GE369 จักรพรรดิแห่งเพลิง [ฟรี]
เผ่าพันธ์ุฟู่ลี่เป็นเลิศในด้านทำความเข้าใจกับสมบัติหรืออาวุธ แม้เป่ยเซี่ยวเหมินจะไม่กล่าวเตือน แต่หนิงฝานก็รู้ว่ากระบี่บินของท่านหยานไม่ธรรมดา
กระบี่บินของมันคืออาวุธระดับตัดวิญญาณขั้นสูงสุด มีการเสริมความสามารถเจ้าไปสองสิ่งคือ เคลื่อนที่พริบตา และฟาดฟันเงา
ท่านหยานไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญกระบี่ มันเป็นผู้เชี่ยวชาญเพลิง ดังนั้นกระบี่บินของมันจึงมีไว้เพื่อลอบจู่โจมเท่านั้น
หากเงาของผู้ใดถูกกระบี่บินกรีดเฉือน ร่างของคนผู้นั้นก็จะเกิดรอยแผล จึงเป็นที่มาของความสามารถในการสังหารเงาของมัน
เซี่ยวเหมินเป็นกังวล บนหน้าผากนางปรากฏดาราสีแดงฉานสองดวง มือน้อยๆชูสูง ปลายนิ้วปรากฏโลหิตหมุนวน นางเตรียมจะช่วยหนิงฝานทุกเมื่อ
แต่ก่อนที่กระบี่บินของท่านหยานจะสัมผัสร่าง กระบี่ดูราวกับปะทะเข้ากับบางสิ่งจนกระเด็น หนิงฝานขยับนิ้วเป็นท่าทาง ควบคุมกระบี่แยกสวรรค์ในร่างกระบี่บินเข้าปะทะ หลังจากบรรลุเจตจำนงค์กระบี่มา วิชากระบี่ของหนิงฝานทรงพลังขึ้นมาก กระทั่งกระบี่บินของท่านหยานไม่อาจเทียบเคียง
กระบี่บินของท่านหยานปรากฏรอยแตกร้าวขนาดใหญ่ มันไม่อาจต้านทานกระบี่แยกสวรรค์ได้
แสงดารารายล้อมกายหนิงฝาน ดวงตาที่เฉียบคมราวกับกระบี่ และลุ่มลึกราวกับสระน้ำที่ไร้ก้น จ้องมองท่านหยานอย่างเรียบเฉย
“กระบี่บินของท่านไม่เป็นผล… คราวนี้ข้าบ้าง!”
หนิงฝานมือเป็นท่าทาง แสงดาราก่อตัวเป็นกระบี่บินนับหมื่น พุ่งตรงเข้าหาท่านหยาน
แม้หนิงฝานจะไม่ค่อยได้ใช้วิชากระบี่บินนัก แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาใช้มันไม่ได้
ยิ่งได้ดูดซับปราณกระบี่จากกระบี่เซียนร่วงโรย ยิ่งทำให้อานุภาพของวิชากระบี่บินของเขาทรงพลังขึ้น
“เป็นเจตจำนงค์กระบี่ที่ทรงพลังมาก!”
สองผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงที่ซ่อนตัวอยู่อุทานด้วยความประหลาดใจ
เจตจำนงค์กระบี่ของหนิงฝานแฝงไปด้วยอำนาจแห่งกระบี่เซียน แม้สองผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงจะเฝ้าดูอยู่ห่างๆ แต่พวกมันยังสัมผัสได้ถึงความน่าสะพรึงกลัวอย่างชัดเจน
พวกมันรู้ว่าหนิงฝานทรงพลัง และคิดว่าเขาอาจเป็นคนของตระกูลซัวจริงๆ ทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงคอยคุ้มกัน
แต่วิหารพิรุณของพวกมันสืบเรื่องของตระกูลซัวอย่างใกล้ชิด และได้ข่าวว่าซัวหมิงไม่ใช่คนของตระกูลซัว
“เด็กนี่เป็นใครกันแน่...” พวกมันขบคิดและคาดเดาในตัวตนของหนิงฝาน
เจตจำนงค์กระบี่บินมุ่งตรงเข้าหาท่านหยาน ผู้เชี่ยวชาญที่เฝ้าชมเร่งถอยห่างด้วยความกลัว
ท่านหยานเองที่คิดว่าตนเองทรงพลังก็หวาดกลัว เพราะมันคือจุดศูนย์กลางของเป้าหมายกระบี่บินเหล่านั้น
แม้มันจะแข็งแกร่งพอที่จะสังหารผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลง แม้มันจะเคยใช้กระบี่บินสังหารผู้เชี่ยวชาญมามากมาย แต่ในหมู่ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณที่มันเคยพบ วิชากระบี่บินของหนิงฝานทรงพลังที่สุด และเหนือกว่าที่มันคิดเอาไว้มาก
“ข้าดูแคลนมันเกินไป...”
มันขมวดคิ้ว นำทรายสีแดงออกมาจากกระเป๋า และโปรยไปในอากาศ
ทรายเหล่านั้นปกคลุมทั่วท้องนภา เมื่อกระบี่บินนับหมื่นเข้าปะทะ กระบี่บินเหล่านั้นสลายไป เหลือแต่เพียงกระบี่แยกสวรรค์ที่สั่นเทาและยังไม่ถูกทำลาย
“กระบี่เทพโบราณ...” มันขมวดคิ้วแน่น ทรายแดงเมื่อครู่เพียงพอที่จะต้านทานกระบี่บินที่เกิดจากเจตจำนงค์กระบี่ของหนิงฝาน
กาประลองรอบแรก ทั้งคู่เสมอกัน หนิงฝานไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ท่านหยานสูญเสียกระบี่บิน
“นั่นมันทรายดาราโลหิต! สมบัติล้ำค่าของท่านหยานที่สร้างขึ้นจากโลหะดาราโบราณ มีความสามารถในการทำลายสมบัติและอาวุธ!”
“แต่กระบี่เล่มนั้นไม่ถูกทำลาย แสดงว่ากระบี่บินของซัวหมิงคืออาวุธเทพโบราณ! ข้าได้ยินข่าวลือว่าอาวุธเทพโบราณนั้นจะทรงพลังขึ้นตามผู้ใช้ และเป็นอาวุธที่ยากจะทำลาย… สมแล้วที่กระบี่บินนั่นคืออาวุธเทพโบราณ”
หนิงฝานได้ยินสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นพูดคุย ดูท่าทรายแดงของท่านหยานจะเป็นสมบัติชิ้นสำคัญของมัน มิน่ามันถึงได้ทรงพลังนัก
แต่ในเมื่อทรายแดงนั่นคือสมบัติ เช่นนั้นก็...
กระบี่แยกสวรรค์โคจรรอบตัวหนิงฝาน ในขณะเดียวกัน หนิงฝานนำแส้อัสนีโลหิตออกมาอีกชิ้น ก่อนจะเหวี่ยงแส้เฆี่ยนใส่ทรายเหล่านั้นอย่างรุนแรง
ท่านหยานมองหนิงฝานด้วยแววตาเย้ยหยัน แม้จะรู้ว่าทรายแดงของมันทรงพลัง แต่ยังกล้านำสมบัติออกมาจู่โจม แบบนี้เท่ากับนำสมบัติออกมาให้มันทำลาย
“แตกสลายไปซะ!” ท่านหยานใช้ดรรชนีสัมผัสที่หน้าผาก โคจรวิชาลับทำให้ทรายแดงทั้งหมดเข้าปกคลุมแส้อันสีของหนิงฝาน
เมื่อทรายแดงเข้าปกคลุมแส้ แส้อัสนีที่เฆี่ยนฟาดราวกับอัสนี กลับค่อยๆถูกลดทอนอานุภาพลง แต่สิ่งที่น่าแปลกที่ท่านหยานกลับไม่รู้สึกดีใจ
ทุกครั้งที่แส้เฆี่ยนฟาด มันรู้สึกราวกับดวงจิตของมันได้รับผลกระทบจากแส้ เมื่อแส้เฆี่ยนฟาดไปถึง 100 ครั้ง มันจึงกระอักโลหิต ร่างกายร่วงหล่นจากท้องนภาราวกับได้รับบาดเจ็บไม่น้อย
ทันทีที่ท่านหยานร่วงหล่นจากท้องนภา ทรายแดงเหล่านั้นเริ่มเสียการควบคุม สัมผัสที่สื่อถึงกันระหว่างพวกมันขาดหาย!
อาวุธที่สำคัญและผูกติดกับผู้เชี่ยวชาญนั้น เรียกอีกอย่าง ‘สมบัติแห่งชีวิต’ ซึ่งสมบัติชนิดนี้จะมีเพียงเจ้าของผู้เดียวเท่านั้นที่ใช้ได้
หนิงฝานใช้ดรรชนีเมฆาม่วงล้างพันธะสัญญาระหว่างทรายแดงและดวงจิตของท่านหยาน จึงทำให้พันธะสัญญาระหว่างพวกมันสิ้นสุดลง
การถูกล้างพันธะที่ผูกติดกับดวงจิตนั้น ทำให้ผู้ที่เป็นนายได้รับบาดเจ็บร้ายแรง มันพยายามทรงตัว ทรุดเข่ากลางนภา แววตาจับจ้องหนิงฝานด้วยความโกรธแค้น
“วิชาอัสนีสังหารเทพ! เจ้าเป็นคนของตระกูลซัว เป็นเหมือนผู้สืบทอดแห่งกษัตริย์อัสนี เหตุใดเจ้าถึงชิงสมบัติแห่งชีวิตของข้า!”
มันโกรธแค้นหนิงฝานอย่างที่สุด วิธีช่วงชิงสมบัติโดยการจู่โจมไปยังดวงจิตโดยตรงเป็นวิชาที่หาได้ยากมาก และผู้ที่ทำได้ส่วนใหญ่จะเป็นคนของตระกูลซัว
แต่โดยทั่วไปแล้ว อัสนีที่ตระกูลซัวครอบครองคืออัสนีที่เกิดจากวิชา แม้จะทรงพลังแต่ก็แตกต่างจากอัสนีโลหิตที่เป็นเหมือนอัสนีทัณฑ์สวรรค์ของหนิงฝานอย่างชัดเจน
ตามประวัติศาสตร์ของตระกูลซัว ผู้ที่ครอบครองอัสนีโลหิตมีเพียงผู้เดียว คือกษัตริย์อัสนีปู้ซัว
มีข่าวลือว่าซัวหมิงเป็นคนของตรงกูลซัว แต่ตระกูลซัวเองก็เคยออกมาปฏิเสธแล้วว่าซัวหมิงไม่ใช่คนในตระกูลของมัน
ทั้งหมดนั่นทำให้ท่านหยานเชื่อมาตลอดว่าซัวหมิงไม่ใช่คนของตระกูลซัว แต่เหตุใดซัวหมิงผู้นี้ถึงใช้อัสนีโลหิตของปู้ซัวได้? ช่างเป็นเรื่องที่น่าแปลกอย่างสุดกู่
ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงทั้งสองที่ซ่อนตัวก็คิดแบบเดียวกัน
แม้ตระกูลซัวจะปฏิเสธอย่างหนักแน่น แต่หลักฐานที่เห็นก็แสดงให้เห็นว่าหนิงฝานต้องเกี่ยวพันกับตระกูลซัวอย่างแน่นอน
ยิ่งขบคิด สิ่งเดียวที่เป็นไปได้คือ ซัวหมิงคือผู้เยาว์ที่สำคัญกับตระกูลซัวมาก จนตระกูลซัวต้อปกปิดสถานะ เพราะไม่อยากให้วิหารพิรุณทราบถึงตัวตนของซัวหมิง
ยิ่งขบคิดพวกมันยิ่งมั่นใจ เรื่องที่หนิงฝานมีผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงคุ้มกัน สมควรเป็นผู้อาวุโสของตระกูลซัว
“ฮึ่ม! ตระกูลซัวทำข้อตกลงว่าจะไม่ให้ผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลงขึ้นไป ออกมายังทะเลส่วนนอก แต่นี่พวกมันกล้าขัดข้อตกลง ข้าต้องเร่งแจ้งให้องค์กษัตริย์รู้” สองผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง แต่น่าเสียดายที่พวกมันคิดเองเออเองทั้งหมด!
“ข้าต้องเร่งตรวจสอบเรื่องนี้ว่าผู้อาวุโสคนไหนกันแน่ที่คุ้มครองซัวหมิงอยู่!”
หนิงฝานไม่รู้ว่าพวกมันกำลังคิดอะไร และเขาก็ไม่ได้สนใจ เพราะเมื่อเห็นท่านหยานบาดเจ็บ หนิงฝานเร่งเก็บทรายแดง ปีกฟู่ลี่ปรากฏที่แผ่นหลัง พัดกระพือส่งร่างของตนเข้าหาท่านหยาน
“เร็วมาก! แบบนี่แย่แน่ หยุนหยาน ระวังข้างหลังเจ้า!” สีหน้าสองผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง พวกมันพุ่งทะยานตรงเข้าหาท่านหยานด้วยความเร็วสูงสุด
ปีกฟู่ลี่ของหนิงฝานรวดเร็วจนท่านหยานไม่อาจตอบสนองได้ทัน ทั้งความเร็วยังไม่ต่างจากผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงมากนัก จึงมีเพียงสองผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงเท่านั้นที่เห็นการเคลื่อนไหวของหนิงฝาน
ผมบนศีรษะลุกชูชัน ความรู้สึกราวกับอัสนีแผ่ลามไปตามกระดูกสันหลัง พร้อมกับเสียงตะโกนของผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง ท่านหยานเร่งหันกลับไปด้านหลัง แผ่สัมผัสเทพไปรอบทิศ สร้างทะเลเพลิงที่ร้อนแรงปกคลุมทั่วผืนนภา
ในทะเลเพลิง ผู้เยาว์อาภรณ์ขาวปรากฏตัวเป็นระยะ แต่ยังไม่เริ่มจู่โจมท่านหยาน เพียงดูดซับทะเลเพลิงของมันเท่านั้น!
สัมผัสเพลิง! สัมผัสเทพที่แปรเปลี่ยนเป็นเพลิงได้!
หนิงฝานดูดซับปราณกระบี่และฝึกฝนจนให้กำเนิดสัมผัสกระบี่ ส่วนท่านหยานฝึกฝนเพลิงกระทั่งสร้างสัมผัสเพลิงได้!
ด้วยสัมผัสเทพในระดับกึ่งไร้ดัดแปลงของหนิงฝาน หากเขาใช้สัมผัสกระบี่จู่โจม แม้ศัตรูเป็นผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลงย่อมบาดเจ็บหนัก
แต่ท่านหยานมีสัมผัสเพลิงที่ทรงพลังยิ่งกว่า อย่างน้อย มันก็แข็งแกร่งแทบจะทัดเทียมตงสู่!
แต่การที่มันกระตุ้นสัมผัสเพลิง สร้างทะเลเพลิงที่รุนแรง อาการบาดเจ็บที่รุนแรงของมันยิ่งทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
“สัมผัสเพลิงผลาญสวรรค์! วิชาที่สร้างชื่อให้กับท่านหยาน… วิชาที่เผาได้แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลง!”
“ได้ข่าวท่านหมิงเองก็มีสัมผัสกระบี่ แต่บางทีสัมผัสกระบี่ของท่านหมิงอาจไม่ทรงพลังเท่าสัมผัสเพลิง เพราะหากผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณเข้าไปในทะเลเพลิงนั่น จะถูกเผาให้กลายเป็นเถ้าถ่านในชั่วพริบตา!”
เซี่ยวเหมินเป็นกังวล หากต่อสู้ทั่วไปนางไม่เป็นกังวล แต่เมื่ออีกฝ่ายใช้สัมผัสเพลิง นางเป็นกังวลขึ้นมาทันที!
วิชาที่สังหารหมู่ได้เช่นนี้ในหมู่ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ มีท่านหยานเพียงคนเดียวเท่านั้น
“บัดซบ! ข้าช่วยอะไรเขาไม่ได้ เจ้าอย่าตายนะ!” เซี่ยวเหมินเป็นห่วงหนิงฝานมาก แม้นางจะเห็นว่าหนิงฝานกำลังดูดเพลิง แต่นางก็อดเป็นกังวลไม่ได้
ความรู้สึกหวาดกลัวและเป็นกังวลเช่นนี้ นางไม่ชอบ นางจึงตัดสินใจพุ่งทะยานเข้าสู่ทะเลเพลิงเพื่อจะนำหนิงฝานออกมา
*ตูม!*
แต่ก่อนที่นางจะเข้าสู่ทะเลเพลิง นางกลับชงักฝีเท้า ดวงตาเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง
เปลวเพลิงที่ปกคลุมผืนนภานับหมื่นลี้ กลับแหวกออกเป็นสองฝั่ง
หนิงฝานในอาภรณ์ขาว ปีกฟู่ลี่สีม่วงดำ ทะยานแหวกทะเลเพลิงโดยที่เพลิงเหล่านั้นไม่กล้าเข้าใกล้ราวกับพวกมันหวาดกลัว
“เป็นไปไม่ได้!”
ท่านหยานตกตะลึง มันไม่อยากเชื่อสายตาว่าสัมผัสเพลิงที่ใช้ออกเต็มกำลังของมัน จะไม่สามารถสร้างความเสียหายให้หนิงฝานได้แม้แต่น้อย
หนิงฝานหยุดยืนกลางทะเลเพลิง จ้องมองอีกฝ่ายด้วยแววตาเรียบเฉย แต่กลับให้ความรู้สึกถึงอันตรายร้ายแรง จนเพลิงระดับ 4 นับร้อยชนิด และเพลิงระดับ 5 อย่างเพลิงปีศาจอีก 3 ชนิดสั่นสะท้าน
มันรู้สึกราวกับหนิงฝานคือจักรพรรดิแห่งเพลิง ผู้ที่เพลิงชนิดใดก็ไม่อาจทำอันตรายได้
“วิชารวมเพลิง!”
หนิงฝานยื่นมือไปเบื้องหน้า กำมือ ก่อนปรากฏภาพหยินหยางขนาดเล็ก หมุนวนดูดกลืนเอาทะเลเพลิงเข้ามา
เพียงชั่วพริบตาที่วังวนปรากฏ เปลวเพลิงที่รุนแรงถูกดูดกลืนทั้งหมดในชั่วพริบตา
ไม่มีผู้ใดรู้ว่าเพลิงที่รุนแรงของท่านหยาน เป็นแหล่งพลังงานหล่อเลี้ยงจารึกตะวันจันทราชั้นดี
บรรยากาศรอบข้างเงียบสงัด ทุกคนตกตะลึงกับฉากเบื้องหน้า
สองผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงทั้งสองก็ตกตะลึงเช่นกัน ราวกับพวกมันเพิ่งเคยเจอเหตุการณ์ที่น่าตื่นตะลึงเช่นนี้
พวกมันรู้ว่าทะเลเพลิงของท่านหยานทรงพลัง แม้เป็นพวกมันก็ใช่ว่าจะรับมือทะเลเพลิงเหล่านั้นได้ง่ายๆ
แต่ยามนี้ทะเพลิงเหล่านั้นกลับถูกดูดกลืนไปทั้งหมด วิชาสัมผัสเทพที่หนิงฝานใช้ แม้จะดูธรรมดาแต่กลับไม่อาจต้านทาน
ไม่… จะอธิบายเช่นนั้นอาจไม่ถูกนัก หากจะกล่าว การดูดกลืนเพลิงของหนิงฝานราวกับการดูดซับพลังจากการขัดเกลาผสาน!
เพราะการช่วงชิงพลังจากการขัดเกลาผสานนั้น เป็นสิ่งที่ผู้ถูกดูดซับไม่อาจขัดขืน!
เมื่อคิดได้เช่นนั้น สองผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงกลับชงักฝีเท้า แววตาดูมีความสุขราวกับนึกบางอย่างออก
“ซัวหมิงมีวิธีสยบเพลิงที่น่าเกรงขาม!”
“หากจะช่วงชิง ‘สิ่งนั้น’ ทั่วทั้งวิหารพิรุณคงมีแค่ผู้เดียวที่ทำได้!”
สองผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงหันมองหน้ากันราวกับเข้าใจกับสิ่งที่อีกฝ่ายคิด
สิ่งนั้นที่พวกมันทั้งสองกล่าวถึง ตั้งอยู่สักแห่งในทะเลเพลิง และทะเลเพลิงนั้นแม้เป็นผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกยังไม่อาจเข้าไปได้
เพื่อที่จะช่วงชิงสิ่งนั้นมาไว้ในครอบครอง วิหารพิรุณถึงยอมทุ่มทรัพยากรจำนวนมหาศาลเพื่อทำให้ท่านหานแข็งแกร่งขึ้น ทั้งยังสั่งให้ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง 2 คนคอยคุ้มกันมัน
เพียงแต่… หากจะหวังพึ่งท่านหยานช่วงชิงสิ่งนั้น อย่างน้อยมันต้องบรรลุขอบเขตไร้แบ่งแยก แต่ไม่รู้ว่าอีกพันปี หรือหมื่นปีข้างหน้า มันจะบรรลุขอบเขตไร้แบ่งแยกสำเร็จหรือไม่
“หากซัวหมิงยอมช่วยวิหารพิรุณ การประลองครั้งนี้ก็ไม่จำเป็นแล้ว!”
“จะให้หยุนหยานล่วงเกินซัวหมิงอีกไม่ได้ เพราะหากมันยังล่วงเกิน การจะขอให้ซัวหมิงมาช่วยคงจะกลายเป็นเรื่องยาก”
พวกมันตัดสินใจจะเข้าห้ามการประลอง ยามนี้ไม่มีผู้ใดรู้ว่าสองผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงเบี่ยงเบนความคิดไปเข้าข้างหนิงฝานแล้ว
หนิงฝานถอนวังวน เลียปากราวกับพึงพอใจ ปราณเพลิงบริสุทธิ์ที่ได้มา อย่างน้อยก็เติมพลังให้กับจารึกตะวันจันทราได้ 1 ใน 100 ส่วน
ไม่ถูกท่านหยานสังหาร ทำลายพันธะช่วงชิงสมบัติ ดูดกลืนทะเลเพลิงที่ทรงพลัง… ทั้งหมดนี้ทำให้ท่านหยานบาดเจ็บสาหัส!
หากเป็นทั่วไป หนิงฝานจะไม่ปราณีศัตรู แต่ยามนี้อยู่ต่อหน้าผู้คนนับหมื่น ทั้งยังอยู่ต่อนหน้าสองผู้เชี่ยวไร้ดัดแปลงของวิหารพิรุณ เขาจึงไม่อยากสร้างปัญหา
แต่หากอยากจะสังหารอีกฝ่ายจริง เขาก็จะลอบจู่โจมโดยไม่มีผู้ใดเห็นและรู้ตัว
“ส่งเพลิงปีศาจทั้ง 3 ชนิดมาซะ” หนิงฝานกล่าวอย่างเย็นชาและเด็ดขาด
“ไม่มีทาง! เลิกคิดไปได้เลย ฮ่าฮ่า! เจ้าเอาชนะศักดิ์ฐานะของข้าไม่ได้!”
ยามนี้มันปรารถนาจะสังหารหนิงฝานให้ได้ มันอยากตัดไฟตั้งแต่ต้นลม หนิงฝานเปรียบเหมือนจักรพรรดิเพลิงที่เพลิงของมันไม่อาจทำอันตรายได้ หากปล่อยไว้ ในอนาคตจะกลายเป็นปัญหาร้ายแรง
หนิงฝานในยามนี้เป็นภัยต่อศักดิ์ฐานะของมัน หากมีหนิงฝาน วิหารพิรุณก็ไม่ต้องการมันอีก หากเป็นเช่นนั้น มันจะสูญเสียทุกสิ่งไป
“วิชาเพลิงไร้ลักษณ์… ฝ่ามือเพลิงไร้ลักษณ์!”
ดวงตาท่านหยานแดงฉาน มันปรารถนาให้ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงทั้งสองช่วยมันสังหารหนิงฝาน!...