Chapter 125 – Kariharan Frostplains (4) [24-02-2020]
Chapter 125 – Kariharan Frostplains (4)
”
"โซ่สายฟ้า"
ซาดาเมียร์ได้ยิงศรสายฟ้าออกไป
"แกว๊ก"
ราร์ก็ได้พุ่งลงมาทับพวกทหารบนพื้นจากท้องฟ้า ซังจินก็ยังคงแกว่งดาบเข้าใส่ศัตรูอย่างไม่หยุดหย่อน
ทหารสามหรือสี่คนที่ดวงตาได้เปลื่ยนเป็นสีฟ้าได้พุ่งเข้ามาโจมตีซังจินพร้อมๆกัน แต่ว่าก็ไม่มีแม้แต่ตัวเดียวที่สัมผัสเสื้อของซังจินได้
ผู้บัญชาการชุดแดงกำลังมองมาด้วยตนเองและเข้ามาหาเขาเพื่อที่จะแสดงฝีมือด้านดาบ แต่ว่าถึงแม้เช่นนั้นเขาก็ไม่สามารถจะทำให้ซังจินต้องทำอะไรมากมายนัก
"เคร๊ง เคร๊ง เคร๊ง"
ในการปะทะเพียงแค่สามครั้ง เขาก็ได้ทำดาบหลุดไป
"ฉึก"
และครั้งต่อมามันก็ได้เจาะผ่านหัวใจของเขา
"ปุ้ง"
เมื่อเขาได้ล้มลงไปทั้งยืน ทหารที่ยังเหลืออยู่ก็ได้หายไปทันที เมื่อการต่อสู้ได้จบลง ซาดาเมียร์ก็พูดออกมา
"มันแปลกมาก บอสลับมันอ่อนแอมาก..."
ซังจินได้ขุัดเขาเอาไว้
"มันยังไม่จบ"
"ท่านหมายถึงอะไร?"
ซังจินได้เคาะไปที่ลูกบาศก์
"เจ้านี่มันยังเงียบอยู่"
"ห๊ะ?"
ไม่นานหลังจากที่ซังจินอธิบายจบ ผู้บัญชาสการที่ถูกแทงหัวใจในก่อนหน้านี้ก็ได้ลุกกลับขึ้นมายืนทั้งทียังมีเลือดไหล
"ไม่ใช่แบบนี้...ข้าจะต้องไม่ตายแบบนี้ได้...จนกว่าที่จะทำตามคำสั่งของราชา....รวบรวมคนมา พวกเราไม่สามารถพักได้"
ด้วยคำพูดนี้ หนึ่งในทหารที่ตายไปแล้วที่ด้านหลังของเขาก็ได้ลอยขึ้นมาและติดไปที่หลังของเขาราวกับโดนดูดด้วยแม่เหล็ก
ไม่นานทีละคนจนไปถึงคนที่ยี่สิบกว่าๆ พวกเขาได้มารวมเข้าด้วยกันจนเป็นก้อนเดียวและกลายไปเป็นมอนสเตอร์ชนิดหนึ่ง มันมีแขนและขามากกว่าสิบข้าง มอนสเตอร์ตัวนี้มันได้ถูกปกคลุมไปด้วยดาบ โล่ เกราะ และหมวก มันปรากฏออกมาเป็นลักษณะที่แปลกประหลาดพิสดาร
"เอ๊ะ..."
ซาดาเมียร์ได้มองไปที่มอนสเตอร์นี้ด้วยปากที่เปิดกว้าง ซังจินก็ได้พูดกับมูนสเปค
"มูนสเปค"
'ค่ะ?'
"ไปกันเถอะ"
'ค่ะนายท่าน'
ซังจินได้เก็บมูนสเปคลงไปในฝักในขณะวิ่งเข้าไปหามอนสเตอร์ตนนั้น เมื่อเข้าได้เข้าใกล้กับมันแขนนับสิบของมันก็ได้เหวี่ยวแขนและอาวุธมากมายไปยังซังจินอย่างยุ่งเหยิง
มันเป็นงานที่ยากแม้แต่กับซังจินที่จะหลบมันทั้งหมด เขาได้ระษาระยะห่างจากมันเอาไว้ในขณะที่ดึงมูนสเปคออกมาและตะโกน
"เสียงคร่ำครวญของคนตาย"
"กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด"
เสียงกรีดร้องมันได้ดังก้องไปทั่วพื้นที่ อัศวินที่ได้ถูกรวมด้วยกันไม่ได้ตอบสนองด้วยความกลัว แต่ว่าตัวที่อยู่ใกล้กับซังจินได้ทิ้งอาวุธลงไป
ที่ส่วนบนของมันนั้นไม่ได้รับความหวาดกลัวและต่อสู้กับซังจิน แต่ว่ามูนสเปคก็ได้ร้องออกมาอีก
มูนสเปคที่ได้อัพเกรดมามันมีผลที่มากยิ่งขึ้นดังนั้นส่วนบนมันก็เริ่มได้รับผลและถอยกลับไป ในระหว่างช่วงเวลานี้
"นี่มันไม่ได้การแล้ว กำแพงโล่"
เสียงของผูบัญชาการได้ดังออกมาจากมวลเนื้อและโล่ของมอนสเตอร์หลายๆอันก็ได้โผล่ออกมาและหมวกบางอันก็ได้ถูกนำไปป้องกันด้วยเช่นกัน
ในตอนนี้มันจะไม่มีประโยขน์อะไรที่จะโจมตีเข้าไป ซังจินได้ไปหาที่ซาดาเมียร์ที่ยืนอยู่ด้านหลัง
"โซ่สายฟ้า"
ศรสายฟ้าได้พุ่งเข้ามาและชนแผ่กระจายไปที่พื้นผิวของโล่
"ก๊าาาา"
ส่วนที่ได้ถูกสายฟ้าได้ร้องออกมาอย่างเจ็บปวดและหลุดจากการป้องกันชั่วครู่ ซังจินจึงได้โจมตีไม่ในทีๆไม่ได้ผลกระทบกับสิ่งดังกล่าว
"เบสโกโร่ คลั่ง"
'โอเค'
ซังจินได้ปัดโล่ออกไปและใช้ทักษะคลั่งของเบสโกโร่ จากนั้นเขาก็เริ่มตัดชิ้นส่วนอื่นของร่างกายออก แถมยังรวมไปถึงอัศวินยี่สิบกว่าคน พวกนั้นได้ต่อสูงกลับมาและหลบดาบของซังจิน
"เคร๊ง เคร๊ง วูบบบ"
มันเป็นการโจมตีแบบสุ่มที่เกือบจะโดนซังจินในบางครั้งแต่ว่าผลในตอนท้ายมันก็ชัดเจน ซังจินสามารถจะต่อสู้กับศัตรูพวกนี้ได้โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องได้รับรอบขีดข่วน
"เวรเอ้ย แสดงกระดูกสันหลังออกมา อัศวินแห่งสิงโตสีชาด"
"อว๊ากกกก"
พวกศัตรูได้เนิ่มกรีดร้องออกมา ซังจินรู้สึกได้ว่าวิสัยทัศน์ของเขาผิดแปลกไปชั่วขณะ แต่ว่า
[จิตแกร่งได้ใช้งาน]
ฉายาที่เขาได้ลืมไปแล้วได้ถูกใช้งานออกมา ซังจินยังคงจำการต่อสู้ที่เขาเคยทำในอดีตได้ สิ่งเหล่านี้มันจะทำตามคำสั่งของผู้บัญชาการและเปลื่ยนแผนไปตามแต่สถานการณ์ จากการป้องกันไปจนถึงการโจมตี
มันแม้กระทั่งตะโกนพร้อมๆกันเพื่อให้เกิดเวทมนตร์ที่สร้างสถานะผิดปกติ แบบเดียวกับพวกฮาปี้ในอดีต
'ฉันเกลียดสิ่งที่น่ารำคาญนี้'
ซังจินได้โยนหนังสือออกมาจากเสื้อกั๊ก ครู่หนึ่งแว่นของกอเมทก็ได้อ่านมันออกมาดังๆ
"แจ้งให้ฉันทราบเมื่อศัตรูเข้ามาในระยะสิบเก้านี้ นายทหารก็ได้ตอบกลับมาเมื่อพวกเขามาได้สิบเก้า เขาก็ได้สั่งอีกครั้งว่าให้รายงานอีกครั้งเมื่อพวกเขาเข้ามาในระยะห้าเก้า นายท่านคนนั้นด้ตะโกนออกมาด้วยความเกรงกลัวเมื่อศัตรูเข้า เขาได้หยิบอาวุธขึ้นมาในขณะลุกขึ้นและคำราม"
[การสถิตของเตียนอุยเอ้อไหลได้ถูกใช้งาน]
[ทักษะติดตัว - เพิ่มพลังโจมตี(IV) ความว่องไว(II) ใช้แล้ว]
ซังจินได้คิดขึ้นกับตัวเอง
'นักรบ....มันมีบางอย่างที่ฉันต้องการจะทดสอบว่ามันเป็นยุทธวิธี...'
ซังจินได้ยืนความแข็งแกร่งจากพงศาวดารสามก๊กเพื่อที่จะล้มมนุษย์ประหลาดคนนี้
"มันไม่ดีแล้ว กำแพงโล่"
มอนสเตอร์มันได้ทำท่าที่จะป้องกันอีกครั้ง ซังจินได้คิดตริตรองว่าควรจะทำเช่นไรดี
'ฉันจะไปเข้าใกล้มันได้ยังไง?'
ปกติแล้วการโจมมันจะต้องโจมตีด้วยการที่มันสลับท่าจากโจมตีเป็นป้องกันและสวนกลับไปด้วยการโจมตีที่ร้ายแรงในตอนนั้นที่มันสลับท่าทางโดนการยิงเวทย์เข้าไป
แต่ว่าซังจินต้องการที่จะสู้ซึ่งๆหน้ากับมัน เขายังมีบัพนักรบจากพงศาวดารสามก๊กอยู่และสถานะคลั่ง การสู้ซึ่งๆหน้านั้นคือตัวเลือกของเขา
ดังนั้นซังจินจึงเดินเข้าไปหาภูเขาโล่และใช้บลัดเวเจน
''ชี่"
เขาได้ตัดชิ้นส่วนของโล่ออกจากกัน หอกและดาบนับสิบได้พุ่งเข้ามาทางซังจินในช่องว่างระหว่างนั้น นักรบส่วนใหญ่จะมีการโจมตีอย่างสายฟ้าและเพื่้อสวนกลับ แต่ว่ามันก็ไม่ใช่แผนของซังจินที่จะใช้สำหรับสถานะปัจจุบันของเขา
'ช่าย มันเป็นการแสดงออกที่น่ารัก'
ซังจินได้เยาะเย้ยในใจในขณะใช้ดาบคู่ตัดอาวุธทั้งหมดที่เข้ามาหาเขา มันเป็นการปะทะกันของโลหะ แต่ว่าดาบของซังจินก็ไม่ได้เสียหายอะไรเลย
'ขอบคุณมากคาร์กอต'
ซังจินได้คิดในขณะที่วิ่งไปซุ่มโตมตี ซังจินได้เริ่มกลายไปเป็นสัตว์ โดนการที่ใช้พลังของเดี่ยนเว่ย
ผู้บัญชาการได้ตื่นตระหนกและตัดโกนออกมา
"ถอย ป้องกัน สวนกลับ"
แต่ว่ามันก็มีแค่นี้น หลังจากที่ร่างกายส่วนหนึ่งถูกตัดไปผู้บัญชาการก็ได้ถูกตัดหัวออก และแม้ว่าร้านจะดีกลับถูกลอยแพ
"ไม่ คำสั่งของราชา..."
เขาได้พูดออกมาบรรทัดนึงก่อนที่จะตาย
[บอสลับผู้บัญชาการราฮาแห่งอัศวินสีชาดและคณะอัศวินได้ถูกกำจัดแล้ว]
ซังจินได้สูดหายใจ้เข้าลึกๆ มันมีซากศพอยู่มากมายอยู่ด้านหลังของเขา ตายด้วยความเย็น อ่อนแอ และตายด้วยดาบ พวกนั้นได้มารวมกันเป็นสิ่งเดียวที่น่าหวาดกลัว รังกียจและได้แยกออกจากกันอีกครั้ง พวกเขาทั้งหมดได้พบกับชะตากรรมที่น่ากลัว
แต่โชคร้ายที่ว่าสำหรับพวกเขา ซังจินไม่ได้มีเวลาที่จะใส่ใจกับความตายของพวกเขา ซังจินได้ทิ้งพวกนี้ไว้ด้านหลังในขณะที่กลับไปเปิดใช้งานหินแสวงหาฆาตกร
[การย้ายมิติได้ทำการร้องขอแล้ว]
[ก่อนจะมีการย้ายมิติตจะต้องมีการแจกร่างวัลเกิดขึ้นก่อน]
[เริ่มแจกรางวัล]
[มอนสเตอร์ที่กำจัด เยติ 4 เสือเขี้ยวดาบ 6 โทรลน้ำแข็ง 20 รวมทั้งหมดเป็น 11000 คะแนน
[บอสที่กำจัดแม่มดโอเลีย 1400 คะแนน....]
จำนวนแต้่มที่เขาได้รับมาในตอนนี้มี 12232 คะแนน และเหรียญกำที่ได้รับก็คือ 13455 ซังจินได้คิดคำนวนอยู่ครู่หนึ่ง
'ครั้งล่าสุด...'
ยกเว้นในรอบสิบคน รางวัลการจู่โจมแบบ 5 คนของซังจินก็ได้เพิ่มขึ้นไปมากกว่าแต่ละรอบ
[และสำหรับตอนนี้จะทำการแจกไอเทม]
[แอสแทรนท์ - ธนูน้ำแข็ง]
[ทรอกค์ - ถุงมือนำแข็ง]
[หินเอนชานตร์ 2 ก้อน]
ไอเทมสองชิ้นและหินตีบวกสองก้อนได้ตกลงมาที่ซังจิน ชิ้นหนึ่งเป็นธนูที่ทำมาจากน้ำแข็ง และอีกอันเป็นถุงมือสีขาว ซังจินยังไม่มีเวลาที่จะตรวจสอบไอเทมทั้งสองอย่างนี้ แต่ว่าธนูมันก็น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถจะใช้มันได้
'...นำมันไปจบที่ตลาดประมูล'
[ขอแสดงความยินดีด้วยคุณได้รับไอเทมระดับตำนาน แอสแทรนท์ - ธนูน้ำแข็ง]
[ขอแสดงความยินดีด้วยคุณได้รับไอเทมระดับตำนาน ทรอกค์ - ถุงมือน้ำแข็ง]
โชคดีที่ว่ามันเป็นไอเทมระดับตำนานดังนั้นมันจะต้องมีราคาที่สูงขึ้น
'ไอเทมระดับตำนานแทบจะไม่เคยไปมีในคลาดประมูล....ฉันควรจะขายมันไปไหม? อืมมม...ในตอนนี้ฉันควรจะคิดเกี่ยวกับมัน....หรือว่ามันจะดีกว่าถ้ามอบมันให้กับเซริน เธอใช้ธนูแบบไหน?'
ในขณะที่ซังจินกำลังคิดอยู่ลูกบาศก์ของซังจินก็ได้มอบฉายาให้แก่เขาในรอบนี้
[หัวใจน้ำแข็ง - ดูไอเทมของนักล่าคนอื่นๆและสเตตัสได้ตามต้องการ มีให้เลือกสองอย่างในขณะที่สวมใส่และหนึ่งอย่างในขณะที่ไม่สวมใส่]
เขาได้รับฉายาที่น่าสนใจมาในรอบนี้
มันจะเป็นประโยชน์ในการต่อสู้กับนักล่าคนอื่นๆ หากนักล่าคนใดได้รู้ถึงทักษะและสเตตัสของผู้อื่นเขาก็จะสามารถวางแผนการต่อสู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แน่นอนว่ามันมีความหมายน้อยกับซังจิน แม้ว่าจะมีฆาตกรมาลุมเขาสามหรือสี่คนมันก็จะไม่มีใครในกลุ่มนี้มาคุมคามเขาได้อย่างจริงจัง และถ้ามีมากกว่า 3 หรือ 4 คนมันก็จะทำให้เขาไม่สามารถจะตรวจสอบได้ครบทุกคนเช่นกัน
'เอาหละ...ถ้าเป็นกรณีนี้...ฉันแน่ใจว่าจะต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ประโยชน์ของมัน ในมิติถัดไป...ฉันควรจะลองใช้มันดูดีไหม?'
และจากนั้นเขาก็ตระหนักได้
'หืมม...ฉายานี่มันจะเป็นฉายาที่ดีถ้าหากฆาตกรใช้...ถ้า...ฆาตกรได้ใช้งานสิ่งนี้...'
****
ที่ด้านบนของพระราชวังน้ำแข็ง มันมีดาวหกแฉกส่องประกายอยู่ด้านบน หัวใขน้ำแข็งอิลลิชได้ไต่ขึ้นไปเอที่จะเอาดาวหกแฉกมา
เขาได้จับไปที่ดาวหกแฉกก่อนมราจะปีนลงมา
[ขอแสดงความยินดีด้วยคุณได้รับชิ้นส่วนลับหัวใจของฤดูหนาว]
แต่แล้วจากนั้นดาวอีกดวงหนึ่งก็ได้ปรากฏขึ้นที่ด้านบนของปลายยอด
"หืมมม?"
นักล่าทั้งหลายคนแปลกใจ แต่ว่าอิลลิชก็ได้อธิบายออกมาให้กับพวกเขา
"นายรู้ไหม? ชิ้นส่วนลับมันได้ถูกออกแบบมาสำหรับทุกคนให้เอาไปได้หนึ่งอัน ไปซะแล้วเอามันมา"
"โอ้..."
ด้วยคำพูดนี้นักล่าแต่ละคนได้ผลัดกันไปเอาอย่างรวดเร็ว ฟรานซ์ก็ได้ชอบอิลลิชมากขึ้น เขามีทั้งความเป็นผู้นำ ความแข็งแกร่ง และความรู้
อิลลิชได้ยกดาวขึ้นเหนือหัวและพูดออกมา
"หืมมม...นี่คือ...วัตถุ ฉันจะต้องนำมันไปหาช่างตีเหล็ก"
เขาได้วางมันลงไปในลูกบาศก์ ฟรานซ์ได้ทำตามเขาและตรวจสอบดาวก่อนที่จะวางมันลงไปในลูกบาศก์เช่นเดียวกัน สิ่งถัดไปที่จะต้องทำก็คือการค้นหาบอสลับ อิลลิชได้ถามกับฟรานซ์
"เฮ้ ตานายแล้ว บอสลับมันอยู่ที่ไหนหรอ?"
ฟรานซ์ได้มองไปรอบๆ พายุหิมะได้หยุดลงแล้ว และพื้นดินรอบๆมันก็เหมาะสมที่จะเป็นขุดชมวิวมาก แน่นอนว่าจะสวยขึ้นไปอีกเมื่อปราศจาคความมืด
"หืมมม...ที่ด้านหลังของพระราชวัง...มันควรจะมีคนถูกแช่แข็งอยู่ที่นั่น มันยากที่จะมองเห็นเนื่องจากความมืด..."
"อา ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก"
อิลลิชได้ผลักไปที่หมวกของเขาลงและพูดออกมา
"ตาทิพย์"
ทันใดนั้นดวงตาขนาดใหญ่ก็ได้โผล่ออกมาจากหมวกและเริ่มมองไปรอบๆ
'มันเป็นไอเทมที่แปลก...ฉันเดามาเขาจะต้องพบไอเทมแปลกๆมากมายจากฉายานักล่าสมบัติ'
"พวกเขาอยู่ที่นั่น คนที่ถูกแช่แข็ง"
"ที่ไหน?"
ด้วยคำถามของฟรานซ์ อิลลิชได้ถอดหมวสกออกมาและชี้ไปที่่ทางหนึ่ง มันไม่สามารถจะมองเห็นได้เนื่องจากความมืด แต่ว่าก็ไม่มีใครสงสัยอะไรเลย
นักล่าทุกคนได้โผล่ออกมาจากพระราชวังน้ำแข็งด้วยกันและมุ่งหน้าไปสู่ความมืด ไม่น่านหลังจากนั้นพวกเขาก็ได้มาพบกับกลุ่มคนที่ถูกแช่แข็ง