Chapter 121 – Black Market Tenth Shopping (10) [17-02-2020]
Chapter 121 – Black Market Tenth Shopping (10)
”
หน้าต่างแรกของคนแรกที่ได้โผล่ออกมาก็คือฟรานซ์ เขาดูเหมือนกับว่ายังไม่ได้นอนหลับเลย เขาได้ตอบกลับมาในชณะกระพิบตา
"หืมมม? เคหรอ? นายทำได้ยังไง..."
"สิ่งนี้ นายยังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม?"
"ฉันเพิ่งจะเตรียมตัวกินข้าวเอง"
"มาเถอะ มากินอาหารเช้าด้วยกัน"
"แต่ว่านายทำได้ยังไง..."
"ฉันมีไอเทมใหม่"
จากนั้นอีกด้านหน้าของจอ ลูกบาศก์ก็ได้ถามกับฟรานซ์
[ผู้เลือกสรรได้ร้องขอการอัญเชิญคุณ คุณจะยอมรับไหม?]
เขาได้มองไปที่ลูกบาศก์ก่อนที่จะตอบกลับมา
"ฉันจะไปหลังจากที่ล้างหน้าของฉัน"
"แน่นอน"
คนที่สองที่ได้โผล่ออกมาก็คือเซริน
"อะไร...หือ...โอปป้า?"
เธอกำลังนั่งอยู่บนโต๊ะอาหารของโรงแรม เธอได้สวมอุปกรณ์รบเต็มรูปแบบของเธอและเธออาจจะทำการเตรียมพร้อมสำหรับการจู่โจมเสร็จแล้ว
"มันเป็นไอเทมใหม่นะ...เธอกินข้าวเช้ามาหรือยัง?"
"ไม่ ฉันกำลังจะสั่ง..."
"ถ้างั้นมาที่นี่และกินมันด้วยกัน"
"โอเค ฉันจะไปโอปป้า"
ทั้งสองคนได้มาปรากฏตัวอยู่ข้างๆกับซังจิน พวกเขาได้มองไปรอบๆโณงแรม นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้มามิติอื่น
แต่ว่ามันก็ไม่มีอะไรที่แตกต่างกันเลยย นอกเหลือไปจากตะเกียงและยักษ์สีฟ้า ซังจินได้พูดกับพวกเขา
"นั่ง"
ทั้งสองคนได้นั่งลงไปบนเก้าอี้ที่ใกล้ตัวที่สุด และจากนั้นพวกเขาก็เริ่มมองไปที่กันและกัน ซังจินอย่างจะแนะนำให้พวกเขารู้จักกัน แต่ว่านาดายังไม่ได้มา
'มันจะถ้าหากว่าแนะนำตัวกันแค่ครั้งเดียว...'
แต่ว่าฟรานซ์ก็ได้ทักทายเซรินก่อน
"ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉันฟรานซ์ โฮเซนฟิล"
"สวัสดี ฉันเซริน ฮาน"
แต่ว่ามันยังคงไม่มีการตอบสนองจากนาดา
'นี่มันอะไรกัน...มันทำงานผิดพลาดงั้นหรอ?'
ซังจินกำลังตรวจสอบคทาของเขาเมื่อนั้นเองในที่สุดหน้าต่างของนาดาก็ได้ปรากฏออกมา ซังจินสามารถรู้ได้เลยทันทีว่าทำไมเธอจึงตอบกลับช้า
ในหน้าจอนาดาใส่เพียงแค่เสื้อคลุมอาบน้ำเท่านั้น เขาจะต้องอัญเชิญเธอมาในตอนที่กำลังอาบน้ำแน่นอน เธอได้ถามกลับมาด้วยเสียงที่สูงเล็กน้อย
"สิ่งนี้มันหมายความว่ายังไงกัน?"
ซังจินกำลังตื่นตระหนก แต่ว่าเขาก็ได้ตอบกลับไปด้วยเสียงที่สงบ
"อา...ฉันพยายามจะให้ทุกคนที่ถูกเลือกมาพบกัน..."
เธอได้มองผ่านซังจินไปที่ทั้งสองคนที่นั่งอยู่เบื้องหลังของเขา และลูกบาศก์ของเธอก็พูดออกมา
[คุณต้องการจะยอมรับการอัญเชิญหรือไม่? หากไม่ตอบสนองใน 3 นาทีจะเป็นการปฏิเสธไปโดยอัตโนมัติ]
เธอได้มองไปที่ลูกบาศก์และพูดออกมา
"...ไม่มีปัญหา ฉันจะไปที่นั่นเร็วๆนี้แน่นอน"
และสองนาทีต่อมาเธอก็ได้ปรากฏตัวออกมา เธอได้เปลื่ยนไปเป็นใส่เสื้อผ้าปกติ แต่ว่าผมของเธอยังคงเปียกอยู่เล็กน้อย เธอจะต้องเร่งรีบมาอย่างมากแน่ๆ
อย่างไรก็ตามในตอนนี้ในที่สุดพวกเขาทั้งสี่คนก็ได้มานั่งอยู่ในโค๊ะตัวเดียวกัน ซังจินได้ปรบมือครั้งหนึ่งและพูดออกมา
"เอาหละในตอนนี้...ฉันจะแนะนำทุกคนให้รู้จักหันตามลำดับเลย...เริ่มแรกจากฟรานซ์...นายมีนามสกุลว่าโฮเซนฟิลใช่ไหม?"
ฟรานซ์ได้หยักหน้ารับ
"ใช่แล้ว ฟราน โฮเซนฟิล ชาวออสเตรีย เขาเป็นผู้ใช้ดาบสองมือ...เขามีทักษะและความน่าสนใจมาก...ดังนั้นฉันจึงเลือกเขา หลังจากที่ได้ประดาบกับเขาอย่างจริงจังแล้ว"
ฟรานซ์ยังคงจำในตอนนั้นได้ดี เขาได้เอามือลูบไปบนหัวและพูดออกมา
"ฟรานซ์ ยินดีที่ได้รู้จักนะทุกคน"
"คนที่สองนาดา เธอนั้นมาจากสเปน"
แล้วเธอก็ได้พูดออกมา
"หืมม? นายรู้ได้ยังไง? ฉันไม่คิดว่าฉันได้บอกนายไปนะ?"
ซังจินได้ตัวแข็งเมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอได้บอกสัญชาติของเธอกับเขาในระหว่างการจู่โจมแรกเลย ใกล้ๆกับบทที่ทุกคนถูกลบออกไป
"...เธอบอกฉันเมื่อคืน เธอจำไม่ได้หรอ?"
"หืมม..."
นาดาได้จับไปที่ริมฝีปากของเธอในขณะที่พยายามนึกย้อนไป แต่ว่าเธอก็ไม่เชื่อว่าเธอจะลืมว่าเธอได้บอกเขาไปแต่ว่ามันก็ไม่มีทางอื่นนอกเหนือไปจากนี้ที่เขาสามารถจะรู้ได้
"อย่างไรก็ตามเธอเป็นทั้งผู้ใช้เวทย์และมีดสั้นที่เชี่ยวชาญ ดังนั้นฉันจึงเลือกเธอ"
นาดาได้กอดอกของเธอในขณะที่พูดกับเซรินและฟรานซ์สั้นๆ
"สวัสดี"
"คนสุดท้ายเซริน ฮาน เธอเป็นคนเกาหลีเหมือนกับฉัน เรื่องหนึ่งที่น่าสนใจก็คือเธอเป็นหนึ่งในตัวแทนนักกีฬาโอลิมปีกระดับประเทศและยังได้รับรางวัลเหรียญทองมาอีกด้วย"
ฟรานซ์ได้เปิดปากพูดออกมา
"อา...ฉันคิดไว้แล้วว่าเคยเห็นเธอมาก่อนหน้านี้...ฉันคิดว่าฉันเคยเห็นเธอบนอินเตอร์เน็ตในรายกายผู้หญิงที่สวยงาม สตาร์โอลิมปิก..."
เซรินได้ยกมือข้างหนึ่งมาปิดใบหน้าที่แดง ซังจินได้ยิ้มออกมาในขณะที่พูดออกไป
"เอาหละ ในประเทศของเราเธอนั้นเป็นฮีโร่เธออาจจะเป็นนักธนูที่แข็งแกร่งมากยิ่งกว่าคนอื่นๆทั้งหมด
ซังจินได้คำนับในขณะที่มือยังคงปิดใบหน้าอยู่และพูดออกมา
"ยินดีที่ได้รู้จักทุกคน"
เมื่อการแนะนำได้จบลง ซังจินก็ได้ชี้ไปที่แผ่นข้อมูล
"ต่อจากนี้ไป ถ้าหากไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฉันก็อยากจะเรียกทุกๆคนมากินอาหารเช้าและมาพูดคุยเกี่ยวกับการจู่โจมครั้งต่อไปกัน"
ทักครได้หยักหน้ารับ
"ถ้างั้นเรามาสั่งอาหารกันก่อน เราสามารถจะพูดไปด้วยได้ในขณะที่กินข้าว ดารูปิน"
ซังจินได้เรียกดารูปินมา นักล่าทั้งสี่คนก็ได้สั่งอาหารเช้ากับดารูปินอย่างคุ้นเคย ซังจินและคนอื่นๆได้เลิอกอาหารของพวกเขาจนเต็มโต๊ะและในขณะเดียวกันพวกเขาก็เล่าเรื่อยงราวต่างๆในขณะที่กินมื้อเช้่า
"ในตอนนี้ฉันได้คิดเกี่ยวกับมัน...นาดาใช้เวทมนตร์ แล้วฟรานซ์กับเซรินหละใช้เวทย์ได้ไหมฦW
"ไม่ ฉันแทบจะไม่มีเวทย์อะไรเลย"
"ฉันก็ด้วย ฉันได้พยายามมันในอดีต แต่ว่าการเพิ่มความแข็งแรงและความแข็.แกร่งมันคุ้มค่ามากกว่าสำหรับนักธนู"
"ใช่แล้ว ฉันรู้ แต่ว่าพวกนายได้รับโบนัสสเตตัสไปจากฉัน พลังเวทย์และพลังจิตใจ"
"ใช่"
"นั่นคือความจริง"
"ถ้านายต้องการที่จะใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มี แล้วทำไมไม่ลองเรียนเวทย์ซักบทสองบทหละ?"
"หืมม..."
"ฉันเดาว่านั่นมันก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องเช่นกัน"
"เมื่อการจู่โจมจบลง ทั้งสองคนลองไปที่ตลาดมืดดูปล้วดูว่ามีเวทย์ไหนเหมาะสมกับพวกนายมั้งและลองเรียนมันดูซักอย่างสองอย่าง ถ้าเป็นไปได้ให้ลองดูสีเวทย์ก่อนที่จะเรียน
"โอเค เข้าใจแล้ว"
"แต่ว่าทำไมพวกเราจะต้องเลือกสี?"
เซรินได้ถามออกมา แต่นาดาก็ได้ตอบแทนไป
"ฉายาเกี่ยวกับเวทย์ส่วนใหญ่มันจะมีแนวโน้มที่จะเพิ่มพลังเวทย์เพียงแค่สายสีเดียวเท่านั้น เช่นเดียวกับผลโบนัสเพิ่มพลังจอมเวทย์ดำ หรือลดมานาที่ต้องใช้ของเวทย์ดำ...สิ่งต่างๆแบบนี้"
"อ่า...จริง? ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณนะนาดา"
จานั้นทั้งสามคนก็ได้สนทนากันไปโดยที่ไม่จำเป็นจะต้องให้เขาเข้าไปมีส่วนร่วม
"แต่ว่านาดาเคยเรียนใช้มีดสั้นมาไหม?"
ซังจินได้ฟังทั้งสามคนพูดกัน ตอนนี้เขาคิดว่าการเลือกสมาชิกตามแต่ใจตนเองมันอาจจะนำไปสู่ปัญหาในภายหลัง
ในีรอบก่อน 10 คนสุดท้าย สมาชิกของพวกเขาได้กระทบกระทั่งกัน พวกต่างก็เกลียดกันและกัน อิลลิชเกลียดชักมุสตาฟาเนื่องจากว่าเขาโง่ และอรูวโจมักจะดุว่าเอ็ดเวิร์ด
นายดายังคงหลีกเลี่ยงอัมคูบ้าที่ทำตัวแปลกๆเช่นกัน และริวชินก็ได้หยิบเรื่องจักวรรดินิยมญี่ปุ่นขึ้นมาและทำให้เขาต่อสู้กับซันซุเกะ
'ทั้งสามคนนี้ดูเหมือนจะไม่เป็นไร...แต่ว่าคนอื่นๆจะต้องเป็นแบบพวกเขาเช่นกัน...'
ซังจินได้คิดไปถึงสิ่งต่างๆในขณะที่กินอาหารเช้า แล้วในขณะเดียวกัน เขาก็ได้นึกถึงความสามารถของดวงตายเจเรมีทที่สามารถใช้ฟังความคิดคนอื่นๆได้
'...ฉันควรจะทดลองมันดูไหม?'
มันมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้ตระหนักถึงการมีอยู่ของต่างหู ซังจินได้แสดงทำเป็นจะพาดแขนแล้วแอบสัมผัสไปที่ต่างหูเพื่อที่จะใช้ต่างหูเมื่ออ่านความคิดของคนอื่นๆ 10 วินาที
'โชคดีมากที่ได้มีการมากินข้าวเข้ากับผู้หญิงที่สายเช่นนี้ ฉันในตอนนี้สามารถจะเข้าไปสู่การจู่โจมด้วยแรงจูงใจเต็มที่"
ฟรานซ์นั่นเป็นชายหนุ่มที่อ่านออกง่าย ซังจินก็ชอบเขาที่เป็นเช่นนี้
'แต่แม้ว่าพวกเราจะมีพรรคพวคกันแล้ว...แต่ว่าในตอนนี้พวกเราก็ไม่สามารถจะเข้าไปจู่โจมพร้อมกันได้?'
นาดาได้คิดเกี่ยวกับในเรื่องที่ต่างออกไป
'ว้าว ดูสิหน้าอกของคุณนาดามันใหญ่มาก...'
เซรินคงจะต้องแอบมองที่หน้าอกของนาดาแน่นอน หน้าอกของเธอนั้นดึงดูดแม้แต่คนที่เป็นเพศเดียวกัน แต่จากนั้นเสียงของเธอก็ได้ดังต่อออกมา
'ในตอนนี้ฉันก็คิดออก...เธอได้เรียกโอปป้าซังจินว่านายหน้าอก...'
"แค่กๆ"
ซังจินได้ไอออกมาไม่หยุด อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้คิดไปลึกขนาดนั้น มันเริ่มต้นด้วยการเพาะสร้างความไม่พอใจระหว่างการจู่โจม ตอนมื่อเช้ามันเป็นช่วงเวลาที่เงียบสงบจึงทำให้ไม่มีการทะเลาะกันมากนะ
'เอาหละ มันจะเยี่ยมขึ้นอีกถ้าพวกเขาสามารถจะได้กลายไปเป็นเพื่อนกันหลังจากนี้'
ซังจินได้กินอาหารเสร็จสิ้นแล้ว เมื่อเขากินเสร็จเขาก็ได้โบกมือให้กับทั้งสามคน
"งั้นไว้เจอกันใหม่ในวันพรุ่งนี้เช้านะเมื่อการจูโจมจบลง ทุกคน"
แต่ละคนได้กลับไปที่มิติของตนเอง มันได้ใช้เวลาไป 30 นาทีก่อนที่การจู่โจมจะเริ่ม เมื่อทุกคนได้จากไป ซังจินก็ได้กอดอกและนั่งลงบนที่ของเขา
การจู่โจมครั้งถัดไปคือการจู่โจมแบบ 5 คน หลังจากได้ผ่านแบบ 10 คนมาแล้ว 3 ครั้ง การจู่โจมแบบห้าคนมันจึงไม่ได้ทำให้เขากังวลอีกต่อไป
'การจู่โจม 10 คนรอบถัดไปจะเป็น...ในบทที่ 14 ใช่ไหมนะ?'
ซังจินได้ให้ความสนใจไปที่การจู่โจมแบบ 10 คนรอบต่อไป
'จากจุดนี้เป็นต้นไป...ฉันจะต้องตั้งเป้าหมายไปที่การจัดการการจู่โจมแบบ 10 คนด้วยตัวคนเดียวเท่านั้น'
ซังจินได้คิดจึ้น นี่มันเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการที่จะลดความไม่แน่นอนในการจู่โจมนั่นคือการที่เขาจะต้องแข็งแกร่งขึ้นด้วยตัวเอง
'ฉันจะต้องทำให้ดีที่สุดในทุกๆครั้ง'
และในตอนนี้ ทุกๆครั้งเขาจะเติบโตขึ้น ผู้ถูกเลือกก็จะเติบโตไปตามเขา เขาในตอนนี้ไม่ใช่แค่พยายามกับตัวเองเท่านั้นแต่จะต้องพยายามเลือกคนอื่นอีกด้วย
และครู่หนึ่งเขาก็ได้นึกไปถึงพ่อค้าในมืดมิดยิ่งกว่าสีดำ
'บางทีอาจจะมีแม้แต่กบฏ'
นี่มันเป็นปัญหาที่ยากจะแก้ไขเนื่องจากว่าเขาไม่สามารถจะอ่านเนื้อแม้ของทุกคนได้ ซังจินได้จับไปที่ต่างหูของเขา
"ถอนการสวมใส่"
เขาได้มองไปที่มัน ด้านในมันมีอัญมณีสีม่วงที่กำลังหลับอยู่มองกลับไปที่ซังจิน
'นี่มันเป็นนเพียงแค่ 10 วินาที'
ซังจินได้จ้องไปที่ แต่จากนั้นเขาก็ไม่ได้เกิดเหตุการอะไรขึ้น
'มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าฉันแข็งแกร่งขึ้นเพือที่จะพวกเขาไม่กบฏ'
มันเป็นความจริง นักบวชผู้ที่เป็นฆ่าตกรก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้เมื่อเขายังอยู่
'ผู้ถูกเลือกได้รับ 20% จากสเตตัสของฉัน...และสเตตัสของฉันก็ได้รับมาจากฉายาสุดยอดนักล่า ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถจะเอาชนะชั้นได้ในด้านโบนัส ฉันจะชนะ 1 ต่อ 1 แบบขาดลอบ ถ้าหากว่ามันมีกบฏจะเกิดขึ้นจะต้องมีอย่างน้อยสองหรือสามคน
ซังจินได้คิดอยู่ครู่หนึ่งว่าการจะต่อสู้กับเซริน นาดา และฟรานซ์เขาจะต้องทำยังไง อย่างไรก็ตามมีทั้งดาบ จอมเวทย์ นักธนู ตำแหน่งของพวกเขาไม่ได้ทับกันเลย
"หืมมม...มันจะต้องไม่ง่ายเลย"
ซังจินยังคงนึกถึงมันภายในจิตใจ
"เริ่มจากการอัญเชิญเคนและซาดาเมียร์เป็นอย่างแรก...มีพงศาวดารสามก๊กที่อ่านด้่วยตัวเองอัตโนมัติ...อา เซรินก็ยังมีเรื่อง1001ราตรีอยู่อีกด้วย หืม...ในกรณีนั้น"
เขาได้นั่งจำลองสถานการณ์เล่นๆในหัวของเขา ในที่สุดซังจินก็ได้บทสรุปออกมา
'มันใกล้เคียง แต่ฉันก็สามารถจะชนะได้'
มันเป็นเรื่องยากแต่ว่าเขาก็มั่นใจว่าสามารถจะเอาชนะได้ ก่อนหน้านี้ในการจู่โจมของคาลกัลป์เขาจะต้องสูยเสียแรงไปมากอย่างแน่นอน แต่ว่าซังจินในตอนนี้มีอำนาจของแหวนอยู่ที่ด้านข้างของเขา
ปัญหาหลักๆเลยก็คือการแอบมาแทงมันจากด้านหลังในช่วงที่วุ่นวาย มันเป็นช่วงเวลาที่เปราะบางมากที่สุดสำหรับการทรยศ เหตุผลที่ว่าทำไมเอ็ดเวิร์ดถึงได้ทำลายทีมตัวเองอาจจะเพราะว่าเขาเผชิญหน้ากับราชาปีศาจ
เอ็ดเวิร์ดนั้นแข็งแกร่ง แต่ว่าเขาก็ไม่สามารถจะสู้ชนะได้ด้วยตัวคนเดียว ซังจินได้หลับตาลงไปและคิดต่อ
'ฉันจะต้องกรองสมาชิกให้ดู...และเฝ้าติดตามมันอย่างรอบคอบ...และ...ฉันจำเป็นจะต้องแข็งแกร่งขึ้นที่จะสามารถจะกำลัดองประกอบใดๆที่ไม่มีสเถียรภาพเพื่อที่จะสามารถทำให้การจู่โจมจบลงไปได้'
และจากนั้นเองเขาก็ได้ถูกเทเลพอตไป ไปยังการจู่โจมที่ 11 ที่ๆคาริฮาราน ฟรอสต์เพลน