MPE บทที่ 10 ตั๊กแตนตำข้าวปีศาจ
“วานรนิลทมิฬของเธอหายไปงั้นหรือ?” อาจารย์มู่หลางชิงอี้ขมวดคิ้ว เธอรู้สึกไม่ดีที่เกิดเรื่องขึ้นภายใต้ความดูแลของเธอแต่เมื่อเห็นไห่หลานหยูร้องไห้ราวกับเด็กน้อยเธอเข้าไปปลอบเขาโดยไว
“มันอยู่ทางนั้น” เจ้าหน้าที่บลูชิลด์ปรากฏตัวขึ้นและชี้นิ้วไปทาง
ด้านหลังของพวกเขา
ไห่หลานหยูหันหน้ามาทางเจ้าหน้าที่พร้อมกับน้ำตาที่ยังไหลอยู่ “คุณรู้ได้ยังไง?”
“เพราะผมอยู่ห่างจากคุณเพียงแค่ 100เมตรไงล่ะ” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยกยิ้มอย่างขบขัน
“ทำไมคุณไม่ช่วยสัตว์อสูรผมของผมล่ะ!!” ไห่หลานหยูตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธ
*พึ่บ*
มีบางอย่างพุ่งออกมา
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยกนิ้วชี้ขึ้นมาบนปากส่งเสียง “ชู่วว”
ไห่หลานหยูก้มหัวลงพร้อมกับร่างกายที่สั่นเทา เขารู้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ขณะที่นักเรียนคนอื่นๆเริ่มส่งเสียงอุทานออกมาด้วยความตกใจเมื่อ
เห็นสิ่งนั้น
ไห่หลานหยูค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองข้างบน สิ่งที่เขาเห็นแทบจะทำให้หัวใจวายตายเลย
มันเป็นคมเขี้ยวที่ดูดุร้ายประกอบกับสายตาที่มองเหยื่ออันโอชะ ถ้ามองดีๆจะเห็นว่าเส้นผมของไห่หลานหยูอยู่ในปากของมัน
“ลูกของฉันคงจะหงุดหงิด ถ้าเห็นว่ามีใครบางคนตะโกนใส่หน้าฉัน” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเผยรอยยิ้มให้ไห่หลานหยู แต่เขากลับรู้สึกว่ามันเป็นรอยยิ้มของปีศาจ
“คุณคะ อย่าทำให้นักเรียนของฉันต้องกลัว!” มู่หลานชิงอี้คำรามเสียงดังราวกับแม่เสือที่กำลังปกป้องลูกน้อยของมัน อาจารย์มู่หลาง ชิงอี้ดึงไห่หลานหยูหลบไปด้านหลัง
“ขอโทษด้วย ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้หนุ่มน้อยผู้นี้ต้องหวาดกลัวแต่เขาตะโกนใส่หน้าผมก่อนนี่ นั่นเป็นเหตุผลที่สัตว์อสูรของผมไม่พอใจ” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกล่าวและโบกมือออกคำสั่งให้กับตั๊กแตนตำข้าวปีศาจ มันมองไปที่อาจารย์มู่หลางสักพัก ก่อนที่มันจะหายตัวไป
“นี่คงจะเพียงพอแล้ว ที่จะพิสูจน์ว่าผมไม่มีเจตนาร้าย” เขาหันหน้าไปทางไห่หลานหยูที่อยู่ข้างหลังอาจารย์มู่หลานและกล่าวอย่างไม่แยแส
“ฉันแค่จะมาบอกว่า งานของเราคือการดูแลปกป้อง ดูแล พวกเด็กนักเรียนเท่านั้น ส่วนสัตว์อสูรของพวกนักเรียนนั้น พวกมันไม่อยู่ภายใต้การคุ้มครองของพวกเรา ตามกฎหมายพวกนายถือว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว และผู้ใหญ่ต้องรับผิดชอบต่อผลของการกระทำของตนเอง ไม่ใช่ทุกคนที่จปฏิบัติกับนายเหมือนพ่อแม่หรอกนะ”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยยกมุมปากยิ้มอย่างเย้ยหยันไปที่เด็กหนุ่มก่อนจะหันหลังและเดินจากไป
ไห่หลานหยูกําหมัดแน่นด้วยความโกรธแต่ก็ไม่กล้าทําสิ่งอะไร
อาจารย์มู่หลานชิงอี้ลอบถอนหายใจ เธอต้องการปลอบโยนเด็กน้อยแต่ไม่รู้จะพูดยังไงดี เธอรู้ว่าอารมณ์ผันผวนของเด็กๆ ที่ยังไม่โตนี่รับมือยากแค่ไหน เธอเองก็เป็นครูมานานหลายปีและเป็นก่อนที่จะเกิดมหาภัยพิบัติซะอีก แม้กฎหมายในปัจจุบันจะระบุว่าเด็กอายุ 16ปี ถือเป็น
ผู้ใหญ่แต่ในสายตาของเธอนักเรียนเหล่านี้ก็ยังเป็นเพียงแค่เด็กน้อยเท่านั้น
“เอาล่ะ ไปตามหาเจ้าลิงกันเถอะ” อาจารย์มู่หลาง ชิงอี้เรียกสัตว์อสูรของเธอมา ก่อนจะเดินทางไปยังที่ๆวานรนิลทมิฬหายตัวไป
นักเรียนหลายคนลังเล แต่ในที่สุดพวกเขาก็ยังเดินตามไป พวกเขาไปพร้อมกับสัตว์อสูรของพวกเขา
ไห่หลานหยูถอนหายใจ พยายามสงบสติอารมณ์ของตนเองเอาไว้ ไม่ต้องลังวล พวกเขาไปกันหลายคน
ในความเป็นจริงสัตว์อสูรเหล่านี้อาศัยอยู่ในเมืองตลอดเวลา แม้แต่เลือดก็ไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ แม้ว่าหมูจะดูใหญ่โตกว่าหมูป่า หากได้เผชิญหน้ากัน คงไม่แคล้วที่หมูป่าจะชนะได้โดยง่ายสิ่งเดียวที่ปลอบโยนจิตใจของทุกคนได้จริงๆก็คือตั๊กแตนตำข้าวปีศาจที่ตามอารักขาอยู่ห่างๆ แม้ว่าวิหคปีกสีเงินจะแข็งแกร่ง แต่ก็ยังห่างไกลกับตั๊กแตนตำข้าวปีศาจ
เกาเผิงมองไปยังตั๊กแตนตำข้าวปีศาจข้อมูลต่างก็โผล่มาในมุมมองสายตาของเกาเผิงทันที
[ชื่อสัตว์อสูร] ตั๊กแตนตำข้าวปีศาจ
[เลเวล] 15 (ชนชั้นขุนนาง)
[ระดับ] สูง
[คุณสมบัติ] ธาตุไม้
[สถานะ] สุขภาพดี (สงบ)
[จุดอ่อน] ไฟ
นี่คือสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เกาเผิงเคยพบมาก่อน ทั้งระดับสูงและยังชนชั้นขุนนางด้วย ไม่ต้องสงสัยเลยว่า หากได้รับการดูแลความปลอดภัยจากบริษัทรักษาความปลอดภัยบลูชิลด์ สามารถมั่นใจได้ว่าเด็กนักเรียนจะไม่พบอันตรายใดๆ
พวกเขาไปค้นหาตรงที่ๆวานรนิลทมิฬหายตัวไป ตรงบริเวณภูเขาด้านหลังทะเลสาบคันฉ่อง แม้จะไม่ใหญ่มากแต่ก็เต็มไปด้วยป่าทึบ
เพียงไม่นานพวกเขาก็ได้ค้นพบร่องรอยของวานรนิลทมิฬ เป็นกองเลือดที่มีของเหลวสีเหลืองอยู่รอบๆ
“เจ้าลิงควรจะอยู่บริเวณนี้” อาจารย์มู่หลาง ชิงอี้พูดอย่างเงียบๆและเตือนศิษย์ของเธออย่างใจเย็น “ทุกคนระวังตัวด้วย อย่าออกห่างจากกลุ่ม”
ขณะเดียวกันกลุ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็ออกคําสั่งให้ตั๊กแตนตำข้าวปีศาจของพวกเขาคอยคุ้มครองเหล่านักเรียนอยู่ห่างๆ
หนึ่งในเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่แต่งตัวเหมือนหัวหน้าแสดงท่าทีผ่อนคลาย ในเมืองเล็กๆแห่งนี้ไม่มีสิ่งใดอยู่นอกเหนือการควบคุมของเขา รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาขณะที่เขากำลังคิดว่าพวกเด็กๆอาจจะต้องฝันร้ายไปหลายคืนแน่ๆ เมื่อได้เห็นการนองเลือดที่อาจจะเกิดขึ้น
มู่หลานชิงอี้ก้มลงตรวจสอบรอยเลือด ที่กระจัดกระจายไปทั่ว มันไปสิ้นสุดตรงที่ก้อนหินก้อนใหญ่ที่อยู่ห่างออกไป
“หลินซู ตรวจสอบหินก้อนนั้นทีสิ ว่ามีอันตรายมั้ย?” อาจารย์มู่หลาง ชิงอี้ ออกคําสั่งแก่วิหคปีกสีเงิน
เมื่อได้รับคําสั่ง วิหคปีกสีเงินทะยานร่างลงมาจากท้องฟ้าด้วยความเร็วสูง
มันจะร่อนลงเกาะบนหินก้อนใหญ่ มองตรวจสอบของที่อยู่ข้างล่างก้อนหิน
ทันใดนั้นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ข้างใต้ก้อนหิน ได้ส่งเสียงกรีดร้องออกมา มันเหมือนกับเสียงร้องไห้ของเด็กทารก