บทที่ 44 - เหตุการณ์ดันเจี้ยน (7)
บทที่ 44 - เหตุการณ์ดันเจี้ยน (7)
”
หลังจากที่คิดที่จะจัดการกับพ่อ ฉันก็เร่งทุกๆคน
"ตอนนี้แหละโจมตี!"
"นะ นายเป็นคนทำงั้นหรอ ยวน ฮวาวู?"
"หยุดถามและไปโจมตี!"
ด้วยคำนี้ ฉันก็พุ่งเข้าไปาอารัคเน่ วอคลายมันมีผลแค่ 5 นาทีถ้าหากพวกเราไม่สามารถจะเอาชนะมันได้ใน 5 นาที เขาก็จะโดนสนห์ของเธออีกครั้ง
"ฉะ ฉันในตอนนี้ไม่มีมานา! ฉันได้ใช้มันทั้งหมดไปกับการระเบิดกองทัพแล้ว!"
"เธอใช่ระดับ SS จริงๆหรอ?"
"เฮ้ พวกเราจะไม่ทำได้อย่างดีหากไม่มีฉัน! ฉันกำลังฟื้นตัวอยู่ รอเดี๋ยวนะ!"
มันเป็นความจริงที่ว่าเธอเป็นคนที่มีบทบาทสำคัญ เธอเป็นอาวุธที่อารัคเน่หวาดกลัวที่สุด ป่าดำในตอนนี้ก็ได้ถูกหยุดเอาไว้แล้วตัว การระเบิดครั้งใหญ่มันก็เหมือนจะโดนอารัคเน่เช่นกัน ขาหนึ่งข้างของเธอได้หายไปและของเหลวสีเลยก็ไหลออกมาจากกระดองที่แข็งของเธอ
อย่างที่พูดมัสติฟอร์ดเป็นนักเวทย์ ไม่ว่าเธอจะเรียนการใช้มานามานานแค่ไหนก็ตามมันก็เป็นปกติแล้วที่เธอจะมานาหมดไปกับการใช้การระเบิดครั้งใหญ่นั้น พลังของเธออาจจะมีมากกว่ระดับของเธอซะอีก
หลังจากนั้นอารัคเน่ก็ยกร่างกายขึ้นและความก็ลอยออกมา มันนเป็นพิษ
[กรี๊ดดดดดดดดด]
สิ่งที่ฟังดูเหมือนเสียงร้องเพลงที่สวยงามในตอนนี้ไม่ได้มีอะไรที่มากไปกว่าเสียงคำรามของมอนสเตอร์เลย ในเวลาเดียวกันสองขาของอารัคเน่ก็ได้พุ่งเข้ามาหาเรา ฉันรู้สึกได้โดยสัญชาตญาณเลยว่าถ้าโดนมันฉันจะต้องตายแน่ ขนของฉันได้ลกขึ้นในทันที จากนั้นฉันจึงใช้ความเร็วศักด์สิทธิ์พุ่งผ่านขาที่โจมตีเข้ามาแหละส่งหมัดไปที่ร่างกายส่วนบนของมัน
[กรี๊ดดด]
"การปล่อยให้ฉันได้ประชิดตัวคือมันจบแล้ว! สายฟ้าคลั่ง!"
เพราะว่าฉันได้ใช้มานาไปแล้ว 20% ด้วยความเร็วศักดิ์สิทธิ์ ฉันเลยสามารถที่จะรักษาระยะเวลาของสายฟ้าคลั่งได้เพียง 80 วินาทีเท่านั้น ในขณะที่ฉันได้ใช้สายฟ้าคลั่ง สายฟ้าที่อยู่ในถุงมือของฉันก็ได้ขยายตัวออกมาปกคลุมร่างกายของฉันทั้งหมด ฉันรู้สึกว่ามันทำให้ทุกๆส่วนในร่างกายของฉันแข็งแกร่งขึ้น ฉันสามารถบอกได้เลยว่าพลังโดยรวมของฉันเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า
จากภายนอกฉันดูราวกับว่าจะส่องสว่างออกมาเหมือนกับว่าฉันสามารถจะปล่อยสายฟ้าออกจากร่างกายได้เลย ดังนั้นฉันจึงรู้แล้วทำไมมันถึงเรียกว่าสายฟ้าคลั่ง!
[นายท่านมีบางอย่างกำลังดึงพลังของฉันออกไปอย่างเต็มที่]
"อดทนเอาไว้หน่อยนะไพก้า ฉันจะจบมันให้เร็วที่สุด!"
[อะ โอเค ฉันก็จะทำให้ดีที่สุด นายท่านก็ด้วยนะ!]
ด้วยเสียงให้กำลังใจที่น่ารักของไพก้า ฉันได้กำหมัดที่มีสายฟ้าปกคลุมและต่อยลงไปบนใบหน้าของอารัคเน่ แม้ว่ามันจะดูเหมือนใบหน้าของผู้หญิงที่อ่อนแอหากมองจากด้านนอก แต่มันก็ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วยเลย นี่มันตามที่คาดหวังจากบอสเลย
ความจริงอารัคเน่ได้กรีดร้องและพยายามที่จะกัดหมัดของฉัน ในเวลาเดียวกันเธอก็ยกขาสองข้างขึ้นมาโจมตีฉันไปด้วย โชคดีที่พ่ออยู่ตรงนั้นและหยุดยั้งมัน
"แกกล้าที่จะยั่วยวนฉันแม้ว่าฉันจะมีภรรยาแล้วงั้นหรอ? ฉันจะเอาใยของแกและเอามันไปทำเป็นชุดเดรสให้ภรรยาและยุยของฉัน! สุดยอดคลื่นหอก!"
พ่อดูเหมือนจะใช้ทักษะที่ทรงพลังของเขาซึ่งทำให้อารัคเน่กรีดร้องและดวงตาที่ใหญ่โตสั่นเทาออกมา ด้วยช่องว่างนี้ฉันใช้ขาล็อคเข้าที่เองของเธออย่างรวดเร็ว แม้ว่าเธอจะเป็นมอนสเตอร์แต่ฉันก็ยังสามารถจะสัมผัสใกล้ชิดกับร่างกายของผู้หญิงที่เปลือยเปล่าได้ กลินที่หอมหวานและผิวนุ่มของเธอมันได้ทำให้ฉันฟุ้งซ่าน หลังจากที่พ่อเห็นเช่นนี้ พ่อก็ตะโกนออกมา
"ไอชั่ว! ฉันจะบอกเรื่องนี้กับยุย!"
"เงียบน่า คุณคัง ยงอู!"
'พ่อไม่สามารถจะทำให้คนอื่นรู้ว่าพวกเราเป็นพ่อลูกกันได้นะ!?'
หลังจากการตะโกนนั้น ฉันก็ยังคงต่อยไปที่ใบหน้าของอารัคเน่อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเธอจะเป็นมอนสเตอร์! แต่การที่ทำแบบนี้กับรูปลักษณ์ที่สวยงามของเธอมันเหมือนกับว่าฉันกำลังทำอะไรที่ไร้มนุษย์ แต่ว่าฉันก็เลือกที่จะไม่สนใจ
[กรี๊ดดดดดด!]
"อย่าได้เปิดปากของแกออกมานะ เอามันของฉันไปกินไป!"
ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!
หลังจากที่ฉันได้ต่อยไปที่ใบหน้าของเธออย่างต่อเนื่องด้วยแรงทั้งหมดของฉัน ในที่สุดใบหน้าของเธอก็ฉัดขาดออกมา และเลือดพิษของเธอก็เริ่มไหลออกมา
อย่างไรก็ตามสายฟ้าที่หุ้มร่างของฉันอยู่มันก็ไม่ปล่อยให้พิษได้เข้ามาสัมผัสฉัน ฉันยังคงชกเธอต่อไปเพื่อที่จะสร้างความเสียหายให้มากที่สุดก่อนที่เวลาจะหมดลง ในเวลาาเดียวกันเผื่อในกรณีที่ฉันไม่สามารถจะจัดการเธอได้ในเวลาที่กำหนด ฉันก็ไม่ลืมที่จะเตรียมโพชั่นต่างๆที่ฉันมีเอาไว้
[กรี๊ดดดดด]
อารัคเน่ดูจะหงุดหงิดที่เธอไม่สามารถจะทำอะไรได้และเธอก็ได้สะบัดแขนมาโจมตีฉัน แม้ว่าแขนนั้นจะดูบอบบาง แต่ผลกระทบเมื่อเธอตีมาที่เกราะของฉันมันมากอย่างไม่น่าเชื่อ แม้ว่าแขนของเธอจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับขาของเธอ แต่มันก็ยังมีความแข็งแกร่งที่มาก นอกจากนี้เมื่อเวลาได้ผ่านไปและเธอตระหนักได้ว่ามันคือสถานการณ์ที่คุกคามชีวิตของเธอ เธอก็ได้ยิงใยออกมาจากก้น
เส้นในแมงมุมได้พุ่งออกมาทั่วทิศทางจากนั้นก็รวมกันเป็นเส้นใหญ่และโจมตีไปที่พ่อและฉัน ในขณะที่เราอยู่ในสถานะสุดยอดเกราะการโดนการโจมตีพวกนี้ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเคลื่อนไหวของเราเลย แต่ว่าพวกเราก็ยังคงได้รับบาดเจ็บอยู่ ขณะนั้นเอง....
"อู ถ้าฉันล้มลงไปเพราะโรคโรจิตจางนะมันจะต้องเป็นความผิดของพวกนายสองคน คิวตี้ช่วยออกไปหน่อยได้มั๊ย!"
เหมือนกับเธอจะพิสูจน์คำที่ว่า 'เพรชก็ยังเป็นเพรชแม้จะยังอยู่ในกองขยะ' มัสติฟอร์ดได้ขยับทำสิ่งสุดท้าย ฉันรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่างที่ลอยผ่านไหล่ของฉันไปมันเหมือนกับลูกศร ในเวลาเดียวกันใยแมงมุมพิษที่กำลังเข้ามาโจมตีฉันก็ถูกเผาและหายไป
ไม่เพียงแค่นั้นแต่ยังมีบอลเพลิงสีขาดลอยเข้ามาใส่ร่างกายของอารัคเน่อีกด้วยซึ่งนั่นทำให้มันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ในเวลาเพียงสั้นๆมัสติฟอร์ดได้ฟื้นฟูมานามาจนพอที่จะใช้ทักษะอื่นได้! แม้ว่าเธอน่าเศร้าในบางส่วน แต่พลังของเธอมันเป็นที่น่าตกใจ
ในความจริงฉันก็เกือบหล่นลงไปจากจุดยุทธศาตร์จากทักษะของมัสติฟอร์ด โชคดีที่ว่าฉันมีผลของวอร์คลายอยู่ซึ่งนั่นทำให้ฉันรักสถานะนี้เข้าไปอีก มันไม่ธรรมดาเลย! ฉันได้เปลื่ยนอารมณ์ทั้งหมดเป็นความโกรธและไปลงที่อารัคเน่
"ฮ่าาาาาาาห์! ตายๆๆๆๆๆๆ!"
[กรี๊ดดดดดดดด!]
"ตาย! คลื่นกระหน่ำ!"
มันเป็นช่วงเวลาที่ฉันได้ค้นพบว่าใครเป็นคนสอนภาษาที่หยาบคายนี้แก่ฉัน พ่อและฉันได้ตะโกนออกมาอย่างหยาบคายในตอนที่โจมตีอารัคเน่ เธอได้หันมากรีดร้องและเหวี่ยงมือทั้งสองขาและขาทั้งห้าออกมา ในการตอบสนองนี้ฉันก็ได้ใช้ทักษะผิวมังกร เมื่ออารัคเน่มันโจมตีฉัน ดวงตาของเธอก็เพลิงกว้า
[กี้ กี้]
"ใช่แล้ว นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันต้องการได้ยิน! สัตว์ชนิดนึงรึริอาจจะมายั่วยวนมนุษย์! สำหรับแกมันยังเร็วไปล้านปี! ตายซะ!"
ฉันได้คิดว่าจะใช้ระเบิดสายฟ้าทมิใแต่แล้วฉันก็เลือกที่จะเก็บไว้เผื่อในตอนกรณีที่เกิดเหตุการณ์การจู่โจม นอกจากนี้ฉันยังรู้สึกว่ามันยังไม่จำเป็นอย่างใด
เพราะว่าผวมังกรมันได้ทำให้ความเร็วของฉันลดลงไปครึ่งหนึ่ง แม้อย่างนั้นฉันก็ยังตามความเร็วของอารัคเน่ทันทำให้มันไม่สามารถจะหลบฉันได้ หมัดที่แข็งแกร่งของฉันที่ได้เสริมโดยผิวมังกรได้มีพลังทำลายล้างที่มากพอจะชดเชยความเร็วไปได้
ในที่สุดจุดจบก็มาถึง หมัดของฉันได้เจาเข้าไปในหนังของเธอและทำลายกระดูกของเธอไป
"กี้---!"
อารัคเน่ได้ร้องออกมาสั้นๆและเดินกะโผลกกะเผลกไปมาแล้วล้มลงไป ในที่สุดฉันก็ออกจากท่าล็อคและยกเลิกการใช้งานทักษะสายฟ้าคลั่ง สมาชิกทุกๆคนในปาตี้ได้คลายจากความตรึงหลังจากที่รู้ว่าการต่อสู้กับบอสได้จบลงแล้ว
"ฟู่ ฮ่าห์...ฉันเหนื่อย"
"ทำได้ดีมาเลย ลู..ยวน ฮวาวู!"
"จบได้สวย"
"คุณดูเท่มาก!"
ทันใดนั้นผลของสายฟ้าคลั่งก็ได้หายไป ฉันได้รู้สึกถึงบางอย่างและเหมือนจะล้มลงไป มานาของฉันได้ถูกใช้ออกไปจำนวนมากมันทำให้ฉันปวดหัวและร่างกายของฉันก็หมดแรงไปจากการฝืนกล้ามเนื้อ มีเพียงผิวมังกรเท่านั้นที่ทำให้ฉันยังไม่ล้มลงไป
เมื่อฉันได้พยายามจะดึงมือออกจากหัวอารัคเน่ ฉันก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างระหว่างทาง เมื่อฉันเจาะผ่านสมองดึงมันออกมาและมองไปมันก็คือบลูสโตน แม้ว่ามันจะมีขนาดที่เล็ก แต่มันก็สามารถจะหาได้ยากมากเหมือนกับแมงมุมยักษ์ ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกถึงความแข็งแกร่งในร่างของฉันอีกครั้ง ด้วยดวงตาเป็นประกายฉันได้โชว์บลูสโตนให้ทุกๆคนดู
"โอ้ นี่มันดูน่าจะแพงมาก! ทุกคนดูสิ!"
"เฮ้ ฉันรู้ว่ามันเป็นมอสเตอร์ แต่นายไม่ควรจะเจาะเข้าไปให้หัวของผู้หญิงสวยแบบนั้น..."
"มัสติฟอร์ด เธอเรียมมันว่ามอนสเตอร์ ดังนั้นก็ไม่ต้องใส่ใจมากนัก..."
"คุณดูเท่มากเลย ยวน ฮวาวู! คุณเท่จริงๆ! คุณนี่เหมือนกับหุ่นรบในประเทศฉันลย"
ไม่เหมือนกับมัสติฟอร์ดที่เชิดหน้าใส่ฉัน มินามิได้ชมฉันด้วยดวงตาที่เป็นประกาย ฉันไม่รู้ว่าหุุ่นรบที่เธอหมายถึงมันเป็นยังไง แต่น้ำเสียงของเธอดูมันเป็นการชมเฉย ฉันเลยได้ยกนิ้่วให้เธอและสไลด์ลงมาจากล่างของอารัคเน่ จากนั้นฉันก็เห็นพ่อถูกคางในขณะที่จ้องไปที่ขาของอารัคเน่ที่พ่อฉีกออกมา เมื่อเขาเห็นฉันมองไปพ่อก็ได้เคาะหอกำกับขาของแมงมุมและพูดออกมาอย่างมุ่งมัน
"นี้ นายไม่คิดว่ามันจะอร่อยดีหรอถ้าทอดมันน่ะ? เหมือนกับปูไง!"
"มันมีพิษนะ!"
พ่อได้นิ่งไปเลยเมื่อได้ยินที่ฉันพูดขึ้น จากนั้นเองเสียงของระบบก็ดังลั่นออกมา
[คุณได้เอาชนะบอสเหตุการณ์ดันเจี้ยนอารัคเน่]
[100000 ทองจะถูกแบ่งให้กับสมาชิกในปาตี้อย่างเท่าเทียม คุณได้รับ 25000 ทอง]
[คัง ชินมีผลงานที่มากที่สุด เลือกรางวัลของคุณ]
[1.ชุดผ้าไหมของอารัคเน่
2.หอกดินดำของอารัคเน่
3.ต่างหูใยแมงมุมของอารัคเน่
4.สร้อยข้อมือใยแมงมุมของอารัคเน่]
ว้าว! ผลงานของฉันมากที่สุดหรอ!? แน่นอนว่าฉันคิดว่ามัสติฟอร์ดจะมีผลงานที่มากที่สุด แต่ตอนนีฉันก็ได้คิดเกี่ยวกับมัน แม้ว่ามัสติฟอร์ดจะมีพลังไฟที่ยอดเยี่ยมตลอดดันเจี้ยน แต่ความเสียหายที่เธอทำกับอารัคเน่มีเพียงแค่การระเบิดในตอนแรกกับการโจมตีครั้งสุดท้ายของคิวตี้เท่านั้น
เธอน่าจะมีผลงานที่สูงสุด แตต่มันดูเหมือนว่าผลงานของเธอจะไม่ได้สูงไปกว่าฉัน
ตามที่คาดมัสติฟอร์ดได้บ่นออกมา
"อะไรนะ? ใครได้ได้คะแนนผลงานมากที่สุด? ทำไมมันไม่ใช่ฉัน?"
"มันเป็นฉัน คุณมัสติฟอร์ด"
"อืมม ถ้้าเป็นนายแล้ว ถ้าอย่างนั้น....แต่ฉันก็ไม่ต้องการที่จะยอมรับมัน..."
โชคดีที่คนอื่นๆไม่สามารถจะเห็นในข้อความที่ฉันได้ยินได้ ฉันได้ลืมเรื่องนี้ไปเลย แต่ว่าชื่อจริงของฉันก็ยังคงไม่ถูกค้นพบ
หลังจากที่ตอบมัสติฟอร์ดไป ฉันได้ตรวจสอบของรางวัลอย่างช้า บางทีอาจจะเป็นเพราะการเคลียดันเจี้ยนด้วยคนเพียงสี่คนรางวัลทั้งหมดจึงเป็นสิ่งที่ดูเหมือนจะยอดเยี่ยม
อย่างที่พูดฉันรู้ว่าไอเทมในลิสที่อยู่สูงมันก็จะดีกว่าอันที่อยู่ข้างล่าง เนื่องจากว่าชุดเดรสและตุ้มหูมันดูเหมือนจะเป็นแค่ของผู้หญิงเท่านั้น ฉันเลยมีตัวเลยแค่หอกหรือสร้อยข้อมือเท่านั้น ฉันได้เหลือไปมองพ่อ อาวุธของพ่อเป็นหอกเงินเหมือนกับของฉัน ฉันสงสัยว่าฉันควรจะให้หอกบอกตามคำที่ว่าผู้อาวุโสมาก่อนดีมั๊ย
"เอาล่ะ"
ฉันได้ตัดสินใจประมาน 0.01 วินาทีก่อนที่จะหยิบเอาหอกดินดำมาโดยที่ไม่ลังเล จากนั้นฉันก็ยัดมันลงไปในช่องเก็บของอย่างรวดเร็วเพื่อที่ไม่ให้พ่อเห็นมัน มันเป็นการโจรกรรมที่สมบูณร์แบบ