Chapter 116 – Black Market Tenth Shopping (6) [07-02-2020]
Chapter 116 – Black Market Tenth Shopping (6)
”
ซังจินได้เข้าไปในโรงตีเหล็กของคาร์กอตพร้อมกับบลัดเวเจนทั้งสี่เล่ม
"เคร๊ง เคร๊ง เคร๊ง"
เหมือนอย่างเคย คาร์กอตก็ยังให้ความสนใจกับงานของเขา ซังจินได้มองดูเขาทำงาน เหงื่อของเขาได้ไหลออกมาอย่างมากในขณะที่ค่อยๆทุบค้อนไปที่อาเทอร์มิโอ
ซังจินได้ยืนอยู่นิ่งๆเพื่อไม่รบกวนเขา แต่ในขณะเดียวกันคาร์กอตก็ได้พูดออกมาโดยไม่หันมามอง
"มาแล้วหรอ?"
ซังจินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แต่เขาก็ได้ตอบกลับไป
"ใช่แล้ว"
"ช่วยรออีกหน่อยนะ มันจะเสร็จแล้ว"
ซังจินได้ยืนกับที่ระหว่างการถาม แต่จากนั้นคาร์กอตก็พูดกับเขา
"นั่นมันอะไร? ดาบที่เหมือนกัน....สี่้เล่ม? นายต้องการจะรวมมันหหรอ?"
คาร์กอตไม่ได้หันกลับมามองเลยแม้แต่ครั้งเดียว เขาจะต้องเห็นซังจินได้จากการมองแสงสะท้อนผ่านคมดาบของอาเทอร์มิโอ
"ใช่แล้ว"
เขายังคงทุบค้อนต่อไป
"เอาหละถ้าหากนายเบื่อ นายก็สามารถจะทำมันได้ด้วยตนเองเช่นกัน"
"ด้วยตัวเอง?"
"ใช่แล้ว การผสมพวกมันนั้นง่ายมาก แค่วางมันลงไปในกล่องและเขย่ามันไม่กี่ครั้ง"
ซังจินได้วางบลัดเวเจนพิงเอาไว้กับผนังและเดนเข้าไปแถวเตาหลอม เขาได้พบกล่องที่คาร์กอตใช้ผสมไอเทมในคราวก่อน
กล่องมันเป็นกล่องเทาขอบทอง ซังจินได้หยิบเอาบลัดเวเจนขึ้นมา เบสโกโร่ก็ได้กล่าวเสริม
"ราคาสำหรับการผสมไอเทมระดับตำนานคือ 6000 เหรียญดำ"
"ทำการแบกเปบื่ยน"
ซังจินได้พูดออกมาในทันที หลังจากนั้นสั้นๆเขาก็ได้เปิดกล่องขึ้นมา มันเป็นความรู้สึกแปลกๆ ด้านในของกล่องมันดูกว้างกว่าภายนอกมากนัก
'นี่มันคืออะไร?'
ซังจินได้ตรวจสอบภายในของกล่อง ในขณะเดียวกันค้อนของคาร์กอตก็ไม่ได้พลาดเป้าเลย
'เอาหละ...ตราบใดที่การผสมมันทำงานก็ไม่มีสงสัยอะไร'
ซังจินได้ใส่บลัดเวเจนลงไปทีละชิ้น ปกติแล้วความยาวของบลัดเวเจนดูภายนอกมันยาวกว่ากล่องซะอีก แต่ว่าภายในของกล่องมันยังคงมีช่องว่างอยู่แม้ว่าจะใส่ดาบลงไปทั้งสี่ชิ้น
'ฉันคิดว่า...กล่องนี้มันมีเวทมนตร์บางอย่าง'
ซังจินได้ปิดฝากล่องและส่ายมันสองครั้ง แต่ว่ากล่องก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมา มันไม่ได้มีประกาศอะไรออกมาเลย
'มันทำงานหรือยัง?'
ซังจินได้เปิดกล่องอีกครั้ง แต่ว่าข้างในมันมีเพียงดาบอยู่เล่มเดียว ซังจินได้หยิบดาบขึ้นมาและในทันทีที่ดึงมันออกมาจากฝัก แสงสีของจากใบดาบก็ได้ส่องออกมามากกว่าแต่ก่อน
'มันทำงานได้ดี'
ซังจินได้ถือบลัดเวเจนเอาไว้เพื่อที่จะตรวจสอบมัน และโอเปอเรเตอร์ก็ได้แสดงหน้าต่างสถานะไอเทมออกมา
-----
บลัดเวเจน - ดาบกระหายเลือด
ไอเทมระดับตำนานพิเศษ - ความแข็งแกร่ง SSS ความคล่องแคล่ว S
ทักษะใช้งาน
การล้างบาปของโลหิต - ดูดพลังชีวิต 10000 ต่อวินาทีเพื่อที่จะเพิ่มพลังโจมตี
ทักษะติดตัว
จิตวิญญาณพยาบาท - เมื่อพลังชีวิตเหลืออยู่ 1 จะไม่รับความเสียหายอะไรเป็นเวลา 1 วินาที
การโจมตีสุดท้าย - เมื่อพลังชีวิตเหลือ 1 กสนโจมตีครั้งต่อไปจะสร้างความเสียหายเป็นห้าเท่า
เขาผู้ที่ประสงค์ที่จะเผชิญหน้ากับความชั่วร้ายอาจจะกลายมาเป็นดาบ
ดาบเล่มนี้มันคมและแข็งแกร่งกว่าเล่มอื่นๆ
-----
ซังจินได้อ่านค่าสถานะอย่างช้าๆ มันเป็นดาบที่เขาได้ใช้ในชีวิตก่อนหน้านี้ ดังนั้นเขาจึงรู้ค่าสถานะของมันอยู่แล้วแม้ว่าจะมองผ่านๆ แต่ว่าเพราะมันผ่านมานานแล้วเขาจึงจำเป็นจะต้องอ่านมันทวนอีกครั้ง
'ความแข็งแกร่งเป็น SSS ความคล่องแคล่ว S มันโอเคร...การล้างบางของโลหิตมันใช้พลังชีวิต 10000 ต่อวินาที ฉันสามารถจะใช้มันได้ไม่กี่วินาทีในอดีต...แต่ฉันก็ควรที่จะสามารถใช้มันได้นานขึ้นในตอนนี้ จิตวิญญาณพยาบาทและการโจมตีสุดท้ายมันก็ไม่ได้เปลื่ยนแปลงไปจากก่อนหน้านี้'
ซํงจินได้ถือเอาบลัดเวเจนออกมาจากโรงหลอมและลองเหวี่ยงทดสอบมันสองสามครั้งเพื่อทดสอบ
'นี่มัน...ความรู้สึกนี้...'
การที่ได้ดาบที่เขาใช้ในอดีตกลับคืนมามันได้ทำให้เข้ารู้สึกเหมือนกลับไปในอดีค ซังจินได้เก็บบลัดเวเจนลงไปในฝักและกลับไปหาคาร์กอตที่ทำงานอยู่ ไม่กี่นาทีต่อมา คาร์กอตก็ได้วางค้อนลงและเช็ดเหงื่อออกไป เขาได้พูดกับซังจิน
"มันเสร็จแล้ว"
เขาได้ส่งอาเทอร์มิโอที่เปล่งปประกายไปให้กับซังจิน ซังจินก็ได้รับดาบมาและยกมันขึ้นมาตรวจสอบ
-----
อาเทอร์มิโอ - นักล่าเวทมนตร์
ดาบสั้นระดับตำนานพิเศษ - ความแข็งแกร่ง SS ความคล่องแคล่ว S
ทักษะติดตัว
กลืนเวทย์ - ลดความเสียหายจากเวทมนตร์ลง 30%
เบิร์นมานา - การโจมตีด้วยดาบจะลดมานาที่เหลืออยู่ 10% ของเป้าหมาบและจะสร้างความเสียหายเพิ่มเติมเท่ากับมานาที่หายไป
ทักษะใช้งาน
ดูดเวทย์ - ดูดเวทย์อะไรก็ได้ที่มีระดับต่ำกว่าเวทย์ระดับ 7
ปลดปล่อยเวทย์ - ปล่อยเวทย์ที่ดูดเอาไว้ สามารถใช้ได้ 3 ครั้ง คูลดาว 10 นาที
ดาบของอาเทอร์มิโอผู้ที่รังเกียจเวทมนตร์
เขาได้มาจากที่ๆปราศจากความช่วยเหลือจากเวทมนตร์
-----
'หืมมม..'
นี่มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นอาเทอร์มิโอที่อัพเกรดแล้ว ซังจินได้ตรวจสอบสถานะอย่างละเอียด สิ่งแรกที่เขาเห็นก็คือค่าความแข็งแกร่งและความคล่องแคล่วที่เพิ่มขึ้นมาอย่างละ 1 ระดับ
แม้ว่ามันจะมีความแข็งแกร่งน้อยกว่าบลัดเวเจนและไม่มีพลังจิตใจแบบมูนสเปค ดังนั้นมันจึงไม่มีผลรวมที่มากนัก แต่ว่าทักษะของมันเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์มาก
ซังจินได้ให้ความสำคัญกับครึ่งหลังของหน้าต่างข้อมูล กลืนเวทย์ที่ช่วยลดความเสียหาย 30% มันสำคัญกับซังจินมาก เพราะไม่ว่าเขาจะเร็วแค่ไหนเขาก็ไม่มีทางจะหลบเวทมนตร์ทั้งหมดได้
ผลของเบิร์นมานามันก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน มันเป็นทักษะที่สมกับชื่อ นักล่าเวทมนตร์ มันเป็นทักษะที่อันตรายกับจอมเวทย์ทุกคน มันอาจจะสร้างความเสีบหายได้มากกว่ามูนสเปคและบลัดเวเจนซะอีก
ในท้ายที่สุดทักษะใช้งานก็ได้เปลื่ยนไป สะท้อนเวทย์ได้หายไป และแทนที่ด้วยดูดเวทย์และปลดปล่อยเวทย์
'นี่มันหมายความว่าฉันสามารถที่จะควบคุมจังหวะนการจะยิงเวทย์กลับไปได้ และฉันสามารถจะทำมันได้ถึงสามครั้ง นี่มันเป็นสิ่งที่ดีมาก?
ดาบนี้มันเป็นสิ่งที่ดีอย่างมากในการที่จะใช้จัดการกับจอมเวทย์ ซะงจินได้หันไปกล่าวขอบคุณกับคาร์กอต
"ขอบคุณมากคาร์กอต ฉันรู้สึกขอบคุณนายจริงๆ"
"มันเป็นงานของฉันนายก็รู้นี่...ทำให้แน่ใจว่านายจะจ่ายเงินและนายก็สามารถจะไปได้"
"อา ไม่มีปัญหา"
ซังจินได้เรียกลูกบาศก์ออกมา
"ยังไงก็ตาม...หัวใจมังกรนี่...มัน...?"
"ใช่แล้ว มันยังอยู่ในขั่นตอนการหลอมละลาย ฉันจะตรวจสอบมันในเช้านี้ และฉันก็สามารถจะเริ่มงานได้ในเร็วๆนี้"
"ฉันรู้แล้ว ฉันจะจ่าบเงินสำหรับตอนนี้ก่อนที่ฉันจะออกไป"
"หืมมม? นายแน่ใจ?"
"ใช่แล้วเนื่องจากว่าที่นี่การใช้จ่ายเงินมันเป็นสิ่งสำคัญที่สุด"
"เอาหละ มันจะดีสำหรับฉันดังนั้น"
ซังจินได้สั่งให้ลูกบาศก์ไปจ่ายเงิน 20000 เหรียญดำและทำการแลกเปลื่ยนเสร็จสิ้น
"แล้วฉันจะมาหานายใหม่ในตอนเช้าวันพรุ่งนี้"
"โอเค"
ซังจินได้โค้งคำนับก่อนที่จะกลับไปโรงแรมของกับดาบระดับตำนานพิเศษทั้งสามเล่มที่ด้านข้าง เขาได้เดินผ่านดารูปินที่ตื่อนอยู่ตลอดทั้งวันและเขาก็ได้หลับไปที่ห้องนอน ถ้าหากว่าเป็นในเวลาอื่ร ฉันก็จะมีเวลาที่จะคิด
'นอนในตอนนี้หรือเตรียมพร้อมสำหรับการจู่โจม'
แต่แล้วซังจินก็ได้เตรียมพร้อมที่จะนอนโดยที่ไม่ต้องห่วงเรื่องอื่นๆในวันนี้ เขายังคงมีเวลาอยู่อีกมามายก่อนที่จะไปกินอาหารกลางวันกับเซริน
ก่อนที่เขาจะหลับเขาก็ได้มองไปที่ดาบที่เก็บเอาไว้ข้างๆเตียงดาบที่มาอยู่ในสายตาเขามากขึ้นในตอนนี้ก็คือบลัดเวเจย
เขาได้เหวี่ยงดาบไปเรื่อยๆในจนมาถึงช่วงที่เขาได้ตายไปในก่อนหน้านี้ ซังจินได้หลับลงไปในขณะที่มองไปที่ดาบ
****
"ทุกคนพร้อมหรือยัง?"
ค้อนขนาดใหญ่และโล่ขนาดใหญ่เหมือนกันกับชายชาวภูเขา ผู้มี่คนอื่นๆเรียกกันว่า ฮิวเดิร์แบนท์
ด้วยส่วนสูงกว่าสองเมตร เขาได้ถือโล่และหอกเอาไว้ เขาเป็นคนที่ทุกคนบนรถควรจะเชื่อถือ
เขาเป็นนักเพาะกายมืออาชีพที่เป็นตัวแทนของประเทศเยอรมันดังนั้นเขาจึงมีวนฉันพร้อมเสมอน
"ฉันพร้อมเสมอ"
ริวชินได้ตอบกลับไป เขาได้ยืนอยู่โดยที่เอาหอกพิงตนเองเอาไว้ เขาเป็นลูกศิษย์ของแกรนด์มานสเตอร์
เขาอีโก้ที่สูงและจิตวิญญาณที่ต้องการการแข่งขัน ดังนั้นเขาจึงมักจะทะเลาะกับนักล่าคนอื่นๆ แต่นักล่าส่วนใหญ่ก็ได้สนับสนุนเขาเมื่อได้เห็นความสามารถของเขา
"ฉันพร้อมแล้ว"
อรูวโจเป็นนักหน้าไม้จากบราซิล อาชีพในอดีตของเขาคือทหาร เขากล่าวว่าเขาได้เดินทางผ่านป่าฝนอเมซอนและมีประสบการณ์ต่อสู้ที่แท้จริง
เขาได้เรียนรู้วิธีควงหน้าไม้จากพ่อของเขาเมื่อตอนเด็ก ไม่เพียงเท่านั้นเขาก็ยังมีทักษะอื่นอีก เขามีความชำนาญได้ด้านกริซและการต่อสู้แบบชุลมุนและเล็งจากระยะไกบ
"อัมคูบ้าพร้อม"
อัมคูบ้าเป็นชนเผ่าพื้นเมืองของชาวแอฟริกัน เขาใช้หอกด้อยกว่ากว่าริวชินพื้นที่ของเขามีอยู่แต่พวกผู้เชี่ยวชาญ
"ฉันยังขอพรกับพระเจ้าอยู่นะ ช่วยรอหน่อยนะ"
มุสตาฟาเป็นจอมเวทย์ พิ้นที่ของเขามีผู้เชี่ยวญชาญเริ่มต้นเวทมนตร์ เขาได้เริ่มต้นอำนาจจากเวทย์เป็นสีฟ้าเขาได้เริ่มต้นมาด้วยพลังเวทย์ที่มากกว่าคนอื่น 3 - 4 ท่าน
เขาพยายามที่จะใช้เวทย์ตั้งแต่เริ่มต้นด้งอำนาจ ดันนั้นความเข้าใจและความสามารถในการใช้เวทย์ของเขาได้สูงมาก
"ถ้างั้นฉันจะโอกาสนี้ในการฟื้นฟูและฝึกฝนตวามที่ชำนาญ"
นาดาได้เป็นผู้หญิงคนเดียวในทีม เธอชำนาญในมีดสั้นยและสุดยอดมนต์ดำ เธอนั้นมีภาพลักษณ์น่าทึ่ง แต่ก็ไม่มีใครกล้ากระตุ้นเธอ
อธิษฐาน...ในสถานการณ์เช่นนี้
เสียงได้ออกมาจากชายร่างยักษ์ที่มีขวานอยู่ ไม่มีใครรู้ว่าความจริงเขาเป็นชาวรัสเซียเขานั้นมีกล้ามเนื้อที่เหมือนกับฮิวเดอร์แบรนด์ โดยมีบุคลิกที่เงียบเฉย แต่ในบางครั้งเขาก็จะเข้าไปพูดคุยกับริวชินในเรื่องของทักษะการต่อสู้ และอรูวโจเกียวกับแผนกลยุทธ์ ในอดีตเขาเคบเป็ยตยที่ใครๆก็พูดถึงนายมหารระดับสูง
"หืมมม...ฉันก็พร้อมเช่นกัน"
ซันซุเกะเป็นนักธนู ชายชายญี่ปุ่นที่เงียบขรึมและก้มหน้า แต่เมื่อใดที่เขาถือธนู เขาจะดูเหมือนเปลื่ยนไปเป็นเครื่องจักรสังหาร เขาเข้าใจได้ยากมากแต่ว่าทักษะเช่นนี้มันน่าเชื่อถือ
"ฉันพร้อมแล้ว"
ซังจินได้ยกมือขึ้นตำแหน่งที่เขาอยู้เป็นตัวแทนสร้างความเสีบหายได้ข้างงหน้า หรือก็คือการที่เขาเหวี่ยงดาบไปโดยไม่หยุดนิ่ง
ยกเว้นเพียงมุสตาฟาที่กำลังโค้งคำนับภาวนาให้ไปในสถานที่ๆไกลออกไปเล็กน้อย เมื่อทุกคนพร้อมกันหมดแล้วยกเว้นมุสตาฟา ซังจินก็ได้ปรบมือและพูดออกมา
"นั่นมันหมายความวาสาพวกเราควรจะไปให้เร็วที่สุดและทำมันให้เสร็จๆไป"
แต่ใครบางคนก็ได้คว้าไหล่และพูดออกมา
"อะไรนะ? แต่ฉันยังไม่พร้อม ซังจิน
ซังจินได้หันไปมองรอบๆชายที่ใส่รองเท้าบูตได้จับที่ไหล่ของซังจินอยู่ เขาคือจอมเวทย์ที่ดีที่สุดในทีมเอ็ดเวิร์ด