บทที่ 55 - ความหมายของการปีนขึ้นไปในดันเจี้ยนที่หนึ่ง (2)
บทที่ 55 - ความหมายของการปีนขึ้นไปในดันเจี้ยนที่หนึ่ง (2)
”
"กึก ฉันได้ยินว่าสนามมันจะถูกสร้างตั้งแต่ชั้นที่ 25 เป็นต้นไป มันเป็นความจริง...!"
"สนาม?"
"ฉันกำลังพูดถึงสุสานนี้! มันเป็นสภาพแวดล้อมที่จะเพิ่มพลังให้กับมอนสเตอร์อันเดต"
ทันนทีที่คำนี้หลุดออกมาจากปากของเอลลอส มือจำนวนนับสิบก็ได้โผล่ขึ้นมาจากสุสาน ฉันเคยเห็นแบบนี้มาก่อนในหนังสยองขวัญต่างๆ เพลรูเดียไม่ต้องการที่จะให้มันเกิดขึ้น ในขณะนั้งเธอได้หายใจเข้าลึกและตะโกนออกมา
"โอ มิทารัสแห่งความยุติธรรมและความรัก โปรดส่องสว่างอันศักดิ์สิทธิ์ในสถานที่อันชั่วร้านนี้!"
ภาพลักษณ์ของเธอที่กำลังถือไม้เท้าของเธอและการร่ายเวทย์ด้วยเสียงใสของเธอทำให้เธอดูสวยงามยิ่งขึ้น ขณะที่ฉันกำลังคิดเช่นนั้นสุสานที่มืดมิดกว่าห้องบอสตตามปกติซึ่งเป็นไปได้ว่ามันมาจากผลของสิ่งที่เรียกว่าสนาม มันก็ได้สว่างขึ้น ซอมบี้ส่วนใหญ่ที่โผล่ขึ้นมาจากหลุมก็ได้กรีดร้องเหมือนกับแวมไพร์ที่เห็นแสงแดดและมันก็กลับลงพื้นไป เพลรูเดียได้มองมาที่ฉันและหยักไหล่ของเธอ
"ฮุฮุ เป็นยังไงล่ะ?"
"อืม ฉันไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงนะ แต่ว่ามันก็เจ๋งดี!"
"อู อูวววว..."
เพลรูเดียได้ผงะไปกับคำชมเชยของฉัน ไม่ใช่ว่าเธอคาดหวังเช่นนี้งั้นหรอ? ผู้หญิงนี้เป็นอะไรที่ซับซ้อนจริงๆ...
"กูลยักษ์กำลังจะปรากฏตัว! พอล ชูน่า!"
"พวกเรากำลังไป!"
"คะ ค่ะ!"
เพลรูเดียและนักเวทย์คนอื่นๆได้พยายามที่จะจัดการกับซอมบี้นับสิบที่โผล่ขึ้นมาจากพื้น ในขณะนั้นเสียงกระหึ่มก็ได้ดังออกมาจากข้างในสุสาน ฉันได้เรียกไพก้าออกมาเป็นอย่างแรก
"ไพก้าพวกเรากำลังจะไปจัดการซอมบี้ทั้งหมด เธอทำได้มั๊ย?"
[ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเองนายท่าน!...ฉันต้องการมานาซักเล็กน้อย มันโอเคใช่มั๊ย?]
"เอาไปเลย!"
[โอเค โซ่สายฟ้า]
ทันทีหลังจากที่ร่างของไพก้าส่องแสและซอมบี้ที่อยู่ใกล้ๆก็ถูกกวาดล้างด้วยสายฟ้า สายฟ้ามันได้กระโดดต่อไปเรื่อยๆใส่ซอมบี้ตัวที่อยู่ใกล้ๆ และจากนั้นก็กระจายออกไปใส่ซอมบี้ตัวอื่นๆอีกรอบๆ แปลกมาก แม้ว่าสายฟ้าจะพุ่งไปสู่ซอมบี้อย่างต่อเนื่อง ฉันก็ไม่ได้เสียพลังงานอะไรเลย แต่ได้รับมันมา
โซ่สายฟ้ายังคงแผ่ขยายต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด มันจะช็อตซอมบี้ในเวลาไม่กี่วินาทีและแผ่ไปต่อที่ตัวต่อไป มันเหมือนกับตาข่ายขนาดใหญ่ที่โยนลงไปในสุสาน มันได้พุ่งออกไปโดยที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันได้ดึงความสนใจของคนในปาตี้
"นะ นี่มันอะไร!?"
"นี่มันเวทย์สายฟ้าหรอ? แต่เราไม่ได้มีจอมเวทย์สายฟ้าในปาตี้นะ!"
"ไม่ใช่นี่มันคือเวทย์ธาตุ เจ้าชายรัชทายาทเป็นผู้ใช้ธาตุสายฟ้า"
โอ้ใช่แล้วละ มันมาจากนักธนูจากทวีปลูก้าที่เป็นเอลฟ์ เมื่อฉันมองไปที่เธอ เธอก็มองกลับมาที่ฉันอย่างสุภาพ เอ๊ะ เธอไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมเลยหรอ? เธอเป็นคนสุภาพเหมือนกับแต่ก่อน แต่ฉันก็รู้สึกถึงความกลัวและนับถือจากเธอในครั้งนี้
[นายท่านนี้มันจะไม่เป็นอันตรายต่อพันธมิตร]
"พันธมิตรจะไม่ได้รับอันตราย ดังนั้นพุ่งเข้าไปที่พวกกูล"
"อา ทุกคนเท้าของซอมบี้ได้ถูกหยุดเอาไว้แล้ว ตอนนี้แหละเป็นโอกาสของเรา"
ด้วยเสียงตะโกนของฉัน เอลลอสก็ได้นำทางให้กับสมาชิกในปาตี้ พอลและชูน่าก็ยังมุ่งหน้าไปใส่กูลด้วยโล่ของพวกเขา เอลลอสและคนสร้างความเสียหายคนอื่นๆก็ตามไปไม่นานหลังจากนั้น กูลยักษ์ที่กำลังปรากฏออกมาอย่างช้าๆดูเหมือนมันจะโกรธเมื่อเห็นลูกน้องกำลังถูกกำจัด ในขณะนั้นเองมันคำรามออกมาและเปิดเผยตัวเองออกมาอย่างเต็มรูปแบบ
มันไม่เหมือนกับซอมบี้ มันมีร่างกายที่แข็งแกร่งทนทานกว่า กรงเล็บเหล็กกล้าของมันได้ส่องประกายด้วยความอันตรายออกมา และดวงตาใหญ่สองข้างของมันก็ได้แสดงถึงความเป็นปรปักษ์อย่างชัดเจน มันมีความสูงเกือบจะถึง 4 เมตร ความคุกคามของมันได้พวยพุ่งขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ ในความเป็นจริงฉันคิดเพียวแค่ว่ากูลมันเป็นพวกที่ขี้กลัว ฉันได้แต่หวังว่าบอสประจำชั้นกูลยักษ์จะแตกต่างออกไปนะ
"อะ อึก! เจ้ามอนสเตอร์โง่มาโจมตีฉันนี่!"
ชูน่าได้ใช้ทักษะยั่วยุออกมา
"ย้า!"
ชูน่าได้พุ่งเข้าไปผลัดกันขาของกูลด้วยโล่ที่ใหญ่เกินตัวของเธอด้วยแบบนี้มันทำให้เธอดูน่ารักอย่างมาก อย่างไรก็ตามกูลยักษ์มันก็ดูเหมือนจะไม่ได้คิดแบบนั้น มันได้ยกขาขึ้นมาและพยายามที่จะเหยียบชูน่า ทันในนั้นดวงจาของชูนาก็ได้ส่องประกายในขณะที่เธอเอียงโล่เล็กน้อย มันดูเหมือนว่าเธอมีวิธีที่จะจัดการกับสิ่งนี้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว
จากนั้นฉันก็เลยหันหน้าไปเผชิญกับซอมบี้ สายฟ้าของไพก้าได้ฆ่าซอมบี้ไปหลายร้อยตัว แต่ก็ยังมีพวกมันอยู่อีกมาที่ออกมา
[นายท่านพวกมันยังคงโผล่ขึ้นมาอีก! ฉันรำคาญมากๆเลย!]
"พวกมันก็เหมือนกับแมลงสาบ มาแบ่งงานกันดีกว่า ไพก้า เธออยู่ปกป้องพวกโจมตีระยะไกลและก็พวกฮีลเลอร์"
ฉันได้หมุนหอกในมือเล่นแล้วจากนั้นก็เล็งไปข้างหน้า
"ฉันจะปกป้องพวกที่เผชิญหน้ากับกูลเอง! เท็มเพรส!"
"ก๊าซซซซซ!"
"เจ้าชาย คุณไม่ต้องการความช่วยเหลือหรอ?"
หลังจากที่ฉันได้หั่นซอมบี้นับสิบเป็นชิ้นๆไปแล้ว เอลฟ์นักธนูก็ได้ถามฉันด้วยความเคารพ หลังจากเธอแล้วบาเรียล่าก็ยังมองมาที่ฉัน ฉันยังเห็นเพลรูเดียมองมาทีฉันอีกด้วย เธอควจะมุ่งเน้นไปที่การฮีลชูน่านะ!
"พวกเธอสามารถมุ่งเน้นไปที่กูลยักษ์ได้เลย ไพก้าจะปกป้องพวกเธอได้อย่างสมบูรณ์แบบและฉันก็จะไม่ปล่อยให้ซอมบี้ได้เข้าใกล้สมาชิกปาตี้คนอื่นๆ"
"ฉันเข้าใจแล้ว"
หลังจากที่ตอบไปว่าไพก้าจะปกป้องพวกเขา ฉันก็พุ่งออกไปข้างหน้า เมื่อเห็นซอมบี้ที่โผล่มาใหม่แลพพุ่งเข้าไปหาคนทำดาเมจกับแท้ง ฉันก็ตะโกนออกมา
"แกไอศพเน่าเสีย มาสู้กับฉันนี่!"
[คุณได้ใช้ทักษะยั่วยุ ศัตรูที่อยู่ใกล้ๆจะถูกดึงดูดเข้ามาหาคุณ]
"ก๊าซซซ..."
"มนุษย์ หยิ่งผยอง มนุษย์...."
"ก๊าซซซ..."
"มนุษย์ มีชีวิต..."
ทักษะยั่วยุระดับกลางของฉันได้ประสบความสำเร็จในการดึงดูดความสนใจของซอมบี้ในทันที แมลงสายเหล่านี้กำลังคลานมาตามพื้นดิน สูดหายใจลึกๆ ฉัยก็พุ่งตรงเข้าไปใส่พุ่งมันตรงๆ
"ฮ่าห์!"
ซอมบี้ที่ปะทะกับหอกและเกราะของฉันได้ระเบิดและลอยกลับไปในทันที ซอมบี้ที่ไม่ฉลาดก็ยังคงพุ่งเข้ามาหาฉันอย่างต่อเนื่องเหมือนกับแมงเม่า และต่อจากนั้นพวกมันก็ถูกระเบิดออกมาเป็นชิ้นๆ หลังจากที่ฉันเคลียร์ซอมบี้ในแนวเส้นตรงไปหากูลยักษ์แล้ว จำนวนของซอมบี้ก็ดูเหมือนจะน้อยลงมาก
"น่าทึ่งมาก เขาไม่ใช่แค่ผู้ใช้ธาตุ..."
"เจ้าชายรัชทายาท....นั้นเพราะแบบนี้เขาถึงถูกเรียกว่าเจ้าชายรัชทายาท"
"....โอ มิทารัส!"
นักธนูสองคนได้พูดถึงฉันแทนที่จะยิงธนูออกไป แต่ว่าเมื่อเพลรูเดียได้ร่ายเวทย์ของเธอ พวกเขาก็หยุดและเริ่มที่จะโจมตีไปที่กูลยักษ์อีกครั้ง แน่นอนว่าฉันไม่ได้คิดอะไรกับสิ่งที่พวกเขาทำ
"กูลยักษ์มันกำลังจะโจมตีด้วยกรงเล็บของมัน!"
ฉันได้ยินเสียงของเอลลอสออกไปทั่วสุสาน ในเวลาเดียวกันเสียงแหวกอากาศก็ได้ดังออกมา เมื่อฉันได้หันไปมองทางที่เสียงดังมา กูลยักษ์ได้เหวี่ยงแขนด้วยมือทั้งสองข้างของมัน พิษได้รั่วไหลออกมาจากปลายกรงเล็บของมันและพยายามที่จะจัดการสมาชิกในปาตี้ ด้วยความตกใจพวกเขาได้วิ่งไปรอบๆอย่างรวดเร็วเพื่อหลบมัน
"เยี่ยม พวกเราหลยมันได้!"
เฮ้ อย่าไปภูมิใจกับการที่หลบการโจมตีแบบง่ายๆสิ! อา สิ่งที่ตามมามัน!
"พอล"
"แค่ก ฉันจะไปก่อนนะ"
เขาได้พูดเหมือนกับเมื่อ 4 ปีก่อน จากนั้นพอลก็หายไป เขาได้ตายเป็นคนแรกเหมือนกับเมื่อ 4 ปีก่อนอีกด้วย ความรู้สึกเดจาวูนี่มันคืออะไร? ชายคนนี้ไม่ใช่ว่าอ่อนแอเกินไปหรอ? แท้งจะช้าอย่างนี้ได้ยังไง? ทำไมนายถึงเป็นแท้งล่ะถ้าจะตายในการโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียว!? คำถามมากมายและเสียงกรีดร้องได้เต็มอยู่ในหัวของฉัน
"ชูน่า เธอไม่เป็นไรนะ?"
"ไม่เป็นไร...กรี๊ด อย่ากังวล!"
แม้ว่าเสียงกรีดร้องนั่นจะทำให้ฉันกังวลก็ตาม ชูน่าก็ยังคงอยู่บนพื้นที่ของเธอ ที่มันเป็นเช่นนี้คงจะต้องขอบคุณพรที่เธอได้รับมาจากผู้พิทักษ์ครอบครัวของเธอ เพราะว่าฉันไม่สามารถจะวิ่งเข้าไปช่วยเธอได้ในตอนนี้ ฉันก็เลยเก็บความกังวลเอาไว้ก่อน ฉันได้ตัดสินใจที่จะมุ่งเน้นไปที่การจัดการซอมบี้ทั้งหมดเป็นอย่างแรก
"อา ฉันใช้ยาในวันนี้ไปมากเลยนะ"
อย่างที่พูด 300 ทองสำหรับโพชั่นมานาสองเท่ามันรสชาติอร่อยมากจริงๆ ในขณะที่ฉันอยู่ที่นั่น ฉันก็ได้เอามือข้างหนึ่งเท้าเอวและทำหน้าสดชื่นเหมือนกับฉันกำลังถ่ายโฆษณาเครื่องดื่มกีฬา ในขณะที่ฉันกำลังมีความสนุกสนาน ซอมบี้ที่อยู่ใกล้ๆก็ได้กระโดยเข้ามาหาฉันด้วยกรงเล็บและเขี้ยวของมัน ผลลัพธ์ก็เป็นไปอย่างที่คาด กรงเล็บและฟันของพวกมันได้แตกเป็นเสี่ยงๆ โดยไม่ทิ้งรอยขีดข่วนไว้ในตัวฉันเลย
แม้วอย่างนั้นฉันก็ไม่สามารถจะยกโทษให้กับซอมบี้ที่พยายามจะกัดคอฉันได้ ฉันได้เตะมันในทันที แม้แต่การเตะของฉันก็สามารถจะฆ่าเจ้าพวกอ่อนแอนี้ได้ในทันที
"เอ๊ะ เจ้าชายรัชทายาทเป็นแท้งหรอ?"
"เขาแข็งแรงมาก"
"เขาสามารถจะเติมเต็มได้ในทุกๆบทบาทหน้าที่และแม้กระทั่งใช้พลังธาตุ จริงๆแล้วเขาคือ..."
[มันเป็นเพราะว่าเขาเป็นเจ้านายของฉัน! เขาเท่มากเลยใช่มั๊ยล่ะ? เขาน่ากลัวมากเลยใช่มั๊ย!?]
ไพก้าได้เข้าร่วมแจมกับคนในปาตี้ก่อนที่ฉันจะสังเกตุเห็นและกำลังโม้เกี่ยวกับฉัน มันไม่มีปัญหาใดๆเลยเพราะเธอได้เปลื่ยนให้ซอมบี้ที่เข้ามาใกล้ๆได้เป็นขี้เถ้าในทันที แต่มันก็น่าอับอายมา ดังนั้นฉันจึงหวังให้เธอหยุดมัน
"โอ มิทารัสที่เมตตาได้โปรดกลายเป็นหนึ่งด้วยกันกับพันธมิตรของข้า"
เพลรูเดียได้ร่ายเวทย์ศักดิ์สิทธิ์นั่นมีผลโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการต่อสู้กับมอนสเตอร์ประเภทอันเดต และผลของมันได้ทำให้พวกมันอ่อนแอของลง ที่สำคัญไปกว่านั้นอีกมันก็ยังรักษาชูน่าผู้ที่ป้องกันการโจมตีของกูลยักษ์ด้วยความยากลำบากอีกด้วย และแม้แต่ฟื้นฟูแรงของเธอด้วย
"ขอบคุณมากรูเดีย!"
"มุ่งเน้นไปที่ศัตรู! กำลังเสริมกำลังจะมาแล้ว!"
"นักรบโจมตี! การโจมตีของกูลได้ถูกป้องกันไว้แล้ว ตอนนี้มันเป็นโอกาสของเรา"
"ก๊าซซซซ!"
กสนเข้าร่วมกับปาตี้มันทำให้รู้สึกสดชื่นมาก นักรบที่ตะโกน ฮีลเลอร์ที่ร่ายเวทย์ และหัวหน้าปาตี้ที่ออกคำสั่งไม่สิ้นสุด ฉันแม้แต่รู้สึกถึงคิดถึงมันในตอนนั้นฉันก็นึกไปถึงการจู่โจมที่ชั้น 5 ของพวกเรา
แน่นอนว่านั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว และนี่มันคือความเป็นจริง ก่อนที่ฉันจะได้ทันสังเกตุเห็นได้มีอีกสองคนที่ตายไป
นั่นคือนักรบเรเปียจากทวีปลูก้าและนักดาบจากทวีปไพรอส มันน่าอับอาย
"กึก กูลมันแข็งแกร่งเกินไป! พวกเราไม่สามารถจะโดนแม้แต่การสะกิดของมันได้เลย!"
"ชูน่า ชูน่า!"
"ค่ะ ฉันกำลังป้องกันมัน!"
นักรบที่รอดอยู่ได้หลบการโจมตีของกูลด้วยชีวิตที่แขวนอยู่กับความตายของพวกเรา และชูน่ากำลังวิ่งไปรอบๆพยายามที่จะป้องกันการโ๗มตีด้วยโล่ใหญ่ของเธอ แม้ว่าเธอจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อที่จะดึงความสนใจของมัน กูลยักษ์ก็กลายเป็นโกรธและเปลื่ยนเป้าหมายไปในทันทีที่คนสร้างความเสียหายตีมันแม้แต่ครั้งเดียว ในแง่นี้มันฉลาดมากกว่าบอสประจำชั้นในชั้นก่อนๆ มันทำให้ยากมากสำหรับแท้งที่จะดึงความสนใจของมันเอาไว้
ฉันสรุปได้ว่าทุกคนยกเว้นชิน่าจะตายถ้าหากพวกเรายังทำอย่างนี้ต่อไป
"เอลลอส สลับกัน!"
"ใช่แล้ว สลับ!....สลับอะไร?"
ฉันได้ถึงหอกดินดำและแกว่งมันไปตามแนวนอนด้วยกำลังที่มหาศาลและด้วยหอกที่ยืดออก เมื่อหอกมีระยะถึง 5 เมตร ซอมบี้ที่อยู่ในระยะ 5 เมตรทั้งหมดก็ได้ตายในทันทีที่ฉันเหวี่ยงหอก
"ทุกๆ คนไปปกป้องคนสร้างความเสียหายระยะไกลกับฮีลเลอร์ ฉันจะจัดการกับกูลยักษ์เอง"
"อะไรนะ? เดี๋ยวก่อน ชิน"
"ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่นายทำได้ การเลเวลอัพมันสำคัญกว่าความภาคภูมิใจของนายใช่มั๊ย?"
ด้วยคำนี้เอลลอสได้ปิดปากเงียบไป เขาอาจจะต้องตระหนักได้...
ฉันรู้สึกผิดหวังอย่างมากในสมาชิกปาตี้ของฉัน