GE368 ประลองสำคัญ [ฟรี]
“ไอ้บัดซบที่ไหนกล้าสังหารศิษย์ข้า?”
เสียงคำรามด้วยโทสะดังสะท้อนไปทั่วทั้งเมืองเต่าทมิฬ ก่อนปรากฏเส้นแสงแหวกนภา มาพร้อมแรงกดดันขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูงสุด
“แย่แล้ว! ท่านหยานมา! แบบนี้ท่านได้สู้กับท่านหมิงแน่!”
“ท่านหมิงเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญคนที่ 8 ที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลส่วนใน ท่านหมิงคงไม่กลัวท่านหยานหรอก!”
“เจ้าไม่รู้อะไร ท่านหยานครอบครองทะเลสติเพลิง มีวิชาปรุงโอสถที่ไม่ธรรมดา และมีเพลิงที่ทรงพลังขนาดที่เคยสังหารผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลงมาแล้ว”
“ว่าไงนะ! ท่านหยานสังหารผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลง! แบบนี้ก็เท่ากับเป็นแนวหน้าของทะเลส่วนใน!”
“มีข่าวลือว่ายามที่ท่านหยานเข้าสู่ทะเลไร้สิ้นสุด ท่านมีผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง 2 คนเป็นผู้คุ้มกัน… ถึงจะไม่รู้ว่าผู้เชี่ยวชาญสองคนนั้นเป็นใคร แต่การที่ท่านหยานได้เป็นผู้เชี่ยวชาญของวิหารพิรุณ ย่อมแสดงว่าสถานะของท่านไม่ธรรมดา!”
เหล่าผู้เชี่ยวชาญพูดคุย มีทั้งผู้ที่รู้จักซัวหมิง และมีทั้งผู้ที่ไม่รู้จักซัวหมิง ทั้งสองฝ่ายโต้เถียงหักล้างกันอย่างออกรส
ไม่นานผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดเร่งถอยห่าง เส้นแสงพุ่งลงข้างหอคอยใต้ เสียงระเบิดดังสนั่น เปลวเพลิงลุกโหมพร้อมปรากฏร่างของชายในชุดคลุมแดง
แรงกดดันของชายชราทรงพลัง โดยเฉพาะกับเพลิง
การปรากฏตัวของชายชราทำให้อุณหภูมิรอบข้างเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัง
ชายชราผู้นี้คือท่านหยาน อาจารย์ของกู่เสิน!
“เจ้าเป็นใคร?”
ท่านหยานตวาดลั่น คลื่นเสียงของมันแปรเปลี่ยนเป็นเปลวเพลิงที่รุนแรง ราวกับจะเผาทั้งหอคอย
ชายชราใช้วิชาแปลงคลื่นเสียงให้เป็นเพลิง เป็นวิชาระดับสูงที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญมากมายตกตะลึง
เปลวเพลิงที่รุนแรงลุกโหม แต่ในชั่วพริบตาถัดมา เปลวเพลิงกลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย
หนิงฝานเดินออกมาจากหอคอย จับจ้องท่านหยาน ทุกย่างก้าวทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวเข้ากดดัน
“ข้าคือซัวหมิง จ้าวหอคอยทั้ง 3 แห่งในวิหารสาบสูญ!”
“เจ้าหน่ะเหรอซัวหมิง!”
ท่านหยานจ้องมองหนิงฝานด้วยสายตาเย้ยหยัน
“เจ้าคงเป็นผู้ที่เอาเพลิงครามไปสินะ? และเจ้าก็คงเป็นที่สังหารศิษย์ของข้า!”
“ใช่… แล้วเจ้ามีปัญหาอะไร!” หนิงฝานกล่าวอย่างเรียบเฉย
“งั้นเจ้าก็ตายได้แล้ว” ท่านหยานยิ้มอย่างเย็นชา ในอดีตมันหวังจะสังหารหนิงฝานเพื่อช่วงชิงเพลิงคราม มันเป็นถึงคนของวิหารสาบสูญ เหตุใดจะสังหารหนิงฝานไม่ได้!
ยิ่งศิษย์ของมันถูกหนิงฝานสังหาร มันยิ่งปล่อยหนิงฝานไปไม่ได้
มันสัมผัสกระเป๋านำกระบี่บินสีแดงฉานออกมา แต่ในชั่วพริบตานั้น สตรี 2 นางกลับกล่าวขึ้นพร้อมกัน
“ท่านหมิงไม่ผิด ข้าเป็นผู้ยั่วยุกู่เสินเอง!”
“สามหาว! เจ้ากล้าก่อเรื่องในวิหารสาบสูญของข้างั้นเหรอ?”
ย่าหลานเป็นผู้กล่าวว่านางยั่วยุกู่เสิน แต่ที่ทำให้หนิงฝานประหลาดใจ คือเป่ยเซี่ยวเหมินก็ออกหน้ารับแทนเขาเช่นกัน
ช่างน่าแปลกที่นางออกหน้ารับแทน ในอดีตนางยังเคยกล่าวว่าสังหารเขาอยู่เลย… ได้ข่าวว่านางบรรลุขอบเขตตัดวิญญาณ หรือหลังจากทะลวงขอบเขตแล้ว นิสัยของนางจะเปลี่ยน?
ผู้เชี่ยวชาญที่เห็นเหตุการณ์ประหลาดใจ เหตุใดสตรีทั้งสองนางถึงออกหน้ารับแทน?
เหตุที่ท่านหยานไม่ได้จู่โจมหนิงฝานทันที ไม่ใช่เพราะมันเห็นแก่หน้าย่าหลาน แต่เป็นเพราะมันเกรงเป่ยเซี่ยวเหมิน
แม้ระดับพลังของเซี่ยวเหมินจะไม่ได้อยู่ในสายตาของมัน แต่ด้วยสถานะของนางที่เป็นคุณหนูสี่แห่งแดนสวรรค์เหนือ มันจึงไม่กล้ายั่วยุนาง
แต่สิ่งที่ทำให้มันสงสัย คือเหตุใดเซี่ยวเหมินถึงออกรับแทบ มันได้ข่าวมาว่านางไม่ชอบใจหนิงฝาน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้มันกล้าคิดลงมือกับหนิงฝาน
แต่ดูเหมือนข่าวที่มันได้มาจะผิด เซี่ยวเหมินไม่ได้เกลียดหนิงฝานเลยแม้แต่น้อย
ท่านหยานเย้ยหยัน คุณหนูสี่แห่งแดนสวรรค์เหนือ ดูท่าจะเพียงเด็กที่ปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม
“นายหญิงน้อยเป่ย มันสังหารศิษย์ของข้าทุกคนก็เห็น แบบนี้ท่านยังออกรับแทนมันอยู่เหรอ?”
“สังหารศิษย์เจ้า?”
นางหันมองหนิงสานด้วยสีหน้าไม่พอใจ นางคิดว่าหนิงฝานทำอะไรไม่คิด เหตุใดถึงสังหารคนของเขตของวิหารสาบสูญ
เซี่ยวเหมินเป็นสตรีที่มุทะลุ เย่อหยิ่ง ถือดี นางกล้าสังหารกระทั่งนักปรุงโอสถผันแปรที่ 4 แต่นางต้องไว้หน้านักปรุงโอสถผันแปรที่ 5 และไม่ยั่วยุผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ
ท่านหยานเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของวิหารพิรุณ มีสหายเป็นผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงหลายคน นางย่อมไม่กล้ายั่วยุอีกฝ่าย
แต่ดูเหมือนท่านหยานก็จะเบาปัญญาไม่แพ้กัน มันจึงกล้าหาเรื่องหนิงฝาน ทั้งยังยิ้มเย้ยหยันเซี่ยวเหมิน
“ซัวหมิงเป็นคนของข้า ท่านจะสังหารเขาไม่ได้!”
ผู้คนที่เฝ้ามองเหตุการณ์ตกตะลึง เป่ยเซี่ยวเหมินขึ้นชื่อเรื่องการสังหารอย่างโหดเหี้ยม ไร้หัวใจ และไร้เหตุผล หากบ่าวของนางทำผิด นางจะสังหารทันที แต่ยามนี้นิสัยของนางกลับไม่เป็นเช่นนั้น
นางถึงกับออกหน้ารับแทนซัวหมิง ซึ่งเทียบได้กับการยั่ววิหารพิรุณ
ซัวหมิงเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลัง เป็นผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดคนที่ 8 ของทะเลส่วนใน แต่ท่านหยานกลับมีสถานะสูงกว่าเช่นนั้นหรือ?
เซี่ยวเหมินมีสถานะสูงส่ง ไม่ว่าใครก็รู้ว่านางไม่ยอมก้มหัวให้วิหารพิรุณ
มีผู้เชี่ยวชาญระดับสูงบางคนในวิหารสายสูญรู้ว่าเซี่ยวเหมินบรรลุขอบเขตตัดวิญญาณ และสามารถแก้ปัญหาด้านร่างกายที่นางประสบมาได้ แต่นั่นจะทำให้นิสัยของนางเปลี่ยนไปจริงหรือ? นางจะหันมาห่วงใยคนของนางจริงหรือ?
หนิงฝานเองก็หันมองเซี่ยวเหมินด้วยแววตาสงสัย เหตุใดนางถึงดูโกรธเคืองและออกหน้าแทนเขา หรือว่านางจะมีใจให้?
ท่านหยานขมวดคิ้ว คาดไม่ถึงว่าวิหารสาบสูญจะออกหน้าปกป้องซัวหมิงเต็มที่ เรื่องที่ซัวหมิงเป็นผู้เชี่ยวชาญคนที่ 8 ที่แข็งแกร่งที่สุดในทะเลส่วนใน มันเองก็เคยได้ยินมาบ้าง แต่ถึงหนิงฝานจะทรงพลังเทียนเท่าผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลง มันก็ไม่เห็นหนิงฝานอยู่ในสายตาอยู่ดี
ในเกาะเผิงไหลแห่งนี้ ผู้ที่ทำให้มันต้องยำเกรง คือเป่ยเซี่ยวเหมินเพียงคนเดียวเท่านั้น
มันแผ่สัมผัสเทพตรวจสอบตันเถียนของหนิงฝานอยู่หลายครั้ง เจตนาสังหารของมันยิ่งทวีคูณ จนมันอยากจะสังหารในทันที เพราะมันสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า เพลิงครามที่มันปรารถนาอยู่ในร่างหนิงฝาน
ยามนี้ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากจากวิหารพิรุณมุ่งมาทะเลไร้สิ้นสุด เพื่อเตรียมแย่งชิงสิทธิ์ในการครอบครองหยกอัสนี ป้ายเบิกทางแห่งการเข้าสู่สุสุานกษัตริย์อัสนี
ส่วนเหตุที่มันมาก็เพราะต้องการเพลิงคราม ยิ่งยามนี้ศิษย์ของมันตาย และมันสัมผัสได้ว่าในร่างหนิงฝานมีเพลิงปีศาจระดับ 5 อยู่หลานชนิด มันยิ่งอยากสังหารหนิงฝานมากขึ้น
มันคิดว่าหากมันดูดกลืนเพลิงปีศาจของหนิงฝานได้ทั้งหมด มันอาจจะยกระดับเป็นผู้เชี่ยวชาญกึ่งไร้ดัดแปลง หรือกระทั่งผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงเลยก็ได้
หลังจากขบคิดร้อยแปด มันก็ตัดสินใจ มันจะไม่ปล่อยหนิงฝานไปก่อน
“ข้าเห็นแก่หน้าท่านและวิหารสาบสูญ แต่ท่านกลับไม่เห็นแก่หน้าข้า! มันผู้นี้สังหารศิษย์ของข้า ต่อให้ข้าต้องยั่วยุวิหารสาบสูญ ข้าก็จะฆ่ามันให้ได้!”
แววตาเซี่ยวเหมินแปรเปลี่ยนเย็นชา นางพับแขนอาภรณ์ คิ้วขมวดแน่น พลางเตรียมที่จะทะยานเข้าใส่ท่านหยาน!
แต่เมื่อนางกำลังจะก้าวขา หนิงฝานกลับจับแขนนาง ดึงนางมาไว้ด้านหลังพลางกล่าว “ขอบคุณนายหญิงน้อยเซี่ยวเหมินที่เป็นห่วงข้า ถึงข้าขอบอกไว้ก่อนว่าข้าไม่ใช่คนของท่าน ท่านไม่จำเป็นต้องออกรับแทนข้า”
ทุกคนตกตะลึง ซัวหมิงถึงกลับกล้ากล่าวเช่นนั้นกับเซี่ยวเหมิน ทั้งยังกล่าวว่าเขาไม่ใช่คนของนาง
“ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! ใครอนุญาติให้เจ้าสัมผัสกายข้า!” นางตีมือหนิงฝาน
“ใจเย็นๆก่อนเถอะ...” หนิงฝานจ้องมองนางและหันมองย่าหลาน ก่อนที่แววตาจะแปรเปลี่ยนเย็นชา
เดิมทีหนิงฝานมีความสุขที่ได้พบสหายเก่าอย่างย่าหลานและเซี่ยวเหมิน แต่ยามนี้ ท่านหยานแห่งวิหารพิรุณกลับกล่าวว่าจะสังหารเขาให้ได้ จึงทำให้เขาอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก
แต่นับเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ดูท่านการทำให้ทะเลไร้สิ้นสุดหวาดกลัวคงยังไม่พอ คงต้องทำให้วิหารพิรุณรับรู้ว่าเขาแข็งแกร่ง
หนิงฝานจ้องมองท่านหยานราวกับรู้ความคิดของมัน คงอย่างมันไม่มีทางแก้แค้นให้ศิษย์แน่นอน เหตุที่มันอยากสังหารเขาเพราะต้องการเพลิงครามมากกว่า
หากอาจารย์เป็นคนดี เหตุใดศิษย์จะเป็นคนชั่ว!
ย่าหลานเป็นสหายของหนิงฝาน ส่วนเขาเองก็เป็นจ้าวหอคอย 3 แห่งในวิหารสาบสูญ เขาย่อมไม่ปล่อยให้คนของตนถูกข่มเหง
กู่เสินเป็นฝ่ายหาเรื่องก่อนจึงถูกหนิงฝานสังหาร เขาไม่ได้หวาดกลัวผู้ใด หากผู้ใดยั่วยุเขาไม่ปล่อยไว้ หากท่านหยานตั้งใจจะสังหารเขา เขาก็จะสังหารันเช่นกัน
มันมีเจตนาไม่บริสุทธิ์แต่แรก ต่อให้เขาไม่สังหารกู่เสิน แต่หากมันรู้ว่าเขาอยู่บนเกาะเผิงไหล มันคงหาโอกายลอบสังหารเขาอยู่ดี
หนิงฝานสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังอีก 2 คน แต่ไม่รู้ว่าพวกมันอยู่ที่ไหน เขาจึงกระตุ้นตาซ้ายจนกลายเป็นสีม่วง จึงทำให้ทราบว่าท่านหยานนำผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง 2 คนมาเป็นผู้คุ้มกันด้วย
เหตุที่มันกล้าเอ่ยปากว่าจะสังหารเขา คงเป็นเพราะมีผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง 2 คนหนุนหลังอยู่
แต่ถึงอย่างนั้น หนิงฝานเองก็มีทาสในขอบเขตไร้ดัดแปลงอยู่ 3 ตน เขาย่อมไม่กลัวมันเช่นกัน
หนิงฝานขมวดคิ้ว แผ่กลิ่นอายของทาสในขอบเขตไร้ดัดแปลงทั้ง 3 ไปยังผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงทั้ง 2 คนอย่างลับๆ จนทำให้สีหน้าพวกมันแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง และเร่งกล่าวเตือนท่านหยานทันที
เมื่อมันได้ยินสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงกล่าว สีหน้ามันแปรเปลี่ยนเช่นกัน เจตนาสังหารที่มีต่อหนิงฝานลดลงมาก
ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงบอกกับมันว่า “ซัวหมิงผู้นี้ไม่ธรรมดา มันรู้ถึงตัวตนของพวกข้า ทั้งยังจงใจแผ่กลิ่นอายของขอบเขตไร้ดัดแปลงมา”
“ว่าไงนะ! มันก็มีกลิ่นอายในขอบเขตไร้ดัดแปลง! หรือจะมีผู้อาวุโสในขอบเขตไร้ดัดแปลงคุ้มครองมันอยู่ และซ่อนตัวอยู่ในสมบัติที่อยู่อาศัย!” ท่านหยานกล่าว
หากเทียบกันแล้ว มันเกรงผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงมากกว่าเซี่ยวเหมิน
“ถึงมันจะมีผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงคุ้มครอง แต่ข้าก็ไม่อยากพลาดเพลิงปีศาจไป...” มันขบฟันพลางกล่าวด้วยสัมผัสเทพ
“ไม่เป็นไร... แค่หาวิธีชิงเพลิงของมันมาโดยที่ไม่ต้องสังหารมันก็พอ… อย่างเช่นการประลองเดิมพัน! ไม่ได้สังหารมัน และไม่ล่วงเกินผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงที่คุ้มครองมัน”
“ประลองเดิมพัน? ก็ดีเหมือนกัน”
ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆเห็นท่านหยานพึมพัมราวกับกล่าวบางสิ่ง ก่อนที่เจตนาสังหารของมันจะลดลง
เมื่อครู่มันยังโกรธแค้นราวกับจะสังหารหนิงฝานให้ได้เดี๋ยวนั้น แต่ยามนี้มีทีท่าอ่อนลงจนน่าใจหาย
“ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดคนที่ 8 แห่งทะเลส่วนใน...ซัวหมิง ข้านับถือในความกล้าของเจ้า ที่ข้ากล่าวว่าจะแก้แค้นให้ศิษย์ข้า ข้าแค่ล้อเล่นเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้น ข้าเองก็อยากลองประลองความกล้าของเจ้าเสียหน่อย… ศิษย์ของข้าตามแผ้วพานสตรีของวิหารสาบสูญเพราะรู้เท่าไม่ถึงการ ที่เจ้าสังหารมันก็สมควรแล้ว!”
ผู้เชี่ยวชาญรอบข้างสับสน เมื่อครู่มันยังทำท่าจะสังหารอีกฝ่าย เหตุใดยามนี้มันถึงเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
นอกจากกล่าวคำไว้หน้าหนิงฝาน แล้ว ยังกล่าวว่าศิษย์ของมันเป็นฝ่ายผิด นั่นทำให้ผู้เชี่ยวชาญที่ไม่รู้เจตนาแฝงของมัน รู้สึกนับถือในตัวมันมากขึ้น
หนิงฝานจ้องมองมันด้วยแววตาเย้ยหยัน เมื่อครู่เขาจงใจแผ่กลิ่นอายของทาสในขอบเขตไร้ดัดแปลง อีกฝ่ายจึงเปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็ว
ดูเหมือนมันไม่ได้ให้ความสำคัญกับศิษย์เท่าไหร่ กลับกัน มันเห็นผลประโยชน์เป็นสำคัญมากกว่า
“ที่แท้ท่านหยานเพียงกล่าวล้อเล่น… แต่ข้าคิดว่ามันไม่ตลก”
“ฮ่าฮ่า” ท่านหยานหัวเราะราวกับเป็นเรื่องขบขันจริงๆ
แต่จู่ๆแววตาของมันกลับแปรเปลี่ยน รอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ปรากฏ “ข้าเห็นเจ้าก็รู้สึกราวกับได้พบสหายเก่า ข้าเองจึงอยากเห็นฝีมือของเจ้าสักเล็กน้อย… แต่เจ้าวางใจได้ ข้าแค่อยากเปิดหูเปิดตาในพลังของเจ้าแค่ 1 กระบวนท่า ไม่ได้หมายทำให้บาดเจ็บหรือเอาชีวิตแต่อย่างใด… สมควรไม่รบกวนผู้อาวุโสของเจ้า” ท่านหยานกล่าว
“ข้าไปไหนมาไหนเพียงลำพัง ไม่ได้มีผู้อาวุโสอย่างที่ท่านกล่าว ส่วนเรื่องประลอง ข้าเองย่อมไม่ขัด” หนิงฝานกล่าวราวกับจงใจให้มันคิดว่าเข้าทางของมันแล้ว
เมื่อได้ยินที่หนิงฝานกล่าว มันยิ่งมั่นใจว่าไม่มีผู้ใดคอยปกป้องหนิงฝานจริง ต่อให้มันชิงเพลิงครามมาได้ ก็ไม่ได้ผิดใจกับผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงอย่างแน่นอน
“ช่างน่ายินดีที่สหายเต๋าซัวก็สนใจการประลอง เช่นนั้นข้าว่า เรามาเดิมพันกันสักเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความตื่นเต้นดีหรือเปล่า? อย่างเช่นใช้เพลิงปีศาจในการเดิมพัน?”
“ย่อมได้… แต่หากเดิมพันเพลิงปีศาจแค่ชนิดเดียวก็ออกจะน่าเบื่อ ข้าว่าเราควรเดิมพันเพลิงปีศาจ 3 ชนิด ข้ามีเพลิงปีศาจอยู่ 4 ชนิด ท่านเองก็มีอยู่ 3 หากเดิมพันกันสมควรไม่เสียหาย”
ผู้เชี่ยวชาญโดยรอบตกตะลึง หนิงฝานและท่านหยานต่างสัมผัสได้ถึงเพลิงปีศาจของอีกฝ่าย
คนเหล่านั้นรู้ว่าเพลิงปีศาจระดับ 5 เป็นเพลิงที่หาได้ยากมาก อย่าว่าแต่จะมีครอบครอง 1 ชนิด แต่นี่ต่างฝ่าต่างมีครอบครองถึง 3 ชนิด
มีข่าวลือว่า หากรวบรวมเพลิงปีศาจได้ครบทั้ง 12 ชนิด คนผู้นั้นจะสามารถจู่โจมได้ทรงพลังเทียบเท่าผุ้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก
“จะเดิมพันไม่ได้! ข้าเป็นคนมอบเพลิงครามให้เจ้า หากเจ้าแพ้...” เซี่ยวเหมินกล่าวขัด นางไม่อยากให้หนิงฝานแพ้
“วางใจเถอะ ข้าไม่แพ้หรอก” หนิงฝานยิ้มอย่างมั่นใจ
หนิงฝานไม่กลัวท่านหยาน ทั้งไม่กลัวผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงทั้งสอง หากเขานำทาสออกมาทั้งหมด แม้ทาสจะเสียหาย แต่ก็แลกกับการที่สังหารพวกมันทั้งสามได้สำเร็จ
แต่หากสังหารพวกมันไปแล้วจะได้อะไร? สิ่งที่เป็นประโยชน์กับหนิงฝานมากที่สุดคือการเลี่ยงที่จะปะทะกับมัน
ผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณ...ผู้อาวุโสแห่งวิหารพิรุณ ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง ผู้อาวุโสมีระดับชั้นเหนือกว่า
หนิงฝานรู้ว่าหากสังหารพวกมันที่นี่ วิหารพิรุณจะส่งผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกมาตามล่าเขาอย่างแน่นอน
ดังนั้นการเดินไปตามแผนที่มันวางเอาไว้คือทางเลือกที่ดีที่สุด
เพราะหากเป็นยามประลอง ย่อมอ้างได้ว่ามือเท้าไม่มีตา ต่อให้พลาดพลั้งสังหารขึ้นมาก็ไม่อาจเอาความได้ และนั่นก็จะทำให้หนิงฝานได้เพลิงปีศาจของมันมาด้วย
ยามนี้ท่านหยานมั่นใจเป็นอย่างมากว่ามันจะเป็นผู้ชนะ แต่มันแสร้งทำเป็นยิ้มเจื่อน ไม่ได้แสดงออกว่ามันมั่นใจว่าจะชนะ
“ฮ่าฮ่า… เช่นนั้นเอาตามที่สหายเต๋ากล่าว” มันยิ้มแย้ม แต่ในใจเย้ยหยัน
แม้มันไม่อาจสังหารหนิงฝานได้จริงๆ แต่หากยามประลองย่อมอ้างได้เช่นกันหนิงฝานไม่ระวังจนเผลอถูกสังหารไป
“เด็กน้อยเอ๋ย… ข้าจะลบเจ้าออกไปจากโลกนี้ และทำให้เจ้าได้รู้ว่าข้าแข็งแกร่งขนาดไหน!” มันกล่าวในใจ เพียงแต่สิ่งที่มันไม่รู้ คือใครจะเป็นผู้ถูกลบไปจากโลกกันแน่
ทั้งสองย้ายไปยังเวทีประลอง
“สหายเต๋าซัวระวังด้วย ข้ากำลังจะซัดกระบี่บินแล้ว!”
มันชักกระบี่บินขึ้นมา เปลวเพลิงลุกโหม ก่อนที่ตัวกระบี่บินจะหายไปอย่างไร้ร่องรอย
การที่มันเตือน เพราะมันมั่นใจว่าหนิงฝานจะรับกระบี่มันไม่ได้
“ซัวหมิงระวังด้วย! กระบี่บินของมันเสริมวิชาระดับไร้ดัดแปลงเข้าไป ชื่อว่ากระบี่สังหารเงา!” เซี่ยวเหมินกล่าวเตือนด้วยความตระหนก
กระบี่บินเพลิงที่หายไป ปรากฏขึ้นในเงาของหนิงฝาน!