บทที่ 29 - ฉันได้ยินเสียงของคุณ (6)
บทที่ 29 - ฉันได้ยินเสียงของคุณ (6)
”
[ว้าว ธาตุสายฟ้านี่นา]
[มันเป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้เห็น]
[สวยอะไรอย่างนี้ เธอขโมยหัวใจฉันไปแล้ว]
[หัวใจ...ขโมย?]
[อา เธอได้ทำพันธะสัญญากับผู้ใช้ธาตุ]
ฉันสามารถจะได้ยินเสียงของธาตุรอบๆตัวของฉัน วิญญาณที่เปล่งประกายพวกนี้ได้ทำให้โลกสว่างขึ้นในแบบที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน ทัศนียภาพอันสูงส่งนี้มันได้ทำให้ฉันหลังรักจนทำให้ฉันพูดไม่ออก
ทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นทันทีที่ฉันได้กลายมาเป็นผู้ใช้ธาตุ ถึงแม้ว่าความถี่ของธาตุจะไม่ได้ตรงกันกับฉัน แต่เพียงแค่การได้รู้ว่ามีธาตุในโลกนี้มากแค่ไหนมันก็ทำให้ฉันเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ไม่สามารถจะอธิบายได้
[นายท่านไม่จำเป็นต้องมองธาตุอื่นหรอก นายท่านมีฉันแล้ว]
"ฮ่าๆ น่าไว้ใจอะไรอย่างนี้ แต่ว่าเธอยังคงอ่อนแอนะ?"
[นะ นั่นมัน...ฉันจะแข็งแกร่งขึ้นในเร็วๆนี้]
ฉันอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาให้กับสายตาของไพก้าที่ยืนอยู่บนไหล่ของฉันและประกาศความตั้งใจของเธอออกมา ฉันรู้ว่าไพก้านั่นเป็นธาตุที่แข็งแกร่งและเธอก็จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ เธอเป็นธาตุระดับยูนิคที่มีความสามารถในการรับรู้และมีชื่อของตัวเอง แถมเธอก็ยังมีความลับที่ฉันไม่รู้อีกด้วย อย่างไรก็ตามในตอนนี้ไพก้ายังคงอ่อนแออยู่
ธาตุทั้งหมดจะเป็นแบบนี้ พวกเขาจะมีพลังที่แข็งแกร่งขึ้นโดยการเชื่อมต่อสื่อสารกับเจ้านายที่ทำสัญญาอย่างต่อเนื่อง ไม่มีธาตุใดๆที่จะแข็งแกร่งตั้งแต่ช่วงเวลาที่มันเกิดขึ้นและเริ่มทำสัญญา แน่นอนว่ามันก็มีข้อยกเว้นอยู่บ้างเช่นกัน
โดยทั่วไปโดยการใช้เวลาร่วมกันกับวิญญาณธาตุและผู้ใช้ธาตุจนคุ้นเคย มันจะทำให้ธาตุแข็งแกร่งขึ้น ความเร็วและขีดจำกัดในการเติบโตจะขึ้นอยู่กับธาตุแต่ละตน มันกำหนดได้โดยความแข็งแรงของธาตุ อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งหมดจะเริ่มในจุดเริ่มต้นเดียวกัน
"เอาล่ะไปกันเถอะไพก้า"
ขณะที่ฉันกำลังคุยอยู่กับคู่หูที่น่ารักของฉัน ทันใดนั้นฉันก็ได้นึกถึงแผนที่ได้วางเอาไว้สำหรับในวันนี้
'ส่วนสุดท้าย'
การต่อสู้กับมนุษย์หนูตามลำพัง ฉันได้สั่นเล็กน้อย สถานการณ์ในวันนี้มันจะแตกต่างไปจากเมื่อวาน ฉันจะไปต่อสู้กับมนุษย์หนูทมิฬตามลำพัง ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าฉันสามารถจะเอาชนะบอสของชั้นที่ 25 ได้ตามลำพพังด้วยพลังของไพก้าและควบคุมธาตุ...!
[คัง ชินทำผลงานได้สูงที่สุด เลือกรางวัลของคุณ]
[1.เสื้อกั๊กหนังของมนุษย์หนูทมิฬ
2.โพชั่นขนาดกลาง
3.หมวกหนังของมนุษย์หนูทมิฬ
4.600 ทอง
5.ถุงมือหนังของมนุษย์หนูทมิฬ]
มีมัน! ฉันได้กำหมัดแน่น ถ้าไอเทมส่วนนี้ไม่ได้ดรอปลงมา ฉันจะต้องต่อสู้กับบอสอีกครั้ง โชคดีที่ว่าฉันพาคนมาทั้งหมด 4 คน ฉันได้เลือกถุงมือหนังของมนุษย์หนูทมิฬด้วยรอยยิ้ม
"ว้าว พี่ชายองค์รัชทายาทได้เลือกไอเทมนั้นไปแล้ว แต่ว่ามันยังคงเหลืออีกสองชิ้น"
"พี่ชายรัชทายาทนั้นไม่มีใครที่จะสามารถมาแข่งกับเขาในการล่าบอสได้เลย"
"เขาเป็นผู้ใช้ธาตุ พวกเขาเหล่านี้เป็นคนที่เราไม่สามารถจะเข้าใจได้"
"ทำไมฉันถึงไม่เคยได้ยินว่าพี่ชายรัชทายาทเป็นผู้ใช้ธาตุเลยล่ะ?"
"เขาจะต้องซ่อนมันเอาไว้"
"ทำไมล่ะ?"
"ฉันก็ไม่รู้ อย่างที่ฉันพูดไปผู้ใช้ธาตุเป็นคนที่พวกเราไม่สามารถจะเข้าใจได้"
ในขณะที่คนในปาตี้ของฉันกำลังคุยกันเกี่ยวกับตัวฉัน ฉันก็ได้ยืนยันเซ็ตอุปกรณ์ทั้งหกชิ้นของมนุษย์หนู เพราะว่าอาวุธนี้ไม่นับรวมในกลุ่มเซ็ตฉันจึงไม่ได้เลือกกรงเล็บของมันมาเลย ราชินีวิญญาณพยาบาทมีเซ็ตทั้งหมดหกชิ้น แต่ดูเหมือนว่ามนุษย์หนูทมิฬจะมีเซ็ตทั้งหมดเจ็ดชิ้น
"ทำได้เยี่ยมมากทุกคน ฉันจะต้องไปแล้วในตอนนี้"
"ขอบคุณมากพี่ชายรัชทายาท! อย่างที่คาดเลยคุณเป็นฮีโร่"
"ผู้ใช้ธาตุ ฉันอิจฉามากๆ ฉันหวังว่าจะได้พบกับคุณในชั้นที่ 20 ด้วยเช่นกัน"
'นี่มันอาจจะไม่เกิดขึ้น เมื่อถึงเวลาที่นายอยู่ที่ชั้นที่ 17 ฉันอาจจะออกไปจากชั้นที่ 20 นานแล้ว'
แน่นอนว่าฉันไม่ได้พูดมันออกไป ฉันได้แต่ขอให้พวกเขาโ๙คดี ฉันได้เดินออกไปจากห้องบอส ในอีกด้านหนึ่งก็คือโรเล็ตต้าผู้ที่ฉันได้เห็นเป็นครั้งแรกในวันนี้
"คะ คุณลูกค้า?"
"ว่าไง"
"อืมม บนไหล่ของนาย..."
เอ๊ะ? เธอสามารถจะเห็นไพก้า? แม้ว่าผู้ใช้ธาตุจะสามารถทำให้คนอื่นๆเห็นธาตุได้ แต่ฉันก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น นี่อาจจะหมายความว่าเธอก็เป็นผู้ใช้ธาตุที่มีคลื่นตรงกับไพก้าหรือไม่ก็....
[เผ่าพันธุ์โบราณ! มันเป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้เห็นสมาชิกของเผ่าพันธุ์โบราณ!]
ไพก้าได้ตะโกนออกมาด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นโรเล็ตต้า ด้วยสิ่งนี้ฉันก็ได้รับการยืนยันในสิ่งที่ฉันคาดเดา ฉันได้หยักหน้ารับกับตัวเอง เผ่าโบราณเป็นเผ่าพันธุ์ที่ลึกลับซึ่งเป็นตัวแทนสิ่งที่รู้จักกันดีว่าเอลฟ์ แฟรี่ ฮ็อบก็อบลิน และคนแคระ แม้ว่าแม้ว่าธาตุอาจจะถูกมองว่าเป็นตัวตนโบราณที่แท้จริง พวกเขาแตกต่างจาากเอลฟ์หรือคนแคระผู้ที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในโลกในตำนาน
สมาชิกของเผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่สามารถที่จะครอบครองมานาหรือไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถจะเรียนรู้มันเองได้ อย่างไรก็ตามสมาชิกของเผ่าโบราณนั้นเกิดมาพร้อมกับความสามารถในการใช้มานา แม้ว่าพวกเขาจะมีข้อบกพร่องบ้าง แต่ในด้านทักษะพลังเวทย์พวกเขานั้นหาตัวจับได้ยาก
พวกเอลฟ์จะมีควมสัมพันธ์กับมานาและธาตุที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าพวกเขาจะสามารถทำพันธะสัญญาได้หรือไม่ก็ตาม พวกเขานั้นเกิดมาพร้อมกับดวงตาแห่งธาตุซึ่งทำให้สามารถมองเห็นธาตุได้
มันเหมือนว่าโรเล็ตต้าจะเป็นเผ่าโบราณและเป็นเอลฟ์ในที่นั่น ฉันคิดว่าเอลฟ์จะมีหูยาวแหลม แต่ตั้งแต่ที่เธอบอกว่าเธอเป็นหุ่นเชิดที่ถูกสร้างขึ้น เธอก็จะต้องซ่อนรูปลักษณ์ที่แท้จริงเอาไว้
แต่เธอสามารถจะมองเห็นธาตุผ่านหุ่นเชิดได้ยังไง? อา เข้าใจแล้ว มันเป็นความสามารถที่ฝังอยู่ในจิตใจไม่ใช่ในร่างกาย
...เดี๋ยวก่อนนะฉันรู้เรื่องทั้งหมดนี้ได้ยังไง? นี่มันเป็นสิ่งหนึ่งที่ฝังเข้ามาในจิตใจฉันตอนที่กลายมาเป็นผู้ใช้ธาตุงั้นหรอ?"
"คุณลูกค้าคุณได้กลายมาเป็นผู้ใช้ธาตุ ว้าวนี่มันเป็นสิ่งที่ฉันไม่คาดคิดเลย"
"นั่น...มันฟังดูไม่เหมือนคำชมเชยเลยนะ"
"ฉันหมายถึงไม่กี่ปีก่อน นายมีสมองกล้ามและกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย! ถ้าหากมีใครบอกว่านายจะกลายมาเป็นผู้ใช้ธาตุ...ฉันก็จะต้องหัวเราะจนเป็นบ้าไปแน่ๆ"
"ฉันไม่ต้องการที่จะให้เธอพูดถึงเรื่องในอดีตนะ!"
[เธอ เธอเยาะเย้ยนายท่านงั้นหรอ?]
เมื่อไพก้าได้จ้องมองไปที่โรเล็ตตาและถามออกมา โรเล็ตต้าก็ยิ้มและส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม
"คุณธาตุ ลูกค้าและฉันมีความสัมพันธ์ที่พิเศษกันนะ พวกเราเพรยงแค่สนทนากันตามภาษาเพื่อนนะ"
[ฮึ่ม ฉันไม่ชอบเธอ ไม่ต้องพูดถึงว่าเธอกำลังซ่อนอยู่ในหุ่นเชิดอีกด้วย]
ไพก้าได้ทำเสียงขึ้นจมูกและหันหน้าไป ขณะเดียวกันฉันก็ลูบหัวไพก้าเบาๆ จากนั้นก็พูดกับโรเล็ตต้า
"ฉันจะกลับมา มันควรจะใช้เวลาไม่นาน"
โรเล็ตต้าดูเหมือนจะเข้าใจในสิ่งที่ฉันจะสื่อขณะที่เธอได้เผยรอยยิ้มบางๆออกมา
"โชคดี ฉันจะอธิษฐานให้นายปลอดภัยนะ"
"ขอบคุณ"
ฉันได้ตรวจสอบเซ็ตของราชินีวิญญาณของฉันเป็นครั้งสุดท้ายและเตรียมพร้อมยาทุกชนิดในพร้อมกับเตรียมความพร้อมของร่างกาย ในตอนสุดท้ายฉันก็ลูบไปที่หัวของไพก้า
[ฉันไม่ใช่เด็กนะ]
แม้ว่าไพก้าจะตะโกนออกมาและทำแก้มป่องแต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธการลูบหัวของฉัน น่ารักอะไรอย่างนี้ ฉันรู้ดีว่าเธอคิดอะไรผ่าการเชี่อมโยงของพวกเรา
ฉันได้มายืนอยู่หน้าประตูที่ฉันเพิ่งจะปิดไป ด้วยหอกที่อยู่ในมือของฉัน ฉันจึงเตะมันเพื่อเปิดออก
"คุก๊าก๊า มนุษย์ มันเป็นมนุษย์"
"มนุษย์ที่ดูน่าอร่อย"
"ฉันจะทำให้พวกแกทุกตัวกลายมาเป็นสเต็กหนู"
[คุณได้ใช้ทักษะกระตุ้น! ศัตรูที่อยู่ใกล้ๆจะเข้ามาหาคุณ]
'ไม่ว่ายังไงฉันก็จะกินมัน' ฉันคิดว่ามันคือสิ่งที่พวกหนูกำลังคิดอยู่ ฉันได้พุ่งออกไปข้างหน้าพร้อมด้วยหอกที่แหวกเส้นทาง
"ไพก้า ฉันจะปล่อยให้เป็นของเธอ"
[เข้าใจแล้ว]
ขณะที่ฉันเหวี่ยงหอกออกไปท่ามกลางทะเลของมนุษย์หนู ไพก้าก็ได้ลอยขึ้นไปอย่างใจเย็น ขณะนั้นราวกับว่าเธอจะสนุกสนานกับการเยาะเย้ยมนุษย์หนูที่ขวางทางเอาไว้ เธอได้บินผ่านพวกมันไปทางมนุษย์หนูทมิฬ
แม้ว่ามนุษย์หนูทมิฬผู้กล้าหาญจะพยายามโจมตีเธอ เธอนั้นเป็นธาตุสายฟ้า ในขณะที่ธาตุลมจะรวดเร็ว ธาตุน้ำจะอ่อนนุ่ม ธาตุดินจะแข็งแรง และธาตุไฟจะร้อนแรง ธาตุสายฟ้านั้นจะรวมเร็ซและแหลมคม
"เจ้าตัวบินจิ๋ว คุก๊าก๊า ฉันจะขยี้แก!"
[บะ บิน! แก้กล้าที่จะเปรียบเทียบธาตุสายฟ้าที่สูงสงงั้นหรอ? ฉันจะฆ่าแก!]
ฉันสามารถที่จะรู้สึกถึงการถูกดูดมานาออกไปจากฉัน ไพก้าได้นำมานาไปใช้เพื่อใช้พลังสายฟ้าของเธอ แม้ว่ามนุษย์หนูทมิฬจะมีสายฟ้าทมิฬ แต่มันก็ดูเหมือนว่าการโจมตีด้วยสายฟ้าจะได้ผลเพราะมันทำให้เกิดเสียงร้องที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดออกมา เยี่ยมมันเหมือนกับว่าฉฉันจะปล่อยมนุษย์หนูทมิฬไว้กับเธอได้
ฉันรู้สึกได้ถึงความเชื่อมั่นที่ไม่มีที่สิ้นสุดในธาตุของฉัน ฉันได้ดื่มมานาโพชั่นเกรดต่ำลงไปและจดจ่ออยู่กับพวกมนุษย์หนูที่อยู่ตรงหน้าฉัน ฉันยังคงใช้ทักษะกระตุ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อดึงความสนใจของพวกมันมาที่ฉันแล้วใช้ทักษะเสียงกรีดร้องของวิญญาณพยาบาท
"กรี๊ดดดดดดด"
[คุณได้ใช้ทักษะเสียงกรีดร้องของวิญญาณพยาบาท ศัตรูทุกตัวในพื้นที่ติดอยู่ในสถานะสับสนและหวาดกลัว]
พวกมนุษย์หนูในพื้นที่ได้ทำสีหน้าว่างเปล่าและเริ่มกลิ้งไปรอบๆบนพื้นและโจมตีกันเอง ตอนนี้ฉันก็ได้ยกหอกสูงขึ้น
"ธาตุ"
[เจ้าชายกำลังเรียกเรา]
[พวกเราจะต้องทำอะไร? พวกเราต้องทำอะไร?]
[อี้หนู อิ้ว]
"มาที่หอกของฉัน! มาร่วมกันกำจัดพวกหนูที่น่ารังเกียจเหล่านี้!"
[โว้ววว ฉันคนแรกๆ]
[วู้ววว]
สิ่งที่ฉันเตรียมที่จะใช้ก็คือเท็มเพรส เมื่อฉันได้เรียกธาตุที่อยู่ใกล้ๆเข้ามา แสงเล็กราวกับจะยืนยันความมีอยู่ของธาตุได้บินเข้ามาหาหอกของฉัน พร้อมกับการไหลของวงจรเพรูต้าของมานากระแสไฟฟ้าได้หมุนรอบๆหอกของฉันและธาตุตามธรรมชาติก็เริ่มหมุนไปตามกระแส
[สนุกจัง! มันดูจะสนุก!]
[ฉันด้วยๆ!]
[เอาฉันลงไปด้วย]
ไม่ว่าจะเป็นแสงที่จางยังไงเมื่อพวกเขาได้รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ หอกก็ได้แผ่กระจายแสงสว่างจ้าออกมา ถ้าหากเป็นฮีโรอิค สไตรค์มันจะเป็นแสงสีขาวบริสุทธิ์ ส่วนธาตุบนหอกของฉันได้ส่องแสงประกายออกมาเหมือนกับสีรุ้งในเทศกาล
ที่ด้านหน้าของฉันมันเป็นสิ่งที่สวยงานจนฉันเกือบจะลืมที่จะโจมตีออกไป อย่างไรไม่ตามในไม่ช้าฉันก็นึกออกว่าฉันอยู่ในสถานการณ์แบบไหนเนื่องจากว่าธาตุได้ดูดมานาของฉันออกไปอย่างช้าๆ
"ไปที่นั่น เท็ม-"
ไม่สินี่มันแตกต่างไปจากเท็มเพรสของเพรูต้าที่สอนฉันไว้ นี่มันเป็นเทคนิคของฉัน เทคนิคหอกของฉันและความแข็งแกร่งในด้านผู้ใช้ธาตุของฉัน มันเป็นเทคนิคที่เกิดเป็นตัวตนของฉันเอง
"จงพุ่งไป พายุธาตุ"