Chapter 136 – Black Market Eleventh Shopping (3) [17-03-2020]
Chapter 136 – Black Market Eleventh Shopping (3)
”
เมื่อการท่านอาหารสิ้น สุดก็ตามมาด้วยขนมหวานที่ทุกๆคนได้ทานร่วมกันและถือว่าเป็นการสิ้นสุดของการประชุมในวันนี้
"เอาล่ะการประชุมในวันนี้จบแล้ว ไว้เจอกันใหม่ในเช้าวันพรุ่งนี้นะ"
"โอเค"
"แน่นอน"
"อา เซริน เบลเทรน ช่วยอยู่นี่เดี๋ยวนะเพราะพวกเราจะต้องแลกเปลื่ยนไอเทมกัน"
"ถ้างั้นฉันไปก่อนนะ"
"ไว้เจอกันพรุ่งนี้"
ฟรานซ์และนาดาได้กลับไปที่มิติของตัวเองก่อน ซังจินก็ได้ดึงเอาธนูน้ำแข้งและโล่ของอิลลิชออกมาวางไว้บนโต๊ะก่อนที่ซังจินจะได้พูดอะไร เซรินก็ชี้ไปที่ธนูและพูดออกมา
"แล้วราคามันคือเท่าไหร่หรอ?"
"หืมม...เพราะว่ามันเป็นไอเทมระดับตำนาน มันควรจะมีมูลค่อยู่ที่หมื่นห้าพันเหรียญ แต่ว่าด้วยความสามารถของมันควรจะเป็น 12000"
"12000 หรอ?"
"ใช่ มันแพงไปหรอ?"
เซรินได้ขยับเข้ามาใกล้ เอนตัวมาข้างหน้าและมองออกมาด้วยตาน่าสงสารพร้อมถามขึ้น
"ลดให้หน่อยไม่ได้หรอ?"
ซังจินได้จ้องไปที่เธอ
'ผู้หญิงคนนี้....'
ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด ในตอนแรกที่เขาพบเธอ เธอเป็นคนที่เย็นชาและเป็นผู้ใหญ่ตามที่เขาเคยเห็นในทีวี แต่ว่าตอนนี้เธอได้กลายเป็นมิตร เธอน่าสนใจและทำตัวน่ารัก มันเหมือนกับว่าเธอนั้นแตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง มันช่วยไม่ได้ที่ซังจินโอนอ่อนให้เธอ
"เอาล่ะ...ฉันก็ต้องการขายให้เธอในราคาที่ถูกเหมือนกัน"
"ถ้านั้นนายก็ทำสิ ทำไมนายไม่ทำล่ะ?"
ซังจินได้ตัดสินใจอย่างมีเหตุผล มันจะไปไกลได้มากยิ่งขึ้นด้วยการได้รับเงินที่มากจะสามารถใช้ซื้ออิลิกเซอร์ได้ เซรินก็จะได้รับประโยชน์ในเรื่องนี้ได้ด้วย
"แต่ฉันไม่สามารถจะทำได้ ฉันมีสถานที่ๆจะต้องใช้จ่ายอยู่ ฉันไม่ต้องการที่จะเล่นขายของกับเธอหรอกนะ แต่ว่าฉันก็ต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้นเพื่อที่..."
ในตอนนั้นเองเซรินก็ได้หยุดเขาไว้
"ฉันเข้าใจโอปป้า จริงๆแล้ว...ฉันก็จะจ่ายเงินไม่ว่ายังไงก็ตาม"
ซังจินได้เอียงหัวของเขา
"อืมม?"
"ฉันรู้ว่าโอปป้ากำลังทำเพื่อนทุกๆคน ดังนั้นฉันก็ต้องการที่จะเข้าร่วมและทำประโยชน์ด้วย"
"ถ้างั้นทำไมเธอถึงขอส่วนลดล่ะ?"
"ฉัน....ก็แค่อย่าจะถามเพียงเพื่ออยากจะดูการตอบสนองของนาย"
เซรินยิ้มออกมาอย่างที่คาดเดาไม่ได้
"ขอบคุณสำหรับชิ้นส่วนลับด้วย ฉันพึ่งจะขายมันไป มันทำให้ฉันมีเงินพอที่จะซื้อมัน ฉันจะซื้อมันในตอนนี้"
ซังจินรู้สึกสับสนในพฤติกรรมของเธอ แต่ว่าเขาก็ยังทำการแลกเปลื่ยนกับเธอ
"หืมม...โอเค"
"แลกเปลื่ยนธนูแอชช์แทรนน์"
"แลกเปลื่ยนหนึ่งหมื่นสองพันเหรียญดำ"
"อนุมัติ"
"อนุมัติ"
แอชช์แทรนน์ได้กลายเป็นไอเทมของเซรินแล้ว แม้ว่าซังจินจะถือธนูอยู่เขาก็ไม่สามารถจะใช้มันได้อีกต่อไป และถึงแม้ว่าเซรินจะทิ้งธนูเอาไว้มันก็จะกลับมาอยู่ในลูกบาศก์ของเธอเอง
"ตอนนี้เสร็จแล้ว แล้วเธอจะหาอีกสองอันจากไหนหรอ?"
ความคิดนี้ได้เข้ามาข้างในหัวของเขาหลังจากคิดตามจริง
"หนึ่งอันฉันอาจจะสามารถหามันได้จากการประมูล ส่วนอีกอันพี่สายนาดาสัญญาว่าจะขายให้ฉัน"
"นาดา?"
"ใช่แล้ว พวกเราได้คุยกันในก่อนก่อนหน้านี้และพี่สาวนาดาได้บอกว่าเธอก็ได้รับมาในรอบนี้เช่นกัน และเพราะว่าเธอไม่สามารถใช้ธนูได้..."
"โอ้จริงหรอ?"
"ใช่แล้ว ฉันไม่มีเงินที่พอจะซื้อทั้งสามอันในเวลาเดียวกัน...ดังนั้นพี่นาเลยตัดสินใจให้ฉันมาก่อนและบอกว่าให้ฉันจ่ายทีหลังช้าๆในตอนที่ได้เหรียญเยอะขึ้น"
ผู้หญิงทั้งสองคนจะต้องสนิทกันในตอนที่ฉันไม่ได้สังเกตุเห็น ไม่น่าแปลกใจเลยเพราะว่าในการจู่โจมมีแต่ผู้ชายดังนั้นเป็นเรื่องง่ายที่ผู้หญิงจะเข้าใจกันและกัน
"นั่นมันดีมากเลยนะ"
"ใช่แล้ว ฉันก็ยังสัญญาไว้อีกด้วยว่าจะขายไอเทมที่เกี่ยวกับเวทมนตร์ให้เธอในราคาถูก ตามที่โอปป้าบอกมันจะเป็นประโยชน์แก่กันและกัน"
"โอเค ฉันดีใขที่ได้ยินเช่นนั้น"
"ถ้างั้นฉันไปก่อนนะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้เช้าโอปป้า"
"โอเค"
เซรินได้เอาธนูและมุ่งหน้ากลับไปที่มิติของเธอ คนสุดท้ายที่เหลืออยู่ก็คือเบลเทราน บนโต๊ะมีโล่ของเบลเทรนวางเอาไว้อยู่
เบลเทรนควรจะเดาได้อยู่แล้วว่าโล่อันนี้มันมีไว้ให้สำหรับเขา ซังจินได้พูดออกมาโดยไม่ได้ขยับโล่ไปจากโต๊ะ
"อย่างที่นายเห็นจากการแลกเปลื่ยนในก่อนหน้านี้...ฉันก็จะขายโล่นี้ให้กับนายเหมือนกัน"
เบลเทรนได้กลืนน้ำขายลงไป เขาได้ตระหนักว่าโล่ช้นนี้มันไม่ใช่ไอเทมที่ไม่ธรรมดา
"แต่ฉันไม่สามารถขายโล่นี้ได้อย่างงาย"
"ทำไมล่ะ?"
สำหรับคำถามของเขานี้
"โอเปอเรเตอร์"
ซังจินได้สังลูกบาศก์ให้โชว์หน้าต่างสเตตัสให้เบลเทรนดู ตามคาดปากของเบลเทรนได้ค้างออกมา ซังจินได้ชูนิ้วขึ้นสองนิ้วเป็นตัว V และพูดกับเขา
"มันมีเหตุผลอยู่สองประการที่ทำให้ฉันไม่สามารถจะขายไอเทมนี้ให้กับนายได้อย่างง่ายดาย อย่างแรกเลยคือมันมีราคาที่แพงเกินไป มันเป็นการยากที่จะขายไอเทมนี้ด้วยราคาที่ยุติธรรม พิจารณาได้โดยจากรายละเอียดของมันเลยเพียงแค่นี้มันก็มีมูลค่ามากกว่าห้าหมื่นเหรียญ..."
ซังจินได้ตรวจสอบการแสดงออกของเบลเทรน เขาดูไม่ดีนักและมันก็เป็นไปตามที่เขาคาด แม้แต่ซังจินเขาก็ได้รับเหรียญแค่สองหมื่นเหรียญเท่านั้นในรอบนี้
นักล่าโดยทั่วไปนั้นไม่มีความสามารถในการล่าฆาตกรเพื่อที่จะได้รับเหรียญเหมือนกับซังจิน พวกเขาก็จะต้องเก็บสะสมเหรียญมากว่าสามบทและขายไอเทมทุกๆอย่างเพื่อที่จะได้รับจำนวนเงินเท่านี้
แต่ว่านี่ก็เป็นเพียงแค่ทฤษฏีเท่าน การเก็บสะสมเหรียญไว้ในลูกบาศก์โดยไม่ใช้จะเพิ่มโอกาสการตายเป็นอย่างมาก
"และนั่นมันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นจริง และเพราะว่านายเป็นพรรคพวกของฉัน ฉันจะขายมันในราคาเพียงแค่สามหมื่นเหรียญ"
เบลเทรนได้ขบริมฝีปากและหยักหน้า เขาอาจจะคิดว่าจำนวนเงินเท่านี้มันอาจจะเป็นไปได้
"ถ้ามันเป็นสามหมื่นเหรีญญ ฉันก็อาจจะสามารถซื้อมันได้ในการเคลียร์การจู่โจมหนึ่งหรือสองบท จากนั้นฉันก็จะซื้อมัน"
ซังจินได้โบกมืด้วยนิ้วชี้และพูดออกมา
"อา ไม่ๆ มันเป็นเหตุผลที่สองที่ว่าทำไมฉันถึงไม่สามารถจะขายไอเทมนี้ได้ง่ายๆ ถ้าหากว่าเราเคลียร์ปัญหานี้กันได้ ฉันสามารถจะมอบไอเทมชิ้นนี้ให้นายได้เลยในตอนนี้และค่อยจ่ายคืนฉันในภายหลัง
"ถ้างั้นเหตุผลนั้นมันคืออะไร?"
"อย่างที่นายเห็น...โล่นี้มันเป็นไอเทมระดับตำนวนพิศษ ฉันไม่แน่ใจว่านายเคยเห็นมันมาก่อนมั๊ย...แต่ว่ามันเทียบเท่ากับไอเทมที่ฉันใช้อยู่ได้เลย เหตุผลเพียงอย่างเดียวที่ฉันถึงได้ขายมันก็เพราะ...ฉันไม่ได้ใช้โล่ ถ้ามันเป็นเกราะหรือหมวกฉันก็จะใช้เอง"
เบลเทรนได้หนักหน้า ถ้าเบสโกโร่ได้ยินเช่นนี้จะต้องโวยวายแน่นอน
โชคดีที่ซังจินได้เอาเขาไปวางไว้บนตัวม้าในคอกม้าตั้งนานแล้ว จากนั้นซังจินก็พูดต่อออกมา
"ไอเทมชิ้นนี้มันแข็งแกร่งเกินไปดังนั้นเพื่อที่ฉันจะขายมันให้กับนาย...ฉันก็ต้องการความไว้วางใจที่สูงมากที่มีกับนาย"
"ความไว้วางใจที่สูง?"
"ใช่แล้ว มันมีความเป็นไปได้ที่นายจะทรยศฉันหลังจากที่ได้รับไอเทม
"ไม่มีทาง..."
เบลเทรนได้ทำหน้าราวกับว่าเขาไม่สามารถจะจินตนาการได้เลย แต่ว่าว่านั่นมันก็ยังไม่พอเอ็ดเวิร์ดก็เคยทำหน้าแบบนี้
"เบลเทรน...มันเป็นความจริงที่ว่าชะตากรรมของพวกเราได้เชื่อมต่อกัน แต่ว่า...จริงๆเราก็ไม่ได้มีโอกาสทำความรู้จักกันเหมือนกับคนอื่นๆ"
"ฉันคิดว่า...นั่นมันคือเรื่องจริง"
"ฉันรู้ว่าฉันได้บอกนายไปในครั้งนั้น...แต่ว่าฉันคิดว่าฉันอยากจะถามนายอีกสักสองสามคำถามได้มั๊ย?"
"ได้สิ ถามอะไรฉันมาก็ได้"
ซังจินได้พูดกับเขา
"มาคุยเกี่ยวกับครอบครัวกันก่อน นายมีครอบครัวมั๊ย?"
"ฉันมีแม่...แล้วก็คู่หมั่น"
"แล้วพ่อนายล่ะ?"
"เขาได้ทิ้งฉันไปเมื่อตอนฉันยังเด็ก ฉันรู้ชื่อของเขา แต่ว่าไม่เคยเห็นหน้าของเขาเลย"
"หืมม..."
ซังจินได้หยักหน้าอย่างเงียบๆ ตัวเขาเองก็เป็นเด็กกำพร้า เมื่อเทียบกันแล้วการมีแม่เพียงคนเดียวก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร สิ่งที่สำคัญก็คือจะต้องดูว่าเขาห่วงใยครอบครัวของเขามากแค่ไหน
"แล้วแม่กับคู่มั่นของนายล่ะ? นายรู้สึกยังไงกับพวกเขา?"
"อยากแรกเลยนะ...แม่ของฉันเธอเป็นผู้หญิงที่น่าทึ่ง เธอได้เลี้ยงดูฉันด้วยตัวคนเดียวและทำงานเป็นแม่บ้านไปด้วยตลอดทั้งชีวิต แม้ว่าสภาพที่น่าลำบากของพวกเรา เธอก็ยังให้การสนับสนุนฉันจนได้กลายมาเป็นตำรวจ ฉันจะต้องแสดงความกตัญญูของฉันอย่างสุดกำลัง"
"แล้วคู่หมั่นของนายล่ะ?"
"คู่หมั่นของฉันเป็นคนที่ยอดเยี่ยมที่สุด เธอรักฉันแม้ว่าฉันจะมีพื้นฐานที่ยากลำบาก ตอนนี้เธอกำลังตั้งท้องลูกของฉัน แต่ฉันไม่รู้ว่า..."
ซังจินได้สัมผัสไปที่ดวงตาแห่งเจรามิทในขณะที่ถามออกไปด้วย
"แล้วนายเห็นพวกเขาผ่านจอที่โอเปอเรเตอร์โชว์ให้ดูมั๊ย?"
"...เห็น"
แต่ในขณะที่เขาตอบกลับมาขอบตาของเขาก็มีสีแดงเล็กน้อย แล้วเสียงที่แข้มแข็งก็ดังนี้
'ฉันจะต้องช่วยพวกเขา'
มันดูเหมือนว่าเป็นอารมณ์มนจิตใจที่แข็งแกร่งได้ดังผ่านดวงตาเจรามิท ซังจินได้คำนึงถึงเสียงที่ได้ยินในหัวของเบลเทรนและเริ่มถามตรงๆ
"ถ้างั้น...นายต้องการที่จะช่วยพวกเขา"
"ใช่"
"ฉันเห็นแม่ของฉันจากบทแรก... แต่ว่าฉันไม่เห็นคู่หมั่นของฉันจจนกระทั่งหลายๆบทต่อมาในฮอลนักล่า นั่นหมายความว่า..."
เบลเทรนไม่สามารถที่จะพูดต่อได้ เขาเห็นเธอหลังจากที่บทผ่านไปนั่นมันหมายความว่าเธอรอดพ้นในช่วงบทแรกๆและมาตายลงไปในภายหลัง
"ฉันไม่รู้ว่าเธอทำได้ยังไงในขณะที่มีลูก...ฉันสงสัยว่าถ้าลูกของฉันไม่เป็นอะไร..."
ซังจินไม่ได้กดดันอะไรไปมากกวานี้ เบลเทรนได้ตั่วสั่นในขณะที่ร้องไห้
'ฉันจะต้องทำมัน ฉันจะต้องจบการจู่โจม ถ้าฉันไม่...'
ซังจินได้ยินเสียงดังอีกครั้ง ตอนนี้เขาได้ยินมันขึ้นมา เขาก็คิดขึ้นในใจ ในกรณีนี้ก็มีเพื่อนร่วมทีมของเขาสองคนในอดีตที่เป็นแบบนี้เช่นกันนั่นคือมัสตาฟาและฮิวเดอแบรนท์ ทั้งสองคนนี้มีความปรารถนาอย่างยิ่งที่จะช่วยครอบครัวของตัวเอง ซังจินไม่ได้สังเกตุเห็นแต่ว่าดารูปปินที่อยู่ด้านข้างได้เอาผ้าเช็ดหน้ามาให้เบลเทรน เขาได้รับมันมาและเช็ดหน้าของเขา เมื่ออารมณ์ของเขาคงที่ ซังจินก็พูดกับเขา
"ฉันขอโทษที่ทดสอบนายนะเบลเทรน"
"ไม่ๆ ฉันเข้าใจเหตุผลของนายเค"
ซังจินได้ผลักโล่ไปทางเบลเทรนและพูดกับเขา
"รับไปซะ มันเป็นของนาย"
เบลเทรนได้หยักหน้ารับ
"แน่นอนว่ามันไม่ฟรี ฉันจะให้นายหนึ่งหมื่นสำหรับในการจู่โจมสามครั้งถัดไป นั่นมันจะเป็นการลดภาระของนายใช่มั๊ย?"
"แน่นอน"
ซังจินและเบลเทรนได้เสร็จสิ้นการแลกเปลื่ยน มันเป็นการแลกเปลื่ยนที่เป็นกำไรอย่างมากสำหรับเบลเทรน เขาสามารถที่จะได้ไอเทมรับดับตำนานไปก่อนเลยโดยที่ไม่สูญเสียเงินสักบาท
แน่นอนว่านี้มันไม่ใช่การค้าขายที่ไม่ดีสำหรับซังจิน เดิมทีเป้าหมายของเขาก็คือการสร้างพรรคพวกที่เข้มแข็งและน่าเชื่อถือทั้ง 9 คนอยู่แล้ว ดังนั้นการลงทุนไปกับสิ่งนี้มันก็คือสิ่งที่ถูกต้อง
ซังจินนั้นแข็งแกร่ง แต่ว่าเขาก็มีเพียงแค่สองมือเขานั้น เพื่อที่จะเคลียร์การจู่โจมทั้งหมดเขาก็จะต้องมีแท้งที่น่าเชื่อถืออย่างเบลเทรน
"ถ้างั้นไว้เจอกันพร้อมกับคนอื่นๆในวันพรุ่งนี้นะเบลเทรน"
"โอเคเค ราตรีสวัสดิ์"
เมื่อเบลเทรนจากไป วังจินก็ได้เดินออกไปจากโรงแรม ที่ข้างนอกเคนและราร์ได้เดินเข้ามาคลอเคลียร์ซังจิน เขาได้เงยหน้าขึ้นมองไปบทท้องฟ้าในขณะที่ลูบขนราร์และเคน ซังจินได้สัญญากับตัวเองในขณะที่มองขึ้นไปที่ดวงจันทร์
'ในครั้งนี้...ฉันจะไม่พลาด...มันจะไม่มีอีกแล้ว'
สามารถจะติดต่อเข้ากลุ่มลับได้ที่เพจนี้เลย > จิ้มเลย <