MPE บทที่ 19 หนังสือรับรองผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรขั้นกลาง
วานรโครงกระดูก มองไปที่ร่างที่ไม่มีเนื้อของตัวเอง เป็นเรื่องยากที่จะบอกถึงอารมณ์ของมันผ่านเปลวเพลิงสีฟ้าในเบ้าตา
มันยืนนิ่งมองมาที่เกาเผิง
[ชื่อสัตว์อสูร] วานรโครงกระดูก
[เลเวล] 11 (ชนชั้นขุนนาง)
[ระดับ] สมบูรณ์
[คุณสมบัติ] ธาตุอันเดท
[สถานะ] อ่อนแอ (ตื่นเต้น)
[จุดอ่อน] ธาตุแสง
[ความต้องการเปลี่ยนระดับ] …
สัตว์อสูรระดับสมบูรณ์! เมื่อมันเลเวล 20 มันจะกลายเป็นสัตว์อสูรชนชั้นนักรบทันที
มันสามารถเป็นสัตว์อสูรระดับแนวหน้าได้เลยและทั้งยังเป็นสัตว์อสูรหายากอย่างไม่ต้องสงสัย หากเป็นผู้ฝึกสอนสัตว์อสูรที่ชื่นชอบสัตว์อสูรธาตุอันเดท พวกเขาจะทุ่มสุดตัวเพื่อคว้ามันมาไว้ในครอบครอง
แต่ทั้งหมดนี่ไม่มีสิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับเกาเผิงอีกต่อไปแล้ว สัตว์อสูรตัวนี้เป็นของสมาคมผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูร แม้แต่สถานที่และวัตถุดิบในการยกระดับก็มาจากสมาคมทั้งสิ้น เกาเผิงไม่เคยคาดหวังว่าวานรโครงกระดูกจะเป็นของเขา
นี่เป็นเพียงการแสดงความสามารถเล็กๆน้อยๆของเขาเท่านั้น ตราบเท่าที่มีทรัพยากรเพียงพอ เขาก็สามารถยกระดับสัตว์อสูรได้ทุกชนิด
เกาเผิงเตรียมตัวจากไปแต่วานรโครงกระดูกกับดึงแขนเสื้อของเขาเอาไว้และส่งเสียงครวญครางออกมาเบาๆ
“ไม่เอาน่า ระดับของแกเพิ่มขึ้นแล้วนี่ ยังต้องการอะไรเพิ่มอีกหรือ?”เกาเผิงเผยรอยยิ้มบางและพยายามแกะมือของวานรโครงกระดูกออกจากเสื้อของเขา
วานรโครงกระดูกจ้องมองเกาเผิงอีกครั้ง ช่างเหมือนกับเด็กน้อยที่หลงทางเลย ไฟสีฟ้าตาในของมันแสดงความเศร้าเล็กน้อย
“นี่มัน…เป็นสัตว์อสูรสายพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่เคยถูกค้นพบมาก่อน” ผู้อาวุโสของสมาคมกล่าวด้วยความตื่นเต้น จากนั้นเขาจึงหันหน้าไปทางเกาเผิงผู้ที่ยกระดับสัตว์อสูรตัวนี้ ด้วยอายุของเกาเผิงทำให้ผู้อาวุโสของสมาคมตกใจ โดยไม่ต้องสงสัย เด็กหนุ่มผู้นี้มีพรสวรรค์ชั้นยอด เขาคืออัจฉริยะ!
เขารู้สึกยกย่องเด็กหนุ่มผู้นี้เป็นอย่างมาก
“ฮ่าฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่าเจ้านี่อยากจะให้เธอเป็นเจ้าของของมันนะ” ผู้อาวุโสของสมาคมหัวเราะเสียงดัง “เอาอย่างนี้มั้ย ทำไมไม่ให้เจ้าหนูนี่เอามันไปเลี้ยงล่ะ”
“แต่ผู้อำนวยการคือว่า…” สมาชิกในสมาคมบางคนดูเหมือนจะไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้
สมาชิกคนอื่นล้วนเปิดเผยใบหน้าที่ซับซ้อนเช่นกันโดยปกติสัตว์อสูรที่ยกระดับได้ถูกมอบให้กับสมาชิกที่มีผลงานโดดเด่น มันเป็นสวัสดิการรูปแบบหนึ่งของสมาคม
พวกเขาไม่อยากให้กับเกาเผิง เพราะว่าพวกเขาอาจได้มันในอนาคต
เกาเผิงมองชายวัยกลางคนวัย 30 ด้วยความประหลาดใจ ด้วยภาพลักษณ์ของเขา มีความเป็นไปได้สูงมากว่าเขาจะเป็นผู้อำนวยการสมาคมเพาะพันธุ์สัตว์อสูรแห่งนี้
“วานรธาราสีชาดตัวนี้ได้ถูกนำมาทดลองกี่ครั้งแล้ว? พวกแกคิดจริงๆหรือว่าฉันไม่รู้เรื่องนี้! ตามกฎแล้ว สัตว์อสูรที่ได้รับอนุญาตให้นำมาทดลองนั้นมีจำนวนจำกัด เจ้าตัวนี้มันผ่านการทดลองมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว มันใกล้จะถูกปลดระวางแล้วด้วยนะ?” ชายวัยกลางได้แสดงท่าทีอันเย็นชา “มันโชคดีแค่ไหนที่เด็กคนนี้สามารถยกระดับสัตว์อสูรที่คนอื่นได้ทดลองผิดพลาดตัวนี้ได้ โลกจะคิดอย่างไร หากมีข่าวหลุดออกไปว่าสมาคมเพาะพันธุ์สัตว์อสูรฉางอาน ไม่สามารถนำสัตว์อสูรสุขภาพดีมาที่นี่เพื่อใช้สอบ ทั้งหมดมันเป็นความผิดของพวกแก!”
เจ้าหน้าที่หลายคนถึงกับพูดไม่ออก
กระทั่งผู้เข้าร่วมการทดสอบยังรู้สึกอึดอัดใจ
อย่างไรก็ตามนี่เป็นครั้งแรกที่ผู้อำนวยการสมาคมเพาะพันธุ์สัตว์อสูรผู้นี้พบอัจฉริยะวัยเยาว์เช่นเกาเผิง เขาเป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องโชคเพราะการยกระดับสัตว์อสูรนั้น เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก หากเกิดข้อผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว การยกระดับจะล้มเหลวไปเลย
ดังนั้นผู้อำนวยการจึงต้องให้ความสำคัญกับเกาเผิงอย่างเต็มที่
“เพื่อนตัวน้อยของฉัน หากเธอไม่รังเกียจ ช่วยอธิบายถึงวิธีการยกระดับให้พวกเราฟังได้หรือไม่?” ผู้อำนวยการพูดไปพลางหัวเราะ
ได้ยินอย่างนั้น ผู้คนรอบข้างจึงตั้งใจฟังอย่างเต็มที่
เกาเผิงลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะถอนหายใจ เดิมทีเขาต้องการเก็บซ่อนความสามารถนี้ แต่หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เขาตระหนักว่าไม่สามารถปกปิดมันได้อีกต่อไป
“ผมคิดว่าผู้เข้าสอบก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่รู้เลยว่าได้ทำอะไรลงไปกับวานรธาราสีชาดไปบ้าง” เกาเผิงกล่าวอย่างตรงไปตรงมา
“แม้จะมีคำว่า ‘ธารา’ อยู่ในชื่อของมัน แต่จริงๆแล้วมันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับธาตุน้ำเลย ชื่อของมันได้ตั้งตามถิ่นที่อยู่ของมันเท่านั้น”
“อย่างไรก็ตามพวกเขายังใช้วัตถุดิบธาตุน้ำหรือธาตุหยินที่ใช้ในปริมาณมากกับมัน ตรงนี้แหละที่เป็นปัญหา สำหรับธาตุน้ำไม่เป็นปัญหากับมันสักเท่าไหร่ แต่ธาตุหยินนั้นไม่ใช่ เพราะว่าธาตุหยินถือเป็นจุดอ่อนของพวกมัน” เกาเผิงหยุดก่อนกล่าวต่อ “หลังจากผ่านความผิดพลาดหลายต่อหลายครั้ง วานรธาราสีชาดจึงในสภาพที่ผิดปกติเช่นนี้”
“โอ้ เธอกำลังบอกว่าจุดอ่อนของวานรธาราสีชาดคือธาตุหยินอย่างงั้นหรือ?” ผู้อำนวยการรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ถ้าอย่างงั้นมันเป็นธาตุไม้ใชมั้ย”
“หากอิงตามความสัมพันธ์ของกลุ่มธาตุ ธาตุไม้เป็นส่วนหนึ่งของผืนดินใช่ไหม?” บางคนพึมพำ
“ความสัมพันธ์ของธาตุไม่ได้เป็นไปตามกฎเกณฑ์เสมอไป ในความเป็นจริงกฎเหล่านี้ถูกคิดค้นขึ้นโดยมนุษย์ กฏเหล่านั้นอาจใช้ไม่ได้กับสัตว์อสูร” เกาเผิงกล่าว
“พลังงานธาตุหยินสะสมอยู่ในร่างกายของวานรธาราสีชาดมากเกินไป การจะนำมันออกมาต้องใช้เวลาและสูญเสียพลังงานอย่างมาก ดังนั้นผมจึงตัดสินใจทำในสิ่งตรงข้าม”
“ในช่วงเวลา 3วันที่ผ่านมา ผมให้มันกินหญ้าเทียนดําเป็นอาหารเพื่อเพิ่มพละกำลังให้มัน ต่อมาจึงใช้วัตถุดิบธาตุหยินและแก่นคริสตัลของสัตว์อสูรธาตุอันเดทเพื่อกระตุ้นให้เกิดการวิวัฒนาการข้ามสายพันธุ์” เกาเผิงเก็บรายละเอียดบางส่วนเอาไว้อย่างเช่นปริมาณของส่วนผสมต่างๆ โดยปกติแล้วผู้เชี่ยวชาญมักจะเก็บส่วนนี้ไว้เป็นความลับ
“ช่างเป็นเด็กที่ไม่ธรรมดาจริงๆ” ผู้อำนวยการพยักหน้ากล่าว “สิ่งที่ฉันสามารถให้เธอได้มากที่สุดภายใต้อำนาจของฉันก็คือหนังสือรับรองผู้ประกอบวิชาชีพผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรขั้นกลาง สำหรับขั้นสูง เธอคงต้องไปสอบที่สำนักงานใหญ่เยียนจินล่ะกันนะ ด้วยความสามารถของเธอในตอนนี้ หนังสือรับรองผู้ประกอบวิชาชีพผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรขั้นต้นคงไม่เพียงพอ”
“ผมเพียงโชคดีเท่านั้น” เกาเผิงถ่อมตน
“นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่ใครจะทำได้ แค่โชคอย่างเดียงคงไม่พอหรอก” ผู้อำนวยการหัวเราะ
ผู้เข้าสอบทุกคนต่างรู้สึกอิจฉา พวกเขาทุ่มเททั้งหยาดเหงื่อและน้ำตาเพื่อให้ได้รับหนังสือรับรองผู้ประกอบวิชาชีพผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรขั้นต้นมา แต่เด็กหนุ่มผู้นี้กลับได้รับหนังสือรับรองผู้ประกอบวิชาชีพผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรขั้นกลางอย่างง่ายๆ
อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ทำได้เพียงอิจฉาเพราะพวกเขาล้วนเข้าใจความสามารถของตนเป็นอย่างดี
ผู้คนแยกย้ายกันไปในที่สุด เหตุการณ์วันนี้กลายเป็นแรงผลักดันที่ยอดเยี่ยมสำหรับพวกเขา
ด้วยความช่วยเหลือของผู้อำนวยการเฉิน วานรโครงกระดูกได้รับการยืนยันตัวตนและรับรองจากรัฐบาล ความจริงก็คือสัตว์อสูรที่มนุษย์สร้างพันธะสัญญาเลือดต้องลงทะเบียนกับรัฐบาลทั้งหมด นี่คือกฎหมายของโลกยุคใหม่หากไม่ลงทะเบียนกับรัฐบาล สัตว์อสูรเหล่านั้นจะไม่สามารถ
เข้าร่วมในการแข่งขันต่างๆได้
ผู้อำนวยการเฉินไม่ได้ทำให้เกาเผิงฟรีๆ เขามีเงื่อนไขด้วย ผู้อำนวยการเฉินต้องการให้เกาเผิงเป็นตัวแทนของฉางอานเข้าร่วมการแข่งขันผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูร
ผู้อำนวยการเฉินกล่าวอย่างจริงใจ “มีผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรที่มีความสามารถเพียงไม่กี่คนในสมาคมฉางอาน นายเป็นคนที่เก่งที่สุดเท่าที่ฉันเคยพบ ฉันหวังว่านายจะยินดีเป็นตัวแทนสมาคมเข้าร่วมในการแข่งขันในครั้งนี้นะ”
เกาเผิงรู้สึกลำบากใจเพราะเขาไม่ต้องการเปิดเผยความสามารถในคนอื่นรู้มากนัก
ผู้อำนวยการเฉินยังกล่าวต่อ “หากเธอเข้าสู่อันดับที่ 1,000 นายจะได้รับรางวัล แต่หากเธอสามารถเป็นไต่อันดับได้ถึง 1ใน10 เธอจะได้รับรางวัลอย่างน้อย 10,000 เครดิตพันธมิตร”
“พลังที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่ง เอาล่ะ ผู้อำนวยการเฉิน ไม่ต้องสาธยายให้มากความ ผมจะเข้าร่วมการแข่งขันนี้อย่างแน่นอน” เกาเผิงตอบรับในทันที
.....
เมื่อเดินทางออกจากสมาคม เกาเผิงมองไปยังวานรโครงกระดูกที่เดินอยู่ข้างๆเขา ‘ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า แค่มาสอบแค่นี้ จะได้สัตว์อสูรติดไม้ติดมือกลับมาด้วย’
อย่างไรก็ตามเขายังไม่สามารถสร้างพันธะสัญญาเลือดกับมันได้ในเวลานี้ คงต้องอีกสักพักถึงจะสามารถทำพันธะสัญญาเลือดกับมันได้
ถึงมันจะไม่ได้ทำพันธะสัญญาเลือดกับเขา แต่เขาก็ไม่กังวลว่าจะมีใครมาขโมยมันไปเพราะการทำพันธะสัญญาเลือดนั้น ต้องได้รับการยินยอมจากทั้งสองฝ่าย
ต้องขอบคุณสวรรค์ที่สัตว์อสูรธาตุอันเดท ไม่ต้องกินอาหาร ไม่อย่างนั้นค่าอาหารต้องเพิ่มอีก 2เท่า แค่นี้ก็จะกินแกลบอยู่แล้ว
ด้วยรูปร่างที่แปลกตาของวานรโครงกระดูก แน่นอนว่าระหว่างเดินทางกลับ มันจึงตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนที่เดินผ่าน