Chapter 123 – Kariharan Frostplains (2) [21-02-2020]
Chapter 123 – Kariharan Frostplains (2)
'หัวใจน้ำแข็ง' ได้เคาะขวานในขณะที่ถามกลับมา
"แล้วที่ๆมีพายุน้ำแข็งที่รุนแรงสุดก็คือที่ๆบอสอยู่งั้นหรอ?"
ฟรานซ์ได้หยักหน้ารับ
"ใช่แล้ว"
เขาได้หรี่ตาและถามออกมาต่อ
"ที่ไหน...นายได้ข้อมูลนี้มาไหม?"
ฟรานซ์ได้หยุดลงครู่หนึ่ง
'ไปที่ๆมีพายุรุนแรงที่สุด ที่นั้นมันจะมีพระราชวังน้ำแข็งอยู่'
เข้าได้พบเรื่องนี้มาผ่านจากสุดยอดนักล่าเค แต่ว่าเฟรานซ์ก็ไม่สามารถจะพูดออกไปตรงๆได้ เพราะว่าเคได้บอกกับเขาในตอนก่อนหน้านี้ว่า
'สำหรับตอนนี้...ช่วยปกปิดเรื่องผู้ถูกเลือกเอาไว้และการที่ฉันสามารถจะพบพวกนายได้ไปก่อน เมื่อมีคนรู้เกี่ยวกับฉายานี้และโบนัสของมัน พวกเขาก็ต่างจะพากันต้องการมัน แต่ว่าฉันไม่ต้องการที่จะมอบมันให้กับใครยกเว้นคนที่ฉันนั้นไว้ใจจริงๆ'
หรืออีกในความหมายหนึ่ง เขาจะต้องเก็บการพบกันในตอนเช้าให้เป็นความลับ
"...มันเพราะฉายา ฉันไม่ได้ใส่มันเอาไว้ในตอนนี้ แต่ว่ามันก็ได้ให้คำใบ้เกี่ยวกับบอส"
"จริง? เหมือนกับพวกคู่มืออะไรอย่างนั้นหรอ?"
ฟรานซ์ได้หยักหน้า
"อา...ใช่แล้วอย่างนั้นแหละ"
เขาได้หรี่ตาลงยิ่งกว่าเก่าและถามออกมา
"หืมม โอเค แล้วฉายาผู้ถูกเลือกมันคืออะไร?"
คำถามนี้มันใกล้กับสิ่งที่เขาต้องการจะปิดมากเกินไป
"อ่า...มันเพิ่มสเตตัสโดย....ประมาณ 10%"
ฟรานซ์ได้โกหก ด้วยเหตุผลบางอย่างมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะโกหกเขา
"โอ้ จริงหรอ? แล้วมันเพิ่มสเตตัสทั้งหมดเลยหรอ?"
"เอ่อ...ใช่ ทั้งหมด"
โชคดีที่ว่าความอยากรู้อยากเห็นของอิลลิชหยุดอยู่แค่นั้น
"จริงหรอ? มันเป็นฉายาที่ยอดเยี่ยมมาก ฉันชอบมันด้วย ฉายานี้มันเป็นฉายาที่ดีที่ควรจะใช้งาน...และ 5% แม้ว่าจะไม่ได้ใช้มัน มันเป็นฉายาที่ยอดเยี่ยมมาก"
ฟรานซ์ได้เงียบเสียงเอาไว้ ฉายาผู้ถูกเลือกมันไม่ได้ให้โบนัสเท่ากับ 10% ของเจ้าของ แต่ว่ามันเป็น 20% ของสเตตัสของสุดยอดนักล่าเคซึ่งมากกว่าเขามาก
อิลลิชจะไม่มีทางที่ตรวจสอบสิ่งนี้ได้นอกเหนือไปจากให้เขาถามกับโอเปอเรเตอร์ให้ดู
"ถ้างั้นเราไปกันต่อเถอะ ไปในทิศทางที่พายุเติบโตขึ้น...ทางนั้น"
อิลลิชได้ชี้ไปในทางนั้น ตาของฟรานซ์ไม่สามารถจะแยกแยะความต่างของทิศทางเช่นนี้ได้เลย แต่ว่าการเป็นชาวรัสเซียของอิลลิชจะต้องทำให้เขามีอะไรบางอย่างที่ทำให้ตระหนักถึงความรุนแรงของพายุได้ ฟรานซ์ได้มองไปที่ภาพเงาด้านหลังของชายคนนี้
'ชายคนนี้....ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นคนที่ดีหรือไม่....แต่ว่าถ้าในแง่ของทักษะ...เขาก็สมควรที่จะได้เป็นผู้ถูกเลือกอย่างแท้จริง'
การต่อสู้ของเขามันเป็นเพียงส่วนหนึ่ง แต่ว่าการตัดสินใจและความคิดในหัวของเขาที่ได้คิดอย่างรวดเร็วมันได้ทำให้เขามีทักษะในการเป็นผู้นำ เขานั้นยอดเยี่ยมในทุกๆทาง
'เมื่อพวกเราทำงานเสร็จ....ฉันก็ควรจะแจ้งนายเค'
ฟรานซ์ได้คิดในขณะที่เดินผ่านหิมะไปในที่ราบเยือกแข็ง
****
ซังจินได้จับบังเหียนของชาโดวรันเอาไป
"วูววว วูววว"
ม้าได้หยุดลงไปในตรงนี้ ดวงตาของชาโดวรันได้เรืองแสงสะท้อนจากสิ่งที่เขามอง พวกเขาได้มาถึงที่หน้าพระราชวังน้ำแข็งแล้ว
ที่พระราชวังน้ำแข็งมันทำมาจากน้ำแข็งที่โปร่งใสและภาพลักษณ์ของชาโดวรันและซังจินก็ได้สะท้อนกลับมาที่ตัวพวกเขาเอง
"โอเปอเรเตอร์เวลามันผ่านไปเท่าไหร่แล้ว?"
[3 นาที 42 วินาที]
"โอ้ จริงหรอ? พวกเราได้มาถึงที่นี่อย่างรวดเร็วจากนั้น"
ซังจินได้มองไปที่ข้างหลังของเขาและพูดออกมา
"ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักนะ ไปพักเถอะชาโดวรัน"
เขาได้ส่งชาโดวรันกลับไปเป็นเหรียญและวางเหรียญไว้บนลูกบาศก์ ซังจินในตอนนี้ได้เดินไปอย่างลำพังยังพระราชวังน้ำแข็ง ในช่วงเวลาก่อนในอดีต เขาและทีมของเขาได้เตินเตร่ไปรอบๆเป็นเวลานานก่อนที่พวกเขาจะได้มาสะดุดอยู่กับพระราชวัง
มันเป็นเพราะพื้นที่โดยรอบมันมืดมน และมีเพียงสิ่งเดียวที่สะท้อนเข้ามาในสายตาของพวกเขาคือมอนสเตอร์
'เราจะรู้ได้ยังไงกันว่าบอสมันจะกำลังรออยู่ในที่ๆมีพายุแรงที่สุด?'
ใช่แล้ว ที่ถนนไปสู่พระราชวังมันเป็นพายุน้ำแข็งด้วยตัวมันเอง การที่จะเดินไปจะต้องผ่าพายุเข้าไป
แต่แปลกที่พายุหิมะมันจะลดลงเมื่อมาถึงที่พระราชวัง แม้ว่ามันยังคงมีพายุในสายตาของเขา เขาได้แบ่งข้อมูลนี้ไปให้กับพวกนักล่า
เพียงแค่ข้อมูลเล็กน้อยนี้ก็จะช่วยลดโอกาสในการตายของพวกเขาไปเกือบจะเป็นศูนย์
'มันดูน่าสนใจแม้ว่าจะเป็นตอนนี้...'
ซังจินกำลังจะสัมผัสไปที่กัมแพงพระราชวังเมื่อดวงตาได้ปรากฏขึ้นด้านหลังเขา สัตว์ประหลาดนี้มันจะต้องคืเว่าซังจินนั้นไม่รู้ตัว
'ฉันไม่คิดว่าจะเสียอะไรไปแม้ว่าถ้ามันจะโจมตีฉันจากด้านหลัง'
ครู่หนึ่ง
"ก๊าซซซ"
เยติได้พุ่งเข้ามาใส่ซังจิน ซังจินได้กระโดดไปด้านข้างและเหวี่ยงมูนสเปค นิ้วทั้งสองของเยติได้ขาดเป็นชิ้นๆ เมื่อมันขาดลงเยติได้ร้องออกมา
"ก๊าซซซซซ"
และเริ่มพุ่งเข้ามาใส่ซังจินเร็วยิ่งขึ้น แต่เขาก็ตามติดมาด้วยการโจมตีของบลัดเวเจน และมันก็ล้มลงไปทั้งยืน
"น่ารำคาญ..."
ซังจินได้สะบัดเลือดออกจากดาบก่อนที่จะมุ่งหน้าไปสู่พระราชวัง เมื่ออยู่ด้านในเขาก็เห็นสองฝั่ง
มันมีเสาแปลกๆอยู่รอบๆ และอีกด้านหนึ่งก็เป็นทางเลี้ยว แต่ว่าเสามันก็ได้เริ่มเปลื่ยนไปจนกลายเป็นรูปแบบของยักษ์ ซังจินได้คิดกับตัวเอง
'โอ้ใช่แล้ว...สิ่งนี้'
ในห้องนี้มันไม่มีอะไรอื่นนอกเหลือไปจากโกเลมน้ำแข็ง มันดูมีรูปร่างที่ผิดปกติมาก
มันมีขาเล็กๆ แต่ว่าแขนของมันยาวเป็นอย่างมาก ในขณะที่หัวก็ยาวเอย่างไม่น่าเชื่อเช่นกัน
อย่างไรก็ตามลักษณะทางกายภาพของมันก็ได้ปรากฏออกมา พวกเขาได้เข้ามาโจมตีซังจินด้วยส่วนร่างกายที่ยาว แต่ว่าพวกมันก็ไม่มีอันตรายใดๆเลย
เพียงแค่ถือดาบออกมาป้องกันเมื่อได้ก็ตามที่ดาบได้สัมผัสกับร่างกายของโกเลม
"แคร๊ก แครํก"
ชิ้นส่วนที่ได้สัมผัสกับดาบก็ได้หลุดออกและกลายปเป็นเศษหินเล็กน้อยที่ร่วงหล่น หลังจากการป้องกันการโจมตีห้าหกครั้ง โกเลมก็ได้ลมลงและหยุดเคลื่อนที่ไปด้วยตนเอง เมื่อโกเลมลมลงเสียงหัวเราะแหลมก็ได้ดังออกมาผ่านพระราชวัง
"โอ้ โฮ่ โฮะ ๆๆๆ"
มีผู้หญิงได้เดินลงมาจากมันไดอย่างช้าๆเธอือบอลของแมพนี้ แม่มดน้ำแข็งโอเลีย
"นายจะต้องไม่เห็นคุณค่าของชีวิตแล้วสินะ ถึงได้เลือกที่จะมาที่นี่"
จากนั้นเธอก็พูดคำที่ไร้ประโยชน์ต่อซังจิน แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเธอเลย เขากำลังแก้ไขสถานการณ์สวาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกในใจของเขา
'อืมม...มาดูกันในตอนนี้...สถานที่ไหนกันที่เหมาะสมที่จะทดสอบแหวนของจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่'
เขาสามารถจะใช้แหวนได้แค่วันละครั้งเท่านั้น ในขณะที่เขากำลังคิดเรื่องนี้
[คำเตือนบอสมอนสเตอร์ แม่มดน้ำแข็งโอเลียปรากฏตัว]
"ถ้างั้นมาเป็นส่วนหนึ่งของคอเล็คชั่นของฉันซะ"
บอสได้เริ่มโจมตี ซังจินได้เก็บมูนสเปคลงไปในตอนนี้และหยิบเอาอาเทอร์มิโอออกมาในทันทีที่เธอร่ายเวทย์
"การแพร่กระจายความตาย"
ซังจินได้ยกอาเทอร์มิโอขึ้นและตะโกนออกมา
"ดูดเวทย์"
ลูกแก้วที่เธอได้สร้างขึ้นได้ระเบิดออกในทันที และเติมเต็มทั่วทั้งห้องให้กลายเป็นเต็มไปด้วยเกล็ดน้ำแข็งแหลม ซังจินได้รอเวลาที่จะใช้อาเทอร์มิโอตีกลับไป
ทันใดนั้นเองน้ำแข็งแหลมที่ได้กลายไปเป็นเศษนับไม่ถ้วยได้ลอยกลับมารวมเป็นจุดเดียวและเริ่มถูกดด้วยไปด้วยอาเทอร์มิโอ
'อืมมม...ถ้างั้นนี่ก็คือวิธีที่ดี'
เมื่อซังจินได้ตรวจสอบในผลของอาเทอร์มิโอที่ใช้ในครั้งนี้ เขาก็ได้พุ่งเข้าใส่โอเลีย เมื่อเธอได้เห็นเวทย์หายไปโดยไร้ผลใดๆ เธอก็โบกมือซ้ายที่ยังทำไม่เรียบร้อยทันที ทันใดนั้นเองกำแพงน้ำแข็งสูงก็ได้เกิดขึ้นกั้นระหว่างซังจินกับเธอ
'นี่มันคือ?'
ซังจินได้ตัดกำแพงไปด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวด้วยบลัดเวเจนและเขาก็กลับไปไล่ตามแม่มดต่อ จากนั้นเขาก็เห็นเมฆแก๊ซสีขาวลอยเข้ามาหาพวกเขา
ตาของซังจินได้เปิดขึ้นเมื่อเห็นการโจมตีที่กำลังเข้าและเขาก็ถอยไปด้านหลัง เมฆนี้มันไม่มีอะไรอย่างอื่นนอกเหลือไปจากของเหลวที่มีอุณหภูมิศูนย์องศา ซึ่งมันเป็นไอเทมเวทมนตร์ที่ทำให้ตัวแข็งเมื่อได้สัมผัส โอเลียได้ปัดหมอกออกไปขฯะมราเธอเดิยเข้ามาซังจินอย่างช้าๆ
'สิ่งๆนี้มีปัญหา'
วัสดุที่เธอกำลังปล่อยออกมามันอันตราย จากการเคลื่อยไหวแบบช้าๆไปจนก่อนที่จะสามหรือสี่วินาทีสุดท้าย เมื่อสิ่งใดได้สัมผัสกับมันจะกลายไปเป็นปฏิมากรน้ำแข็งทันที
จากนั้นเธอก็ได้ใช้ปลายแหลมของคทาที่มันเป็นรูปวงน้ำแข็งเพื่อแทงไปที่คอของรูปปั้นน้ำแข็งนั้น มันเป็นวิธีการที่น่ารังเกียจมาก
ฏชคดีที่ว่าผลของมันขึ้นอยู๋กับระยะทาง ดังนั้นซังจินจึงถอยห่างออกไปและจากนั้น
"ย้าา"
เขาได้ปล่อยบลัดเวเจนออกไปใส่เธอ แม่มดได้ยกกำแพงน้ำแข็งขึ้นมาเพื่อป้องกันดาบ บลัดเวเจนได้กลายเป็นติดอยู่ในน้ำแข็งและ
"ฮ่าห์"
มันไม่สามารถจะเรียกกลับมาได้ด้วยผลของไอเทม
"อา....น่ารำคาญ..."
หลังจากถูกป้องกันไปได้สองครั้ง ซังจินได้ตัดสินใจที่จะใช้แหวนของจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ เขาได้ดึงดาบเล่มหม่ออกมา ดาบเล่มนี้มันจำเป็นที่จะต้องใช้คู่กับแหวน และจากนั้นเขาก็พูดออกมา
"อำนาจเวทย์มนตร์" (ขอแก้จากจักพรรดิเวทมนต์นะ ตาลายอ่านผิดอีกแล้ว)
แหวนของซังจินได้เริ่มเรืองแสงออกมา แม่มดก็ได้เข้ามาใกล้ๆเขา ซังจินได้ถอยหลังกลับไปในขณะที่ร่ายเวทย์
"จงเผาทุกอย่างในเส้นทาง"
แสงสว่างของแหวนได้เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงราวกับว่าแหวนมันจะระเบิดจึ้น และอาเรียนที่ซังจินถืออยู่ก็เริ่มส่งเสียงแปลกๆ
"วิ้งง"
ครู่หนึ่ง ซังจินก็ร่ายเวทย์เสร็จสิ้น
"บอลไฟ"
เมื่อการร่ายจบลงแสงสว่งก็ได้ทำให้ตาของซังจินพร่ามัวราวกับว่าเขาเปิดไฟหลังจากที่อยู่ในทีมืดเป็นเวลานาน
'นี้มันอะไรกัน?'
ซังจินได้ถามกับตัวเอง ลูกไฟที่มีขนาดทที่ไม่น่าเชื่อได้พุ่งออกมาจากตัวเขา เขาอยู่ใกล้มันมากและสามารถจะเห็นได้เพียงแค่แสงสว่าง
บอลไฟมันได้พุ่งไปยังแม่มดน้ำแข็ง เธอได้สร้างกำแพงขึ้นมาใหม่ด้วยความประหลาดใจและ
"ตูมมมมมมมมม"
บอลไฟได้ระเบิดออกมาด้วยเสียงดังก้องหนวกหูเมื่อมันได้สัมผัสกับกำแพง แต่ว่าเปลวเพลิงมันก็มีลักษณะคล้ายกับบอลไฟลูกๆก่อนๆ
ซังจินได้ถูกผลักถอยไปจากเวทย์ที่เขาได้ใช้ออกมา ครู่หนึ่งโอเปอเรเตอร์ก็ได้ประกาศขึ้น
[บอสมอนสเตอร์แม่มดน้ำแข็งโอเลียได้ถูกกำจัดแล้ว]
ในขณะเดียวกัน
"ติ้ง"
หยดน้ำได้ไหลลงมาตามคอของซังจิน
'หนาว'
ซังจินได้เงยหน้าขึ้นไป และเมื่อเขาทำเช่นนั้น
"ติ้ง ติ้ง ติ้ง"
หยดน้ำหลายหยดได้ร่วงลงมาบนใบหน้าของเขา บอสไฟเมื่อตะกี้นี้มันได้ทำให้เส้นทางและกำแพงทั้งหมดได้ลังลายไปกลายเป็นหลุมบ่อ ซังจินได้มองไปรอบๆ
'มันไม่ได้กำลัง...จะพัง ใช่ไหม?'
แต่หลังจากนั้นไม่นาน
"คลืน คลืน"
พระราชวังทั้งหมดได้เริ่้มพังทลาย ซังจินได้ตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบๆ บลัดเวเจนที่ติดอยู่บนกำแพงได้ตกลงมาที่พื้นและอยู่ในบ่อน้้ำ ซังจินได้เก็บอาเรี่ยนกลับไป
"ฮ่าห์"
และเขาก็ได้เรียกบลัดเวเจนกลับมาก่อนที่จะออกไปจากพระราชวัง
"แครกกกก คลืน"
เมื่อมันเริ่มที่จะถล่มลงมาอย่างจริงจังแล้วมันก็จะไม่ได้ใช้เวลานานนักที่พระราชวังจะพังทลายไปหมด ซังจินได้มองดูมันจากไกลๆ
ซังจินได้เงยหน้าขึ้นและเห็นว่าพายุหิมะมันได้หายไปหมดแล้ว เมื่อแม่มดน้ำแข็งถูกกำจัด หิมะก็ได้หยุดลง
"วูววว"
ซังจินได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งออกและเดินไปหาไอเทมชิ้นต่อไปนั่นคือชิ้นส่วนลับ เขารู้ที่ๆบอสลับอาศัยอยู่ๆแล้ว
แต่ว่าที่ๆเขาต้องการจะรู้ในตอนนี้ก็คือสถานที่ๆชิ้นส่วนลับอยู่ ซังจินกำลังจะเรียกโอเปอเรเตอร์เพื่อที่จะใช้ฉายานักล่าสมบัติ
แต่แล้วเขาก็ได้สังเกตุเห็นบางสิ่งบางอย่างที่ส่องประกายออกมาจากภายในเศษซากหินของพระราชวัง มันเป็นดาวหกแฉกที่ซึ่งห้อยลงมาจากด้านบนของเพดานพระราชวัง
'นั่นคือ...'
สิ่งที่น่าสนใจก็คือความจริงที่ว่าชิ้นส่วนอื่นๆได้ถูกละลายและพังลงเนื่องจากความร้อยที่รุนแรง แต่ว่าดาวดวงนี้มันเป็นเพียงอย่างเดียวที่ยังคงอยู่และไม่สะทกสะท้านกับอะไรเลย มันได้ให้แสงสว่างออกมา
ซังจินได้เดินเข้าไปหาสิ่งๆนี้ เขาได้ยืนอยู่บนเสาในขณะที่หยิบมันขึ้นมาก
"อึก..."
มันเย็นอย่างมาก แต่ว่าจากนั้นครู่หนึ่งโอเปอเรเตอร์ก็ได้พูดออกมา
[ขอแสดงความยินดีด้วยท่านได้รับชิ้นส่วนลับดาวแห่งฤดูหนาวแล้ว]