ตอนที่ 36 สู้กับผีสาว
ตอนที่ 36 สู้กับผีสาว
เฟิงเฉ่วหานตอบสนองเร็วมาก ผมพึ่งลงมือเท่านั้น เจ้าเด็กนี้ก็หยิบยันต์ออกมาทันที
แม้ผีสาวจะโดนต่อยไปหนึ่งหมัด แต่เธอไม่เป็นอะไรเลยสักนิด เมื่อเห็นยันต์ เธอก็ตกใจ
ถอยหลังตามสัญชาตญาณ เนื่องจากมือและเท้าไม่ได้สัมผัสพื้น จึงสามารถถอยไปด้านหลังได้อย่างราบรื่น
เธอเคลื่อนไหวเร็วมาก ยันต์แผ่นนี้จึงแปะเข้ากับอากาศ แต่อย่างน้อยพวกเราก็สร้างระยะห่างจากผีสาวได้
“เฟิงเฉ่วหาน นายดูเธอไว้นะ! ฉันจะโทรเรียกอาจารย์และนักพรตตู๋!”
ขณะที่พูด ผมก็รีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันที ขณะที่กำลังจะเรียกให้อาจารย์และนักพรตตู๋มาช่วย
เฟิงเฉ่วหานก็หยิบดาบไม้มาเตรียมพร้อมเรียบร้อย และจับตาดูผีสาวเอาไว้ “มีเกิดก็ต้องมีตาย พอแค่นี้เถอะ!”
แต่ผีสาวตนนั้นกลับทำหน้ามืดมน จากนั้นก็เผยสีหน้าที่สยดสยองออกมา “อย่าฝัน ถ้าไม่ใช่เพราะพวกมันให้ฉันดูแลบริษัท ฉันจะตายแบบนี้ได้ยังไง และยังมีพวกแก กล้ามาแตะต้องร่างกายที่แสนล้ำค่าของฉัน ยังไงก็ต้องชดใช้!”
หลังจากพูดจบ ผีสาวก็กรีดร้องออกมาด้วยเสียงที่แหบแห้ง “อร๊าย!”
จากนั้นก็หันมาเผชิญหน้าและพุ่งเข้ามาหาพวกเรา ด้วยความรวดเร็ว
เมื่อผมเห็นสถานการณ์ตรงหน้า ใบหน้าก็อดไม่ได้ที่จะกระตุกสองถึงสามครั้ง
นี่มันเหตุผลบ้าบออะไรกัน ดูแลบริษัทมันผิดได้ด้วยเหรอ ผมยังต้องการให้ใครสักคนเรียกผมไปดูแลบริษัทบ้างเลย
แต่พวกเราจัดการเรื่องงานศพ เป็นคนปราบสิ่งชั่วร้าย แล้วแบบนี้พวกเราจะไปดูหมิ่นร่างกายเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ดูเหมือนวิญญาณคุณหนูเหวินจะถูกควบคุม พลังชั่วร้ายเยอะมาก จนทำให้เธอสูญเสียความคิดของตัวเอง เลยพูดอะไรไร้สาระออกมา
เพียงชั่วพริบตา ผีสาวก็พุ่งเข้ามา ต่อสู้กับเฟิงเฉ่วหานจนเป็นวงกลมแล้ว
หลังจากโทรศัพท์ดัง “ตู๊ดตู๊ด” ก็มีคนรับสาย “อาจารย์ รีบมาเร็ว เธอมาที่ห้องโถงครับ!”
เมื่ออาจารย์ได้ยินเสียงในโทรศัพท์ น้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยนไปทันที “เสี่ยวฝานแกกับเสี่ยวเฟิงระวังตัวด้วยนะ ฉันกับนักพรตตู๋จะรีบไปทันที……”
หลังจากพูดจบ เขาก็วางโทรศัพท์ทันที
อีกเดี๋ยวอาจารย์และนักพรตตู๋ก็จะมาถึง ดังนั้นผมและเฟิงเฉ่วหานจะต้องรับมือกับเธอไปก่อน
เมื่อคืนดาบไม้และดาบเหรียญถูกทำลายจนหมดแล้ว ดังนั้นตอนนี้ผมจึงเหลือเพียงยันต์แปดทิศและไม้บรรทัดเหล็กดำเท่านั้นที่จะมาทำเป็นอาวุธได้
แต่ผมก็ไม่สนอะไรทั้งนั้น พุ่งเข้าใส่ผีสาวทันที
ผีสาวตนนั้นดุร้ายมาก ถ้าเทียบกับผีดิบตัวเมื่อวานนี้ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความเร็วนั้นเพิ่มมามากขนาดไหน
กรงเล็บจากมือทั้งสองข้างเข้ามาข่วนตัวผมสองคนอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ต่อสู้ลักษณะแบบนี้
เนื่องจากผมยังไม่ค่อยคุ้นเคย หน้าอกผมที่เคยเป็นปกติ
กลับปรากฎรอยฉีกขาดที่เสื้อถึงสามรอย และที่หน้าอกเองก็มีคราบเลือดไหลซึมออกมา
โชคดีที่บาดแผลไม่ลึกมาก แต่ตอนนี้ผมไม่มีเวลามาสนใจเรื่องนี้ จากนั้นผมก็หยิบไม้บรรทัดเหล็กดำออกมาสู้ต่อทันที
แต่เห็นได้ชัดว่าผีสาวตนนั้นกำลังโมโหมาก “สมควรตาย ตอนนี้ฉันจะฆ่าพวกแก!”
เสียงของผีสาวพึ่งจางหาย พลังหยินที่ชั่วร้ายก็ระเบิดออกจากร่างของเธอทันที
บรรยากาศแบบนั้นกดดันอย่างมาก จนทำให้ผมแทบจะหายใจไม่ออก
“ไอ้ปีศาจ!” เฟิงเฉ่วหานพูดออกมาเบาๆ จากนั้นก็ฟันดาบเข้าไปทันที
แต่ผีสาวกลับไม่หลบเลยสักนิด เธอจับดาบไม้ของเฟิงเฉ่วหานเอาไว้
จากนั้น พวกเราก็ได้ยินเสียงเหมือนอะไรเผาไหม้ “ซ่า....” ควันดำค่อยๆไหลออกมาจากมือผีสาว
คุณต้องรู้ว่าดาบไม้นี้เป็นดาบที่มีพลังหยาง ปกติแล้วสิ่งชั่วร้ายจะไม่กล้าแตะต้อง
ผลลัพธ์ก็ดีจริงๆ ผีสาวตนนี้ไม่เพียงแค่แตะดาบ เธอยังจับมันไว้แน่น
ดูเหมือนเธอจะไม่ได้สนใจมือที่กำลังถูกพลังหยางเผาเลยสักนิด ดวงตาจ้องเขม็ง “ตาย!”
ขณะที่พูด เธอก็ออกแรงที่มือ ดึงดาบไม้ในมือเฟิงเฉ่วหานโยนทิ้งไปทันที
แต่ยังไม่จบเพียงเท่านี้ เพราะแรงเฉื่อย จึงทำให้ร่างกายของเฟิงเฉ่วหานเสียสมดุล พุ่งเข้าหาผีสาวทันที
เมื่อผีสาวเห็นสิ่งนี้ เธอก็อ้าปาก เตรียมกัดเข้าไปที่คอของเฟิงเฉ่วหาน
ตอนนี้เฟิงเฉ่วหานยังยืนไม่ได้เลย แล้วเขาจะสามารถหลบการโจมตีนี้ได้ยังไง
“ระวัง!” ผมตะโกนด้วยความตกใจ ตอนนั้นผมไม่คิดอะไรแล้ว รีบเอื้อมมือออกไปป้องกันไว้ทันที
การกัดมือของผมและการกัดคอนั้น มันแตกต่างกันลิบลับ เรื่องนี้ใครๆต่างก็รู้ดี
วินาทีนั้น ผมรู้สึกได้ทันทีว่ามือซ้ายของผมมีความเจ็บปวดกำลังแผ่ซ่านไปทั่ว
เขี้ยวทั้งสองซี่ของผีสาว เจาะทะลุผิวหนังของผม มันฝังลึกเข้าไปอยู่ในเนื้อของผมทันที
“อ้า...!”
ผมอดไม่ได้ที่จะร้องออกมา เลือดสดๆไหลออกมาตามมุมปากของผีสาว
“ติงฝาน!” เฟิงเฉ่วหานดูตกใจมาก เขาไม่คิดว่าผมจะเป็นคนดีขนาดนี้ ยอมบาดเจ็บแทนเขา
ระหว่างนั้น ตัวของเฟิงเฉ่วหานสามารถยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว จากนั้นเขาก็เตะไปที่ท้องของผีสาวทันที
ลูกเตะนี้แรงมาก มันทำให้ผีสาวถอยห่างออกไปทันที
มือของผมที่ถูกอีกฝ่ายกัดก็หลุดออกมา จากนั้นผมก็พบว่าที่หลังมือมีรอยกัดของเขี้ยวสองซี่ เลือดไหลออกมาอย่างต่อเนื่อง และบริเวณรอบๆบาดแผล ยังมีรอยสีคราม และมันยังให้ความรู้สึกเสียวซ่านเล็กน้อย
เมื่อผมเห็นแผล ก็ด่าออกมาหนึ่งคำว่า “สมควรตาย!”
เฟิงเฉ่วหานก็จับมือผมไปดู เขาซาบซึ้งเป็นอย่างมาก และเผยสีหน้าที่รู้สึกผิดออกมา
เมื่อผมเห็นเฟิงเฉ่วหานแสดงสีหน้าแบบนั้น ผมก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย “แค่แผลเล็กๆน่าไม่เป็นอะไรหรอก ตอนนี้พวกเรามาหาวิธีจัดการเจ้านี้ก่อนแล้วค่อยว่ากันเถอะ!”
หลังจากพูดจบ พวกเราก็หันไปมองผีสาวอีกครั้ง
พบว่าผีสาวกำลังเลียเลือดที่ติดริมฝีปากอยู่ “เลือดนี่รสชาติเยี่ยมจริงๆ ตอนนั้นฉันน่าจะกัดแกให้ตายจริงๆ!”
หลังจากพูดจบ ผีสาวตนนั้นก็เผยรอยยิ้มที่ภาคภูมิใจในแบบแปลกๆออกมา
แต่ในวินาทีนั้น ด้านหลังกลับมีเสียงของอาจารย์ดังขึ้น “ยัยชั่ว อย่ามาโอหัง!”
เสียงพึ่งจางหาย ผมก็เห็นอาจารย์และนักพรตตู๋วิ่งเข้ามาในห้องโถงทันที
เขาไม่พูดอะไรมาก เตรียมตัวพุ่งเข้าใส่ผีสาวทันที
เมื่อผีสาวเห็นอาจารย์และนักพรตตู๋กำลังจะพุ่งเข้ามาหาเธอ เธอจึงคำราม “โฮก” ออกมา และพุ่งออกไปทันที
เพียงชั่ววินาที ทั้งสามคนก็เริ่มต่อสู้
แต่นักพรตตู๋และอาจารย์ไม่สามารถนำมาเทียบกับผมและเฟิงเฉ่วหานได้ แม้ผมสองคนร่วมมือกัน ก็ยังต่อสู้กับผีสาวได้อย่างยากลำบาก
แต่เมื่อนักพรตตู๋และอาจารย์ร่วมมือต่อสู้กับผีสาว ผีสาวตนนั้นกลับต้องเป็นฝ่ายลำบากแทน
นี่เป็นการต่อสู้ตัวต่อตัว อาจารย์ต่อยที่หน้าผีสาวหนึ่งหมัด
เสียงดัง “ปัก” วินาทีนั้นผีสาวถูกต่อยกลิ้งไปกับพื้นทันที
ไม่เพียงเท่านี้ ใบหน้าของผีสาวยังมียันต์แปะอยู่หนึ่งแผ่น มันทำให้ผีสาวผวาอย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังเจ็บปวดสุดๆ
ผมไม่ค่อยรู้อะไรมาก แต่เฟิงเฉ่วหานกลับแสดงท่าทางที่ตกใจออกมา “ยันต์ฝ่ามือ คิดไม่ถึงว่าท่านผู้อาวุโสติงจะใช้ยันต์ฝ่ามือได้!”
ดูจากท่าทางของเฟิงเฉ่วหาน การต่อสู้ของอาจารย์คงเจ๋งน่าดู
แต่ผมไม่มีเวลาถาม หลังจากนั้นเฟิงเฉ่วหานก็ใช้ผ้าก๊อดมาช่วยพันแผลให้ผม ขณะที่กำลังคิดจะออกไปช่วย
ผมก็พบว่า ไม่มีเรื่องอะไรที่ผมสองคนจะช่วยได้อีกแล้ว
จากนั้นผมก็เห็นนักพรตตู๋ทำมือและพูดว่า “ขอเชิญเทพลุ่ยลิ้ง บัญชา!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงดัง “ปัง” ร่างผีสาวกระเด็นออกไป ระหว่างนั้นเธอยังกรีดร้องโหยหวนออกมา และกระแทกลงไปกับพื้นทันที
แต่นักพรตตู่และอาจารย์ไม่ได้ตามไปฆ่า ยังเว้นระยะห่างจากผีเอาไว้
ผีสาวลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอก็มองอาจารย์และนักพรตตู๋ด้วยสายตาที่เกลียดชัง “ฉันจะกลับมาแน่……”
หลังจากพูดจบ ผีสาวก็หมุนตัวและหนีออกไปจากห้องโถงทันที จากนั้นร่างของเธอก็กลืนหายไปกับความมืด
แต่อาจารย์และนักพรตตู๋ไม่ได้รีบร้อน เขารีบเข้ามาดูบาดแผนของผมก่อน
“ผมไม่เป็นอะไรครับอาจารย์!” ผมพูด ผมคิดว่ารูเล็กๆสองรูนี้ ไม่เป็นไรแล้วเพราะมีเลือดไหลออกมาแค่นิดเดียวเท่านั้น
แต่อาจารย์กลับแสดงสีหน้าเคร่งขรึม “แกจะรู้อะไร ถ้าถูกผีกัดพลังหยินจะเข้าไปทำร้ายร่างกาย ถ้าไม่รีบรักษา แกจะตายได้รู้ไหม!”
หลังจากพูดจบ อาจารย์ก็หยิบขี้เถ้าจากกระถางธูปมาหนึ่งกำมือ
ไม่อธิบายอะไร นำขี้เถ้านั้นเทลงบนแผลผมทันที
หลังจากขี้เถ้าสัมผัสกับแผล ความเจ็บปวดก็ไหลทะลักออกมาจนเกือบทำให้ผมต้องร้องไห้
แต่ก็แปลกนะ หลังจากทาขี้เถ้าลงบนแผล มันกลับทำให้ผมรู้สึกเย็นๆชาๆ
ผมจึงเผยสีหน้าที่มีความสุข แต่ผมก็กังวลเพราะทุกคนใช้เวลารักษาอาการบาดเจ็บของผมนานแล้ว
ตอนนี้ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของผีสาวแล้วด้วย แล้วพวกเราจะไล่ตามเธอได้ยังไงละ
“อาจารย์ ผมผิดเอง ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำให้ยัยผีนั้นหลุดมือไปได้” ผมโทษตัวเอง
แต่อาจารย์กลับพูดอย่างเยือกเย็น “หนีงั้นเหรอ คืนนี้เธอหนีได้ที่ไหนละ”
เสียงพึ่งจางหาย อาจารย์ก็สบัดมือใหญ่ๆของเขา แล้วหยิบเข็มทิศสีดำออกมา……