ตอนที่ 79 สวรรค์และคนรวมเป็นหนึ่ง
ในจิตใต้สำนึกของเขา เฟิงหลินกลมกลืนเข้ากับสภาพแวดล้อม ทำให้เขาไม่สนใจถึงแม้สวรรค์และโลกจะพลิกผันก็ตาม เขาหลงทางไปตามกาลเวลาของจักรวาลนี้
ท่ามกลางสิ่งทั่วไป เขาเห็นความกว้างใหญ่ไพศาลของโลกและดวงดาวที่เปล่งประกายนับไม่ถ้วนในท้องฟ้า
วิญญาณของเขาถูกปลดปล่อยออกมาอย่างสมบูรณ์ หลุดพ้นจากข้อจำกัดของมรรตัย อาบแสงดาว ยืนอยู่ท่ามกลางดวงดาว
นี่คือสิ่งที่เฟิงหลินกำลังรู้สึกอยู่ โดยไม่ผูกมัดกับวิญญาณของเขา เขาลอยไปรอบๆจักรวาลอย่างระมัดระวัง
ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวไม่มีที่สิ้นสุด ส่องแสงนับไม่ถ้วน เปล่งประกายระยิบระยับตลอดเวลา
ร่างกายของเฟิงหลินเปรียบเสมือนหลุมดำ พลังงานแห่งดวงดาวพุ่งเข้ามาในร่างของเขาราวกับลำธารไหลผ่านมหาสมุทร
แสงจากดวงดาวค่อยๆเลือนหายไป ดูเหมือนว่าจะมีสัตว์ประหลาดระหว่างดวงดาวที่หลุดออกมาจากภาพวาดอันสวยงาม
แต่เหตุการณ์แปลกๆเช่นนี้ในช่วงเวลากลางดึกนั้นยากที่ใครจะสังเกตเห็นได้
ในฐานะคนที่เจอปัญหานี้เป็นครั้งแรก เฟิงหลินไม่ได้สังเกต
เขาถูกแช่อยู่ในสภาวะสุดอัศจรรย์นี้ ในชั่วขณะหนึ่ง มันดูเหมือนว่าเขาได้กลายเป็นทั้งสวรรค์และจักรวาล วิญญาณของเขาขยายออกไปอย่างไม่จำกัด ดวงดาวทุกดวงในท้องฟ้าดูเหมือนชีวิตที่ยิ่งใหญ่ การเต้นของหัวใจดูเหมือนจะมีคลื่นความถี่เดียวกันกับการเต้นของดวงดาว
แสงดาวกลายเป็นส่วนเสริมจิตสำนึกของเขา แพร่กระจายออกไปอย่างต่อเนื่อง ห่อหุ้มสิ่งต่างๆมากมายในจักรวาล
ศักยภาพทางพันธุกรรม + 8%, + 8%, + 8% ....
พลังงานแห่งดวงดาวเข้ามาในร่างกายของเขา และเหมือนน้ำในฤดูใบไม้ผลิที่หล่อเลี้ยงเขาทำให้เขารู้สึกสดชื่นเคล็ดหายใจดวงดาวนั้นเป็นประเภทการบ่มเพาะ และสำหรับศักยภาพทางพันธุกรรม ตราบใดที่มีการบ่มเพาะมันก็จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนโดยไม่คำนึงถึงวิธีการ แน่นอนว่ามันจะเพิ่มขึ้น
พลังดวงดาวในอวกาศนั้นมาจากแสงของกลุ่มดาวหลายดวงที่ทอดยาวหลายปีแสง ถูกทำให้เจือจางนุ่มนวล ถูกแบ่งออกเป็นส่วนๆจนกว่าจะบริสุทธิ์ ไม่รุนแรงเท่ากับรังสีดั้งเดิมจากดาวคงที่เช่นดวงอาทิตย์
แสงจากดวงดาวยังสามารถบำรุงสิ่งมีชีวิตมากมาย เป็นแหล่งพลังงานสำหรับชีวิตทุกชนิด
เมื่อพลังงานจากดวงดาวเข้าสู่ร่างกายและไหลเวียนอย่างไม่หยุดยั้งในเส้นเลือดของสิ่งมีชีวิตจนไม่มีสิ่งเจือปน มันจะเปลี่ยนเป็นศักยภาพทางพันธุกรรมที่สามารถเก็บไว้ในร่างกายได้อย่างรวดเร็ว
เฟิงหลินปล่อยให้วิญญาณของเขาบินไปอย่างอิสระ ทำให้มันขยายตัวได้โดยไม่ถูกตรวจสอบ
จุดดาวเคราะห์สามดวงในแผนที่พันธุกรรมในร่างกายของเขาเริ่มสั่นไหว
ด้วยความมุ่งมั่น เฟิงหลินก็รู้ว่ามันเป็นยีนสามตัวที่ประกอบขึ้นเป็นยีนวิญญาณ
ความรู้สึกอิสระในจิตวิญญาณของเขาดูเหมือนชัดเจนมากว่า มันสามารถกระตุ้นยีนเหล่านี้ได้ ยีนที่ซ่อนอยู่นั้นดูดซับศักยภาพทางพันธุกรรมของเขาโดยสัญชาตญาณ และค่อยๆเริ่มตื่นขึ้น แต่ผลที่ได้นั้นแตกต่างกันไปสำหรับแต่ละอัย
ยีนวิญญาณที่อยู่ตรงกลางเพิ่มขึ้นช้าที่สุด เพิ่มขึ้นทีละ 1% หลังจากเวลาผ่านไปนาน กระบวนการปลุกก็ผ่านไปแค่5%
สำหรับยีนพลังจิตเพิ่มขึ้นครั้งละ 3% เพิ่มขึ้นถึง 15%แล้ว
และสุดท้ายสำหรับยีนจิตใจ นี่คือรากฐานและคุณลักษณะที่สำคัญที่สุดสำหรับยีนวิญญาณ อัตรามันเร็วที่สุดที่8% และในไม่ช้าก็มาถึง40%แล้ว
เฟิงหลินรู้สึกดีใจเมื่อเห็น การใช้ความพยายามในการบ่มเพาะในคืนเดียว แม้ว่ามันจะไม่น่าเป็นไปได้ที่ยีนทั้งสองจะตื่นขึ้นมา แต่อย่างน้อยก็มีความหวัง
เขาเพ่งสมาธิและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อดูดซับพลังงานจากดวงดาวเข้าสู่ร่างกายของเขาให้มากขึ้น และต้องการปลุกยีนจิตใจให้ตื่นขึ้นก่อนรุ่งสาง
สำหรับเฟิงหลินสิ่งที่ยากที่สุดคือการก้าวแรกที่จะปลุกยีนให้ตื่น
ขอแค่ยีนตื่นขึ้น เขาก็จะสามารถใช้แต้มพันธุกรรมเขาและเพิ่มพลังมันได้ทันที
ศักยภาพทางพันธุกรรมของเขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง + 8%, + 8%, + 8% .....
นอกจากนี้ แม้ว่าศักยภาพทางพันธุกรรมจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เขาก็ไม่ลืมความจริงที่ว่าการปลุกยีนใหม่เหล่านี้จะทำให้ศักยภาพทางพันธุกรรมของเขาลดลงเช่นกัน แต่ไม่ว่ายังไงศักยภาพทางพันธุกรรมของเขาก็ยังสูงถึง 528%
ในเวลาเดียวกัน ความคืบหน้าสำหรับการปลุกยีนจิตใจก็ค่อยๆเติมเต็ม และในที่สุดก็ถึง 100%
ความแข็งแกร่งของยีนจิตใจเปลี่ยนไปจาก 0 เป็น 1
=====
ยีน : ยีนจิตใจ
เกรด : ยีนพื้นฐานขั้นสูง
ความแข็งแกร่ง : 1
ความสามารถ: เพิ่มความแข็งแกร่งทางจิตเป็นสองเท่า ช่วยให้สะกดจิตคนอื่นได้
=====
เฟิงหลินก็รู้สึกแตกต่างทันที เขายืนขึ้น ดวงตาของเขาสงบลงมาก ดูเหมือนมีเกลียวคลื่นอยู่ข้างในที่สามารถฉุดกระชากวิญญาณของผู้อื่นเพียงแค่สบตาเขา
บรื้ออ ~
ความผันผวนที่ไม่มีรูปร่างแผ่ออกมาจากกลางคิ้วของเฟิงหลิน
พลังงานจิตของเขาที่พุ่งออกมาหลอมรวมเข้ากับโลก เขาสามารถสัมผัสทุกอย่างรอบข้างได้อย่างชัดเจน
ความรู้สึกแบบนี้ช่างลึกลับเกินกว่าวิสัยทัศน์ของมนุษย์
เนื่องจากในวิสัยทัศของมนุษย์เป็นแบบสามมิติ พวกเขาสามารถเห็นได้แค่สามมุมของวัตถุเท่านั้น
แต่พลังงานทางจิตนั้นไม่เหมือนกัน มันสามารถข้ามขีดจำกัดของการมองเห็น มันไร้รูปร่างคล้ายกับเมฆและหมอก ที่แทรกผ่านช่องว่างอย่างสมบูรณ์ สามารถสำรวจวัตถุจากทุกมุมและทิศทาง สามารถที่จะลงรายละเอียดในทุกๆ อย่าง คล้ายกับมุมมองของพระเจ้า
แต่ความรู้สึกนี้ไม่สามารถอยู่ได้นาน เพียงครู่เดียวเฟิงหลินก็รู้สึกเหนื่อยล้าและไม่มีแรงที่จะทำต่อ เขาหลับตาและดึงพลังงานจิตกลับเข้ามา
ท้ายที่สุดแล้วยีนจิตใจของเขามีเพียง 1 จุดเท่านั้น ความสามารถของมันมีขีดจำกัด เฟิงหลินเริ่มสร้างความแข็งแกร่งในทันที เมื่อความแข็งแกร่งของยีนจิตใจเพิ่มขึ้น พลังงานทางจิตของคนก็จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ มันเป็นประโยชน์อย่างมาก
ศักยภาพทางพันธุกรรมของเขาลดลงทันที 100%
กลุ่มดาวระเบิดเป็นพลังงานบริสุทธิ์ และเข้าสู่ยีนจิตใจ การรวมกันที่แข็งแกร่งจะเปลี่ยนจาก 1 เป็น 2 พลังชีวิตของเขาเติบโตขึ้นอีก0.8 เป็น 10.9
เฟิงหลินยังไม่หยุด เขายังคงเพิ่มจุดพันธุกรรมของเขาต่อไป
ตอนนี้เขามีศักยภาพทางพันธุกรรม 528% โดยรวมแล้วเขาสามารถเพิ่มแต้มรวมสามแต้มในยีนจิตใจ โดยยังมีสำรองไว้อีก 228%
เฟิงหลินยังคงเพิ่มแต้มต่อไป ยีนจิตใจกระพริบอย่างไม่หยุดหย่อน ความแข็งแกร่งของมันเพิ่มขึ้นเป็น 2 จุด แต่เขายังห่างไกลจากขีดจำกัดของยีนนี้
สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงลักษณะของยีนพื้นฐานขั้นสูง โดยปกติแล้วยีนขั้นต่ำสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้เพียงสองจุดเท่านั้นและผู้ที่สามารถเสริมความแข็งแกร่งได้ถึงสามจุดจะกลายเป็นอัจฉริยะ
ในทางทฤษฎีแล้วยีนจิตใจนั้นสามารถสร้างความแข็งแกร่งได้ถึง 6 จุด
เฟิงหลินไม่ลังเลและยังคงเพิ่มพลังอย่างต่อเนื่อง ทำให้ยีนจิตใจเพิ่มพลังชีวิตเขามากถึง4 สถานะพลังของเขาจึงกลายเป็น13.7
หลังจากกลายเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาว สถานะพลังจะขึ้นได้อย่างกว่าเดิม
เมื่อใครสักคนกลายเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาว เขาจะแตกต่างจากอดีตอย่างสิ้นเชิง
และนี่เป็นเพียงกระบวนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของยีนพื้นฐาน ถ้าเขาเพิ่มความแข็งแกร่งของยีนลิงหิน พลังชีวิตของเขาจะเพิ่มขึ้นแค่ไหนกัน
เฟิงหลินไม่เคยมีประสบการณ์ และไม่สามารถตัดสินได้อย่างถูกต้อง
ริมฝีปากเขาเหยียดยิ้ม ดูเหมือนว่าในอนาคต เขาต้องรีบปรับเพิ่มพลังชีวิตเขาแล้ว
เฟิงหลินส่งพลังจิตของเขาอีกครั้ง และเขาก็รู้สึกถึงบางสิ่งที่แตกต่างออกไปทันที
หลังจากที่ยีนจิตใจเพิ่มความแข็งแกร่งถึง4 การรับรู้ของเขาก็แตกต่างออกไป ครั้งแรกขอบเขตวิสัยทัศของเขาได้ขยายออกไป ก่อนหน้านี้เมื่อเขาส่งพลังงานจิตของเขาออกมามันจะครอบคลุมพื้นที่ประมาณ10เมตรรอบๆตัวเท่านั้น แต่ตอนนี้มันกลับสูงถึง 40 เมตร
ยิ่งไปกว่านั้นความแม่นยำยังเพิ่มขึ้นหลายเท่า แม้แต่บางอย่างที่มีขนาดเล็กเพียงหนึ่งเซนติเมตรก็ไม่สามารถหลบหนีจากการสังเกตของเขาได้
เทือกเขาขนาดมหึมา หิน และก้อนหิน ก้อนฝุ่นที่ปลิวไปตามลม อนุภาคทรายในอากาศ - ทุกสิ่งไม่สามารถหลบหนีจากการสังเกตเห็นของเขาได้
หากมีใครพูดถึงอดีตและวิสัยทัศน์ปกติของเขา ตอนนี้มันก็เหมือนกับการมีแว่นขยายและกล้องโทรทรรศน์จ่ออยู่ตรงตา เขาสามารถมองผ่านระยะทาง 1,000 ไมล์ และรายละเอียดปลีกย่อยของทุกสิ่ง
เฟิงหลินดื่มด่ำกับความรู้สึกในการใช้มุมมองของพระเจ้า แต่ในทันใดเขารู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างผิดปกติ ด้วยการสแกนพลังจิตของเขา เขาค้นพบว่าในระยะไกลมีจุดมืดบนภูเขาที่แสงดาวส่องไม่ถึง
บนหน้าผา เงาสีดำค่อยๆเคลื่อนเข้าหาคล้ายงู ไม่มีเสียงและไม่มีออร่าเปล่งประกาย มันแปลกประหลาดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้