ตอนที่แล้วบทที่ 9 – โลกที่กลายมาเป็นดันเจี้ยน (2)
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 11 – โลกที่กลายมาเป็นดันเจี้ยน (4)

บทที่ 10 – โลกที่กลายมาเป็นดันเจี้ยน (3)


บทที่ 10 – โลกที่กลายมาเป็นดันเจี้ยน (3)

[เลือกรางวัลของคุณ]

[1.หนังสือเวทมนต์การพิสูจน์แห่งไดฟิค]

"อึก ฉันรู้สึกมึนหัวจริงๆ"

"ข้อความพวกนี้มันไม่สามารถช้าลงได้งั้นหรอ?"

ฉันได้ถามกับพี่สาว ฉันได้ฟื้นขึ้นมาในขณะที่ตรวจสอบบันทึกข้อความ

มาดูกัน...อืมม ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ ฉันคิดว่ามันฟังดูดีนะและไม่มีรางวัลอะไร ฉันเห็นว่าฉันได้รับฉายาด้วย มันได้เพิ่มสเตตัสทั้งหมดของฉันขึ้น 1 ฉันไม่คิดว่าสเตตัสของฉันจะได้เพิ่มขึ้นอีก

และรางวัลพิเศษเกราะไหล่ของออร์คลอร์ด...ฉันเห็นว่ามันเหมาะสำหรับไหล่ของฉัน ตอนที่ฉันคิดเกี่ยวกับมัน ฉันไม่เคยเห็นเกราะไหล่ของออร์คลอร์ดมาก่อน นั่นมันอาจจะหมายว่ามันจะดรอปออกมาเฉพาะเมื่อคุณสามารถจะเอาชนะออร์คลอร์ดได้เพียงลำพังเท่านั้น ในอีกความหมายนึงมันเป็นไปไม่ได้ที่คุณจะรวบรวมเซ้ทไอเทมของออร์คลอร์ดได้ครบจนกว่าคุณจะเอาชนะมันได้เพียงลำพัง

...มันไม่มีอุปกรณ์ใดที่มันจะได้ยากเท่านี้ในเกมที่ฉันได้เล่น

"นี่มันคือ ว้าว มันดูน่าทึ่งมาก"

ฉันได้เปิดช่องเก็บของออกมาและติดตั้งเกราะไหล่ของออร์คลอร์ดลงไป ตอนนี้ทั้งร่างกายของฉันได้ถูกปกคลุมไปด้วยเกราะหนังของออร์คลอร์ดทั้งหมด

ฉันได้ใช่เวลาจนมาถึงชั้นที่ 5 โดยเพียงแค่ชุดใก แต่ตอนนี้ฉันได้คิดถึงเรื่องนี้แล้ว มันเหมือนกับว่าฉันนั้นเปลือยเปล่าเลย ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงได้เข้ามาในดันเจี้ยนด้วยสภาพแบบนั้น แม้ว่าคุณจะไม่สามารถจะเข้ามาในดันเจี้ยนได้หนึ่งสัปดาห์ถ้าคุณเสียชีวิต ฉันเพียงแค่คิดว่ามันง่ายที่จะเคลื่อนไหวเพียงเท่านั้น ไม่ใช่แค่นั้นฉันก็ใช้เพียงแค่หอกไม้อีกด้วย....เมื่อคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้มันช่วยไม่ได้ที่ฉันจะถอนหายใจออกมาด้วยความอับอาย

ในขณะที่ฉันกำลังยืนรำลึกความทรงจำ อีกข้อความหนึ่งก็ดังขึ้นมา

[คุณได้สวมใส่เซ็ทออร์คลอร์ด ค่าความแข็งแกร่งและร่างกายของคุณเมื่อขึ้น 5 เมื่อคุณสวมใส่เซ็ทออร์คลอร์ดคุณสามารถจะใช้ 'วอคลาย' ได้วันละครั้ง]

"อา!"

ไม่มีทางน่า มันเกิดขึ้นอีกแล้ว แม้ว่ามันจะดูเหมือนว่ามันเล็กน้อยเมื่อเทียบกับความยากลำบากในการรวมมันครบเซ็ท แต่ว่าเมื่อได้พิจารณาดูอย่างดี สเตตัสเท่านี้มันเท่ากับ 2 เลเวลได้เลย มันเป็นค่าสเตตัสที่ค่อนค้างมาก ไม่ต้องพูดถึงว่านี่มันยังเป็นเพียงแค่ชั้น 5 เท่านั้น

ถึงแม้ว่าการรวบรวมเซ็ทของออร์คลอร์ดหรือการใช้อิลิกเซอร์บีบอัด มันไม่ได้เป็นแผนที่ฉันได้วางแผนเอาไว้ตั้งแต่ต้น แต่ตอนนี้ฉันได้ประสบพบกับมัน ฉันคิดว่าบางทีนี่อาจจะเป็นสิ่งที่คนที่สร้างดันเจี้ยนได้วางแผนเอาไว้

ฉันได้มองตรวจสอบชุดเซ็ทของออร์คลอร์ดและได้หยักหน้ารับอย่างพึงพอใจ จากนั้นก็อ่านบรรทัดต่อไปในบันทึกข้อความ 1000 ทองนี้มันเป็นไปจามที่คาดเอาไว้ ออร์คลอร์ดมันจะให้ทอง 1000 เมื่อมันพ่ายแพ้ ต่อไปก็คือการเลือกรางวัลของฉัน...แต่มันเป็นเพราะว่าฉันได้เอาชนะออร์คลอร์ดเพียงลำพังรางวัลมันจึงมีแค่อย่างเดียวเท่านั้น

'มันไม่มีทางเลือกอื่นใดในนี้! ดูเหมือนว่าข้อความของพี่สาวจะต้องเลเวลอัพและอัพค่าสติปัญญาขึ้น '

ฉันทำแค่คิดมันขึ้นในหัวและไม่ได้ปล่อยมันหลุดออกจากปากไป ฉันได้มองไปที่รางวัล

[1.หนังสือเวทมนต์การพิสูจน์แห่งไดฟิค]

"..."

'นี่มันคืออะไร...'

ฉันไม่เคยคาดหวังว่าจะได้เห็นคำว่าเวทมนตร์หลังจากเลข 1. มันถูกสร้างขึ้นเพียงเพื่อ? มันคืออะไร? มันใช่สิ่งที่ฉันสามารถจะใช้ได้มั้ย?

แม้ว่าฉันจะมีคำถามที่มามาย แต่ฉันก็ได้กอดตัวฉันเอาไว้ เนื่องจากว่าการขาดมานาฉันจึงไม่สามารถที่จะใช้เวทย์ได้ เพียงเท่านั้นฉันจึงคิดว่านั่น...

[คุณได้รับเวทย์การพิสูจน์แห่งไดฟิค คุณสามารถจะใช้Mpทั้งหมดของคุณ และ Hp ครึ่งหนึ่งของคุณเพื่อที่จะเรียกวิญญาณที่เชื่อต่อกับรากเหง้าของคุณ ผลของการพิสูจน์นี้จะมีระยะเวลาขึ้นอยู่กับจำนวนของ Mp และ Hp ที่คุณใช้ คุณสามารถจะใช้มันเพื่อเชื่อมต่อกับคนระดับตำนานหรือสูงกว่าได้และคุณจะไม่สามารถใช้ทักษะนี้ได้อีกครั้งถ้าหากว่าคุณล้มเหลวในการเชื่อมต่อ ทักษธนี้มีระยะเวลคูลดาวล์หนึ่งเดือน เวทมนตร์นี้ไม่มีระดับเลเวล]

"..."

มันรู้สึกเหมือนกับว่ามีคนกำลังมาเล่นตลกกับฉัน ลองนึกดูว่ามีคำจำนวนมากได้มาพิสูจน์ฉันดูเมื่อตอนฉันยังเด็กอยู่ เพราะว่าฉันมีร่างกายที่ใหญ่ผิดปกติ

แต่แน่นอนว่าเวทย์นี้มันไม่มีประโยชน์อะไรกับฉัน เพราะว่าฉันนั้นไม่มีมานา มันไม่มีทางเลยที่ฉันจะสามารถใช้ทักษะนี้ได้ ฉันได้แต่ปล่อยมันไปและคิดว่าที่ฉันทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะได้ของที่ไม่มีประโยชน์

"อึก การพิสูจน์แห่งไดฟิค! การพิสูจน์แห่งไดฟิค!"

ฉันได้ตะโกนออกมาลั่น แม้ว่ามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ฉันก็ยังตะโกนออกมา ฉันยอมรับว่าฉันรู้สึกกังวลเล็กน้อยว่าฉันอาจจะเป็นบ้าไป แต่แล้ว...

[Mp ทั้งหมดของคุณได้ถูกใช้]

[Hp ครึ่งหนึ่งของคุณได้ถูกใช่]

[คุณได้ใช้Mp 20 และ Hp 1020 คุณได้อัญเชิญวีรชนในตำนานเพรูต้า เรลโล่ วาติโฟว์ เป็นเวลา 1 นาที 40 วินาที]

"...เอ๊ะ?"

'อะไรนะ? ฉันเห็นนั่นมันถูกไหม? 20? ฉันคิดว่าฉันไม่มีมานาแม้แต่นิดเดียวนะ?'

เมื่อฉันมองไปอย่างุนงง ทันใดนั้นเองฉันก็เริ่มรู้สึกว่าร่างกายของฉันไม่ใช่ของฉันอีกต่อไป เหมือนกับว่าฉันได้สวมใส่เกราะหนักเป็นพันๆตันไม่สามารถที่จะขยับร่างกายได้ตามที่ต้องการ

จากนั้นก็ได้มีเสียงดังขึ้นมาภายในตัวของฉัน

[โอ้ เด็กหนุ่มคนนี้เป็นใครกันนะ? เขาเป็นคนที่มีพรรสวรรค์ แต่ว่าเขาไม่มีมานา แปลก แปลกมากๆ]

"คะ คุณเป็นใคร?"

ฉันไม่ได้มองไปรอบๆเหมือนกับคนงี่เง่า เพราะว่าฉันได้ทำมันไปแล้วเมื่อฉันเข้ามาในดันเจี้ยนครั้งแรก

[นายเป็นคนเรียกฉันมา ฉันคือเพรูต้า เรลโล่ วาติโฟว์ ผู้ใช้หอกที่ถูกลืม]

"ผู้ใช้หอก? คุณเป็นผู้ใช้หอก? ว้าว! ฉันก็ใช้หอกเช่นกัน!"

[หืม? ฮ่าๆๆ นั่นคือสิ่งที่ฉันได้คิดเอาไว้แล้วว่าคนที่เรียกฉันจะต้องเป็นผู้ใช้หอกโดยไม่ต้องสงสัย! แต่ว่าในเรื่องนี้เพราะว่าขาดมานาฉันจึงไม่สามารถจะอยู่ได้นานนัก]

"แต่ฉัรไม่มีมานาเลย..."

[นั่นคือสิ่งที่ฉันคิดเช่นกัน แต่ว่ามันกลับกลายเป็นว่านายมีมันในจำนวนที่น้อยมาก ด้วยลักษณะนี้ฉันเดาว่านายไม่มีวิธีเพาะปลูกมานาใช่มั้ย?]

"ใช่แล้ว ฉันไม่มี ขอโทษนะ"

[ไม่จำเป็นจะต้องเสียใจ ตั้งแต่ที่โชคชะตาของพวกเราได้เชื่อมต่อกัน ฉันจะช่วยนาย....กึ๊ก ฉันจะต้องกลับไปแล้ว ในครั้งต่อไปฉันจะสอนวิธีเพาะปลูกมานาให้นะ]

"คะ ครับ ดูแลตัวเองด้วย"

ฉันไม่รู้ว่าเขาไปที่ไหน ฉันได้ตะโกนออกไป เมื่อฉันรู้สึกว่าความรู้สึกอุดอู้หายไป ฉันก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกแล้วในเวลาเดียวกัน ฉันรู้สึกว่าร่างกายของฉันมันเป็นง่อยและไม่มีพลังงาน แม้กระทั่งหลังจากที่เพรูต้าหายไปฉันก็ยังคงนิ่ง ฉันไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น

"ฉันคิดว่าฉันไม่มีมานานะ? มันเกิดอะไรขึ้น...? สเตตัส!"

[ชื่อ: คัง ชิน เผ่าพันธุ์: มนุษย์ เพศ: ชาย

คลาส: ไม่มี ฉายา: ผู้พิฆาตออร์ค ระดับ: ทองแดง 6

เลเวล: 6

Hp - 1110/2240 Mp - 1/20

ความแข็งแกร่ง - 34(+8) ความคล่องแคล่ว - 30(+1) ร่างกาย - 39(+6)

สติปัญญา - 20(+1) พลังเวทย์ - 0(+1) เสน่ห์ - 16(+1) โชค - 10(+1)

ทักษะ - ศิลปะการต่อสู้ระดับต่ำ(เชี่ยวชาญ) เทคนิคหอกระดับต่ำ(เชี่ยวชาญ) เทคนิคหอกระดับกลาง(เชี่ยวชาญ) การพิสูจน์แห่งไดฟิค]

"..ฮะ...ฮ่าๆๆๆ..."

ฉันเข้าใจแล้ว มันเป็นเพราะสิ่งนั้น เหตุผลง่ายๆที่ฉันมีมานา 20 ฉันเข้าใจแล้วว่ามานาจำนวนน้อยๆนี้มาจากไหน

เมื่อฉันได้รับฉายาผู้พิฆาตออร์คสเตตัสทั้งหมดของฉันก็เพิ่มขึ้น 1 โดยธรรมชาติ พลังเวทย์ของฉันมันก็ได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน

ฉันไม่สามารถจะอัพค่าสเตตัสที่เป็น 0 ได้ แต่ว่าสำหรับสิ่งนี้ดูเหมือนมันจะไม่เป็นอะไร นี่มันจะต้องเป็นบัค

แน่นอนว่าฉันไม่มีเจตนาที่จะรายงานเรื่องนี้ไปยัง GM ในแบบเกมออนไลน์ แล้วก็ฉันก็ไม่รู้เดียวว่าจะต้องติดต่อกับใคร ในความเป็นจริงแล้วฉันก็ไม่รู้ด้วยว่านี้มันเป็นบัคไหม สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือฉันนั้นมีมานา

มันช่วยไม่ได้ที่ฉันจะเต้นแร้งเต้นกาออกมา

'ใช่แล้ว ในที่สุดฉันก็มีมานา! แล้วฉันก็สามารถที่จะเรียนรู้วิธีเพาะปลูกมานาได้จากเพรูต้าอีกด้วย ฉันสามารถที่จะมีชิ ฉันสามารถที่จะเรียนรู้เทคนิคหอกระดับสูงได้'

ในช่วงพักร้อนฤดูหนาวปีสุดท้ายของชั้นมัธยมฉันได้พบกับวิธีแก้ปัญหาในการที่จะได้รับชิแล้ว

แน่นอนว่ามันจะต้องใช้เวลาอีกหนึ่งเดือนก่อนที่ฉันจะได้พบกับเพรูต้าอีกครั้ง ดูเหมือนว่าเขาจะเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งนี้อยู่แล้ว เมื่อฉันได้อัญเชิญเขามาเขาก็สอนวิธีเพาะปลูกมานาแก่ฉันทันที โดยให้มานาไหลอยู่ในร่างของฉัน

เพราะว่าความเจ็บปวดที่เหมือนกับมีเหล็กเหลวถูกเทลงมาในร่างกายของฉันมันได้ทำให้ฉันไม่สามารถจะหยุดน้ำตาได้ อย่างไรก็ตามฉันได้ตั้งใจที่จะฟังทุกสิ่งทุกอย่างที่เพรูต้าแนะนำให้ฉัน เพรูต้าให้ความสำคัญกับความเจ็บปวดที่ฉันได้รับอยู่เล็กน้อย หลังจากที่จบกระบวนการนี้ในเวลาเพียง 1 นาที 7 วินาที เพรูต้าก็ได้หายตัวไปพร้อมกับคำพูดสุดท้าย

[ทำตามที่ฉันแนะนำและหมุนเวียนมานาผ่านทางที่ฉันใช้มานาผ่านไปในร่างกายของนาย มานามันจะเติบโตขึ้นภายในร่างกายของนาย]

ฉันได้ยืนนิ่งมองออกไปเหมือนกับหญิงสาวที่เพิ่งจะถูกข่มขืนโดยคนที่ไว้วางใจ สิ่งแรกที่เพรู้ต้าบอกเลยคือตอนแรกมันยากที่จะควบคุมมานาในร่างกายของฉัน แต่ในขณะที่ฉันโคจรมานาผ่านตามทางที่เขาทิ้งไว้ ฉันก็เริ่มที่จะผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นและรู้สึกว่าร่างกายของฉันมันเริ่มรวบรวมมานา

ส่วนที่แปลกก็คือการรวบรวมมานาจากด้านนอกมันทำได้ช้ากว่าในดันเจี้ยนอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นฉันจึงได้ใช้เวลาของฉันส่วนใหญ่ในดันเจี้ยน ฉันได้ทำงานอย่างขยันขันแข็งเพื่อที่จะเพิ่มพูนมานาของฉัน เป็นเพราะว่าเพรูต้าบอกว่าเขาจะสอนทักษะหอกให้ฉันในเดือนนี้ แม้ว่าฉันจะเคยได้ยินว่าครอบครังของฉันก็มีเทคนิคหอกที่ใช้ชิอยู แต่มันก็เป็นเรื่องเล่าเมื่อนานมากแล้ว ดังนั้นฉันจึงคิดว่าฉันจะต้องเรียนรู้เทคนิคหอกระดับสูงด้วยตนเอง จนฉันได้มาเจอกับครูฝึกที่สมบูรณ์แบบอย่างเพรูต้า

เมื่อฉันสามารถที่จะใช้เทคนิคหอกระดับสูงได้ระดับหนึ่ง ฉันก็สามารถที่จะพิชิตชั้นที่ 6 ที่เต็มไปด้วยพวกวิญญาณเหล่านั้นได้ มันเป็นไปได้ดีกว่าในอดีต 3 ปีและ 2 เดือน

มันถึงเวลาแล้วดังนั้นฉันจึงติดต่อไปหาเอลลอสและบอกเขาเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น เอลลอสได้ตะโกนออกมาอย่างแปลกใจ

[นายเพิ่งจะบอกว่าเพรูต้า เรลโล่ วาติโฟว์??]

"ใช่แล้ว เขาบอกว่าเขาเป็นผู้ใช้หอก นายรู้จักเขา?"

เมื่อพวกเราได้ติดต่อกันมา 3 ปีพวกเราได้กลายมาเป็นเพื่อนกัน

[มันมีมากกว่าแค่รู้จักอีก เขาเป็นคนที่มาจากทวีปของฉัน เอาหละ แม้ว่าถ้าฉันจะบอกว่านั่น เขาเป็นคน...จากตำนานของทวีปของฉัน]

"ตำนาน?"

ตอนที่เขาพูดถึงมัน ฉันก็จำได้ถึงข้อความของพี่สาวที่บอกฉันเกี่ยวกับตำนานเมื่อฉันอัญเชิญเขามาเป็นครั้งแรก

[ใช่แล้ว ตำนานที่ว่านั่นคือ หนึ่งดาบ หนึ่งหอก หนึ่งโล่และหนึ่งแสง พวกเขาได้ตั้งรากฐานในความมืดมิดและเผยแพร่แสงสว่างกระจายออกไปทั่วโลก เพรูต้า เรลโล่ วาติโฟว์ เป็นผู้ใช้หอกจากตำนานนั้น ฉันคิดว่ามันเป็นเพียงตำนานซะอีก แต่นายได้บอกว่านายอัญเชิญเขา!?]

"...ตั้งแต่ที่นายบอกเช่นนั้น ฉันเริ่มรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนๆเดียวกัน เขาอาจจะเป็นตัวปลอม"

[มันมีพลังอำนาจอยู่เบื้องหลังชื่อนั้น แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนที่มาจากตำนานนั้นก็ตาม คนที่มีชื่อว่าเพรูต้า เรลโล่ วาติโฟว์ไม่ควรที่จะเป็นคนธรรมดา นายบอกว่านายมีมานาแล้วนายมีมันอยู่เท่าไหร่หละ]

"อา ตอนนี้มีแค่ 700"

[นาย...นายไม่ได้บอกว่านายพึ่งเริ่มเพาะปลูกมานาเมื่อเดือนที่แล้วงั้นหรอ? ความเร็วในการเพิ่มพูนนี่มันไม่ใช่ปกติ มันจะไม่ใช่วิธีเพาะปลูกมานาที่ธรรมดาแน่ๆ]

"จะ จริงหรอ?"

[ฉ่าๆ นายรู้ไหมนี่มันเกินกว่าความคาดหวังของฉันซะอีก เอาหละ ไว้พวกเรามาเอาชนะบอสที่ชั้น 25 ด้วยกันนะ]

"นั่นมันมากเกินไป"

[ฮ่าๆๆๆๆ]

"ฮ่าๆ"

จากนั้นฉันก็ยังได้พยายามที่จะติดต่อเพลรูเดียว แต่ว่าเธอก็ไม่ได้รับสาย ตอนนี้ฉันได้คิดเรื่องนึงออก ครึ่งปีที่แล้วเธอบอกให้ฉันติดต่อไปหาเธอ แต่ว่าในตอนนั้นฉันได้หลงไหลไปกับอิลิกเซอร์บีบอัด อ่า...

เนื่องจากว่าส่วนใหญ่เอลลอสจะติดต่อมาหาฉันก่อน ฉันจึงได้พูดคุยกับเขาบ่อยมาก แต่เพลรูเดียเธอไม่ได้ติดต่อมาหาฉันเลยหลังจากตอนนั้น นี่มันเป็นความผิดของฉัน ถ้าหากว่าเธอบ้าขึ้นฉันก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้ ในตอนท้ายฉันจึงได้ทิ้งข้อความเอาไว้และกล่าวขอโทษ แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วฉันไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรเลย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด