จุติข้ามโลก : ตอนที่80 ปัญหา!
ตอนที่80 ปัญหา!
อริมะค่อยๆออกคำสั่งด้วยท่าทาง ประมาณว่าให้ถอยกลับอย่างช้าๆ
เพราะสิ่งที่พวกเขาเห็นด้านหน้านั้นคือพื้นที่กว้างใหญ่ ซึ่งที่นั่นมีกูลอย่างน้อยพันกว่าตัวรวมตัวกันอยู่
และกูลแต่ละตัวนั้นก็น่ากลัวมาก พวกมันมีผิวที่ดำมืดราวกับโดนไฟเผามา
แน่นอนว่ากูลเหล่านี้แตกต่างจากกูลทั่วไปมาก พวกมันเปิดใช้คากุเนะตลอดเวลา และคากุเนะที่พวกมันใช้ก็คือบิคาคุ
กูลเหล่านี้ไม่มีดวงตาสีแดง ไม่สิ จะให้พูดแน่ๆก็คือพวกมันไม่มีดวงตา
ดวงตาของพวกมันราวกับว่าตาบอดไม่มีตาดำหลงเหลืออยู่
ทั้งสามที่เห็นแบบนี้เหมือนกันจึงตกลงเป็นเสียงเดียวกันว่าให้ถอย
หลังจากที่ทั้งสามคนถอยออกมาได้ระยะหนึ่ง อริมะก็โล่งใจขึ้นมาหน่อย
“ผมเคยเจอกับพวกกูลแบบนี้มาก่อน พวกมันจะจู่โจมศัตรูด้วยการฟังเสียง มันเป็นเรื่องยากมากที่จะจัดการกับพวกมัน”
แน่นอนว่าอริมะเข้าใจถึงความลับบางอย่างของเขต24
“เราควรจะทำอะไรต่อดีตอนนี้?”
ยูนะมองอริมะ
“เปลี่ยนเส้นทาง”
หลังจากนั้นทั้งสามคนก็พยายามหาทางอื่นต่อไป จนผ่านไปอีกสองชั่วโมง ทั้งสามคนก็พบแล้วว่า
ทุกทางที่ไปได้นั้นเป็นทางตัน มีเพียงแค่ทางที่พวกกูลตาบอดเท่านั้นที่เป็นทางออก
ทั้งสามคนเริ่มมานั่งประชุมกันแล้วว่าจะทำยังไงดี
ซูเซียวเองก็นำกระดาษออกมา และวาดแผนที่ขึ้นมาเองตามเส้นทางที่ซูเซียวเคยเดินนำไป
ยูนะมองซูเซียวด้วยความประหลาดใจ
“นายจำได้ยังไง เส้นทางทั้งหมดหน่ะ?”
ไม่ใช่แค่ยูนะเท่านั้นที่สงสัย แต่อริมะเองก็เช่นกัน
“ผมค่อนข้างจะเชี่ยวชาญเรื่องนี้หน่ะ ผมเคยย่องเข้าไปบางพื้นที่เพื่อเสาะหาคนบางคน มันก็เลยติดมาเป็นนิสัย”
ยูนะคิดอยู่พักนึงว่ามันคืออะไร
“ฟังดูเหมือนเป็นพวกมือสังหารเลยนะ”
“จริงๆก็ใช่ แต่มันก็แล้วแต่มุมมอง”
ซูเซียวมองดูทั้งสอง
“ตอนนี้สิ่งที่เราทำได้ก็มีเพียงแค่รอเส้นทางมันเปลี่ยนใหม่หรือไม่ก็บุกเข้าไปในรังของพวกมัน”
อริมะและยูนะคิดอยู่พักนึง
“เสบียงของเรามีไม่พอสำหรับการเปลี่ยนเส้นทางครั้งต่อไป”
เนื่องจากยูนะและอริมะนำพวกของยังชีพมาแค่ 4วันเท่านั้น ถ้าหากอยู่นานกว่านี้จะแย่ขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับซูเซียวนั้นมีเสบียงพออยู่แล้ว แต่เขาเองก็ไม่อยากจะรออยู่ในนี้เฉยๆ
“ถ้าไม่ส่งเสียง พวกมันก็ไม่รู้ว่าเราอยู่ที่ไหน”
อริมะพูดขึ้นมา
“ถ้างั้นเราก็คงต้องเสี่ยงสินะ”
ยูนะพูด
“ถ้าตัดสินใจแบบนั้นผมก็พอจะมีแผนอยู่” ซูเซียวพูด
“แผนหรอ?”
“เนื่องจากกูลพวกนี้สามารถรับรู้ได้แค่การฟังเสียงเท่านั้น จังหวะที่เราเข้าไปเราก็สามารถใช้อะไรบางอย่างส่งเสียงล่อให้พวกมันไปสนใจทางอื่นได้นิ”
“แล้วจะใช้อะไรส่งเสียงหล่ะ?”
ซูเซียวยิ้มและควักโทรศัพท์ออกมา
“เวลาถูกตั้งไว้ 5นาที”
ซูเซียวตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ในอีก 5นาทีข้างหน้า หลังจากนั้นเขาก็วางโทรศัพท์ทิ้งไว้
ในไม่ช้าพวกเขาก็ย่องมาจนถึงจุดที่กูลตาบอดอยู่
กริ้ง กริ้ง กริ้ง
ทันใดนั้นเสียงนาฬิกาปลุกก็ดังขึ้น
แน่นอนว่าพวกกูลตาบอดที่ได้ยินเสียงก็แห่ไปยังโทรศัพท์ทันที
ทั้งสามที่ย่อตัวหลบอยู่ก็มองหน้ากันและรีบมุ่งตรงไปยังทางออกทันที
ทั้งสามคนวิ่งไปกันอย่างรวดเร็วมาก อริมะเป็นผู้นำ ยูนะอยู่ตรงกลาง ส่วนซูเซียวอยู่หลังสุด
ในเวลาเพียงสิบวินาที ทั้งสามคนก็เดินไปที่มุมที่พวกเขาเคยอยู่
อริมะ ยกแขนขึ้นมาสั่งให้ทุกคนหยุด
ซูเซียวและยูนะก็มองดูทันทีว่ามีอะไร
“อะไรงั้นหรอ?” ยูนะกระซิบ
“อย่าส่งเสียง แล้วก็ค่อยๆย่องเข้าไป”
ในตอนนี้ยังมีกูลตาบอดหลงเหลืออยู่บ้างพวกเขาจึงวิ่งแบบเดิมไม่ได้แล้ว
ยูนะและอริมะค่อยๆย่องเข้าไปด้านหน้าอย่างเงียบๆ
แต่ซูเซียวนั้นยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน อริมะก็หันมามองซูเซียวด้วยความสงสัย
ซูเซียวส่งสัญญานนิ้วชี้ที่ตัวเองและชี้ไปทางด้านหลัง แล้วหลังจากนั้นก็ที่สองนิ้วที่ทั้งสองคนแล้วก็ชี้ไปยังด้านหน้า
ความหมายสัญญานนี้ชัดเจนมาก คือให้ทั้งสองคนไปก่อน ส่วนซูเซียวจะตามไปทีหลัง ที่ซูเซียวทำแบบนี้ก็เพราะว่าการย่องเข้าไปพร้อมกันสามคนนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก อาจจะเกิดเสียงดังขึ้นมา ซูเซียวเลยรอจังหวะดีๆแล้วค่อยตามไป
อริมะพยักหน้าและส่งสัญญานกลับมาว่าให้ซูเซียวระวังตัวเองดีๆ
ยูนะเองก็เข้าใจ เมื่อย่องเข้าไป ยูนะก็หยุดปล่อยให้อริมะผ่านไปก่อนหลังจากนั้นเธอค่อยตามเข้าไป
หนทางที่จะผ่านไปได้นี้มีระยะ 200 เมตรไม่ใกล้และก็ไม่ไกล
ผ่านไปสามนาที อริมะก็ผ่านไปได้อย่างปลอดภัย
“คำราม”
จู่ๆก็มีเสียงคำรามดังขึ้นมา ทั้งสามถึงกับตกใจกลัวจนตัวสั่น เมื่อหันไปมองก็พบว่ากูลที่กำลังนอนหลับอยู่บนพื้นนั้นถูกปลุกขึ้นมาโดยคากุเนะของกูลอีกตัว
ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้พวกเขายังปลอดภัยไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ยูนะเองก็ค่อยๆย่องต่อไป มีกูลประมาณ 4หรือ 5ตัวนอนอยู่ที่เท้าของเธอ เธอจึงต้องเดินอย่างระมัดระวังมาก
ซูเซียวที่อยู่หลังสุดก็เอาหูแนบพื้นเพื่อฟังดูว่ากูลกลุ่มใหญ่ที่ไปยังโทรศัพท์กลับมารึยัง
ซึ่งตอนนี้ก็ยังปลอดภัยดีพวกกูลยังไม่กลับมา มีเพียงแค่กูลด้านหน้านี่แหละที่ต้องระวัง
ซูเซียวค่อยๆเริ่มย่องเข้าไปอย่างช้าๆและระมัดระวังมาก