ตอนที่แล้วChapter 154 – Great Plains of Barrastan (5) [22-04-2020]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 156 – Great Plains of Barrastan (7) [26-04-2020]

Chapter 155 – Great Plains of Barrastan (6) [24-04-2020]


Chapter 155 – Great Plains of Barrastan (6)

โอเปอเรเตอร์ได้กล่าววลีออกมา

[สิ่งสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่สำหรับมนุษย์ชาติ]

[ที่มันไม่สามารถจะส่องแสงออกมาได้ต้องขอบคุณ]

[ผู้ที่มีความโลภมากเพียงผู้เดียว]

[ในระหว่างการโจมตีที่น่าตกใจของปีศาจ]

[มันได้เข้าไปในหน้าอกของชายผู้ชอบธรรม วัตถุศักดิ์สิทธิ์]

"หืม...มันคืออาวุธ แต่ว่ามันได้เอามาใช้อย่างไม่ถูกต้ิองและถูกทิ้งเอาไว้ในหน้าอกของชาติที่ชอบธรรม"

มันเป็นบนกวีที่ง่ายและยากในเวลาเดียวกัน วังจินได้หันไปมองรอบๆในพื้นที่นี้มันมีเพียงแต่พวกปีศาจเท่านั้น และไม่มีมนุษย์อื่นเลย นั่นก็คือแทนที่จะเป็นสิ่งมีชีวิต มีแต่ซากศพทับถมกันจนเป็นภูเขา เบสโกโร่ได้พึมพัมขึ้น

'...มันจะใช่หนึ่งในซากศพที่เราเห็นกันมาก่อนที่จะมาถึงที่นี่หรือป่าว?'

ซังจินได้ครุ่นคิดและพูดออกมา

"นั่นมันน่าจะใช่"

ดูเหมือนว่าการค้นหาชิ้นส่วนลับเขาก็จะต้องค้นซากศพทั้งหมด ซังจินได้ถามเกี่ยวกับบอสลับต่อในทันที

"แล้วคำใบ้เกี่ยวกับบอสลับคืออะไร?"

[นักวิจัยเวทมนตร์ที่สันโดษ]

[เขากำลังมองหาวิธีการเติมมานาเพื่อการวิจัย]

[ลอยเข้ามาดูสงครามที่ดำเนินไป]

[สังเกตุการจากท้องฟ้า]

[สำหรับแสงสีฟ้าอ่อนแล้วมันจะเป็นสิ่งเล็กๆจากการต่อสู้ด้านล่าง]

"หืมมม...."

เบสโกโร่ได้พูดออกมาสั้นๆ

'ฉันไม่ได้อะไรจากมันเลย'

ซังจินก็รู้สึกเหมือนกัน ในเวลานี้เขาได้เงยหน้าขึ้นไปมองบนท้องฟ้า ในท้องฟ้าที่กล้างใหญ่เหนือพื้นที่ราบนี้มันยาวไปจนสุดขอบฟ้า มันเพียงสามารถจะเห็นอินทรีหัวล้านมาตามร่องรอยของศพได้เป็นครั้งคราว

"มันอาจจะไม่มีทางเลย...ที่บอสมันคืออินทรีหัวล้านนั่น"

'ตั้งแต่ที่มันเป็นนักวิจัยเวทมนตร์ที่สันโดษมันก็ไม่ใช่ว่าจะต้องเป็นคนไม่ใช่หรอ? นักเวทย์ที่ใช้เวทย์บินบนท้องฟ้า?'

ในตอนนี้ซังจินไม่ได้มีเวลามากนักเขาได้คิดสั้นๆเกี่ยวกับทั้งสองหัวข้อและจากนั้นก็ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว

"ถ้างั้นสำหรับตอนนี้ฉันจะมองหาศพก่อน ในขณะที่ฉันกำลังทำแบบนี้ เบสโกโร่และมูนสเปคช่วยมองไปบนท้องฟ้าด้วยนะ มันอาจจะมีอะไรที่บินอยู่เหนือท้องฟ้านอกเหนือจากอินทรีย์"

'โอเค'

'เข้าใจแล้วนายท่าน'

ซังจินได้มองลงมาที่เอลและได้นึกถึงบางอย่าง

'อ่า....'

ในตอนนี้เขาได้นึกออกว่าเขาได้ใช้ชาโดวรันไปแล้วในก่อนหน้านี้

'แม้ว่าเขาจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในพื้นที่ราบ....'

ซังจินได้หยิบเอาพรมออกมาแทน เขาสามารถจะเรียกราร์ออกมาแทนได้แต่ว่าเขาไม่ทำมัน เพราะว่าเขาสามารถใช้ในการต่อสู้ได้

ซังจินได้ขึ้นไปบนพรมเวทย์และเริ่มที่จะสำรวจไปรอบๆพื้นที่นี้ในขณะที่บินต่ำๆ ในขณะที่บินไปรอบๆเขาได้เห็นซากศพของมนุษย์สุมกันอยู่ ปีศาจได้เอาซากศพนี้มาวางไว้อย่างไม่ระมัดระวังจนเป็นภูเขา

ซังจินได้หยุดอยู่ที่นั่นและลงจากบน นกอินทรีย์หัวร้านก็ได้โฉบไปมาใกล้กับซากศพ ในตอนนั้นเองนกอินทรีย์ก็ได้หยุดลงจากการกินศพและหันมามองที่ซังจินเมื่อเขาเข้ามา สายตาของพวกเขาเหล่านั้นดูเหมือนจะถามว่า

'นายต้องการอะไร?'

อย่างไรก็ตามซังจินก็ได้มองกลับไป

"พรึบ พรึบ"

นกอินทรีได้กลัวและหลบหนีออกไปในทันทีที่มันรู้เจตนารมณ์ของซังจิน ซังจินได้เดินเข้าไปหากองซากศพ แม้ว่าเขาจะเคยได้กลิ่นใดๆมาก็ตามแต่มันก็เป็นเรื่องยากที่จะยอมรับในกลิ่นของศากศพที่เน่าเปื่อย

ซังจินได้ย่นจมูกในขณะที่สำรวจซากศพไปทีละคน อบ่างไรก็ตามมันมีบางอย่างที่แปลกๆเกี่ยวกับศพ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าหรือเสื้อกั๊กของพวกเขา สถานที่ใดๆที่มันจะ 'ซ่อนอะไรบางอย่าง' ได้ถูกค้นจนหมด

เขาไม่รู้ว่าพวกปีศาจได้เอามันไปหรือไม่ แต่ในตอนนี้มันดูเหมือนว่าเขาจะไม่พบ 'วัตถุศักดิ์สิทธิ์' ในซากศพเหล่านี้

ซังจินได้ขึ้นไปบนพรมอีกครั้งและสำรวจไปรอบๆต่อ มันมีกองซากศพที่คล้ายกับอันที่แล้วอยู่ไม่ไกล มันมีความสู.ประมาณ 1.5 เมตร มันดูเหมือนว่าพวกปีศาจมันจะชอบทำอะไรให้มันกองๆเพื่อความสัมพันธ์กับส่วนสูงของตนเอง

ซังจินได้เดินเข้าไปและเริ่มค้นหาในกองซากศพอีกครั้ง มันดูเหมือนว่าปีศาจก็ได้ค้นไปแล้ว มันไม่มีอะไรที่เหมือนกับ 'วัตถุศักดิ์สิทธิ์' อยู่เลย เบสโกโร่ได้พึมพันขึ้น

'ถ้ามันเป็นแบบนี้...เมื่อไหร่เราจะเจอมันล่ะ?'

ซังจินก็จะต้องคิดอย่างนั้นอยู่แน่นอน จากนั้นเขาก็ถามโอเปอเรเตอร์อีกครั้ง

"โอเปอเรเตอร์ช่วยบอกฉันเกี่ยวกับคำใบ้ชิ้นส่วนลับอีกทีทีสิ"

ในไม่ช้าโอเปอเรเตอร์ก็ได้ท่องบทกวีขึ้นอีกครั้ง

[สิ่งสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่สำหรับมนุษย์ชาติ]

[ที่มันไม่สามารถจะส่องแสงออกมาได้ต้องขอบคุณ]

[ผู้ที่มีความโลภมากเพียงผู้เดียว]

[ในระหว่างการโจมตีที่น่าตกใจของปีศาจ]

[มันได้เข้าไปในหน้าอกของชายผู้ชอบธรรม วัตถุศักดิ์สิทธิ์]

'....หน้าอกผู้ชอบธรรม'

ซังจินได้ขึ้นไปบนพรมและบินสู.ขึ้นเล็กน้อย มันมีศพจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่ในที่ราบบาราสตันแห่งนี้

"ชายผู้ชอบธรรม..."

เขาไม่รู้ว่านั่นมันหมายถึงอะไร แต่มันก็ควรจะมีอะไรซักอย่างที่พิเศษจากปกติ มันไม่ได้ดูเหมือนว่าชิ้นส่วนลับจะอยู่ในกองศพพวกนี้ ซังจินได้ตัดสินใจที่จะมองไปรอบๆแทนที่จะมองไปที่กองศพนับไม่ถ้วน

ในขณะที่เขามองไปรอบๆเพื่อหาผู้ชอบธรรม เขาก็ยังได้วิ่งเข้าไปในกลุ่มของพวกปีศาจที่เจอที่อีก

"หืมมม..."

ซังจินได้ขมวดคิ้ว อย่างไรก็ตามมันไม่มีวิธีอื่นในการค้นหานอกจากวิธีนี้ เขาได้เริ่มการค้นหาอีกครั้งบนพรมเวทย์ ในตอนนั้นเองเขาก็เจอกับแม่น้ำขนาดใหญ่ตัดผ่านตรงกลางที่ราบ

ซังจินได้ตรวจสอบพื้นที่รอบๆลำธารเนื่องจากว่ามันดูจะแตกต่างออกไปจากที่อื่นๆ เขายังบินไปตามลำธารอีกด้วย

ในขณะที่สำรวจใกล้ๆลำธารเขาก็ได้เห็นบางสิ่งบงอย่าง มันเป็นร่องรอยคราบเลือดที่มุงหน้าต่อไปตรงลำธาร ซังจินได้รีบเข้าไปในตรงนั้นทันที ในตอนนี้ที่เขามองมันดีๆมันยังมีศพของม้าอยู่ใกล้ๆอีกด้วย

'แปลก'

ซังจินได้ตามร่องรอยเลือดและเดินต่อไปตมลำธาร เมื่อเขาทำแบบนั้นเขาก็ได้พบซากศพที่ตายด้ยตัวท่อนบนที่ติดอยู่ในลำธาร

เขาไม่รู้ว่ามันเป็น 'ความชอบธรรม' หรือไม่ แต่ว่าในกรณีแบบนั้นมันค่อนข้างเห็นได้ชัดว่ามันเป็นศพที่พิเศษ ซังจินได้เดินเข้าไปหาศพ เบสโกโร่ก็พูดออกมา

'สหายนี่ได้บาดเจ็บที่ข้อเท้าหลังจากที่ตกมา ความเสียหายที่ร้ายแรงก็...เหมือนจะเป็นลูกธนูที่ปักหลังอยู่'

ซังจินได้มองลงไป ตามที่เบสโกโร่พูดไว้ข้อเท้าของศพได้บิดงอ

'มันดูเหมือนว่าเขาได้คลานมาที่นี่หลังจากที่บาดเจ็บหนัก...แต่มันก็ไม่น่าใช่ที่เขาจะคลานมาเพื่อที่จะดื่มน้ำ'

ซังจินได้จับศพเอาไว้และดึงมันออกมาจากน้ำ

"กูวว...."

กลิ่นของศพมันน่ารังเกียจเป็นปกติอยู่แล้ว แต่นี่มันได้ยิ่งแย่ลงไปอีกในตอนที่อยู่ใต้น้ำ ซังจินได้มองลงไปที่เสื้อกั๊กของเขา ชายผู้นี้ได้สวมใส่เกราะแผ่นซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะมีตำแหน่งที่ค่อนข้างสูง

'แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ผู้บัญชาการ เขาก็น่าจะเป็นรองผู้บัญชาการ?'

ซังจินได้ตัดเกราะออกไปด้วยดาบของเขา ด้านในนั้นเขาสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำมาจากหนังอยู่ ซังจินได้คนหาผ่านมัน แต่แล้วเขาก็ไม่พบอะไร

"เวร....."

เขาได้ทำมันมามาก แต่ว่ามันไร้ค่า

'นายท่าน'

อย่างไรก็ตามมูนสเปคได้พูดขึ้น

'นั่น ข้างในอกเขา'

"หือออ?"

ซังจินได้ตรวจสอบไปที่หน้าอกของซากศพตามคำพูดของมูนสเปค ภายในอกนี้ที่มีน้ำขังอยู่มันมีบางสิ่งที่ส่องแสงสีน้ำเงิน

"ขอโทษนะ"

ซังจินได้ขอโทษสั้นๆและผ่าหน้าอกของศพออก จากนั้นเขาก็ยื่นมือเข้าไปและคว้าวัตถุที่ส่องแสงสีฟ้า มันแข็ง ซังจินได้คิดขึ้น

'นี้มันคืออะไร?'

ในขณะนั้นเองโอเปอเรเตอร์ก็ประกาศขึ้น

[ขอแสดงความยินดีด้วยคุณได้รับชิ้นส่วนลับ]

[การเตรียมการสุดท้ายของอเลนดิล]

'เยี่ยม'

มันดูเหมือนว่ชายคนนี้จะจมน้ำตายอย่างตั้งใจและการจมน้ำตายของเขาได้ซ่อนมันเอาไว้ ซังจินไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ไม่ว่ายังไงเนื่องจากว่ามันบอกว่าการเตรียมการขั้นสุดท้ายมันก็ไม่สามารถจะปฏิเสธได้เลยว่ามันไม่สำคัญ และเพราะเขาได้ปกป้องมันเอาไว้แม้ในขณะที่กำลังจะตายเขาก็เป็นคนที่มีควมชอบธรรม

ซังจินได้เอามันออกมาและล้างเลือดออกไป มันเป็นอัญมณี อัญมณีสีน้ำเงินแปลกๆซึ่งดูเหมือนมันจะมีเมฆลอยอยู่ด้านใน ความคิดบางอย่างได้แล่นเข้ามาในใจของเขาเมื่อมองไปที่มัน

'นี้...มันป้่อมปราการสุดท้าย? แต่ฉันก็รู้สึกเหมือนเคยเห็นมันมาจากที่ไหนซักแห่ง....'

ซังจินได้ทำอย่างที่เขาได้ทำมันมาเสมอเขาได้วางมันเอาไว้บนหัว อย่างไรก็ตามในขณะนั้นเองเสียงบางอย่างที่ลอยผ่านอากาศก็ได้ดังออกมา

'วิ่ววววว'

ซังจินได้เก็บอัญมณีลงกระเป๋าไปและหยิบดาบออกมา ในเวลานั้นเองก็ได้มีชายคนหนึ่งปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าเขา

"ฟึบ!"

เป็นชายร่างงามสูงประมาณ 180 ซม. มีจมูกยาว ดวงตาสีฟ้าและผมสีบลอนด์

ซังจินได้มองไปที่เขา

'คนๆนี้คือใคร?'

จากนั้นชายคนนั้นก็พูดขึ้น

""ส่งอัญมณีนั่นมาให้ฉัน มนุษย์"

สำหรับคำว่า 'มนุษย์' นี้มันสามารถหมายความได้อย่างเดียวว่าชายคนนี้เป็นอะไรบางอย่างที่มีรูปร่างคล้ายมนุษย์เท่านั้น ซังจินได้ถามเขากลับไป

"แล้วถ้าฉันปฏิเสธล่ะ?"

ชายคนนั้นก็ได้ตอบกลับมาว่า

"ถ้างั้นนายก็จะตาย"

มันมีความมั่นในใจน้ำเสียงของเขา ซังจินได้ขบฟันเอาไว้ คนที่จู่ๆปรากฏตัวขึ้นมาจากท้องฟ้าจะต้องเป็นบอสลับ และถ้าหากซังจินคาดการณ์ไม่ผิดเขาคือ

"นาน....นายเป็นมังกรด้วยใช่มั๊ย?"

ชายคนนั้นได้หยักหน้าในขณะที่ตอบคำถามซังจิน

"ถูกแล้ว ฉันเป็นมังกร ระหว่างฉันกับนายมันมีช่องว่างของความแข็งแกร่งที่กว้างเท่ากับโลกและท้องฟ้า ฉันได้เห็นนายฆ่าปีศาจพวกนั้นมาในก่อนหน้านี้ มันเห็นได้ชัดว่านายเป็นมนุษย์ที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามถ้าพูดถึงการต่อต้านฉัน มันก็จะไร้ความหมาย นายเข้าใจในสิ่งที่ฉันได้พูดใช่มั๊ย?"

ซังจินได้เริ่มคิดอย่างรวดเร็ว

'ถ้าอย่างนี้แล้วชิ้นส่วนลับและบอสลับได้ถูกเชื่อมโยงเข้าไว้ด้วยกัน ถ้าฉันไม่ได้มอบมันให้เขา ฉันก็จะตาย...'

ซังจินได้เตรียมตัวพร้อมที่จะต่อสู้กับชายคนนั้น แต่ยังไงก็ตามถ้าหากว่าเขาเป็นมังกรจริงๆ มันก็เห็นได้ชัดว่าเขาจะอยู่ในระดับเดียวกับอาเรี่ยน หรือไม่ก็แกร่งกว่า

'การต่อสู้ตรงๆมันเป็นไปไม่ได้ ถ้างั้น....'

ในขณะที่ซังจินคิดอยู่ ชายคนนั้นก็ถามขึ้น

"นาย...มนุษย์ แหวนสีน้ำเงินนั้น นายไปได้แหวนนั่นมาจากที่ไหน?"

ในบรรดาแหวนหลายๆวงของซังจิน ชายคนนี้ได้ชี้ไปที่ 'แหวนของจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่' แหวนของจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่นั่นเป็นของที่อาเรี่ยนได้มอบมันให้กับเขา อย่างไรก็ตามในตอนนี้ที่เขาได้มองไปที่มัน มันมีอัญมณีที่เหมือนกันกับอัญมณีทรงกรมที่เขาได้ถือเอาไว้อยู่

มันมีสีฟ้าเป็นรูปร่างของเมฆลอยอยู่ด้านในของมัน ดูเหมือนว่ามังกรกำลังมองหาเจ้าอัญมณีนี้ ในขณะที่ซังจินกำลังคิดสิ่งนี้มังกรก็ได้พูดอีกครั้ง

"ตอบฉันมา นายไปเจอแหวนนั่นมาจากที่ไหน?"

แต่ว่าคำพูดเหล่านี้ได้ส่งอะไรบางอย่างเข้าไปในซังจิน แม้ว่าปากของเขาจะปิดอยู่ แต่อยู่ดีๆปากของเขาก็ได้เปิดออกมาเองโดยไม่ตั้งใจและพูดออกมา

"ฉันได้รับมันมาจากมังกรที่ตัวหนึ่ง"

"มังกรหรอ?"

"ใช่"

"หืม... จากใคร?"

ในเวลานี้ซังจินก็ได้ปิดปากเงียบเอาไว้ แต่อย่างไรก็ตามชายคนนั้นก็ได้ถามอีกครั้งด้วยเสียงที่แข็งขึ้นเล็กน้อย

"ตอบฉันมา นายได้รับแหวนมาจากใคร?"

ซังจินได้พยายามที่จะปิดปากเอาไว้ แต่แล้วปากมันก็ได้เปิดเองและตอบคำถามกลับไป

"อาเรี่ยน"

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด