บทที่ 94 - มอบอิสระภาพ (1)
บทที่ 94 - มอบอิสระภาพ (1)
”
ในฐานะที่เป็นระดับ S ผู้ที่มาที่วินเดอแมร์เพราะคำขอจากฮวาหยา ฉันได้รับการปฏิบัติเป็นอย่างดี
เนื่องจากมีพื้นที่ดันเจี้ยนปรากฏขึ้นทำให้องกฤษได้สร้างอาคารสำครับผู้ใช้พลังที่วินเดอแมร์ขึ้น แม้ว่าจะมองไม่เห็ยอะไนจากภายนอก แต่ว่าเมื่อเห็นจากภายในมันก็น่ามหัศจรรย์อย่างแม้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันเป็นอาคารสูง ธรรมชาติของผู้ใช้พลังจะชอบอยู่บนชั้นสูง
ฉันได้รับห้องที่อยู่ในชั้นเดียวกับพอลและไมค์จากทีมของฮวาหยา มันเป็นชั้นรองสูงสุดของอาคาร ชั้นที่สูงกว่านี้ก็คือห้องของโจชัว บริทแมน สำหรับมื้ออาหารฉันสามารถจะกินอาหารที่โรงอาหารหรือสั่งให้มาเสิร์ฟที่ห้องก็ได้ หลังจากที่ถูกเตะออกมาจากดันเจี้บยฉันก็ได้กลับมาที่ห้องในโรงแรมหลังจากไปพื้นที่พักอาศัย หลังจากได้งีบหลับสั้นๆฉันก็ได้เลือกที่จะไปโรงอาหาร พอลและไมค์ทั้งคู่ได้ต้อนรับฉันอย่างดีและต้องการที่จะคุยกับฉันในขณะที่กินอาหารกิน
"แล้ว TK นายมาจากประเทศไหนหรอ?"
"อย่างที่ฉันพูดไปอย่าเรียกฉันว่า TK...แล้วก็นั่นมันก็แน่นอนว่าเป็นความลับ"
"ฉันรู้ว่าการระวังตัวของนายมันสูงนะ แต่ฉันคิดว่านายคงจะเป็นคนเกาหลี"
"ใช่ มัสติฟอร์ดได้บอกไว้เสมอว่าแม่ของเธอต้องการลูกเขยเป็นคนเกาหลี"
"ฟู่..."
ฉันได้ถอนหายใจออกมาสั้นๆ แล้วฉีกขนมปังมาอันหนึ่งก่อนใส่ไปในปาก
"งั่ง งั่ม...ฉันไม่ได้มีความสัมพันธ์กันแบบนั้นนะ ฉันนะไม่คิดอะไรหรอก แต่ว่าถ้าเป็นฮวาหยาเธออาจจะโกรธได้นะ"
"ใช่ เธอเกลียดการที่คนอื่นๆบังคับเรื่องความสัมพันธ์โดยที่ไม่สนความรู้สึกของเธอ"
เสียงที่ไม่ใช่ทั้งของฉัน พอล หรือไมค์ได้ดังขึ้นในขณะที่ฉันดื่มชาแดง
"ฮ่า...มันหวาน"
"แน่นอนดูสินายใส่น้ำตาลไปแค่ไหน....นายก็รู้นี่เป็นชาแดงไม่ใช่ชานม TK"
"บางทีนายอาจจะไม่ได้ยิน?"
ในขณะที่ฉันกับไมค์กำลังคุยกัน เสียงนั่นก็ดังขึ้นอีกครั้ง ฟู่ ฉันได้ถอนหายใจและหันหน้าไปมองที่มาของเสียงนั้น ฉันได้เห็นชาวสูงยืนใส่ซูทอยู่ตรงนั้น เขามีร่างกายที่ใหญ่ และมีผมสั้นสีเงินที่ถูกเซ็ทจนมันวาว ดวงตาสีน้ำเงินของเขากำลังมองมาที่ฉันด้วยนัยยะบางอย่าง แม้ว่าฉันจะได้มาว่าเขามีอายุ 30 ต้นๆ แต่เขาดูเหมือนอายุเพียง 20 ไม่ว่ายังไงจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งของเขาสามารถรู้สึกได้นี่พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเป็นระดับ SS อีกคนหนึ่ง
เขาได้ยื่นมือมาทางฉัน
"ฉันโจชัว บริทแมน ยินดีที่ได้พบ"
"อ่า...อืม ฉัยไม่อยากจะพูดว่ายินดีที่ได้พบ แต่ก็สวัสดี ฉันอัศวินสายฟ้า ฮวาหยาได้เชิญฉันมาที่นี่"
เมื่อฉันได้จับมือของเขาก็คิดว่า 'นี้มันเป็นสถานการณ์ที่คุ้นเคย' เขาได้ใส่แรงทั้งหมดลงไปในมือเหมือนกับในหนังเก่าๆ ในตอนนี้ฉันได้คิดว่าอย่างจริงจังว่าควรโต้กลับไปดีไหม แต่แล้วฉันก็ไม่ได้ทำ
"ฉันได้ยินมาว่านายเป็นระดับ SS นายนี่แข็งแกร่งจริงๆ ด้วยการจับมือที่แข็งแรงเช่นนี้มันอาจจะยากที่จะใช้ชีวิตตามปกติ ดูเหมือนว่านายจะต้องฝึกควบคุมแรงซักหน่อยนะ"
"หา! น่าสนใจอะไรแบบนี้"
"ฉันไม่เห็นว่านายจะน่าสนใจเลย นายอาจจะต้องฝึกเล่นตลกอีกด้วยนะ"
ฉันได้โต้ตอบกลับไปในขณะที่เช็ดมือตัวเองด้วยผ้าหลังจากที่จับมือไป ชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหลังของโจชัว บริทแมนได้โกรธและก้าวเท้ามาเบื้องหน้า เขามีผมสีบลอนด์และมีดวงตาสีฟ้าเหมือนกับบริทแมน ฉันรู้ได้ทันทีเลยว่าเขาเป็นระดับ S ของอังกฤษ
"เป็นชาวเอเชียสะเออะไรแบบนี้"
"ถ้านายต้องการจะด่าฉันว่าสะเออะ นายก็ไม่ควรที่จะเข้ามากวนฉันในเวลาอาหารและไปซะนะคุณคนตะวันตก"
ฉันได้ตอบกลับไปอย่างเย็นชาและหยิบถ้วยชาขึ้นมาดื่ม ในเวลาเดียวกันพอลและไมค์ก็หัวเราะกันออกมา
"เขาทำได้ดีเลย ทอมมี่! ใช่แล้ว นายไม่ควรจะมานะ"
"นายควรจะกลับไปดื่มชาได้แล้วนะ เอ๊ะทอมมี่?"
"อย่าเรียกฉันว่าทอมมี่!"
ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นระดับ S ที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี ฉันรู้มันได้จากบทสนทนาก่อนหน้านี้ อืม อ่อ ฉันใส่น้ำตาลมากเกินไป ครั้งต่อไปฉันจะต้องลดมันลงเหลือแค่ซัก 12 ช้อนก็พอ
จากนั้นประตูห้องอาหารก็ได้ถูกเปิดขึ้น ห้องอาหารนี่มันได้สว่างขึ้นในทันตานี่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนที่มาก็คือฮวาหยา
"ชิน TK! ฉันบอกนายว่าเราควรจะกิน...หยี้ บริทแมน..."
ไม่ เดี๋ยวนะ TK? ทำไมเธอถึงพูดแบบนี้ล่ะ!? ฉันบอกให้เธอเรียกฉันว่าจอน สมิท! ในขณะที่ฉันบ่นในใจฉันก็ได้ส่ายถ้วยชาที่ตอนนี้ว่างเปล่า แต่ดูเหมือนว่าฮวาหยาจะไม่เห็นมัน
"โอ้! คุณก็ยังคงดูสวยเหมือนเดิมเลย คุณมัสติฟอร์ด""
"นายก็ยังน่าขยะแขยงเหมือนเดิมบริทแมน ฉันมาที่นี่เพื่อคุยกับเพื่อนของฉัน ดังนั้นฉันต้องการพื้นที่ว่างให้พวกเราซักหน่อย"
"คุณชัดเจนกว่าปกตินะวันนี้ มันเป็นเพราะเพื่อนคนนี้หรอ?"
"ฉันไม่เห็ฯจำได้ว่าเป็นเพื่อนของนาย..."
ฉันได้ตอบกลับไปอย่างอ่อนแรงและลุกขึ้นจากที่นั่ง หลังจากที่วางถ้วยชาลงไปที่ถาด ฉันก็พูดต่อ
"นายอาจจะมาที่นี่เพราะว่าเพราะว่านายรำคาญที่ฉันผู้ที่เป็นเพื่อนของฮวาหยาและเข้ามาขวางแผนการของนาย แล้วก็สุนัขที่ภักกดีก็มาที่นี่เพราะว่านายจะได้สามารถใช้ทดสอบความแข็งแกร่งของฉัน โชคดีที่สิ่งที่น่ารำคาญมันก็เกิดขึ้นเมื่อวานเช่นกัน ดังนั้นฉันยินดีที่จะเอาชนะใครบางคนด้วยการขยี้มัน แล้วก็ไม่ว่ายังไงฮวาหยาอาจจะเผาทั้งอาคารก็ได้ถ้ายังคุยกับนายต่อไปแล้วคนอื่นก็จะรำคาญเหมือนกัน ดังนั้นทำไมเราไม่ออกไปข้างนอกกันล่ะ?"
ห้องอาหารได้กลายเป็นเงียบลง จากนั้นก็ได้มีคนระเบิดเสียงหัวเราออกมาซึ่งก็คือฮวาหยา
"ฮ่าๆๆๆๆๆๆ นั่นอะไรนะ!? นายคิดว่าเขาจะทำแบบนั้นจริงหรอ? มีแต่พวกตัวร้ายเกรดสามจากหนังเท่านั้นที่คิดแบบนั้น"
"ฉันรู้ ใช่ไหมล่ะฮวาหยา? ฉันเพียงแค่พูดไปเฉยๆ"
ฉันได้จ้องไปที่บริทแมนในขณะที่พูด เขาได้ยิ้มออกมาราวกับเขารู้สึกขำและลูบไปที่คางด้วยมือที่ใส่ถุงมือสีขาว
"นายอาจจะมั่นใจในพลังของนายทีเดียวนี่ ทำไมนายไม่ลองต่อสู้กับฉันสักหน่อยล่ะ? แน่นอนว่าสำหรับการออกกำลังกายในตอนเช้า"
"กับระดับ SS แบบนายไม่ควรจะใช้กำลังเพื่อรังแกคนอ่อนแอสิ นายจะต้องล้อเล่นแน่ๆ"
ในความเป็นจริงแล้วฉันจะไม่สามารถเอาชนะเขาได้ในปัจจุบันโดยที่ไม่เปิดเผยความสามารถทั้งหมดของฉันออกมา ปริมาณมานาที่ร่างกายของเขาเปล่งออกมาก็เพียงพอที่จะข่มคนธรรมได้แล้ว ร่างกายของเขาได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าผ่านการฝึกอบรมมาเป็นประจำเหมือนเช่นกับมานาที่มหาศาล ฉันจะไม่สามารถสร้างความเสียหายที่ร้ายแรงกับเขาได้แม้ว่าฉันจะใช้ฮีโรอิค สไตรค์ก็ตาม แน่นอนว่ามันจะเป็นชัยชนะของฉันถ้าฉันเพียงแค่วิ่งโดยที่ไม่เผชิญหน้าตรงๆ นี่ก็คือเหตุผลที่ฉันไม่สู้กับเขา
"เขาพูดถูกโจชัว ไม่จำเป็นต้องถึงมือนายหรอก ฉันจะขยี้เจ้าคนเอเชียยโสนี่เอง"
ทอมมี่ได้ก้าวมาข้างหน้า บริทแมนแกล้งทำเป็นกังวลเล็กน้อยจากนั้นก็หยักหน้ารับ มันเห็นได้ชัดว่านี่เป็นความตั้งใจแต่แรกของเขา
"ถ้านายกลัวที่จะเป็นคู่ซ้อมของฉัน ฉันก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ว่านายควรจะระวังตัวนะ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญดาบ"
"ฟุดฟิด... นายใช้น้ำหอมอะไรนะ? ...มันมีกลิ่นเหมือนกับในบ้านของฮวาหยาเลย เพราะว่ามันไม่มีทางที่ฮวาหยาเชิญนายไปบ้านแน่ นายคงจะใช้น้ำหอมแบบเดียวกันกับเธอ"
คำพูดของฉันทำให้บริทแมนและแม้แต่ฮวาหยานิ่งไป เพื่อให้ชัดเจนขึ้นร่องรอยที่ฉันรู้สึกในบ้านของฮวาหยามันก็เหมือนกับที่ฉันรู้สึกได้จากบริทแมน ยังไงก็ตามคงไม่ใช่บริทแมน ความสามารถของเขาไม่มีส่วนช่วยให้เขาสามารถหลบซ่อนได้ คงจะต้องเป็นหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาอาจจะมีความสามารถแบบนี้อยู่ แน่นอนว่าฉันรู้คำตอบอยู่แล้ว
เมื่อได้คิดย้อนกลับไปในสิ่งที่ฉันพูดในเมื่อวาน ฮวาหยาดูเหมือนจะเข้าใจในสิ่งที่ฉันต้องการสื่อ และบริทแมนก็ดูเหมือนจะรู้ถึงข้อสรุปเดียวกัน เขาได้ขมวดคิ้วในทันทีแต่ว่าไม่นานเขาก็ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้ม
"ฮ่า นั่นมันเป็นไปไม่ได้ มันอาจจะเป็นเพราะฉันอยู่ใกล้ๆมัสติฟอร์ดมากเกินไปเมื่อเร็วๆนี้"
"นั่นมันใช่หรอ? ฉันไม่ชอบกลิ่นนั่น ดังนั้นฉันได้บอกให้เธอเลิกใช้มัน ถ้านายใช้น้ำหอมแบบเดียวกันอยู่ ฉันก็จะบอกกับนายเหมือนกัน"
"นั่นแหละ....นายเกรงใจมาก..."
นี่มันพอแล้วสำหรับการเตือน อย่างไรก็ตามถ้ามันเกิดเรื่องเดียวกันขึ้นอีกครั้ง ฉันก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้มากนัก แต่ว่าฉันสามารถจะจัดการกับผู้ใต้บังคับบัญชาของบริทแมนได้ บริทแมนได้เหลือบมามองฉันและฉันก็ยิ้มกลับไป
"อา นายไม่ควรจะยึดติดกับเธอมากเกินไปจนน้ำหอมของเธอมาเปื้อนเสื้อของนาย ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง ฉันรู้สึกเซร้ามากที่เห็นชายที่ไล่ตามผู้หญิงคนหนึ่งแม้ว่าจะถูกเธอเกลียดอย่างชัดเจน"
"โอ้ชายเอเชีย นายกำลังจะถ่วงเวลาหรอ? หยุดเห่าได้แล้วและตามฉันออกมา"
ทอมมี่ได้เรียกฉัน ฉันไม่ชอบการต่อสู้ด้วยคำพูดเพราะความรู้ของฉันที่เพิ่มขึ้นมันทำให้ฉันพูดอย่างไร้ประโยชน์มากขึ้น ฉันได้ตามทอมมี่ออกไปด้านนอกดูเหมือนว่าคนอื่นๆจะชอบดูการต่อสู้ไม่ว่าจะเป็นคนที่ไหนก็ตาม เพราะพวกเขาได้ตามออกมาข้างนอกและสร้างวงกลมขึ้นรอบตัวเรา
[ชิน ความสามารถของนายอาจจะถูกแสดงออกมาทั้งหมดที่นี่ให้ทุกคนเห็น นายโอเคกับมันหรอ? ถ้าไม่ฉันสามารถจะหยุดการต่อสู้นี่ได้ ยังไงก็ตามพวกเขาจะพบว่านายน่าทึ่งยังไงก็ตามจากผลลัพธ์]
[ไม่ต้องห่วง ด้วยความแข็งแกร่งของเขา เขาไม่สามารถจะดึงความสามารถที่แท้จริงของฉันออกมาได้หรอก]
ฉันได้ตอบข้อความที่กังวลของฮวาหยาและกระพริบตาให้เธอ เธอได้ยิ้มตอบรับมา เธอดูสวยจริงๆ
ในขณะที่ฉันยืนอยู่ในวงกลมของคนดู ฉันก็ได้คิดว่าทุกสิ่งมันได้เป็นไปตามที่ฉันคาด แม้ว่ามันจะเป็นผลงานจากการปลูกฝังความสามารถของฉันไว้ในใจของพวกเขาจะช่วยฉันในเวลาที่ฉันอยู่ที่นี่
อย่างแรกฉันได้หยิบเอาถุงมือออกมาจากช่องเก็บของและจากนั้นก็เรียกไพก้าออกมาและให้เธอเข้าไปในถุงมือ สายฟ้าได้เป็นประกายออกมาจากถุงมือ ฮวาหยาได้เปิดปากเหมือนจะพูดอะไรซักอย่าง แต่เธอก็ไม่ทำ
ทอมมี่ได้หยิบเอาดาบยาวที่ดูเหมือนเป็นอาวุธของเขาออกมาชี้ใส่ฉัน ผู้ใช้พลังโดยทั่วไปจะใส่เกราะที่ทำมาจากชิ้นส่วนของมอนสเตอร์ แต่ว่าเขาไม่ได้ใส่อะไร
"นายจะไม่ใส่เกราะเลยหรอ นายโอเคนะ?"
"แกควรจะห่วงตัวเองเถอะ"
อืม ฉันชอบความมั่นใจของเขา ฉันได้หยักหน้ารับและแตะเข้าไปในกระเป๋าหยิบเอาเหรียญออกมาพร้อมกับถามทอมมี่
"นายต้องการให้ฉันโยนมันหรือจะเป็นนาย?"
"แกเลย เราจะเริ่มกันเมื่อเหรียญกระทบพื้น"
"เอาล่ะ หึ"
ฉันได้โยนเหรียญขึ้้นไปอย่างไม่ใส่ใจ เหรียญได้หมุนอยู่บนอากาศ และในวินาทีที่มันกระทบพื้น...
เขาก็ได้มาอย่างตรงหน้าของฉัน เขาเร็วมาก มันดูเหมือนว่าพลังของเขาจะเสริมไปด้านความเร็วเป็นอย่างมาก ดาบของเขาได้ถูกยกขึ้นและมีแสงส่องออกมาจากการที่ถูกมานาสีดำบรรจุลงไป มันได้ตกลงมาในทิศหัวของฉัน
เทคนิคของเขาดูไม่เลวเลย น่าจะประมาณระดับกลางเลเวล 4? ฉันได้คิดถึงความผิดพลาดของฉันที่คิดว่าเขาเป็นคนโง่ที่มีเพียงร่างกายที่เสริมด้วยมานา เมื่อฝ่ายตรงข้ามอ่อนแอกว่าฉันมากมันก็เป็นการยากที่จะประเมินความแข็งแรงของเขาได้อย่างถูกต้อง
ไม่ว่าเขาจะเข้ามาหาฉันเร็วแค่ไหน ฉันก็จะไม่โดนโจมตีโดยเขา ฉันต้องขอบคุณเขาอย่างมากที่ช่วยฉันแก้ปัญหาที่เขาจะวิ่งหนีไป ฉันได้จับแขนของเขาที่ยกขึ้นไปด้วยมือข้างหนึ่งและใช้มืออีกข้างต่อยเข้าไปที่ท้องของเขา ประกายสายฟ้าได้แลบออกมาและเสื้อผ้าที่ทอมมี่ใส่อยู่ได้ถูกเผาจนดำ
"อึก!"
เมื่อฉันได้ใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์และส่งหมัดออกไปมันใช้เวลาน้อยกว่าสองวินาที เมื่อแขนของเขาไม่มีแรงส่ง ฉันก็ได้บิดแขนของเขาและทำให้ดาบยาวของเขาหล่นลงพื้น จากนั้นฉันก็กระโดดขึ้นไปด้านบนของเขา แม้ว่ามันจะใช้เวลาในการอธิบาย แต่นี้มันเกิดขึ้นในเวลาเพียง 1.7 วินาที
"หา..."
"อย่างแรกเรามาต่อยกันสักหน่อย"
จากจุดนั้นฉันได้ชกไปที่หน้าของเขาเป็นเวลา 37 วินาทีก่อนที่เขาจะได้ตะโกนคำว่ายอมแพ้ออกมา
"แม้ว่าจะมีฮีลเลอร์ระดับ A เขาก็ไม่สามารถจะต่อสู้ได้อีกเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์..อัศวินสายฟ้าทำเกินไป"
พวกเราทั้งห้าคนได้ลงมาที่เรือรบซึ่งได้ถูกปรับแต่งมากแล้ว มันดูเหมือนว่ามาดามบราวน์จะไม่ชอบที่ฉันต่อยทอมมี่เกินขอบเขตไป จากนั้นฮวาหยาก็ได้เหยียดแขนออกมาด้านข้างเพื่อเพลิดเพลินไปกับสายลมของทะเลสาบ ฉันได้ตอบในส่วนของฉันออกไป
"แต่ว่ามาดามบราวน์ คุณก็ไม่ได้รักษาเขานี่"
"แน่นอนสิ ฉันคิดว่าเขาควรจะโดนต่อยมากกว่านั้นอีกด้วย"
"มาดามบราวน์คุณนี่น่ากลัวจริงๆ..."
"ฉันมีความสุขมาก ในฐานะผู้โจมตีระยะประชิดระดับ S เพียงสี่คนในอังกฤษ เขาชอบที่จะโม้ในความแข็งแกร่งของเขา"
"จริงสิ นายเอาชนะเขาแบบเหนือกว่ามากได้ยังไง?"
ในฐานะที่เป็นผู้ใช้พลังระยะประชิดเหมือนกับทอมมี่ พอลดูเหมือนจะอยากรู้ว่าฉันจัดการกับทอมมี่ได้อย่างง่ายดายได้ยังไง ฉันได้ตอบคำถามพอลด้วยการหัวเราะเบาๆ
"เมื่อต่อสู้กับมอนสเตอร์สิ่งต่างๆเช่นความแข็งแกร่งและเวทมนตร์จะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ว่าในการต่อสู้ระหว่างคนสองคนมีบางสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั่นก็คือเทคนิค"
"เทคนิค...ฉันเข้าใจแล้วว่านายหมายถึงอะไร แต่ได้ยังไงกันล่ะ นายก็เป็นผู้ใช้พลังเหมือนกับเขา"
"ฉันได้เรียนรู้ศิลปะการต่อสู้มาก่อนนะ ประมาณ 13 ปีแล้ว"
"อืม อย่างงั้นหรอ"
"อืม แต่ฉันยังไม่เข้าใจว่านายเคลื่อนไหวร่างกายได้ยังไงกัน? ฉันเพียงแค่ขยับโล่ของฉันป้องกัน ดังนั้นฉันเลยไม่แน่ใจ"
"นายควรจะรู้ว่ากำลังมันจขะแตกต่างออกไปขึ้นอยู่กับตำแหน่งของโล่นายที่ถูกโจมตี ประมาณนั้นแหละ"
"อา ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้ว ฉันมีความคิดดีๆแล้ว"
มันดีเหมือนว่าฉันจะเข้ากับกลุ่มได้ดีขึ้นหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเช้า ฉันค่อนข้างจะพอใจกับมัน
"แต่ว่าฉันกังวลกับสิ่งที่บริทแมนจะทำหลังจากที่ออกไป"
"เขาจะไม่อยู่นิ่งแน่ๆ ระวังตัวด้วย TK"
"ไม่ เขาไม่สามารถจะคุกคามฉันได้แม้แต่นิดหรอก"
ฉันได้ประกาศออกไป
"เขาไม่ได้โง่พอที่ขยับตัวเองเพื่อจัดการฉันและฉันก็ไม่กลัวใครอื่นนอกจากตัวบริทแมนเอง"
ถ้าฉันได้เปิดเผยความสามารถของฉันไปแล้วมันอาจจะอันตรายกว่านี้หน่อย อย่างไรก็ตามอิทธิพลของเขาแข็งแกร่งพอที่จะไปถึงเกาหลี มันจะน่ารำคาญถ้าหากเขาค้นพบมัน แน่นอนว่าในขณะที่ฉันกำลังซ่อนตัวอยู่และทำเพียงแค่ในเขารู้แค่ในฐานะของผู้ใช้พลังที่รู้จักกันในนามอัศวินสายฟ้าเท่านั้น อิทธิพลของเขาก็ได้อยู่จำกัด อย่างดีที่สุดที่เขาจะทำได้ก็คือปิดกั้นสิ่งที่ฉันจะทำได้เพื่อลดชื่อเสียงและพื้นที่ทำงานของฉัน
ยังไงก็ตาม
"เธอสามารถจะป้องกันมันได้ใช่มั๊ยฮวาหยา?"
"ฮึ่ม อย่าได้ดูถูกความแข็งแกร่งของระดับ SS รัฐบาลอังกฤษไม่สามารถจะเบิกเฉยต่อฉันได้ แม้ว่าฉันจะไปฆ่าคนของเขา เขาก็จะปกปิดอาชญากรรมของฉันไว้
"โชคร้ายที่นั่นมันใช้กับบริทแมนด้วย"
"นั่นมันเป็นความจริง ดังนั้นก็รีบๆแข็งแกร่งขึ้นเพื่อที่จะสามารถเอาชนะเขาได้ ชิ.... TK"
"มันไม่น่าจะใช้เวลานานนักหรอก หวังว่านะ"
เมื่อฉันได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม ฮวาหยาก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มกลับมา
"เอาล่ะ ฉันหวังว่าจะได้เห็นนะ"
คนอื่นๆได้มองดูบทสนทนาของพวกเขาจะข้างๆและกระซิบขึ้น
"...พวกเขากำลังเดทกันหรอ?"
"ชู่ พวกเราเพียงแค่มองดูพวกเขาพอ"
"ฉันเคยเป็นแบบนั้นกับภรรยาของฉันเหมือนกัน..."
ผู้ชมเหล่านี้ไม่ใช่ว่ามีแค่ในเกาหลี!
"ยังไงก็ตามนายกำลังทำอะไรอยู่มาซักพักแล้ว TK?"
ไมค์ได้ถามฉัน มองไปที่มีดที่ฉันกำลังเหลาด้วยหินลับมีด ฉันได้ตอบกลับไป
"หืม? โอ้ นายกำลังจะถามว่าทำไมฉันถึงเหลามีดงั้นหรอ?"
"โอ้! นายก็ใช้มีดด้วยเหมือนกันหรอ? นั่นคือสิ่งที่ฉันหวังจะได้เห็นนะ!"
"ไม่...ทุกอย่างที่พูดถึงคืออะไร"
ในขณะที่มองไปที่ปลาทูน่ายาว 8 เมตรที่โดยขึ้นมาจากน้ำ ฉันได้ตอบกับไป
"ซาซิมิที่ดีที่สุดก็คือปลาสดใหม่"
"..."
ในขณะที่ทุกคนได้เงียบไปจากคำพูดของฉัน ฉันก็ได้ฮัมเพลงและเล็งมีดที่แหลมคมไปที่ทูน่า อาหารกลางวันของวันนี้ก็คือซาซิมิปลาทูน่า!