บทที่ 37 ปรอทแตก! ความกล้าเริ่มพุ่งพล่าน
บทที่ 37 ปรอทแตก! ความกล้าเริ่มพุ่งพล่าน
ผู้แปล loop
ณ ด้านนอกของโรงอาหาร
หลังจากดงซูบิน, ต้าหลินเหม่ยและคนอื่นๆที่ได้ยินว่ามีไฟไหม้ พวกเขาก็วิ่งออกจากโรงอาหารทันทีและมองไปที่ทิศทางของอาคารที่มีควันขึ้นขโมงและมีไฟพุ่งออกมา ซึ่งจุดนั้นคืออาคารของสำนักงานกิจการ ควันที่เป็นโพยพุ่งออกมามันมาจากชั้นสอง ซึ่งมันอยู่ไกลออกไปเล็กน้อยจากห้องทำงานของดงซูบิน ควันหนาปกคลุมทางเดินและออกมาจากหน้าต่าง ดูเหมือนว่าไฟนั้นจะเริ่มรุกรามเป็นวงกว้างไปทั่วชั้นแล้ว
“มีใครติดอยู่ในอาคารรึเปล่า แล้วทำไมถึงเกิดไฟไหม้ขึ้นมาได้ล่ะ?”
“โทร 119!เรียกเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร็วเข้า”
“พวกเรากำลังจะโทรเรียกอยู่”
บริเวณนั้นเต็มไปด้วยฝูงชนที่กำลังตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก
ตอนแรก ดงซูบินก็ไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ไฟไหม้เท่าไรนักเพราะมันไม่ใช่ธุระอะไรของเขาที่ต้องกังวล แต่เมื่อเขาเห็นใบหน้าของหลี่ชิงและโจวฉางจู เขาก็รู้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขามองไปที่ชั้นสองที่มีควันพุ่งออกมา ‘เวรล่ะ! นั่นคือห้องทำงานของผู้อำนวยการหลี่ไม่ใช่หรอนั้น!’
หลี่ชิงตะโกนว่า“เร็วเข้า ทุกคนจากแผนกกิจการทั่วไปตามฉันมา!”
โจวฉางจูเช็ดเหงื่อของเขาบนใบหน้า แล้ววิ่งไปทางตามหลังหลี่ชิงไปยังอาคารที่กำลังเกิดเพลิงไหม้ในตอนนี้ “รีบดับไฟกัน!!”
ฉางจี้และเกาแพนเหว่ยก็วิ่งตามไปติดๆ ดงซูบินรู้ว่านี่เป็นเหตุฉุกเฉินมาก เขารีบวิ่งไปข้างหน้ากับต้าหลินเหม่ยอย่างรวดเร็วดงซูบินรู้ว่าเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ในครั้งนี้ต้องมาจากกาต้มน้ำของห้องหลี่ชิงแน่ๆ หลี่ชิงและโจวฉางชุนน่าจะลืมที่จะถอดปลั๊กก่อนออกจากห้อง และพวกเขาต้องรับผิดชอบต่อการเกิดไฟไหม้ครั้งนี้และเอกสารที่สำคัญมากก็ยังอยู่ในห้องทำงานของเขา หากเอกสารเหล่านั้นเสียหายคนในสำนักงานกิจการทั้งหมดอาจจะโดนสั่งลงโทษสถานหนักได้เลย
ทางเดินบนชั้นสองถูกปกคลุมด้วยควันหนาและทำให้หายใจไม่ออก
มีบางคนจากฝ่ายการเมืองและฝ่ายการเงินพยายามดับไฟอยู่ พวกเขากำลังพยายามสาดน้ำไปที่ประตูไม้ที่มีไฟลุกทั้งประตู
“ตอนนี้ประตูมันโดนไฟไหม้หมดแล้ว พวกเราไม่สามารถเปิดมันเข้าไปได้”
“ดับไฟที่ประตูก่อน พยายามอย่าให้มันลามไปจุดอื่นได้”
“ไปเอาน้ำมาอีกสามถังสิ น้ำที่มีตอนนี้นี้ไม่พอดับไฟหรอก!”
หลี่ชิงเขาเองกำลังตื่นตระหนก เขาคว้าเครื่องดับเพลิงไปตามทางและฉีดพ่นมันไปที่ประตู ฉางจี้และเกาแพนเหว่ยเองนั้นก็พยายามหาเครื่องดับเพลิงแต่พวกเขาก็ไม่พบมัน พวกเขาทำได้เพียงนำถังและตักน้ำจากห้องน้ำในบริเวณใกล้เคียงสาดเข้าไปได้เท่านั้น ฉางจ้วง, ดงซูบินและคนที่เหลือก็มาถึงในไม่ช้าและช่วยพยายามดับไฟ
"เกิดอะไรขึ้น? หลี่ชิง! นายเล่าให้ฉันฟังว่าเกิดอะไรขึ้น?” ชายวัยกลางคนที่ดูเคร่งขรึมต้องวิ่งมาจากสุดทางของอาคาร เขาคือหยางเหลียงผู้อำนวยการสำนักงานเขตสาขา
หลี่ชิงกำลังตื่นตระหนก:“ผู้อำนวยการหยานผม……ผมไม่รู้ว่าทำไมห้องของผมถึงเกิดไฟไหม้ขึ้นมาได้” เขาโกหกพร้อมกัดฟันของเขาไว้ และพยายามหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบครั้งนี้
ผู้อำนวยการหยานชี้ไปที่เขา:“ฉันไม่สนใจ เร็วเข้าและพยายามนำเอกสารอะไรก็ตามที่อยู่ในนั้นออกมาให้ได้!”
“ผู้อำนวยการหยานผม ผม……” หลี่ชิงไม่รู้จะพูดอะไรต่อไปได้ “จริงผมไม่ได้ห่วงเอกสารอื่นๆถ้ามันเสียหาย แต่…… แต่ผมห่วงเอกสาร สองรายการที่หัวหน้าให้ผมเมื่อเช้านี้คือ……ยังอยู่ในที่ทำงานของผม”
“อะไรนะ!” ใบหน้าของผู้อำนวยการหยานเปลี่ยนไป “พูดอีกครั้งสิ?”
เครื่องดับเพลิงของหลี่ชิงเองก็หมดลงแล้วและเขาก็อธิบายอย่างรวดเร็วว่า:“เช้านี้ทางแผนกความลับทางราชการกำลังประชุมกันอยู่และไม่มีใครรับรองเอกสารให้ ดังนั้นผมจึงนำมันกลับไปที่ห้องของผมและจะนำมันไปให้พวกเขาอีกรอบหลังทานอาหารกลางวันเสร็จเรียบร้อย แต่ใครจะรู้ว่า……”
ผู้อำนวยการหยวนตะโกน:“นายได้รับอนุญาตให้เก็บเอกสารเหล่านั้นไว้ในห้องของนายได้อย่างไร? ฉันบอกอะไรนายเมื่อฉันส่งเอกสารให้นาย ฉันบอกให้นายจัดส่งมันไปทันที เพราะเอกสารเหล่านั้นมันไม่มีการทำสำเนาเอาไว้และมีความสำคัญมาก แต่นายกับทิ้งมันไว้ในที่ห้องและออกไปทานอาหารกลางวันได้อย่างไร นายรู้ขั้นตอนการจัดการระดับชั้นของเอกสารหรือเปล่า? นายไม่รู้เรื่องนี้ได้ยังไงกัน!”
โจวฉางจูที่ยืนอยู่ข้างก็มีเหงื่อไหลออกมาเยอะทั่วตัวของเขา
หลี่ชิงตอบว่า“หัวหน้าไม่ต้องกังวลนะครับ พวกเรามีเวลาพอที่จะนำเอกสารนั้นออกมาแน่นอน”ไฟที่ประตูสำนักงานนั้นดับแล้ว หลี่ชิงตะโกนไปที่เกาแพนเหว่ยตอไปว่า “พยายามดับไฟให้ได้และพังประตูเข้าไปเอาเอกสารในลิ้นชักที่สองของโต๊ะทำงานของฉันทางด้านขวา เอามันออกมาให้ได้ถึงแม้ว่านายจะตกอยู่ในอันตราย นายก็ต้องเอาออกมาให้ได้!”
เกาแพนเหว่ยรู้ว่าถ้าเขาสามารถนำเอกสารออกมาจากไฟที่กำลังไหม้อยู่ได้นั้น เขาจะได้รับความเชื่อใจมากขึ้น เขารีบวิ่งไปข้างหน้าและเตะประตูเข้าไป “ปัง” แต่ประตูก็ไม่ยอมเปิดออก ดงซูบินที่อยู่ตรงนั้นเห็นถึงโอกาสนี้และต้องการพังประตูเข้าไปเสียเอง แต่เกาแพนเหว่ยพยายามผลักเขาออกไปและพยายามพังประตูต่อไปเรื่อยๆ
“ปัง”
บานประตูก็ได้หล่นลงมา
ดงซูบินเกือบจะอุทานออกมาเสียงดังหลังจากที่ได้เห็นโอกาสที่จะได้รับความเชื่อใจจากหัวหน้าของเขา
ฉางจี้เขาก็หัวเราะในใจของเขาและต้องการที่จะรีบเข้าไปในสำนักงาน
เกาแพนเหว่ยเองก็วิ่งตามหลังมาติดๆ เขาวิ่งเข้าไปในห้อง
แต่หลังจากที่พวกเขาก้าวเข้าไปในห้อง พวกเขาก็รู้สึกถึงความร้อนบนใบหน้า ห้องถูกปกคลุมด้วยควันดำหนาไปหมด
เกาแพนเหว่ย และ ฉางจี้เองก็ตกใจ พวกเขาใช้กำลังทั้งหมดเพื่อวิ่งหนีไฟที่กำลังไหม้อยู่และวิ่งออกมาจากห้อง
หลี่ชิงและโจวฉางจูที่กำลังตื่นตระหนกก็ตะโกนออกคำสั่ง:“เข้าไปข้างในและเอาเอกสารออกมา มันอยู่ในลิ้นชักที่สอง!”
ในตอนแรก เกาแพนเหว่ยและฉางจี้คิดว่าไฟคงไหม้แค่รอบๆประตูเท่านั้น แต่เมื่อพวกเขาเข้าไปในห้อง พวกเขาเห็นทุกอย่างในสำนักงานนั้นมืดไปหมด ชั้นวางที่เต็มไปด้วยหนังสือกองเอกสารในมุมคอมพิวเตอร์โต๊ะเขียนหนังสือ ฯลฯ ล้วน แต่โดนไฟไหม้ทั้งหมด พวกเขาจ้องมองไปที่กองเพลิงในสำนักงานฉางจี้ และ เกาแพนเหว่ย ไม่กล้าที่จะนำชีวิตของเขาเข้าไปเสี่ยงขนาดนั้น ไม่ว่าจะได้รับคำชื่นชมจากหัวหน้าขนาดไหนถ้าพวกเขาทำสำเร็จ แต่มันก็ไม่คุ้มที่จะเสี่ยงชีวิตอยู่ดี
“ผมทำไม่ได้ เอกสารน่าจะถูกไฟไหม้จนหมดแล้ว” เกาแพนเหว่ย กำลังจะหันหลังกลับ
ฉางจี้เองก็ก็ถอยกลับไม่กี่ก้าว เขากลัวว่าเขาจะโดนไฟคอกตายเสียก่อน ก่อนที่จะเอาเอกสารกลับมาได้
หลี่ชิงพยายามอุทานอย่างเงียบ ๆ และกำกำปั้นของเขา เขาต้องการวิ่งเข้าไปในห้องด้วยตัว แต่เขาเองก็ลังเลเพราะเขาไม่มีความกล้าที่จะเข้าไปในห้องเช่นกัน
“ถังดับเพลิงอยู่ที่นี่แล้ว!” จ้วงจื้อ และ ต้าหลินเหม่ยกำลังวิ่งมาพร้อมกับถังดับเพลิงคนล่ะถึง พวกเขาพยายามดับไฟให้มากที่สุด
ทุกคนในที่เกิดเหตุรู้ดีว่าไม่มีหนทางใดที่จะนำเอกสารเหล่านั้นออกมาได้ เพราตอนนี้ไฟได้โหมกระหน่ำอยู่ในห้อง
ผู้อำนวยการหยานชี้ไปที่หลี่ชิงและโจวฉางจู:“สำนักงานกิจการทั่วไปของพวกนายกำลังทำอะไรกันอยู่!” เขาหยุดอยู่พักหนึ่งแล้วก็พูดต่อไปว่า “นายรู้หรือไม่ว่าเอกสารเหล่านั้นคือเอกสารอะไร? นายรู้ไมเนี่ย! เรื่องง่ายๆแค่นี้พวกนายก็ทำไม่ได้ใช่ไหม? ถ้าอย่างงั้นฉันต้องการจดหมายลาออกของนายสองคนบนโต๊ะของฉันวันพรุ่งนี้!”
โจวฉางจูรู้ว่าไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้ในตอนนั้น เขาก้มหัวหน้าลงและนิ่งเงียบ เขาคิดว่าเขาจะเกษียณอายุในตำแหน่งหัวหน้าสำนัก แต่ตอนนี้…… ..
ต้าหลินเหม่ย, เกาแพนเหว่ย และคนอื่น ๆ ต่างก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ในครั้งนี้
หลี่ชิงไม่สามารถพูดอะไรได้ไปมากกว่านี้ ‘ลาออก?’ งานนี้สำคัญกับเขา ลูกสาวของเขาต้องการเงินเดือนของเขาเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาล ถ้าเขาตกงานเขาจะทำอะไร? ตอนนี้เขาไม่มีทางทำอะไรได้อีกต่อไปแล้ว
ทันใดนั้นก็มีเสียงน้ำที่กำลังถูกสาดอยู่
ชายคนหนึ่งคว้าถังน้ำแล้วสาดใส่ตัวเองทำให้ตัวเองเปียกและวิ่งเข้าไปในห้องที่กำลังมีไฟลุกโชย ทุกคนก็ตกใจขึ้นมาทันที่
เขาคนนั้นคือ ดงซูบิน!
ทุกคนในที่เกิดเหตุจ้องมองเขาอย่างไม่เชื่อ
คนนี้กล้ากระโดดลงทะเลเพลิงที่พร้อมจะเผาไหม้ทุกอย่างให้เป็นจุน
“ซูบิน!!!!”
“ซูบินอย่า!!!”
“นายจะฆ่าตัวตายหรือยังไงเนี่ย? กลับมา!!! เอกสารมักถูกไฟไหม้หมดแล้ว!”