ตอนที่ 20: พวกเขาตาบอดรึเปล่า?
ระบบการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่อยู่ยงคงกระพัน
ตอนที่ 20: พวกเขาตาบอดรึเปล่า?
เขาไม่ได้กลัวการฆ่า แต่เขาค่อนข้างใส่ใจต่อการข่มขู่อีกฝ่าย
ตอนนี้ เขาเริ่มจะไม่พอใจต่อทัศนคติของอีกฝ่ายที่เขาเพิ่งช่วยชีวิตลูกสาวเขาเอาไว้ คุณอยากจะหักขาของฉันเพื่อเป็นรางวัลอย่างนั้นหรอ? ถึงแม้คุณจะไม่สามารถหาเหตุผลมาอธิบายได้ แต่คุณก็ยังไม่เชื่อ แม้แต่คำพูดของลูกสาวตัวเองอย่างนั้นหรอ?
ทันใดนั้น ร่างการของหนิงเทียนหลินรู้สึกโกรธขึ้นมาทั้งตัว
“นาย…”
หลินซวงรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างฉับพลัน ต่อสายตาของหนิงเทียนหลินที่มองมานั้นแหลมคม และเยือกเย็น สายตาแบบนี้เขาเคยเห็นมาก่อน มันถึงตายได้เลย!
ดูเหมือนว่าคำตอบของเขาไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายพึงพอใจ เขาจะได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง ไม่นานนักที่สีหน้าเขาเปลี่ยนเพราะบอดี้การ์ดที่เหลือได้ลงมาจากตัวตึกและยืนอยู่ข้างกายเขาแล้ว และยิ่งทำให้เขามีความกล้าเพิ่มขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น เขาเพิ่งรู้สึกว่าเขาเสียหน้า ในเซี่ยงไฮ้ เขาไม่เคยเห็นลมและคลื่นแรงมาก่อน ตอนนี้เขาเหมือนคนตาบอดด้วยสายตาจากเจ้าหนุ่มนั่น
“ใช่”
“ถ้าแกจะยังเดินต่อไป และไม่สามารถหาเหตุผลที่เหมาะสมมาอธิบายได้ ฉันก็จะให้พวกนี้หักขาแกซะ!”
หลินซวงรวบรวมพลังใจของเขา จ้องไปที่ตาของหนิงเทียนหลินอย่างเยือกเย็น
บัดนี้เขาเพิ่มความโกรธไปที่หนิงเทียนหลิน มันต้องเป็นชายคนนี้แน่ๆที่เกลี้ยกล่อมให้ลูกสาวของเขาเล่นตลกแบบนี้!
ลักพาตัวงั้นหรอ?
ไหนล่ะการลักพาตัว?
ไหนล่ะศพคนตาย?
ไหนล่ะร่องรอยการต่อสู้?
คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขานี้ก็แค่ชายหนุ่มที่ไม่รู้ความสูงของแผ่นดิน
“อ่อ”
หนิงเทียนหลินยิ้มอย่างโกรธเคือง หันกลับมาและก้าวมาข้างหน้า เขาก้าวมา 3 ก้าวและหยุด “ฉันก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าแกจะหยุดขาฉันได้ยังไง”
ตอนนี้ พลังเขาเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ6 และพลังต่อสู้ก็อยู่ที่ 24 คะแนน ถึงแม้คู่ต่อสู้จะมีถึง 5 คนเขาก็ไม่สนใจ
“ดีมาก!”
“ดีมาก!”
“ดีมาก!”
หลินซวงพูดคำว่า ดีมาก ออกมาต่อๆกัน เขาไม่ได้คาดหวังว่าชายหนุ่มจะกล้าหลอกลวงเพื่อเอาเงินจากเขา เขาเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าแผ่นดินสูงเพียงใดและกล้าที่จะสู้กับเขา เขาคิดว่าเขาเองไม่กล้าทำอะไรชายหนุ่มงั้นเรอะ?
“เอาสิ!”
“หักขาขวาและมือขวาของมันซะ!”
“กล้าโกหกเอาเงินของฉัน! ทำให้มันดูซิว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร!!”
หลินซวงมั่นใจว่าหนิงเทียนหลินและลูกสาวของเขาร่วมกันวางแผนเพื่อหลอกลวงเอาเงิน 1 ล้านหยวน!
ถึงแม้หนิงเทียนหลิงจะไม่รู้ว่าทำไมจึงรู้สึกเสียใจขึ้นมากลางคันที่ช่วยชีวิตหญิงสาว และพิจารณาจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว มันเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น และเรื่องนี้จะต้องสอนบทเรียนให้ลูกสาวของเขา มิฉะนั้นถ้าเธอเติบโตขึ้นไปในอนาคต เธอจะไม่รู้ว่าจะต้องเจออะไรและเธอจะใจร้ายกับพ่อของเธอเอง
และลูกสาวของเขาต้องไม่ได้รับบทเรียนนี้ เขาเพียงแค่จะสั่งสอนเจ้าเด็กหนุ่มที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง
มือและขาอย่างละข้างก็พอ เบาะๆ
“ครับ!”
บอดี้การ์ดทั้ง 5 คนพยักหน้ารับ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาทำแบบนี้ เจ้านายของพวกเขา หลินซวง เป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ก็ต้องมีสิ่งที่ไม่น่าดูบ้าง บางทีพวกเขาก็ถูกเรียกว่าบอดี้การ์ด บางทีก็เป็นอันธพาล
ทันใดนั้น พวกนั้นตรงมาที่หนิงเทียนหลิน ถึงจะมีความรู้ พวกเขาก็ไม่ได้สนใจคำว่า 5 รุม 1 ไม่สนคำครหา และอีกฝ่ายก็เป็นเพียงเด็กวัยรุ่น สิ่งที่พวกมันสนใจในตอนนี้คือเวลา!
สิ่งสำคัญที่สุดคือทำงานให้สำเร็จตามคำสั่งเจ้านายภายในเวลาอันสั้น
“พ่อ!”
“พ่อกำลังทำอะไร!”
“หยุดพวกเขาสิ!”
“พ่อทำอย่างนี้ได้ยังไง!”
หลินเจียอี้มองไปที่พ่อของเธออย่างกับคนบ้า แต่เธอก็ไม่เคยคิดว่าพ่อของเธอจะโหดเหี้ยมกับผู้มีพระคุณถึงเพียงนี้ หักขาและหักมือ เขาจะใช้ชีวิตต่อไปได้ยังไง!
“หุบปาก!!”
“เรื่องของแก เดี๋ยวฉันจะกลับไปและชำระทีหลัง!”
หลินซวงตะโกนอย่างเฉียบขาดไปยังลูกสาวของเขา ตอนนี้เขารู้สึกเศร้าเป็นอย่างมาก เขาไม่เคยคาดคิดว่าลูกสาวที่แสนดีของเขาจะร่วมกันกับผู้ชายมาหลอกลวงเขาได้ ถึงแม้ว่าเขาจะหันหัวไปดูช่วงเวลาสำคัญ แต่มันจะต้องหวนกลับมาอย่างไม่สิ้นสุด
ในขณะเดียวกัน เขามองขึ้นไปที่คนขับรถ เขาเห็นอีกฝ่ายเร่งรุดเพื่อไปหยุดหลินเจียอี้ที่กำลังเร่งรีบ
“ชำระทีหลังงั้นหรอ!”
“ทำไมจะต้องมาชำระบัญชีกับหนูไม่ทราบ!”
หลินเจียอี้ตะโกนออกมา เธอรู้สึกราวกับว่าพ่อของเธอไม่ใช่พ่อคนเดิมที่เธอเคยรู้จัก เธอเพิ่งหนีออกจากหายนะมาได้! ทำไมพ่อจึงได้ปฏิบัติต่อเธอแบบนี้!!?
“แกไม่รู้หรือว่าแกทำเรื่องอะไรลงไป!”
“แกต้องพูดออกมาไหม!”
ดวงตาของหลินซวงเต็มไปด้วยความเสียใจ ตอนนี้ลูกสาวของเขาไม่ได้สำนึกถึงความผิดพลาด หรือว่าเจ้าผู้ชายคนนี้จะมีความสำคัญต่อหัวใจของลูกสาว?
ถ้ามันเป็นคนดี เขาก็จะยินดีให้เดินเคียงข้างไปกับลูกสาวของเขา แต่เจ้ากากเดนสังคมคนนี้กล้าหลอกลวงเขา และไม่ได้ยินดีที่จะอยู่กับลูกสาวของเขา ถ้าลูกสาวของเขาอยู่กับคนเช่นนี้ ชีวิตต้องพังทลายแน่นอน!
“พูดสิ!”
“พ่อพูดสิ!”
“หนูทำเรื่องอะไร!!?”
หลินเจียอี้กำลังคลั่งและตะโกนไปยังพ่อของเธอ เธอไม่คาดคิดเลยว่าเรื่องจะเลยเถิดถึงเพียงนี้
“ดีมาก!”
“ดีมาก!”
“เอาปากหนักๆของแกมาให้ฉันซะ!”
“แกขึ้นไปและดูซิ! บนตึกนั้นไม่มีศพเลยแม้แต่ศพเดียว! แกกล้าพูดมาได้ยังไงว่ามีโจรตั้ง 5 คน!? แล้วไหนล่ะเลือดที่นองบนพื้น! ประตูไม้ที่ถูกถีบร่วงอยู่บนพื้นนะหะ!?”
“ไอ้เจ้าพวกนี้มันคุ้ยหาทั้งตึกแต่ไม่เจออะไรเลย!!”
“พวกแก 2 คนรวมหัวกัน จัดฉากเรื่องหลอกลวง! เพื่อหลอกเอาเงินจากพ่อ! จะเป็นอย่างอื่นได้ยังไง!? เงินสด 100 ล้านหยวน! แกก็รู้ว่เงินตั้ง 100 ล้านหยวนทำให้พ่อของแกเป็นบ้าได้เลย! แกรู้ไหมฉันพยายามที่จะหามาคืนเงินเท่าไรที่สูญไป!!”
หลินซวงโกรธจัดและถามต่อหน้าลูกสาวเสียงดัง
“อะไรนะ…”
“เป็นไปได้ยังไง...”
“พวกมันนอนตายอยู่บนนั้น”
หลินเจียอี้มองไปที่พ่อของเธออย่างกับตัวประหลาด และรู้สึกว่าเขาพูดแบบนี้ออกมาได้ยังไร
ทันใดนั้น เธอก็บิดมือของคนขับรถ รีบตรงมาหาพ่อของเธอ ดึงมือเขาและพูดเสียงดัง “ได้”
“พ่อมากับหนู เดี๋ยวหนูจะพาไปดู ศพของไอ้ 5 คนนั้นที่นอนตายอยู่บนพื้น!”
“พวกบอดี้การ์ดของพ่อต้องตาบอดแน่ๆ ถึงได้หาไม่เจอ!”
หลินเจียอี้เกรี้ยวกราดและลากมือของหลินซวงวิ่งไปที่ตึกแห่งนั้น เธอต้องการให้พ่อของเธอเห็นว่ามันช่างน่าตลกกับสิ่งที่เขาเพิ่งพูดออกมา อีกอย่างเธอจะร่วมหัวกับคนนอกหลอกลวงพ่อตัวเองได้ยังไง?
มีคนตายตั้งมากมายในห้องนั้น แต่พวกนั้นกลับมองไม่เห็นได้ยังไง?
หลินซวงไม่ได้ขัดขืนและตามเธอขึ้นไป เขาต้องการให้ลูกสาวเห็น ปล่อยให้เธอรู้ว่ามันไม่มีหลักฐานมาหักล้างคำโกหก ไม่สำคัญว่าจะเป็นคนดีสักแค่ไหน แต่พวกเขาก็ผิด!!
“ตู้ม!”
“ตู้ม!”
“ตู้ม!”
ทั้งสองวิ่งไปที่ตึกหลังนั้น โดยไม่ทันสังเกตุว่าการต่อสู้ของทางด้านหนิงเทียนหลินดูเหมือนกำลังจะจบลง ทำให้ศีรษะมึนงงและสั่นสะท้าน