ตอนที่แล้วMPE บทที 14 สัตว์อสูรตัวแรก
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMPE บทที่ 16 การทดสอบการเป็นผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูร

MPE บทที่ 15 การลงทะเบียน


ย้อนกลับไปที่พ่อแม่ของเขาได้เสียชีวิตจากมหาภัยพิบัติ ทางรัฐบาลได้มอบเงินชดเชยให้กับเกาเผิง รวมถึงครอบครัวของผู้เสียชีวิตเหล่านั้นเป็นจำนวน 10เครคิตพันธมิตร

1พันธมิตรมีมูลค่าเท่ากับ 10,000 ดอลล่าร์พันธมิตร นี่ไม่ใช่เงินก้อนใหญ่ แต่เมื่อพิจารณาถึงจำนวนคนที่เสียชีวิตระหว่างหายนะแล้ว นี่เป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลย

ในตอนแรกมีเพียงประเทศเดียวเท่านั้นที่ยินดีมอบเงินชดเชยให้กับผู้สูญเสีย นั่นคือประเทศจีน ทำให้อัตราการเกิดอาชญากรรมลดลงอย่างมาก

เมื่อผลลัพธ์เป็นไปในทางที่ดี ทางประเทศอื่นๆจึงเริ่มใช้มาตรการนี้เช่นเดียวกัน ถึงแม้จำนวนเงินที่พวกเขาได้รับจะได้ไม่มากมาย แต่ก็เพียงพอใช้ในการดำรงชีพได้

เกาเผิงได้รับเงินชดเชยเป็นจำนวน 20เครดิตพันธมิตร ตอนนี้เงินก้อนเหลือเพียง 11เครดิตพันธมิตร หากเขาใช้มันดีๆ ก็อาจจะเพียงพอมาซื้อของมายกระดับต้าซื่อได้

แต่นั่นไม่ใช่ความคิดที่ดี หากเขาใช้เงินทั้งหมดไป เขาจะไม่เหลือเงินมาจ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าครองชีพในชีวิตประจำวัน ด้วยเหตุนี้เกาเผิงจึงไม่ได้รีบไปที่ตลาดทันที

อย่างไรก็ตามจากการต่อสู้และรวบรวมซากสัตว์อสูรในช่วงทัศนศึกษา เกาเผิงสามารถทำเงินได้จำนวนสองเครดิตพันธมิตร นี่เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายตลอดครึ่งปีของเขา

ใช่แล้ว งานที่ทำเงินได้มากที่สุดในโลกก็คือการเป็นผู้ฝึกสอนสัตว์อสูร แม้อาชีพนี้ต้องใช้ทุนที่ค่อนข้างสูงแต่พวกเขาก็สามารถหาเงินกลับมาได้อย่างรวดเร็ว แต่หากโชคดีก็จะได้เงินเพิ่มอีกหลายเท่า

พวกเขาอาจร่ำรวยในชั่วข้ามคืนโดยการค้นพบสมบัติบางอย่างที่อยู่ในป่า ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของมันก็คือการล่าสัตว์อสูรก็คือ มันอาชีพที่มีความเสี่ยงสูง หากบางคนโชคร้าย พวกเขาอาจพบสัตว์อสูรระดับสูงที่แข็งแกร่งและอาจทิ้งชีวิตไว้ในป่า

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เพื่อที่จะเป็นผู้ฝึกสอนสัตว์อสูรที่เก่งกาจ ในไม่ช้าก็เร็ว พวกเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรระดับสูงอยู่ดี

ไม่มีงานใดที่ทำให้รวยได้ในชั่วข้ามคืนได้เท่านี้ แม้อยู่ที่บ้านก็สามารถทำเงินได้

เกาเผิงนั่งอยู่บนโซฟาพร้อมกับต้าซื่อที่นั่งอยู่ข้างๆ เขากดหน้าจอสมาร์ทโฟนอย่างเรื่อยเปื่อย

ปัจจุบันมีแอพพลิเคชั่นทีเกี่ยวกับสัตว์อสูรมากมาย แม้แต่คนที่ไม่ได้เป็นผู้ฝึกสอนสัตว์อสูรยังสามารถหาข้อมูลของพวกมันได้อย่างง่ายดาย

3ปีผ่านมา มนุษย์สามารถปรับตัวกับสิ่งใหม่ได้เป็นอย่างดี

เขารู้สึกเบื่อๆจึงเปิดโทรทัศน์ดูรายการต่างๆ

“ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ซีซั่น2ของรายการ ราชาของสัตว์อสูร เจียงหนานค่ะ ดิฉันคือผู้ดำเนินรายการวันนี้ ซูต้าจาง”

ในรายการมีเวทีขนาดใหญ่ตรงกลาง ข้างบนเวทีมีผู้เข้าแข่งขันราวๆ 10กว่าคน แต่ละคนมีหมายเลขติดไว้ที่เอว

ด้านตรงข้ามของผู้เข้าแข่งขัน กรงเหล็กจำนวนมากกักขังสัตว์อสูรนานาชนิดเอาไว้ภายใน

สัตว์อสูรในกรงทุกกรงทุกตัวดูตื่นตระหนก บางตัวพยายามแหกกรง บางตัวก็ส่งเสียงคำราม ในหมู่พวกมันมีสัตว์อสูรที่ดูดุร้ายที่สุด มันมีรูปร่างคล้ายสิงโต และมันกำลังโจมตีกรงเหล็กอย่างบ้าคลัง อย่างไรก็ตามดูเหมือนกรงเหล็กจะไม่เป็นอะไรเลย

แต่สิงที่ทำให้เกาเผิงรู้สึกประหลาดใจก็คือ ข้อมูลที่ปรากฏขึ้นในมุมมองสายตาของเขา

[ชื่อสัตว์อสูร] ราชสีห์ปีศาจสีเงิน

[เลเวล] 22 (ชนชั้นนักรบ)

[ระดับ] สูง

[คุณสมบัติ] ธาตุน้ำแข็ง

[สถานะ] สุขภาพแข็งแรง (บ้าคลั่ง)

[จุดอ่อน] ธาตุสายฟ้า

ใครจะคิดว่าข้อมูลสัตว์อสูรก็สามารถมองเห็นได้จากจอโทรทัศน์ด้วยเช่นกัน?

เกาเผิงกลายเป็นถึงกับพูดไม่ออกเลย

งั้นความสามารถนี้ เขาสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้หลายอย่างมากเลยสิ

เกาเผิงปิดทีวี และนั่งปล่อยความคิดให้โลดแล่นผ่านไป

หลังจากสร้างพันธะสัญญาเลือดกับต้าซื่อและ เขาได้ก้าวเข้าสู่เส้นทางของผู้ฝึกสอนสัตว์อสูรอย่างเป็นทางการแล้ว

แต่เขายังเป็นแค่มือสมัครเล่นยังห่างไกลจากการเป็นจากความเป็นมืออาชีพอยู่ อย่างน้อยๆ เขาต้องให้ต้าซื่อเป็นระดับสูงหรือเป็นชนชั้นขุนนางเสียก่อนเป็นอันดับแรก

จากการฝึกฝนระหว่างทัศนศึกษาที่ทะเลสาบคันฉ่อง เลเวลของต้าซื่อได้เพิ่มขึ้น ตอนนี้มันมีเลเวล 7แล้ว

การต่อสู้เป็นวิธีการเพิ่มเลเวลได้รวดเร็วที่สุด

นอกจากการล่าสัตว์อสูรที่ชานเมืองแล้ว ยังมีงานอื่นที่เขาสามารถทำได้คือ ผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูร

ผู้เพาะพันธุ์สัตว์อสูรถือเป็นอาชีพใหม่ ที่แยกออกมาจากกผู้ฝึกสอนสัตว์อสูร

การที่จะประกอบอาชีพนี้ได้นั้นต้องมีใบรับรองเสียก่อน

การสอบภาคทฤษฎีนั้น ไม่เป็นปัญหาสำหรับเกาเผิงเลย แต่ในการสอบภาคปฏิบัติ เขายังไม่มีความมั่นใจในส่วนนั้น

ในการสอบภาคปฏิบัตินั้นผู้เข้าสอบเพียงแค่ยกระดับสัตว์อสูรตามโจทย์ที่ได้ หากทำได้ทันเวลา พวกเขาจะได้ใบรับรองทันที

แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย เพราะว่าสัตว์อสูรที่พวกเขาต้องยกระดับในการสอบนั้น มันจะถูกสุ่มมาโดยที่พวกเขาไม่รู้ล่วงหน้ามาก่อน หากบางคนไม่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับสัตว์อสูรชนิดนั้น มันก็เป็นเรื่องยากในการยกระดับพวกมัน

ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นนักเพาะพันธุ์สัตว์อสูรก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะรู้เรื่องพวกมันทั้งหมด

นั่นก็เพราะว่า สัตว์อสูรเหล่านี้พึ่งปรากฏตัวขึ้นบนโลกได้เพียงแค่ 3ปีเท่านั้น ที่ผ่านมา มนุษย์ยังอยู่ในขั้นตอนการสำรวจ และปัจจุบันได้ทำการสำรวจเพียง 20%ของพื้นผิวโลก ส่วนอีก 80% ยังเป็นพื้นอันตรายอยู่

หรือก็คือมนุษย์ยังสำรวจได้ไม่ถึงครึ่งโลกเลย ยังไม่รวมถึงพื้นที่ใต้มหาสมุทรอีก ที่ยังไม่ได้ถูกสำรวจอีกด้วย ฉะนั้นโลกหลังมหาภัยพิบัตินี้ยังมีความลับมากมายรอให้พวกเราสำรวจอยู่ ไม่แน่อาจจะได้พบสัตว์อสูรชนิดใหม่จะปรากฏตัวขึ้นที่ไหนก็ได้ใครจะไปรู้

อย่างไรก็ตามเกาเผิงรู้สึกว่าตนเองไม่มีปัญหากับการสอบภาคทฤษฎี ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจลงทะเบียนเพื่อขอรับการประเมินในอินเทอร์เน็ต เขาต้องจ่ายค่าสมัครเป็นเงินจํานวน 1,000 ดอลล่าร์พันธมิตร ‘โห! เงินจำนวนนี้ สามารถเลี้ยงต้าซื่อได้เป็นเดือนเลยนะ’

แต่เพื่อความสำเร็จในภายภาคหน้า เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องเสี่ยงโชคดูเท่านั้น

หลังจากลงทะเบียน เขาได้รับข้อความแจ้งเตือนและกำหนดการสอบที่เมืองฉานอันในวันที่ 15 แต่วันนี้คือวันที่ 14 นั่นหมายความว่าการสอบจะเริ่มในวันพรุ่งนี้!

เขาโทรหาอาจารย์มู่หลางเพื่อขอลาหยุด อาจารย์มู่หลานชิงอี้ เมื่อได้ทราบข่าว เธอรู้สึกยินดีมาก เธอสนับสนุนเขาเต็มที่

เธออนุมัติการลาพักการเรียนของเขาเป็นระยะเวลาสั้นๆ เพราะเขาเป็นนักเรียนดีเด่น จึงทำให้เธอไม่กังวลกับการขาดเรียนของเขา

ในตอนท้ายของการสนทนา อาจารย์มู่หลางชิงอี้ ได้กล่าวทิ้งท้ายอย่างปลอบโยนว่า “’หากไม่เคยล้มเหลว จะรู้ได้อย่างไรว่าประสบความสำเร็จ’ เธอยังเด็กนัก ยังมีอนาคตที่สดใสรอเธออยู่ อย่าคิดมาก หากเกิดว่าการสอบมันไม่เป็นอย่างที่เธอคิด”

เกาเผิงเผยรอยยิ้ม เขาได้รู้ว่าอาจารย์มู่หลาง เป็นอาจารย์ที่ยอดเยี่ยมและน่าชื่นชมที่สุด

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด