บทที่ 62 เจียงนี่หลิว
ในพื้นที่กว้างใหญ่ของทวีปเทียนชิง เป็นที่เล่าขานกันว่าจอมยุทธขอบเขตเสินโหยวจะไม่สามารถเดินทางข้ามทวีปทั้งทวีปได้หากพวกเขาเดินด้วยเท้า
ทั้งทวีปนั้นอยู่ภายใต้การปกครองในนามจักรวรรดิมังกรเวหา แม้กระนั้นตระกูลจักรวรรดิก็อ่อนแอลงในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา หกขั้วอำนาจที่สำคัญอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิเพียงเบื้องหน้า แต่ในแต่ละหน่วยงานต่างทำตามใจตัวเอง พวกเขาเชื่อฟังคำสั่งของจักรวรรดิในที่สาธารณะ แต่ทำสิ่งต่างๆลับหลัง จักรวรรดิคงจะถูกแทนที่โดยหนึ่งในขั้วอำนาจหากไม่ใช่เพราะการปรากฏตัวของปรมาจารย์ที่ไม่มีใครเทียบเมื่อตอนเกิดสงครามระหว่างหกขั้วอำนาจ
เผ่าพันธุ์มนุษย์ของทวีปเทียนชิงนั้นแข็งแกร่งที่สุด แต่ก็มีเผ่าพิเศษอื่นๆอีกมากมายและสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาดอยู่ด้วย ชายแดนในทวีปเทียนชิงก็มีพื้นที่เช่นที่ราบน้ำแข็งซึ่งตั้งอยู่ที่ชายแดนระหว่างอาณาจักรเพียวเสวี่ยและอาณาจักรเป่ยเหลียง
มีสัตว์ร้ายมากมายที่อาศัยอยู่ใต้ที่ราบน้ำแข็งซึ่งดุร้ายและอันตรายมาก พวกมันจะโผล่ออกมาจากใต้ดินและโจมตีมนุษย์ นอกจากนี้ยังมีก้นบึ้งทะเลแห่งความฝันซึ่งตั้งอยู่ในทะเลทางใต้ ซึ่งได้มีการกล่าวกันว่ามีปีศาจยักษ์สองตนหลับไหลอยู่ใต้ผืนน้ำ พวกมันมีพลังและหาตัวจับยากซึ่งแม้แต่เทพก็ไม่สามารถเทียบได้
แน่นอนว่าชายแดนที่โด่งดังที่สุดนั้นเป็นหุบเขาสามหมื่นลี้ที่ตั้งอยู่ระหว่างอาณาจักรเสินหวู่และอาณาจักรต้าเซี่ยทางใต้!
หุบเขาสามหมื่นลี้นั้นเป็นไปตามชื่อเรียก มีภูเขาอันงดงามสามหมื่นลี้ ที่นี่มียอดเขาและหุบเขานับไม่ถ้วน มีทะเลสาบและลำธาร มีต้นไม้โบราณมากมายพวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าและมีหนามร่วงหล่นเต็มพื้น ด้านบนมันเป็นทิวทัศน์ที่มีเสน่ห์ แต่ภายในนั้นมีสัตว์ร้ายและหนอนขนาดมหึมากำลังหลบซ่อนตัวอยู่ด้วย มีจำนวนมังกร งูและหมาป่าที่นับไม่ถ้วน มีข่าวลือว่าแม้แต่เทพเจ้ายังต้องหยุดเดินทางเมื่อมาถึงดินแดนนี้...ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนามดินแดนต้องห้ามที่ไม่มีใครเคยเข้าไปในดินแดนที่ลึกที่สุด
เมื่อเปรียบเทียบกับหนอนและสัตว์ป่า สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของหุบเขาสามหมื่นลี้คือ สัตว์อสูร!
สัตว์อสูรไม่เหมือนสัตว์ธรรมดา พวกมันทุกตนมีเวทมนตร์ที่แปลกประหลาดและการโจมตีที่ดุร้ายซึ่งมีอำนาจมาก หุบเขาสามหมื่นลี้เป็นสถานที่ที่สัตว์อสูรมากมายมารวมตัวกันทั่วทั้งทวีป ตามที่มีการเล่าลือกัน ในนั้นมีราชาปีศาจอยู่ซึ่งมีความสามารถในการรวมตัวปีศาจและมีพลังปีศาจที่เหนือชั้น ซึ่งไม่มีใครมีทางที่จะไปถึงหุบเขาได้แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจินกัง!
สำนักจิตอสูรนั้นตั้งอยู่บนหุบเขาซึ่งอยู่บนขอบด้านนอกสุดของหุบเขาสามหมื่นลี้ หุบเขาจิตอสูร!!
ที่ตีนเขาจิตอสูรมีเมืองเล็กๆที่เรียกว่าเมืองจิตอสูร แต่เดิมเมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ อย่างไรก็ตามด้วยการที่มีสำนักจิตอสูรตั้งอยู่บนเขา หลังจากการพัฒนาหลายพันปี...เมืองเล็กๆก็กลายเป็นเมืองที่มีความมั่งคั่งที่ไม่สามารถเทียบกับเมืองเล็กๆอย่างเมืองเทียนอวี่ได้เลย
กร้อบ กร้อบ!
ในขณะนี้ ประตูเหนือของเมืองถูกเปิดออกให้กับรถม้าที่งดงาม รถม้าที่มีธงที่มีคำว่า 'จี' ประดับอยู่ มีใบหน้าที่อ่อนเยาว์และอ่อนโยนด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นมองออกมาจากหน้าต่างของรถม้า
“เมืองจิตอสูรแห่งนี้ช่างใหญ่เหลือเกิน มันมีความเจริญรุ่งเรืองมากกว่าเมืองเทียนอวี่เป็นไหนๆเลยท่านปู่!”
รถม้าวิ่งตรงไปข้างหน้าและเจียงอี้มองไปที่กำแพงเมืองที่สูงตระหง่าน ถนนกว้างขวาง ฝูงชนที่จอแจ โครงสร้างพื้นฐานที่สูงและเป็นระเบียบเรียบร้อย เขาถอนหายใจอย่างเงียบๆ อย่างไรก็ตามความสนใจของเขาก็ถูกหยุดลงโดยผู้คนที่เข้ามาและเขาก็อุทานออกมาดังๆ “เอ๊ะ…ท่านปู่ นั่นคืออะไร ทำไมคนผู้นั้นขี่หมาป่า? นั่นเป็นสัตว์อสูรหรือ? จิตสังหารของมันช่างน่ากลัวจริงๆ!”
เจียงหยุนไฮ่มองออกไปนอกหน้าต่างรถอย่างรวดเร็วไปทางที่เจียงอี้มองและยิ้ม "ใต้เท้าน้อย ไม่มีอะไรที่น่าตกใจมากมาย นั่นไม่ใช่สัตว์อสูร แต่เป็นสัตว์วิญญาณที่เชื่องแล้ว! มันเคยเป็นหมาป่าปีศาจดูดเลือดที่ทรงพลังซึ่งมีความสามารถเทียบเท่ากับจุดสูงสุดของขอบเขตฉูติ่ง"
"อึก.."
เจียงอี้สูดหายใจเข้าลึกๆและมองไปที่จอมยุทธขอบเขตจื่อฝู่ที่กำลังขี่หมาป่าโลหิตสีแดงขนาดใหญ่ด้วยความตกใจ หมาป่าตัวมหึมานี้มีความยาวเกือบสองเมตรและสูงหนึ่งเมตรพอที่จะปลูกฝังความกลัวให้กับผู้คน
ไม่ต้องพูดถึงว่าหมาป่าตัวมหึมานี้ที่อยู่ขั้นสูงสุดของขอบเขตฉูติ่ง จอมยุทธขอบเขตจื่อฝู่นี้อาจกล่าวได้ว่าตนเองเป็นผู้ที่แข็งแกร่งในการต่อสู้ แต่แน่นอนว่าสิ่งที่เจียงอี้สนใจก็คือความรู้สึกที่ดูภาคภูมิในการขี่หมาป่า
เจียงหยุนไฮ่เห็นว่าแววตาของเจียงอี้เต็มไปด้วยความอิจฉา เขาส่ายหัวแล้วพูดว่า "ใต้เท้าน้อย ท่านรู้หรือไม่ว่าสำนักจิตอสูรมีชื่อเสียงมากที่สุดเรื่องวิญญาณสัตว์อสูร? สำนักจิตอสูรตั้งอยู่ในหุบเขาสามหมื่นลี้และสิ่งหนึ่งที่หุบเขาสามหมื่นลี้ไม่เคยขาดคือสัตว์อสูร ตราบใดที่ท่านกำลังจะเป็นหนึ่งในศิษย์สำนัก ท่านจะได้รับความลับในการฝึกฝนพวกมัน และหากท่านได้เป็นหนึ่งในศิษย์สำนัก ท่านสามารถฝึกสัตว์ที่มีขนาดใหญ่และแข็งแรงขึ้น...อย่างเช่นตรงนั้น!"
เจียงหยุนไฮ่ใช้นิ้วชี้ไปอีกทาง เจียงอี้หันไปตามนิ้วของเขาและหัวใจของเขาก็เริ่มเต้นแรงเมื่อเขามองไปที่นั่น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจและกลัว
"ปึง ปึง ปึง... !"
ด้านหน้าของถนนนั้นเป็นสัตว์ประหลาดขนาดยักษ์...มันเป็นสัตว์ที่มีความสูงอย่างน้อยสามเมตร ร่างของมันเป็นหิมะสีขาว ขาใหญ่ของมันหนากว่าร่างของเจียงอี้ ดวงตาที่ดูเหมือนระฆังทองสัมฤทธิ์เต็มไปด้วยเจตนาเยือกเย็นมากมายที่ทำให้จิตใจของผู้คนกลัว
บนไหล่ของสัตว์อสูรตนนี้คือรุ่นเยาว์ที่มีผิวขาวที่มองทุกคนด้วยความเย่อหยิ่ง เมื่อรุ่นเยาว์ผู้นั้นเห็นเจียงอี้จ้องมองเขาด้วยสายตาที่ตกใจ เขาก็ยิ้มเยาะและดูเหมือนจะเย้ยหยันเจียงอี้เพราะเขาไร้เดียงสาเหมือนชาวนาจากชนบท
"สัตว์ขนาดมหึมาตนนี้แข็งแกร่งกว่าผู้ที่อยู่ขอบเขตจื่อฝู่ใช่ไหมท่านปู่? ทำไมผู้คนในเมืองถึงไม่กลัวสัตว์อสูรนี้ล่ะ ถ้ามันบ้าคลั่งและทำร้ายใครแบบสุ่มขึ้นมาล่ะ"
เจียงอี้เบี่ยงสายตาของเขาและหันมามองเจียงหยุนไฮ่ ก่อนที่เจียงหยุนไฮ่จะตอบ ดวงตาของเจียงอี้ก็เปล่งประกายแวววาวขณะที่เขาถามอย่างตื่นเต้นว่า “ท่านปู่ ข้าจะทำให้สัตว์อสูรทรงพลังเชื่องได้ในอนาคตใช่ไหม?”
"ฮ่าๆ สัตว์ร้ายที่เชื่องจะไม่ทำร้ายใครโดยไม่ได้รับคำสั่งจากผู้ฝึกสอนของพวกเขา นี่คือเมืองจิตอสูร ส่วนใหญ่แล้วศิษย์สำนักจิตอสูรจะนำสัตว์อสูรของพวกเขาไปรอบๆเมืองนี้ด้วย คนส่วนใหญ่คงคุ้นเคยกับสถานที่ท่องเที่ยวประเภทนี้และพวกเขาไม่ได้กลัวเลย"
เจียงหยุนไฮ่หัวเราะ "ใต้เท้าน้อย ตราบใดที่ท่านสามารถเข้าเรียนในสำนักได้และฝึกฝนอย่างขยันขันแข็งเพื่อให้ได้อันดับศิษย์สำนักยอดเยี่ยม ท่านจะมีวิญญาณสัตว์อสูรที่เชื่องของท่านเอง ยิ่งไปกว่านั้นความแข็งแกร่งของท่านก็คือสัตว์อสูรที่ท่านสามารถทำให้เชื่องได้!"
"โอ้ ข้าเข้าใจแล้ว!"
เจียงอี้พยักหน้าไม่หยุด ตอนแรกเขาไม่มีความนับถือเกี่ยวกับสำนักจิตอสูรเลย แต่ตอนนี้เขาต้องการอย่างยิ่งที่จะเข้าไปที่นั่น หากเขาสามารถมีสัตว์อสูรที่น่าเกรงขามเขาจะสามารถขี่มันและเดินทางรอบเมืองต่างๆได้อย่างง่ายดาย เจียงอี้อาจจะค่อนข้างดูเป็นผู้ใหญ่สำหรับกลุ่มอายุของเขา แต่อย่างไรก็ตามเขาก็อายุเพียงสิบหกปีและยังคงมีนิสัยเป็นเด็ก
“นั่น มีเสือดำอยู่ตรงนั้นด้วย!”
"อึ๋ย ผู้นั้นเป็นศิษย์ของสำนักจิตอสูรแน่นอน เขากำลังขี่ด้วง..สัตว์ตนนี้น่ากลัวจัง... "
เจียงอี้อยู่บนรถม้าและสังเกตทุกอย่าง เขาอ้าปากค้างบางครั้ง เหมือนเด็กไร้เดียงสา หากผู้คนจากเมืองเทียนอวี่เห็นพฤติกรรมปัจจุบันของเขา พวกเขาคงเชื่อว่าเจียงอี้ไม่เคยเป็นปีศาจเลือดเย็นที่ฆ่าและทำลายคนเหล่านั้นทั้งหมดบนเนินเขาซีชานเป็นแน่
"ท่านปู่ ข้าเห็นบางคนที่ข้ารู้สึกคุ้นเคย! นั่น เหล่าตัวแทนสามคนจากสำนักจิตอสูร! แม่นางซูและคนอื่นๆ!"
เจียงอี้เปิดม่านแล้วชี้ไปที่บุคคลสามคนที่ยืนอยู่ด้านนอกโรงเตี๊ยมขนาดใหญ่ เจียงหยุนไฮ่มองดูและพยักหน้า "การชำระโลหิตกำลังจะเริ่มขึ้น ข้าคาดว่าพวกเขาจะมาปรากฏตัวที่นี่ด้วยเหตุนี้แหละ"
"หวด!"
ทันใดนั้น เสียงก็ดังขึ้นจากบนท้องฟ้า เขาสามารถได้ยินเสียงเนื่องจากความเร็วในการบินนั้นว่องไวมาก เสียงนั้นคมชัดและดึงดูดความสนใจของผู้คนนับไม่ถ้วน เจียงอี้ยกศีรษะขึ้นมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง
บนท้องฟ้ามีปีกสีขาวเหมือนหิมะที่ฉุดลากรถม้าอันหรูหราข้ามฟากฟ้า รถม้านั้นถูกปั้นด้วยทองสัมฤทธิ์ แต่สามารถลอยกลางอากาศได้หรือ? มันดูลึกลับอย่างแปลกประหลาดและเป็นสิ่งที่เจียงอี้ไม่เคยได้ยินมาก่อนเช่นเรื่องจินตนาการหรือตำนานต่างๆ
“ใต้เท้าน้อย ข้าได้บอกท่านเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปแล้ว โลกนี้เต็มไปด้วยความลึกลับ รถม้านี้เป็นเพียงรถม้าสงครามศักดิ์สิทธิ์โบราณชนิดหนึ่ง มีขบวนการก่อตัวลึกลับภายในรถม้าที่ทำให้ลอยอยู่กลางอากาศได้ซึ่งมีสัตว์วิญญาณพิเศษอยู่ในนั้น พวกมันเป็นสัตว์ชนิดพิเศษซึ่งพวกมันดูดีและมีกำลังรบไม่มาก ซึ่งมันค่อนข้างหายาก ในทวีปนี้มีเพียงไม่กี่สิบตัวเท่านั้น”
เจียงหยุนไฮ่อธิบายให้เจียงอี้ฟังในขณะที่หัวเราะไปด้วย แต่เขามองไปที่รถม้าศึกที่ค่อยๆเคลื่อนไปยังเมืองจิตอสูร เขาเห็นบุรุษหนุ่มผู้เยาว์นั่งอยู่ในรถม้าและใบหน้าของเขาก็เย็นชา เจียงหยุนไฮ่บ่นกับตัวเองว่า “นั่นใช่เขาจริงเหรอ?”
เจียงอี้เห็นบุคคลนี้ชัดเจนเช่นกัน เด็กหนุ่มสวมเสื้อเกราะรบสีเงิน เขามีรูปหล่อและการปรากฏตัวที่ไม่ธรรมดา..ที่เหนือกว่านายน้อยอย่างเจียงเฮิ่นซุ่ย เขากระโดดจากกลางอากาศและบินตรงไปยังตัวแทนสามคนของสำนักจิตอสูร ดวงตาของเขาจ้องมองที่แม่นางซูที่เย็นชา เขายิ้มและหัวเราะขณะอยู่กลางอากาศ "รั่วเสวี่ย ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ!"
"นี่ คนผู้นี้..."
เจียงอี้จู่ๆก็ปล่อยม่านลงและดูอึดอัดเป็นอย่างมาก ขนบนร่างของเขาตั้งขึ้นราวกับว่าเขาเห็นสิงโตที่เป็นศัตรูโดยธรรมชาติ เขามองไปที่เจียงหยุนไฮ่ด้วยการแสดงออกอย่างจริงจังและถามว่า “ท่านปู่ คนผู้นั้นเป็นใครกัน? ทำไมข้าถึงรู้สึกไม่สบายใจเมื่อข้ามองไปที่เขา? มันเหมือน ... เขาถูกกำหนดให้เป็นตัวซวยของข้าเลย!”
“เอ่อ?”
ดวงตาของเจียงหยุนไฮ่เต็มไปด้วยอารมณ์ซับซ้อนและถอนหายใจหลังจากนั้นไม่นาน "ใต้เท้าน้อย ท่านไม่สามารถยุแหย่กับบุคคลนี้ได้ อย่างน้อยก็ไม่ได้ในตอนนี้เพราะเขาเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของจอมพลกองทัพทหารตะวันตก...เจียงนี่หลิว!"