บทที่ 42
ผู้แปล loop
การปฏิเสธของฉูหยวนก็ไม่ได้ทำให้ดงซูบินผิดหวังเหมือนครั้งก่อน เพราะท่าทางของฉูหยวนนั้นทำให้เขาประหลาดใจ
ดงซูบินคิดว่าเธอตอนนี้อาจยังไม่พร้อมและตะโกน “ย้อนกลับ” ในตอนนั้น!
......
"เด็กดี. กัดอีกครั้ง อ่า……” ฉูหยวนป้อนกล้วยให้กับดงซูบิน
ดงซูบินกัดและเคี้ยวช้าๆ
ฉูหยวนเอาผ้าเช็ดปากและช่วยเขาเช็ดปาก “ดูรอยยิ้มของนายสิ นายคิดอะไรของนายอยู่?”
“เอ๋อ! ไม่มีอะไร……ฉันแค่อยากยิ้ม ฮ่าฮ่าฮ่า” ดงซูบินยังไม่พอใจกับตัวเองมากนัก นั่นเป็นเหตุผลที่เขายังคงต้องใช้พลังพิเศษของเขา เขายังไม่สามารถปล่อยให้ฉูหยวนรู้ว่าเขาชอบเธอได้ อีกทั้งเขาไม่ต้องการให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ เขาต้องการรอจนกระทั่งฉูหยวนจะมีความประทับใจที่ดีต่อเขาและเขาจะได้มีคำสารภาพที่สมบูรณ์แบบ ด้วยวิธีนี้โอกาสที่เขาจะประสบความสำเร็จจะสูงขึ้น
แต่ตอนนี้อุปสรรคใหญ่ที่สุดสำหรับดงซูบินในตอนนี้ก็คือ
การตั้งบริษัทของฉูหยวน……แม้ว่าฉูหยวนจะได้รับค่าคอมมิชชั่นสำหรับการขายโฆษณาทุกครั้ง แต่มันคงจะต้องใช้เวลาอีกนานกว่าเธอจะสามารถเก็บเงินเพื่อมาทำฝันของเธอได้
หลังจากคิดมาตลอดทั้งบ่าย ดงซูบินตัดสินใจจะช่วยฉูหยวน หากเขามีเงินพอที่ช่วยให้เธอตั้งบริษัทของเธอเองได้ โอกาสที่เขาจะได้ครบฉูหยวนเป็นแฟนจะสูงขึ้น? มันทำให้ดงซูบินต้องหาเงินให้มากขึ้น เพื่อมีชีวิตที่ดีขึ้น หากเขาสามารถมีรายได้ 1 ล้านหยวน เขาก็จะมีชีวิตที่ดีขึ้นและอาจมีแฟนด้วย นั้นคือสิ่งที่ถูกต้อง. และจริงๆแล้วในการทำงานราชการถ้าดงซูบินอยากเลื่อนตำแหน่งให้ได้เร็วก็อาจจะต้องมีการให้ของใต้โต๊ะกันบ้าง แต่สิ่งที่เขาจะได้กับมาคือ ชื่อเสียง เงิน และ อำนาจ ซึ่งเหมือนเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัวกันเลยที่เดียว
‘ฉันจะต้องหาเงินมาให้ได้’
‘เป้าหมายคือ 1 ล้านหยวน’
ผ่านไปหนึ่งวัน……
ผ่านไปสองวัน……
ในขณะนี้ ดงซูบินฟื้นตัวได้ดีภายใต้การดูแลของฉูหยวน ตอนนี้เขาได้ถอดผ้าพันแผลเมื่อสองวันก่อนออกจนหมดแล้ว อีกทั้งเขายังสามารถขยับแขนและขาได้ดีขึ้น เว้นแต่การออกกำลังกายที่ใช้แรงเยอะที่เขายังต้องระมัดระวัง ดงซูบินก็สามารถเดินและขึ้นบันไดได้โดยไม่ต้องเดินกะเผลกอีกต่อไป เขาถามหมอว่าเขาจะถูกปล่อยกลับบ้านเมื่อไหร่ เพราะเขาเบื่อที่จะอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว แพทย์บอกเขาว่าเขายังคงต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลอีกสัก 2 วันเพื่อสังเกตดูอาการ มันทำให้ดงซูบินสงสัยว่าโรงพยาบาลต้องการให้เขาอยู่อีกสองสามวันเพื่อที่จะได้เรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลที่แพงขึ้นอย่างแน่นอน
เวลาเที่ยง
หลังจากทานอาหารกลางวันในโรงพยาบาล ดงซูบินก็ทานยาของเขาโดยไม่ได้สนใจอะไร
อาหารที่โรงพยาบาลเจียงกงนั้นมีราคาถูกมาก โดยนับเป็น 3 มื้อต่อ 10 หยวน แต่มันเป็นอาหารสำหรับผู้ป่วยเท่านั้น ไม่ใช่สำหรับญาติๆ มันทำให้ฉูหยวนต้องไปทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารใกล้เคียง หลังอาหารกลางวันเธอซื้อโยเกิร์ตหนึ่งถ้วยกลับไปที่หอผู้ป่วยและเห็นดงซูบินกำลังจ้องมองบางอย่างและเป่าลมเข้าไปที่ขวดน้ำเปล่าอย่างเบื่อหน่าย
ฉูหยวนเดินเข้ามาและหัวเราะ เธอวางโยเกิร์ตลงบนโต๊ะ “นายทำอะไรอยู่? นายอายุเท่าไหร่กันแล้วเนี่ย”
ดงซูบินได้แต่กลอกตาขึ้น “ฉันเบื่อ” สองวันที่ผ่านมาดงซูบินกำลังคิดหาวิธีการหาเงินให้มากขึ้น แต่ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้ในโรงพยาบาลนี้เลยและมันทำให้เขาเบื่ออย่างถึงที่สุด
“ถ้านายรู้สึกเบื่อ นายก็กินโยเกิร์ตนี้ส่ะสิ.”
“ฉูหยวน! ฉันหายเบื่อแล้ว ทำไมเธอถึงไม่กลับไปทำงานอีกล่ะ”
“มือของนายยังสัมผัสน้ำไม่ได้ ถ้าฉันกลับไปทำงานแล้วใครจะช่วยล้างหน้าให้นายกัน? ใครจะล้างถ้วยช้อนให้นายกัน?” ฉูหยวน กล่าวขณะที่เธอเปิดฟาโยเกิร์ต เธอถือมันไว้ให้ดงซูบิน "กินมัน. ถ้านายเบื่อจริงๆ ฉันจะพานายไปเดินเล่นใกล้แถวๆโรงพยาบาล นายอยากไหม?"
ดงซูบินรู้สึกยินดีที่ได้ยินเช่นนั้น "ได้. ไปหาที่เดินเล่นแถวๆนี้กัน ” ดงซูบินไม่รู้ว่าพวกเขาสองคนจะไปไหนกัน แต่ตราบใดที่ฉูหยวนอยู่กับเขา เขาก็ยินดีไปด้วยเสมอ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา
ดงซูบินยืนอยู่ที่ทางเข้าทิศตะวันตกของโรงพยาบาลเจียงกง เขามองไปที่ท้องฟ้าและถอนหายใจ “ในที่สุดฉันก็เห็นท้องฟ้าอีกครั้ง”
ฉูหยวนพยุงเขาไว้และช่วยเขาขณะที่เดินอยู่ ทั้งคู่เดินช้าๆไปทางทิศเหนือ
มีคนอยู่ด้านหน้าเขาเขากำลังเล่นแบดมินตันกับลูกของพวกเขาตามทางเดิน ฉูหยวนช่วยดงซูบินพยุงเดินจากทางซ้ายของเขาเพื่อหลีกเลี่ยงคนที่เล่นแบดมินตันอยู่ แต่เมื่อพวกเขาเดินผ่านครอบครัวเสียงฝีเท้าก็ขยับเข้ามาใกล้ทางขวาและกระแทกเข้าที่ไหล่ขวาของ ดงซูบิน “อุ๊ย!” ดงเซวปิงตะโกน เขารู้สึกถึงความเจ็บปวดในไหล่ของเขาและเขาหันไปทางขวาของเขา “ฉันไม่เห็นว่านายกำลังจะเดินผ่านตรงนี้สักหน่อย!”
ชายวัยกลางคนไม่ได้ขอโทษและเดินต่อไป
“ดงซูบินนายโอเคไหม” ฉูหยวนถามด้วยความโมโหแทนดงซูบิน
ดงซูบินลูบไหล่ของเขาและตอบพร้อมขมวดคิ้ว "ฉันสบายดี."
ฉูหยวนโกรธ เธอตะโกนใส่ชายวัยกลางคนว่า“เฮ้คุณ! หยุดตรงนั้น!”
ชายวัยกลางคนหันมา “มีอะไร? ฉันทำอะไรผิด”
“ทำอะไรผิดอย่างงั้นหรอ?” ฉูหยวนตอบด้วยอาการที่ฉุนขาด “คุณรู้ไหมกระแทกไหล่มาที่น้องชายของฉันและคุณยังไม่ขอโทษอีกหรือยังไง?”
ชายวัยกลางคนที่ถือกระเป๋าหนังตอบอย่างกระวนกระวายว่า“ฉันแค่กระแทกเขาเบา ๆ ทำไมต้องทำให้วุ่นวายด้วย”
“ไหล่ของน้องชายฉันเจ็บอยู่และคุณไปกระแทกมันทำให้กับมาเจ็บอีกครั้ง” ฉุหยวนจ้องไปที่เขาแล้วพูดว่า:“ฉันอยากให้คุณขอโทษเขา”
ดงซูบินรู้สึกว่าชายคนนี้ดูคุ้นเคย เขาพยายามที่จะจำว่าเขาเป็นใครและเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อน
ชายคนนั้นขมวดคิ้ว:“เธอบ้าเหรอ?”
“นายสิบ้า!” ดงซูบิน โกรธมาก เขาชี้ไปที่ชายคนนั้นและตะโกน:“นายกล้าดียังไงถึงพูดอย่างงั้นออกมา!”
ชายคนนั้นตะโกนและเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
ดงซูบินโกรธและเดินเร็วกว่าเพื่อไล่ตามเขา “หยุดตรงนั้น!”
ฉูหยวน ยังไล่ตามชายคนนั้นไป แต่เนื่องจากดงซูบินยังไม่หายดี เธอหยุดและดึงดงซูบินกลับมา “ลืมเรื่องนี้ไปส่ะเถอะ ไม่มีเหตุผลที่จะเถียงกับผู้ชายคนนั้น”
ดงซูบินมองไปที่ด้านหลังของชายคนนั้นและทันใดนั้นก็นึกขึ้นได้ว่าชายคนนั้นเป็นใคร “ฉูหยวน! ฉันจำได้ว่าเป็นใคร ฉันเคยเห็นเขาในทีวี เขาเป็นนักโบราณคดีจากรายการทีวี นามสกุลของเขาคือเฉิง นักจัดรายการและแขกของรายการทีวี เขารู้จักกันดีในนามอาจารย์เฉิง เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการพิสูจน์ธนบัตรและเหรียญโบราณ” เนื่องจากดงซูบินเคยทำงานนอกเวลาในเมืองโบราณมาระยะหนึ่งและสนใจโบราณวัตถุ เขามักจะดูรายการเหล่านี้เมื่อเขามีเวลาว่าง
ฉูหนวนส่ายหัวของเธอ “คนที่หยาบคายอย่างงั้นก็เป็นผู้เชี่ยวชาญได้จริงหรอเนี่ย”
ดงซูบินพูดออกมาว่า “ฉันรู้จักเขาแต่ในทีวี ไม่คิดว่าชีวิตจริงของเขาจะทำตัวอย่างงี้”
สักพักโทรศัพท์ของฉูหยวนก็ดังขึ้นและเธอก็ตอบ “สวัสดี…… ฮือ ……ใช่……มีปัญหาหรือป่าว มาทำไม คุณสามารถพูดกับเขาแทน……ฉันได้ไหม วันนี้ฉันลา……เขาพูดอะไร ทำไม่ได้เหรอ” ฉูหยวนมองไปที่ดงซูบิน "พรุ่งนี้ได้ไหม? ฉันจะไปคุยกับเขาที่บริษัทของเขา……ตกลง……อ่า… .. วันนี้เท่านั้นหรอ งั้นโครงการจะไม่ได้รับอนุมัติอย่างงั้นหรอ”
ดงซูบิน รู้ว่ามันเป็นงานของเธอ เขาพูดว่า:“เธอควรไป งานของเธอสำคัญกว่า”
ฉูหยวนลังเลก่อนที่พูดผ่านโทรศัทพ์ต่อว่า:“โอเค เดียวสักแปบฉันจะเข้าไป บาย.”
“คนที่ทำงานในแผนกโฆษณาโทรมาหรอ?”
ฉูหยวนพยักหน้า “มีปัญหาบางอย่างและพวกเขาต้องการให้ฉันกลับไปตอนนี้ เฮ้อ ... ฉันไม่สามารถอยู่แบบสงบๆได้เลย กลับกันเถอะ. ฉันจะส่งนายที่โรงพยาบาลก่อน”
“ห้องเลขที่อะไรนะ ฉันกลัวว่านายจะเดินแล้วล้ม”
“เอ๊ะ! ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ” ดงซูบินเดินไปข้างหน้าไม่กี่ก้าวอย่างรวดเร็ว “ดูสิ! ขาของฉันหายดีแล้ว เธอควรไปที่ทำงานในตอนนี้”
“แต่……” ฉูหยวนมองดูเขาแล้วจับไปที่แขนของดงซูบิที่อยู่ข้างๆของเธอ “งั้นฉันไปก่อนนะ แต่นายต้องดูแลตัวเองระหว่างเดินกลับ ระวังเมื่อนายกำลังจะข้ามถนนและดูให้ดีว่านายกำลังจะไปไหน เมื่อนายเดินขึ้นบันไดนายจะต้องเดินช้าลง นายได้ยินฉันไหม?”
"ได้ยิน ได้ยิน……."
หลังจากฉูหยวนกลับไปดงซูบินก็ลูบไหล่ของเขาที่ปวดขึ้นมาอีกครั้ง
ผู้เชี่ยวชาญด้านของเก่าทุกคนนั้นมีฐานะร่ำรวย แต่มันแย่มากที่พฤติกรรมส่วนตัวของพวกเขาทำให้พวกเขาเป็นคนที่แย่มาก
‘อ๋อ รู้แล้ว!’
‘ของเก่า!’
‘ถึงแม้ความเสี่ยงในการลงทุนซื้อขายสูงเกินมาก แต่ฉันสามารถหาเงินจากของเก่าพวกนี้ได้!’