บทที่ 93 - เสียงคำรามสีชาด (5)
บทที่ 93 - เสียงคำรามสีชาด (5)
”
ถึงเวลาฉันจะอายเล็กน้อยที่จะพูดกับตัวเองว่าฉันเป็นอัจฉริยะเมื่อทำการต่อสู้ ยกตัวอย่างง่ายๆก็คือฉันไม่เคยล้มลงเลยสักครั้งกับการโจมตีที่เหมือนเดิมอีกครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝีกศิลปะการต่อสู้ที่มีความสำเร็จมากแค่ไหนแต่เทคนิคที่เขาใช้ก็จะต้องมีขีดจำกัด ดังนั้นมนุษย์ทุกคนก็จะมีรูปแบบการเคลื่อนไหวและเมื่อฉันได้มองเห็นมันและจดจำมันด้วยร่างกาย มันก็ไม่ได้ยากเกินไปที่จะเข้าใจการเคลื่อนไหวและโต้กลับไป มันดูเหมือนว่าคนอื่นๆจะไม่ได้คิดเหมือนฉัน แม้แต่พ่อของก็ยังทำท่าทางประหลาดใจเมื่อฉันบอกพ่อแบบนี้
เหมือนกับนักเรียนฉลาดๆที่สามารถจะแก้ไขสมการๆหนึ่งได้ เมื่อฉันได้เห็นและมีประสบการณ์กับเทคนิค ฉันก็สามารถจะเข้าใจและสวนกลับไป ไม่ว่าเทคนิคจะถูกใช้มายังไงก็ตาม แต่รางกายของฉันมันจดจำได้
มันจะต่างออกไปถ้าฉันช้าเกินไปที่จะหลบการโจมตีของศัตรูแม้ว่าจะอ่านทิศทางมันได้ก็ตาม แต่ยังไงก็ตามฉันสามารถจะจัดการกับมันได้อย่างง่ายได้ นี้มันเหมือนกับเป็นการต่อสู้กับบอสประจำชั้น ทักษะของพวกมันมีมีรูปแบบที่ชัดเจนกว่าการเคลื่อนไหวของมนุษย์ เมื่อฉันได้รับประสบการณ์มาสักครั้งหนึ่งมันก็จะเป็นเรื่องยากที่จะโจมตีฉันได้เป็นครั้งที่สอง
อย่างที่พูดมามันก็ไม่ใช่ว่ามันเป็นไปได้เสมอที่ฉันจะสามารถหลบพวกเขาได้ ทักษะของบอสมันไม่ใช่สิ่งที่ง่ายเลยถ้ามันเป็นไปไม่ได้ฉันก็จะต้องหลีกเลี่ยงมันแทน
[ตาย!]
"ผิวมังกร!"
ฉันได้ใช้ทักษะผิวมังกรด้วยการตะโกนขึ้นไปด้านบนสุดเสียง ฉันได้แทงใบมีดธาตุไปที่ยมทูตทันทีโดยที่ไม่สนใจมือสีดำ แต่ว่าก่อนที่จะโจมตีโดน ยมทูตได้เทเลพอตมาอยู่ข้างหลังฉัน แน่นอนว่าฉันได้อ่านทาาวงไว้แล้ว
"โยน!"
[อึก!]
ฉันได้จับเขาและโยนเขาลงไปบนพื้นราวกับว่าฉันได้รอให้เขาปรากฏตัวมานานแล้ว ไพก้าและริยูได้ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าและโจมตีไปที่มันด้วยเวทมนต์โดยที่ฉันไม่ได้สั่ง ในขณะเดียวกันมือสีดำก็ได้พยายามที่จะดึงฉันลงไปใต้ดิน อย่างไรก็ตามเพราะร่างกายของฉันได้รับการเสริมจากผิวมังกรทำให้มือเหล่านั้นพยายามจะดึงฉันเอาไว้ ในทันทีความคิดก็เข้ามาให้หัวของฉัน
"ริยูเข้ามาในเกราะ!"
[โอเค!]
ริยูได้เข้ามาในเกราะของฉันในทันที ในเวลาเดียวกันฉันก็ได้ใส่มานาไปในเกราะและเสริมพลังให้มัน จากนั้นก็เป็นอย่างที่ฉันคิดเอาไว้เมื่อมือสีดำมาสัมผัสโดนเกราะก็ถูกแช่แข็งและเริ่มหยุดลงโดยที่ไม่ต้องใช้ผลของผิวมังกร ! นี้มันคือชิ้นส่วนของความสำเร็วในการใช้แผนต่อสู้กับยมทูต
"โอ้ นายกำลังจะหนีแล้วหรอยมทูต"
[เคียวยมทูต!]
ในขณะที่ฉันประกาศอย่างมั่นใจ เงาสีดำขนาดใหญ่ก็ได้ปกคลุมบนหัวของฉัน ฉันกำลังถูกเคียวสีดำลงมาบทที่ร่างกาย ฉันได้หลบการโจมตีนี้ด้วยการกลิ้ง อย่างไรก็ตามฉันไม่สามารถจะหลบการโจมตีนี้ได้สมบูรณ์เคียวมันยังคงโดนหมวกของฉันและตัดออกไป ถ้าหากฉันโดนมันตรงๆไม่ว่าจะในสถานะผิวมังกรหัวของฉันคงหลุดไปแน่ๆ ฉันได้กัดฟันแน่น
"ไอเวรนี่ แกมีทักษะที่ซ่อนไว้มากแค่ไหนกัน!?"
[เคียวยมทูต!]
เนื่องจากว่าการใช้ทักษะทีละทักษะจะไม่ได้ผลจึงทำให้ยมทูตได้ตัดสินใจที่จะใช้ทักษะทั้งหมดในครั้งเดียว มือสีดำได้ดึงฉันลงไป เงาเคียวขนาดยักษ์ได้ตกลงมาจากฟ้า และคลื่นใบมีดได้พุ่งเข้ามาหาฉัน แต่เพราะฉันได้ทุ่มเขาไปครั้งหนึ่งทำให้ยมทูตไม่กล้าที่จะเทเลพอตมาข้างหลังของฉัน ทักษะที่เขาใช้มีแต่ทักษะระยะไกล เขาฉลาดจริงๆ ฉันรู้สึกเหมือนกำลังสู้กับมนุษย์ที่เจ้าเล่ห์คนหนึ่งเลยทีเดียว
"ไพก้า"
[ฉันพร้อมแล้ว!]
ถ้านั้นเป็นแผนของแกแล้วล่ะก็ ฉันจะท้าทายการต่อสู้นี้! ฉันได้ดื่มมานาโพชั่นลงไปและจ้องมองไปที่ยมทูตที่กำลังเหวี่ยงเคียวจากระยะไกล แกไม่มีมานาโพชั่นแล้วนี่ แต่ฉันมีว๊ะ
อย่างแรกเลยฉันได้ปล่อยมือสีทำที่ไม่สามารถจะทำอะไรฉันได้มากนักและมุ่งเน้นไปที่การหลบคลื่นดาบและเงาเคียว ในขณะเดียวกันฉันก็ปล่อยไพก้าออกมาให้เป็นอิสระและโจมตีไปที่ยมทูต
ฉันสามารถจะอยู่ติดกับบอสชั้นที่ 35 ดูลาฮานและจะการต่อสู้ระยะประชิดอย่างรุนแรงได้ แต่ว่ากับบอสชั้นที่ 40 ยมทูตมันต่างออกไปจากดูลาฮานอย่างสมบูรณ์ หรือจะพูดว่าขั้วตรงข้ามก็ยังได้ สิ่งหนึ่งที่ฉันมั่นใจเลยก็คือทุกคนจะเลือกต่อสู้กับดูลาฮานแทนที่จะสู้กับยมทูต ถ้าหากฉันไม่มีความสามารถของผู้ใช้ธาตุมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะยมทูตด้วยตัวคนเดียว
[เจ้าไม่สามารถเอาชนะข้าได้ฮีโร่!]
"ถ้านายมั่นใจขนาดนั้นทำไมไม่มาสู้กับฉันตรงๆล่ะ?"
[เคียวยมทูต!]
'เฮ้ อย่าโจมตีแบบนี้เพียงแค่เพราะนายไม่มีอะไรจะพูดสิ'
ฉันได้หลบการโจมตีทั้งหมดอย่างบ้าคลั่ง นอกจากนี้ไพก้ก็ยังโจมตีครั้งที่มีโอกาส
ก่อนที่ฉันจะได้สังเกตุเห็นมือสีดำก็หายไปแล้ว แต่ว่าเงาเคียวก็ยังมาไม่บ่อยนัก แม้อย่างนั้นยมทูตก็ได้บินไปรอบๆอย่างรวดเร็วแล้วเหวี่ยงเคียวของมันมาที่ฉันซึ่งนั่นทำให้ฉันรู้ว่ามานาของเขาใกล้หมดลงแล้ว
"ริยูไปช่วยไปก้า"
[โอเค!]
เมื่อฉันได้ยกเลิกสปิริตออร่าและริยูก็ไปเข้าร่วมการโจมตีด้วยมันทำให้กลายเป็นการยากที่ยมทูตจะหลบการโจมตีของพวกเธอไปได้ ฉันได้ใช้ช่องว่างนี้พุ่งเข้าไปหาเขาในทันที หอกสีเงินของฉันได้ส่องแสงแห่งการแก้นแค้นออกมาอย่างเต็มที่
"ตาย!"
[เจ้าแหละ!]
ยมทูตได้เทเลพอตกลับหลังไปอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามการเทเลพอตก็ได้หยุดลงเพราะริยูได้ใช้ห่วงน้ำแข็งยับยั้งมันเอาไว้ ภายใต้สถานการณ์ปกติยมทูตจะสามารถจัดการกับห่วงน้ำแข็งได้อย่างง่ายดาย แต่ว่าในตอนนี้เขาไม่มีมานาเหลืออยู่แล้ว เขาไม่มีความแข็งแกร่งพอที่จะหลบหนีพลังธาตุระดับกลางได้
ในขณะที่เขากำลังจะเหวี่ยงเคียว ห่วงของริยูก็ได้ล็อคเข้าสที่แขนอและยึดตำแหน่งนั้นเอาไว้ แม้ว่ามันจะถ่วงได้ไม่นานนัก แต่ว่ามันก็พอแล้ว
ในขณะที่ฉันวิ่งเข้าไปหาเขา ไพก้าก็ได้ลอยเข้ามาหาฉันโดยธรรมชาติและเข้าไปในหอก ฉันได้เทมานาของไปในขณะที่วิ่งในปลายของหอกและแทงออกไปข้างหน้า
"ฮีโรอิค สไตรค์!"
[ติดคริติคอล!]
[แค่ก]
ยมทูตได้ไอออกมาซึ่งทำให้เงาดำบางอย่างออกมาจากปากของเขา มันดูเหมือนกับเลือดแต่ว่าฉันก็ยังหลบมันในกรณีนี้ เมื่อเงานั่นสัมผัสพื้นมันก็ละลายดินลงไป แม้อย่างนั้นฉันก็เดาเอาไว้แล้วภายในนั้นมันเต็มไปด้วยพิษ
เมื่อฉันได้มองออกไปฉันก็คิดว่าฉันไม่สามารถลดการป้องกันลงได้จนกว่าจะจบลง เงาเคียวสีดำก็ได้ยิงออกมาจากด้านในฮูดของยมทูต เขายังมีมานาเหลือ!
[นี้มันคือจุดจบ!]
"ความเร็วศักดิ์สิทธิ์!"
'ขอโทษ แต่ว่าฉันรู้ว่านรายซ่อนมานาเอาไว้ในขณะที่ยอมโดยล็อคโดยห่วงง่ายๆ!'
เพื่อยืนยันว่าเขาได้ใช้การเคลื่อนไหวสุดท้าย ฉันก็ได้หลบเคียวสีดำที่เข้ามาหาฉันและไปที่ด้านหลังของเขา ในเวลานั้นผลของทักษะฉันก็หมดลง ฉันเห็นเคียวสีดำหายไปในอากาศ
[อีก เจ้าหนอนสกปรก!]
"ขอให้มีความสุขนะยมทูต"
ฉันได้พูดในขณะที่คิดว่าบริเวณใดในหลังของเขาที่จะได้รับความเจ็บปวดมากที่สุด
"วันนี้นายจะเป็นยมทูตตนแรกที่ถูกฆ่าโดยหนอนสกปรก"
[คุณได้กลายเป็นเลเวล 41 คุณได้รับคุณสมบัติในการก้าวไปที่ชั้นที่ 41]
[คุณได้รับโบนัสสเตตัส 5 แต้ม]
[คุณได้กลายเป็นระดับเงิน 3]
[ขณะนี้คุณสามารถจะเข้าไปเยี่ยมชนพื้นที่สันทนาการของพื้นที่พักอาศัยได้! สามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมได้จากผู้ดูแลระบบพักอาศัย!]
[น่าทึ่ง! คุณได้เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ดันเจี้ยนที่ 1 ในการเอาชนะยมทูตด้วยตัวคนเดียวในครั้งแรกได้! ดันเจี้ยนจะจดจำไว้ว่าคุณเป็นนักสำรวจที่ยอดเยี่ยม คุณได้รับแต้มโบนัสทักษะ 2 แต้มเป็นรางวัล คุณได้รับบัตรกำนัลฟรีสำหรับ 'พื้นที่พักผ่อนแห่งนางฟ้า' แต้มทักษะปัจจุบัน: 14]
[เควสเสร็จสิ้น! คุณได้ประสบความสำเร็จในเงื่อนไขที่เข้มงวดของหลินภายใน 3 เดือน แม้ว่าเขาจะกัดฟันแน่นแต่หลินก็จะทำอุปกรณ์ให้แก่คุณตามที่สัญญาเอาไว้ คุณได้รับแต้มทักษะ 1 แต้มเป็นรางวัล แต้มทักษะปัจจุบัน: 15]
[คุณได้รับฉายา 'ผู้อยู่เหนือยมทูต' สเตตัสทั้งหมดเพิ่มขึ้น 2 ผลของเอฟเฟคนี้จะใช้ได้แม้ว่าฉายาจะไม่ถูกสวมใส่ก็ตาม]
[คุณได้เอาชนะยมทูตเพียงลำพัง คุณได้รับรางวัลพิเศษ 'ผ้าคลุมยมทูต']
[คุณได้รับ 150,000 เหรียญทอง]
[คุณได้รับรางวัลรางวัลที่ซ่อนไว้สำหรับนักสำรวจคนแรก ขอแสดงความยินดีด้วย! โชคของคุณเพิ่มขึ้น 1]
[ความลับ หนังสือเวทย์พิทักษ์วิญญาณ]
"ว้าว"
ฉันได้แต่อุทานออกมาเพราะว่าฉันไม่มีพลังเหลืออยู่เลย หมวกของฉันได้ถูกตัดครึ่งและหอกดินดำของฉันถูกทำลาย เกราะของฉันก็ได้กลายเป็นผ้าขี้ริ้วจากมือสีดำและคลื่นใบมีด และเลือดก็ไหลผ่านช่องว่างเหล่านั้น ผมของฉันได้ยุ่งเหยิงและเปื้อนดินและโคลน
ฉันไม่ได้มีสภาพที่แย่ขนาดนี้ตั้งแต่วันที่ฉันได้ต่อสู้กับออร์คลอร์ด แม้อย่างนั้นฉันก็ต้องการจะทิ้งตัวลงไปบน แต่ฉันได้ป้องกันตัวเองจากการเป็นลมโดยการใช้พลังจิตใจและหยิบหอกดินดำขึ้นมาจากพื้น มันหักค่อนข้างสมบูรณ์
[ชินเจ๋ง! เจ๋งสุดๆไปเลย]
[นายท่านสุดยอดมาก]
"มานี่มา พวกเธอก็ทำงานหนักเหมือนกัน"
ภูติธาตุของฉันได้บินมาหาฉันเหมือนกับลูกสุนัขตัวน้อยๆ ฉันได้กอดพวกเธอไว้ในอ้อมอก และร้องขอล็อกข้อความเมื่อฉันได้อ่านเกี่ยวกับพื้นที่สันทนาการฉันก็ต้องงงกับมัน
"ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย...ฉันจะสามารถไปที่นั้นได้จากพื้นที่พักอาศัยหรอ? มันเป็นรุ่นอัพเกรดจากพื้นที่พักอาศัยหรอ?"
แม้ว่าฉันจะไม่แน่ใจนัก แต่ฉันก็รู้สึกว่ามันจะต้องมีอะไรเกี่ยวกับพื้นที่พักผ่อนแห่งนางฟ้าแน่เลย ฉันได้รับมันมาจากความสำเร็จนี้ ฉันจะต้องหามันเมื่อฉันไปที่นั่น
[คุณได้เรียนรู้ทักษะพิทักษ์วิญญาณ(ติดตัว) ผ่านการทำสมาธิ พลังของวิญญาณของคุณจะแข็งแกร่งขึ้น สามารถป้องกันจิตวิญญาณจากผลที่กระทบต่อทางจิตและลึกๆภายในการดำรงอยู่ของคุณ ผลจะเพิ่มขึ้นตามเลเวลของทักษะ]
"มันเหมือนกับที่หลินบอกเลย"
ฉันมีทักษะที่ป้องกันผลกระทบจากสถานะทากจิตแล้วจริงๆ สัญชาตญาณของฉันรูสึกว่าการมีทักษะนี้มันยังซ่อนทักษะที่มากกว่านี้ ฉันจะต้องหามันในขณะที่ฉันก้าวไปข้างหน้า สำหรับตอนนี้ฉันต้องการจะรับรางวัลจากเควสและไปนอน
"...อึก"
หลินที่กำลังสูบบุหรี่ยืนอยู่ที่ร้านขายของ หลังจากที่เขามองฉัน เขาก็ยิ้มขึ้น
"นายสภาพแย่มากเลยนะ"
"ฉันคิดว่าฉันมันตายยากนะ"
"แต่ว่านายก็ทำมันสำเน็จ ในครั้งแรกและเพียงคนเดียว"
"อ่า...ใช่แล้ว"
"ฟู่...."
หลินได้พ่นควันออกมาจากนั้นเขาก็วางบุหรี่ลงไปในกองไฟ และเขาก็โยนอะไรบางอย่างมาทางฉัน เมื่อฉันได้รับมันอย่างเร่งรีบ มันก็คือสร้อยข้อมือบางๆที่ทำมาจากโลหะสีแดง ถึงแม้มันจะดูเรียบง่ายแต่ผิวสัมผัสเนื้อผ้ามันสวยยงามและยอดเยี่ยม
ฉันได้ถามกับหลิน
"นี่คืออะไร?"
"รางวัลของนาย ฉันทำมันในตอนที่นายไม่อยู่ที่นี่"
"...ฉันไม่คิดว่าหลินจะทำให้ฉันเพียงแค่สร้อยข้อมือธรรมดาๆ"
"ฉันจะสอนวิธีเปิดใช้งานมัน"
หลินได้ลุกจากที่นั่งและทำท่าทางจริงจัง มันดูเหมือนกับท่าทางของนักปราชน์ผู้ยิ่งใหญ่ที่กำลังจะสืบทอดความรู้แก่ผู้สืบทอด
"อย่างแรกใส่มัน"
"โอเค...นี่ไง"
"ดีมาก สวมมันลงไปในแขน จากนั้นก็สัมผัสไปที่กระดูกคอของนาย และก็ชูแขนขึ้นพร้อมด้วยสร้อยข้อมือไปบนฟ้า----"
"โอ้!"
ฉันได้ใส่มานาลงไปในสร้อยข้อมือโดยที่ไม่สนใจเหยื่อที่ชัดเจนของหลิน ในทันทีสร้อยข้อมือได้แผ่รังสีอย่างรุนแรงออกมา ชุดเกราะที่ฉันใส่อยู่ได้หายไปและมีบางอย่างมาพันรอบตัวของฉัน
ในเวลาไม่ถึงเสี้ยววินาทีฉันก็ได้สวมใส่ชุดเกราะอื่นที่ต่างจากอันก่อนหน้านี้ สีแดง คมเข้มและดูเหมือนจะทำมาจากเกล็ดของมังกรแดงได้คลอบคลุมตัวฉัน ถุงมอถูกเคลื่นย้ายอย่างง่ายๆและเกราะและรองเท้าก็เบาอย่างไม่น่าเชื่อ หมวกมันก็พอดีอย่างยอดเยี่ยมเช่นกัน เมื่อฉันมองไปที่ด้านหลังฉัน ผ้าคลุมหนังสีแดงก็กระพือขึ้นโดยไม่มีลมใดๆพัด มันเจ๋งสุดๆเลย
"ถ้างั้นหลิน นายไม่แน่ใจในวิธีการทำงาน นายกำลังสาธิตอะไรอยู่นะ?"
"แกมัน...เอาหอกนี่ไป"
หลินได้พูดออกมาอย่างขมขื่นอและโยนหอกเหล็กสีแดงมาให้ฉัน เมื่อฉันจับหอก ฉันคิดว่าหลินค่อนข้างจะตลก
[คุณได้ถอดเซ็ตดูลาฮาน ความแข็งแรงและทนทานลดลง 17]
[คุณได้ถอดหอกดินดำ ความแข็งแรงของคุณลดลง 5 และความคล่องแคล่วของคุณลดลง 10]
[คุณได้สวมใส่เกราะเซ็ตเกล็ดมังกรสีชาด สเตตัสทั้งหมดเพิ่มขึ้น 10 ความแข็งแรงและความทนทานเพิ่มขึ้นอีก 10 แต้ม โอกาสที่จะถูกโจมตีติดคริติคอลลดลงอย่างมากและคุณจะสะท้อนความเสียหายที่ได้รับจากศัตรูของคุณ ผลของทักษะพุ่งทั้งหมดเพิ่มขึ้น 60%]
[คุณได้สวมใส่ผ้าคลุมมังกรแดงเฟลิเซส มันได้ผูกพันธะกับคุณ ความคล่องแคล่ว พลังเวทย์และเสน่ห์เพิ่มขึ้น 15 คณจะทนต่อทุกสถาวะอากาศ สามวันครั้งหนึ่งจะทำการป้องกันเจ้าของจากการโจมตีที่มองไม่เห็นหรือคาดไม่ถึง]
[คุณได้สวมใส่หอกสีชาดกลืนกิน มันได้ผูกพันธะกับคุณ ความแข็งแรงเพิ่มขึ้น 30 พลังโจมตีทั้งหมดจะมีพลังธาตุไฟและคุณมีโอกาศสูงที่จะเผาศัตรู มันจะวิวัฒนาการจากการกลืนกินไอเทมประเภทอาวุธ]
[ในขณะที่สวมใส่เซ็ตเกราะเกล็ดมังกรสีชาด คุณจะสามารถใช้ทักษะ 'เสียงคำรามสีชาด' ได้ววันละครั้ง เสียงคำรามสีชาดจะเปลื่ยนให้อากาศเผาไหม้และโจมตีศัตรู ทุกๆสิ่งที่นอกเหนือผู้ใช้จะถูกเผา ผู้ใช้จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ]
"นี้มัน..."
เพียงแค่เปลื่ยนอุปกรณ์ ฉันก็รู้สึกได้ถึงความสามารถที่เหนือทุกสิ่งเหมือนกับไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ สเตตัสโบนัสที่ฉันได้รับมาจากหอกดินดำและเซ็ตดูลาฮานมันเท่ากับ 49 แต้ม แม้ว่าฉันจะไม่ได้รับโบนัสค่าเสน่ห์หรือโชคดีก็ตาม แต้มโบนัสที่ฉันได้ในตอนนี้ก็คือ 130! ผลมันมากกว่าการเพิ่มเลเวล 15 เลเวลซะอีก! แน่นอนว่าเมื่อมีการเพิ่มสเตตัสอย่างมากก็จะต้องใช้เวลาในการ 'อัปเดต' ยาวนานอย่างไม่น่าเชื่อ
แม้แต่ร่างการของฉันก็เกิดอากาศคันจากความตื่นเต้น ร่างกายที่เหน็ดเหนื่อยเหมือนจะเป็นลมของฉันดูเหมือนจะกลับไปคลั่งอีกครั้ง ยมทูตหรอ? ด้วยสเตตัสที่เพิ่มขึ้นขนาดนี้ดาเมจที่ฉันทำกับเขาจะต้องต่างไปแน่นอน
"เมื่อนายผูกพันธะกับมันนายจะได้โบนัสสเตตัสเพียงแค่การใส่สร้อมข้อมือเอาไว้ อา แต่นายจะไม่สามารถใช้ทักษะการคำรามสีชาดได้นะถ้าไม่ใส่ชุดเกราะดังนั้นจำเอาไว้ให้ดีด้วยล่ะ"
"ขอบคุณหลิน!"
"ถ้านายขอบคุณฉันตอนนี้... ฉันอยากจะอ้วกออกมาเลยว๊ะ ดังนั้นอย่าเลย...!"
ไอเทมที่ฉันได้รับมาทั้งหมดนั้นมันน่าทึ่งมากๆ แม้ว่าฉันจะรู้ว่าฉันไม่ควรจะพึ่งไอเทม แต่ว่านักรบแบบฉันก็อดที่จะมีความสุขไม่ได้เมื่อได้รับไอเทมที่ดี
"หอกนั่นสามารถดูดกลืนอาวุธได้"
"ดูดกลืน? จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อดูดกลืนมัน"
"นายจะรู้เองเมื่อทำมัน ทำไมไม่ลองดูละ?"
ฉันได้คิดถึงเศษซากของหอกดินดำในทันที เมื่อฉันได้นำมันใกล้หอกกลืนกิน หอกดินดำก็ได้หายไปอย่างน่าแหลกใจ และในขณะเดียวกันก็มีข้อความปรากฏขึ้น
[หอกชาดกลืนกินได้ดูดซับหอกดินดำ การเจริญเติบโต: 1%]
"1%!? มันจะต้องกินอีกเป็นร้อยเลยหรอ?"
"มันเยอะมากทีเดียว แต่มันจะต้องเป็นอาวุธที่ดี"
ฉันได้รับบทเรียนที่มีค่า นั่นคือฉันไม่ควรจะกังวลเกียวกับอาวุธที่เติบโตได้ในชั่วระยะหนึ่ง
ไม่ว่ายังไงเนื่องจากว่าตอนนี้ฉันมีชุดเกราะและอาวุธใหม่ ฉันจะต้องเอาพวกมันไปทดสอบก่อน ฉันได้ลืมเรื่องทุกๆอย่างเกี่ยวกับการนอนหลับและตะโกนออกไป
"หลิน ฉันจะกลับมาหลังจากที่ต่อสู้กับบอสนะ!"
"ดี ดี ไปตายซะ"
คำพูดของหลินต้องเป็นมุกแน่ๆ ฉันได้ไปต่อสู้กับบอสอีกครั้ง
ฉันได้ตายไป เหมือนเคยฉันไม่สามารถที่จะเจอกับบอสได้อีกหนึ่งอาทิตย์
เมื่อฉันได้ถูกส่งมาที่พื้นที่พักอาศัย ฉันได้ใจเย็นลงและประเมินในสิ่งที่เกิดขึ้น การอัพเดตสเตตัสมันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นและฉันยังไม่แข็งแกร่งพอที่จะเหนือกว่ายมทูตโดยสิ้นเชิง แม้ว่าฉันจะพูดว่าตัวเองกระปรี้กระเปร่า แต่ว่าร่างกายของฉันมันก็หมดแรงไปแล้ว หากฉันไม่สามารถจะดึงพลังทั้งหมดออกมาได้ฉันก็จะต้องถูกฆ่า แม้อย่างนั้นแม้ว่าในตอนปกติฉันจะคิดอย่างนี้ได้ แต่ว่าการได้อุปกรณ์ใหม่ที่ดีได้ทำให้ฉันสูญเสียเหตุผลไป ฉันได้เรียนรู้บทเรียนที่สำคัญแล้วว่าฉันไม่ควรจะเหลิงไปกับมัน หนึ่งสัปดาห์มันก็คือราคาที่ฉันจะต้องจ่ายไป
ชีวิตจริงมันก็เหมือนกับการเล่นตลก