GE366 การจู่โจมระดับไร้แบ่งแยก [ฟรี]
หากมีเส้นลมปราณหยินหยางและได้เข้าฝึกฝนในฯโลกหยิน จะทำให้ผลของการฝึกฝนเพิ่มพูนเป็นร้อยเท่า แต่หนนิงฝานยังคงไม่มั่นใจเรื่องนั้น
ยามนี้ยังไม่ใช่เวลาให้ขบคิดเรื่องการฝึกฝน เขาเร่งโอบประครองร่างของหลั่วโยว่กลับออกจากโลกหยิน กลับไปที่ห้องพักของตนและวางร่างนางไว้บนที่นอน
หนิงฝานจ้องมองนางด้วยแววตาโศกเศร้า สตรีผู้แบบบางราวกับหิมะขาวกระจ่าง ใบหน้าที่งดงามแต่ซีดขาว สีหน้าเศร้าหมองหวาดกลัว ร่างกายที่เห็นเป็นเพียงดวงจิตเลือนลาง นางถูกขังอยู่ในโลกหยินมานานแสนนาน จนพลังของหนางแทบจะถูกโลกหยินดูดซับไปจนหมด
นางช่วยเหลือหนิงฝานหลายต่อหลายครั้ง จนทำให้ดวงจิตของนางแทบจะสูญสิ้นพลัง
เดิมทีหนิงฝานคิดว่านางเกียจคร้าน แต่ยามนี้เขารู้แล้วว่าที่นางเป็นเช่นนั้น ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ดวงจิตของนางต้องดับสูญ
หากจะช่วยให้นางพ้นอันตราย มีเพียงแต่ต้องฟื้นพลังดวงจิตให้นางเท่านั้น
“ท่านช่วยข้ามาหลายครั้งแล้ว... ยามนี้ท่านวางใจได้ ข้าจะคอยอยู่ข้างกายคอยปกป้องท่าน”
หนิงฝานลูบสัมผัสใบหน้าอันงดงามของนางเบาๆ พลางกล่าวถ้อยคำปลอบประโลม
เขานำสมุนไพร 3 พันปีออกมาชนิดหนึ่ง นามว่าหญ้าหล่อเลี้ยงใจ ใช้ปากเคี้ยวมันอย่างพิถีพิถันแล้วป้อนให้นางด้วยปาก
ริมฝีปากและลิ้นสัมผัส หลั่วโยว่ที่หลับไหลราวกับสัมผัสถึงความรู้สึกนี้ได้ ร่างกายนางสั่นเทา เปล่งเสียงครางกระเส่าเบาๆ
เขาไม่ได้ตั้งใจล่วงเกินนาง เขาต้องการให้นางได้รับฤทธิ์ของสมุนไพรมากที่สุด เมื่อป้อนเสร็จ เขาขยับมานั่งข้างๆนาง กุมมือนางไว้พลางถ่ายปราณเข้าไป
ยามนี้มือของนางเย็นเฉียบ ความรู้สึกที่ได้รับราวกับยามที่สัมผัสเป่ยเหยา ร่างกายของเป่ยเหยาและหลั่วโยว่มีความพิเศษที่คล้ายกัน ต่างกันที่กลิ่นอายปราณ
“สลาย!” หนิงฝานโคจรวิชาแปลงหยินหยางสลายตัณหาที่อยู่ในใจ เขาเพียงอยากจะรักษาชีวิตนางไว้เท่านั้น
ฤทธิ์ของสมุนไพรและปราณที่หนิงฝานถ่ายเข้าไปในร่างนางเริ่มส่งผล ดวงจิตของนางค่อยๆฟื้นพลัง แต่ยามนี้ยังอ่อนแออยู่มากจึงยังไม่ได้สติ
สมุนไพรที่หนิงฝานให้นางกินนั้น เป็นสมุนไพรล้ำค่าทั้งยังมีระดับเป็นสมุนไพรผันแปรที่ 5 แม้จำนวนปีของมันจะไม่มาก แต่ฤทธิ์ของมันก็ไม่ธรรมดา
ยามนี้ดวงจิตของนางยังอ่อนแออยู่มาก ไม่อาจทนรับฤทธิ์ของสมุนไพรหมื่นปีได้ ก่อนจะออกจากเกาะกู่ซู หนิงฝานได้สั่งยู่หลงออกตามหาสมุนไพรที่ใช้ฟื้นพลังดวงจิตแล้ว
บางทีอีกหลายปีข้างหน้าหากยู่หลงกลับมา มันสมควรหาสมุนไพรที่หนิงฝานขอมาได้
วิชาแปลงหยินหยางขอบเขตที่ 3 ขั้น 1… ในที่สุดหนิงฝานก็ทำสำเร็จ แต่หากพ้นขอบเขตนี้ไป หนิงฝานต้องหาหนทางฝึกฝนด้วยตนเอง เพราะในความทรงจำของจักรพรรดิสวรรค์ไม่ได้มีบันทึกไว้ เช่นเดียวกับระดับพลัง หากบรรลุขอบเขตไร้แบ่งแยก หนิงฝานต้องหาทางยกระดับพลังของตนเอาเอง
หนิงฝานจ้องมองหลั่วโยว่ หากนางตื่น บางทีนางอาจชี้แนะเขาในขอบเขตพลังที่สูงขึ้นได้ อีกอย่าง นางเองก็ฝึกฝนวิชาแปลงหยินหยางเช่นกัน
ผ่านไป 3 วัน เมื่อดวงจิตของนางเริ่มเสถียรขึ้น หนิงฝานก็เริ่มที่จะทำความเข้าใจกับโลกหยิน
โลกหยินนั้นค่อนข้างแตกต่างจากสมบัติที่อยู่อาศัยทั่วไป เช่นแหวนกระถางขัดเกลาสามารถเก็บสตรีไว้ภายในได้ แหวนเย่าหยวนสามารถเก็บผืนดินและน้ำได้ แต่กับโลกหยิน ไม่สามารถเก็บผู้อื่นเข้าไปภายในได้
แต่หากจะกล่าวให้ถูก เฉพาะผู้ที่มีเส้นลมปราณหยินหยางเท่านั้นที่จะเข้าไปในโลกหยินหยางได้
ในอดีตหลั่วโยว่ออกตามหาสร้อยหยินหยาง และได้ฝึกฝนวิชาแปลงหยินหยาง ทำให้นางเข้าไปภายในโลกหยินได้
ส่วนหนิงฝานบรรลุวิชาแปลงหยินหยางระดับสูง กระทั่งหาคนเทียบเคียงได้ยาก จึงเข้าสู่โลกหยินได้
แต่นอกจากหนิงฝานและหลั่วโยว่แล้ว ก็ไม่มีใครเข้าสู่โลกหยินได้อีก
หนิงฝานในยามนี้นั่งอยู่ใต้จารึกขนาดใหญ่ โคจรปราณและดูดซับปราณจากรอบกาย
เขาใช้เวลาในโลกหยิน 3 วัน แต่จำนวนปราณที่ได้เทียบได้กับดูดซับจากโลกภายนอก 100 วัน
นอกจากดูดซับปราณได้เป็นจำนวนมากแล้ว หนิงฝานยังสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ผิดปกติในโลกหยิน แต่เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร
หลังจากอยู่ในโลกหยินครบ 3 วัน หนิงฝานถูกขับออกมาภายนอก แม้จะพยายามเข้าไปใหม่แต่ก็ทำไม่ได้ จนกว่าจะรอให้ผ่านไปอีก 1 วัน เขาจึงจะเข้าไปได้ เป็นเช่นนี้ซ้ำๆ
เมื่อลองขบคิดหาสาเหตุหนิงฝานก็เข้าใจ
การที่เข้าไปฝึกฝนได้เพียง 3 วันนั้นถือเป็นข้อจำกัดของโลกหยิน หลังจากนั้นต้องรออีก 1 วันจึงจะเข้าไปได้อีก 3 วัน
เหตุที่ไม่อาจเข้าไปฝึกฝนได้นาน เพราะหากเกิดเหตุการณ์ทะลวงระดับ หรือจุดวิกฤติของพลัง จะทำให้พลังปั่นป่วนได้ง่าย
เมื่อรอจนครบ 1 วัน หนิงฝานที่กลับเข้าไปโลกหยิน ได้เริ่มทำความเข้าใจกับจารึกขนาดยักษ์
ครั้งหนึ่งหลั่วโยว่เคยบอกเขาว่า จารึกนี้มีชื่อว่า จารึกตะวันจันทรา หากผู้ที่ฝึกวิชาแปลงหยินหยางบรรลุขอบเขตที่ 1 คนผู้นั้นจะสามารถดูดซับพลังจากคู่ขัดเกลาผสานได้ ขอบเขตที่สองจะทำให้ล้วงความลับจากปากของอีกฝ่ายได้ และขอบเขตที่ 3 จะเป็นนายแห่งโลกหยิน นอกจากนี้ สิ่งได้จากขอบเขตที่ 3 คือสามารถควบคุมจารึกจะวันจันทราได้
“หลั่วโยว่เคยกล่าวว่า จารึกนี้มีความสามารถอยู่ 2 สิ่ง… สิ่งแรกคือสามารถใช้วิชาของสตรีที่ร่วมหลับนอนได้ สิ่งที่สองคือสามารถหยิบยืมพลังจารึกมาสังหารศัตรูได้...”
หนิงฝานทราบฝ่ามือลงบนจารึก หลับตา พยายามค้นหาสิ่งที่อยู่ภายใน
ไม่นานนัก วิธีฝึกฝนและทักษะวิชาจำนวนมากได้หลั่งไหลเข้าสู่ทะเลสติของหนิงฝาน
วิชาเหล่านี้เป็นของสตรีที่เขาเคยขัดเกลาผสานด้วย
วิชาของหลานเหม่ยแห่งนิกายกุ่ยเชว่
วิชาราคะของไป่ลู่
วิชาอสูรของทาสอสูร
วิชาลับของน่าหลานจื่อและซีหลาน
วิชาจันทราของเยว่หลิงคง
กระทั่งมีบางวิชาของเป่ยเหยา...
วิชาและการฝึกฝนนับร้อยนับพันหลั่งไหลเข้าสู่ทะเลสติของหนิงฝาน กระทั่งใช้เวลากว่าหลายชั่วยามจึงจะซึมซับได้หมด
“ช่างเป็นจารึกที่วิเศษ!” หนิงฝานตกตะลึง
วิชาแปลงหยินหยางขอบเขตที่ 1 สามารดูดซับพลังจากคู่ขัดเกลาผสานได้ ขอบเขตที่ 2 ทำให้ล่วงรู้ความลับ และขอบเขตที่ 3 คือการช่วงชิงวิชาของผู้ที่ร่วมขัดเกลาผสานมาเป็นของตน!
หนิงฝานทบทวนวิชาที่ได้มา ทุกวิชาล้วนเป็นของผู้ที่เขาเคยขัดเกลาผสานด้วยทั้งนั้น
แต่สำหรับเป่ยเหยาที่เขาไม่ได้ร่วมรักกับนางตรงๆ จึงได้มาเพียงวิชาระดับล่างของนางเท่านั้น
หากได้ร่วมรักกับเป่ยเหยาจริงๆ ทั้งวิชาและความลับของนางคงกลายเป็นของหนิงฝาน
หากร่วมรักกับเซียน คงได้วิชาของเซียนผู้นั้นมา… ในอนาคตหากหนิงฝานอยากได้วิชาระดับสูง เขาคงต้องใช้วิธีร่วมรัก!
วิชาที่ได้มาทั้งหมดคือสิ่งแรกที่จารึกมอบให้ ยามนี้ สมควรทดสอบสิ่งที่สองที่จารึกจะมอบให้
หนิงฝานยืนนิ่ง มือสัมผัสจารึก แผ่สัมผัสเข้าไปภายใน ทำอยู่เช่นนั้น 3 วันกระทั่งถูกขับออกจากโลกหยิน
หนิงฝานหวนนึกถึงสิ่งที่ได้มาจารึก ตรงดิ่งเข้าสู่โลกเย่าหยวนของตน
ภายในนั้นมีซากร่างของอสูรใหญ่นับแสนจ้างอยู่ ซึ่งเขาได้มาจากคราวที่ช่วยชีวิตเป่ยเหยา
ร่างกายของมันได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ไม่เหมาะกับการนำมาทำเป็นทาส แต่ถึงอย่างนั้น ผิวหนังและกระดูกของมันยังสามารถนำมาทำเป็นอาวุธชั้นยอดได้
แม้การนำซากร่างของอสูรมิติตนนี้มาทำเป็นอาวุธ แต่ถึงอย่างนั้น มันคงไม่แข็งแกร่งเท่ากับโลหะดาราโบราณ
แต่บางทีมันอาจเทียบได้กับกระบี่มังกรโลหิต แต่เอาเข้าจริงก็ไม่รู้ใครจะเหนือชั้นกว่า
หนิงฝานนำกระบี่แยกสวรรค์ออกมา โคจรปราณเสริมกระบี่ ฟาดฟันร่างของอสูรเพื่อหวังชำแหละมัน
เพียงแต่เมื่อกระบี่กระทบร่างอสูรยักษ์ มันกลับเด้งและผลักหนิงฝานออกไปนับสิบก้าว
หนิงฝานฟาดฟันกระบี่ด้วยระดับพลังที่ สามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญตัดวิญญาณได้ง่ายๆ แต่ยามนี้คมกระบี่กลับแทบจะไม่ทิ้งรอยบนร่างอสูรแม้แต่น้อย
กระบี่แยกสวรรค์ไม่อาจผ่าร่างของอสูรได้ นั่นหมายความว่า มันมีร่างกายที่แข็งแกร่งจนน่าสะพรึงกลัว หากมันยังมีชีวิต หนิงฝานคงทำอะไรมันไม่ได้
ในเมื่อกระบี่แยกสวรรค์ไม่อาจทำอะไรได้ เขาจึงเก็บมันไป จากนั้นยื่นมือไปเบื้องหน้า เปลวเพลิงสีดำก่อตัวเป็นลักษณะคล้ายจารึกตะวันจันทรา
เมื่อเปลวเพลิงก่อตัวเป็นจารึก สร้อยหยินหยางเกิดปฏิกริยา ทำให้เขาเจ็บบริเวณหน้าท้อง
ความเจ็บปวดนี้แผ่ออกมาจากจารึกตะวันจันทราที่อยู่ในสร้อยหยินหยาง ผสานเข้าไปกับจารึกเพลิงเบื้องหน้า
“ผสาน!”
ปราณในร่างของเขาถูกดูดซับผสานเข้ากับจารึกเพลิงเบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว ราวกับแทบจะทำให้ปราณภายในร่างเหือดแห้ง
เพลิงทมิฬผสานอานุภาพกับจารึกตะวันจันทราในสร้อยหยินหยาง ส่งผลให้จารึกเพลิงเบื้องหน้าทรงพลังขึ้นอย่างน่าสะพรึงกลัว
แต่ไม่นานหนิงฝานกลับกระอักโลหิต ราวกับสิ่งที่เขากำลังทำได้ส่งผลร้ายต่อตัวเขา
เขาขยับมือ บังคับให้จารึกเพลิงตรงเข้าใส่ซากร่างอสูรยักษ์
เสียงระเบิดดังสนั่น โลกเย่าหยวนสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงราวกับจะพังทะลาย
อานุภาพของมันทรงพลังกว่าที่หนิงฝานจินตนาการไว้มาก ข่ายอาคมที่วางไว้ในี้ก็ถูกทำลายเช่นกัน
แรงระเบิดที่รุนแรงผลักหนิงฝานกระเด็นไปไกลทั้งยังกระอักโลหิต แต่ถึงหนิงฝานจะบาดเจ็บ ดูเหมือนเขาจะพอใจมาก
หากหนิงฝานเข้าใจไม่ผิด การจู่โจมด้วยจารึกเพลิงเมื่อครู่ ไม่ใช่การจู่โจมในระดับตัดวิญญาณหรือไร้ดัดแปลง
“การจู่โจมระดับไร้แบ่งแยก! สามารถหยิบยืมพลังจากจารึกเพื่อสร้างการจู่โจมระดับไร้แบ่งแยกได้!” หนิงฝานตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
แม้ว่าเขาจะฝึกฝนอย่างหนักกระทั่งตนเองแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ยังห่างชั้นกับผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกอยู่มาก
แต่หากหยิบยืมพลังจากจารึกตะวันจันทรา กระทั่งสร้างการจู่โจมระดับไร้แบ่งแยกได้ แม้จะทำให้ตนเองต้องบาดเจ็บ แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า
หนิงฝานเริ่มมั่นใจแล้วว่า เมื่อถึงเวลาครบกำหนด 100 ปี เขาน่าจะต่อกรกับเทพกษัตริย์เนี่ยได้!
เขากินโอสถจำนวนมากเข้าไปเพื่อสะกดอาการบาดเจ็บ แต่จู่ๆเขากลับสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง
การจู่โจมเมื่อครู่หยิบยืมพลังจากจารึก แม้แผ่สัมผัสเข้าไปในโลกหยิน เขาสัมผัสได้ว่าพลังที่อยู่ในจารึกเหือดแห้งไป!
ต้องใช้เพลิงจำนวนมหาศาลเพทาอฟื้นฟูพลังให้มันอีกครั้ง
“การจู่โจมระดับไร้แบ่งแยกมีข้อจำกัดเยอะเกินไป… ไม่รู้ว่าต้องใช้เพลิงขนาดไหนจึงจะทำให้ใช้การจู่โจมได้ใหม่! แต่หากข้าฟื้นคืนพลังของให้จารึกได้ ต่อให้ต้องเผชิญกับผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยก ข้าก็มีหนทางตอบโต้!”
นับว่าการทะลวงขอบเขตที่ 3 ของวิชาแปลงหยินหยางคุ้มค่าเป็นอย่างมาก
แรงระเบิดจากจารึกเพลิงเมื่อครู่ ทำให้เกาะกู่ซูและทะเลไร้สิ้นสุดสั่นสะเทือน แม้จะมีโลกเย่าหยวนขวางกั้น แต่อำนาจการจู่โจมยังแผ่ออกไปถึงโลกภายนอก
ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากที่สัมผัสถึงแรงสะเทือนได้ล้วนหันมองไปยังทิศทางของเกาะบุบผาทมิฬ พวกมันขบคิดและมั่นใจ ว่าแรงสั่นสะเทือนเมื่อครู่มาจากการจู่โจมในระดับไร้แบ่งแยก
“มีผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกอยู่บริเวณเกาะบุบผาทมิฬ!” ผู้เชี่ยวชาญมากมายเข้าใจเช่นนี้ เกาะบุบผาทมิฬเป็นสถานที่ขัดเกลาผสานของซัวหมิง เหตุใดถึงมีกรจู่โจมในระดับไร้แบ่งแยกได้?...