเผิงกลับสนใจลิงขนแดงที่ยกลังไม้ลงมามากกว่า
หลังจากนำลังไม้ลงมา นายทหารจึงมอบพริกสีแดงให้เป็นรางวัลกับพวกมัน เมื่อลิงขนแดงกินพริกแดงเข้าไป เส้นขนบนศีรษะของมันยิงส่องประกายทำให้มันดูราวกับเปลวเพลิงลุกไหม้ขึ้นอย่างรุนแรง
เกาเผิงหันหน้ามองต้าซื่อและเริ่มคิดวิธีฝึกมัน
‘ความเร็วงั้นเหรอ? ตะขาบมีความเร็วที่ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว แต่การฝึกความเร็วนั้นยากมาก
พลังโจมตี? นี่ก็น่าสนใจเช่นกัน ด้วยขากรรไกรของต้าซือแข็งแกร่งมาก เหยื่อที่ติดอยู่ในปากของมันแทบจะไม่สามารถหลุดออกมาได้ เขายังสามารถฝึกการเจาะทะลวงด้วยขานับร้อยที่แหลมคมของมัน
นอกจากนี้ หลังจากการยกระดับ ทำให้ต้าซื่อได้รับคุณสมบัติธาตุสายฟ้าอีกด้วย เมื่อมันกลายเป็นสัตว์อสูรชนชั้นนักรบ มันจะสามารถปล่อยสายฟ้าออกมาจากร่างกายได้ นอกเหนือจากนี้ มันยังมีพิษที่ร้ายแรง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าอาวุธสังหารในปัจจุบันของมันก็คือพิษไม่ใช่ขากรรไกร การเพิ่มความแรงของพิษถือเป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน
พลังป้องกัน? มันมีเปลือกที่แข็งแกร่ง การป้องกันก็ไม่ใช่จุดอ่อนของต้าซื่ออีกด้วย’
หลังจากคิดไปคิดมาก็ทําให้เกาเผิงรู้สึกลําบากใจเล็กน้อยและเขาไม่รู้ว่าควรเริ่มจากจุดใดดี