Chapter 106 – Red Dragon’s Lair (12) [18-01-2020]
Chapter 106 – Red Dragon’s Lair (12)
อาเรี่ยนได้ยกมือและพูดออกมา
"อัญเชิญ"
และบนฝ่ามือของเธอก็ได้มีแหวนวงเล็กๆโผล่ออกมา เธอได้มอบมันให้กับซังจิน ซังจินก็รับมันมาและดรวจสอบแหวนแปลกๆนี้
มันเป็นแหวนที่มีความโปร่งใสและมีวัตถุลึกลับสีฟ้าลอยอยู่ภายใน มันได้เคลื่อนย้ายไปอย่างไม่นอนนอน บางครั้งมันก๋รวมตัวกัน แยกจากกัน หรือไหลไปเหมือนกับน้ำ
ในขณะที่ซังจินกำลังเฝ้ามองดูวัตถุนั้นอยู่ อาเรี่ยนก็กล่าวออกมา
"มันเป็นไอเทมที่มีพลังของจอมเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของประวัติศาสตร์มนุษย์บรรจุเอาไว้อยู่ อนาทอลแห่งท้องฟ้าสีคราม"
ซังจินได้เอียงหัวเมื่อได้ยินชื่อนี้ ในก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินชื่อ จอมเวทย์ท้องฟ้าสีคราม มาจากซาดาเมียร์ แต่ซาดาเมียร์ที่อยู่ข้างๆเขาก็ได้ตอบกลับมา
"พระเจ้า ไอเทมชิ้นนี้มันบรรจุพลังของจอมเวทย์เอาไว้?"
ซังจินได้จ้องไปที่เขา ตอนนี้เขาได้นึกกลับไปในเรื่องที่ซาดาเมียร์ได้เคยกล่าวออกมาก่อน
'มีจอมเวทย์หลายคนที่มีชื่อเสียงในอดีค แต่ในหมู่พวกเขา จอมเวทย์แห่งเพลิงทมิฬ พ่อมดแห่งแสงสีม่วง และจอมเวทย์นภาที่มีชื่อเสียงมากที่สุ ด ตั้งแต่ที่ฉันได้กลาบมาเป็นจอมเวทย์น้ำเงินด้วยตนเอง ฉันเคารพและสนใจในจอมเวทย์แห่งท้องฟ้าสีครามอนาทอลมากที่สุด...'
ซังจินได้ถือแหวนไว้เหนือหัวของเขา แต่แทนที่จะมีหน้าต่างข้อมูลออกมา โอเปอเรเตอร์ก็ได้กล่าวออกมาว่า
[ไอเทมชิ้นนี้ไม่ถูกต้อง]
ซังจินได้ขมวดคิ้ว แม้ว่าถ้าหากเขาพบอะไรในการจู่โจม ถ้าหากว่าโอเปอเรเตอร์ไม่ได้ให้ไอเทมนั้นแก่เขาอย่างเป็นทางการ เขาก็จะไม่สามรรถตรวจสอบข้อมูลหรือใช้งานมันได้
'มันเป็นไอเทมอะไรกัน...?'
เขาได้คิดขึ้นมา จากนั้นอาเรี่ยนก็บอกแก่เขา
"ใส่มันเอาไว้"
ซังจินได้ตอบเธอกลับไป
"แต่ฉันไม่สามารถจะสวมใส่หรือใช้มันได้ในตอนนี้"
"หืมม? นายหมายถึงอะไร?"
ซังจินได้เคาะไปที่ลูกบาศก์และพูดออกมา
"ถ้าหากว่าไม่ได้รับการอนุญาติจากลูกบาศก์ แม้ว่าฉันจะมีไอเทมแต่ฉันก็ไม่สามารถจะใช้มันได้ บางทีหลังจากที่การจู่โจมนี้สิ้นสัดลง ฉันก็จะได้รับไอเทมชิ้นนี้ในตอนแจกรางวัลจามปกติ และเมื่อได้รับมันอย่างเป็นทางการฉันก็อาจจะสามารถใช้งานมันได้"
"หืมม จริงรึ?"
อาเรี่ยนได้เดินเข้าไปหาเขาและคว้าลูกบาศก์มา นี่มันเป็นครั้งที่สองแล้วที่สิ่งนี้ได้เกิดขึ้น แต่มันก็ยังน่าทึ่งอยู่ดี เธอสามารถจะจับลูกบาศก์ของคนอื่นๆได้ อาเรี่ยนได้กล่าวออกมาในขณะที่มองดูลูกบาศก์
"สิ่งนี้จริงๆแล้ว....มันดูเหมือนกับไอเทมที่เกี่ยวข้องกับ..."
ซังจินได้เบิกตากว้าง
"เธอรู้ไหมว่าใครเป็นคนสร้างมัน?"
ซังจินไม่เคยคิดเลยว่าลูกบาศก์มันจะซ่อนเงื่อนงำของผู้สร้างมันเอาไว้ เขาได้ถามออกมาในทันที"นี่...ฉันหมายความว่าเธอรู้ตักใครที่สร้างโอเปอเรเตอร์ขึ้นมาไหม?"
อาเรี่ยนได้ให้ซังจินดูในขณะที่ตอบกลับไป
"ฉันไม่ได้รู้แน่ชัดนัก...แต่ไอเทมนี้มันจะต้องถูกสร้างมาโดยใครบางคน ใช่ไหมนะ?"
โอเปอเรเตอร์ มันคือเครื่องมือสำหรับในการดำเนินการจู่โจม ถ้าหากว่ามันมีผู้ที่สร้างมันขึ้นว่าก็หม่ายความว่าเขาเป็นคนที่วางแผนเรื่องทั้งหมดนี้
"แต่ใครกันหละ..."
"...ฉันไม่สามารถจะบอกนายได้ไปมากกว่านี้....แม่ของฉันได้เตือนฉันไม่ให้ฉันมีส่วนเกี่ยวข้องกับมัน"
"แม่?"
เมื่อเห็นซังจินแสดงความประหลาดใจ เธอก็ได้ตอบเขากลับไปตามความเป็นจินง
"ทำไมหละ? ทุกๆชีวิตก็จะต้องมีแม่ ถูกไหม?"
เธอพูดถูก ซังจินได้ถูกทอดทิ้งและเป็นเด็กกำพร้า แต่มันจะต้องมีคนให้กำเนิดเขามาแน่นอน สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจมันก็คือการที่เธอยังคงมีแม่คอยดูแลอยู้
อาเรี่ยนนั้นมีความแข็งแกร่งเป็นของตัวเองที่มหาศาล เขาไม่สามารถจะจินตนาการพลังของแม่ของเธอได้เลย ซังจินได้พูดกับเธอ
"เธอไม่สามารถจะให้คำใบ้เกี่ยวกับสิ่งนี้ได้ซักหน่อยเลยหรอ? ใครกันที่เป็นคนวางแผนและบังคับดำเนินการระบบการจู่โจมนี้?"
อาเรี่ยนได้มองไปด้านข้างอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบกลับไป
"มันไม่ถูกต้องนักที่จะพูดว่ามีคนวางแผนและบังคับดำเนินการระบบการจู่โจมนี้...พูดยังไงดีหละ...มันเหมือนกับการเฝ้าดูและบันทึกผลซะมากกว่า...เนื่องจากว่ามันมีความหมายในการกระทำเช่นนี้"
เธอได้พูดอะไรบางอย่างที่เขาไม่เข้าใจออกมา ซังจินได้คิดที่จะใช้เจรามิทในการที่จะหาข้อมูลเพิ่มเติม แต่ว่าถ้าหากเขาสามารถจะอ่านความคิดเธอได้มันก็จะสามารถได้ข้อมูลที่มากขึ้น(ถ้าหากมันเป็นไปได้) แต่ว่าน่าเสียดาบที่มันกำลังคูลดาวอยู่
"เอาหละ3...ถ้าหากว่ามันเพียงแค่คำใบ้
เธอได้ยกมือขึ้นมาอีกครั้ง
"อัญเชิญ"
เธอได้อัญเชิญปากกาออกมาและมอบมันให้กับซังจินกร้อมกับพูดออกมา
"ลองใช้เจ้าสิ่งนี้ดู ฉันไม่รู้ว่ามันจะนับว่าเป็นคำใบ้ได้หรือไม่"
ซังจินได้ยอมรับปากกามา ปากกามันดูธรรมดาเป็นอย่างมาก ด้านนอกของมันดูเหมือนจะอยู่ในร้านขายของธรรมดา เมื่อตอนที่ซังจินกำลังยุ่งกับการตรวจสอบปากกา อาเรี่ยนก็ได้กล่าวอำลาออกมา
"มันสนุกมาก เจ้ามนุษย์ ฉันหวังว่าของขวัญของฉันมันจะช่วยให้นายสามารถรอดพ้นจากชะตากรรมที่น่าเศร้าได้"
ซังจินได้มองไปที่เธอ เขามีคำถามมากมายเลยที่จะถามกับเธอ แต่ก็ดูเหมือนกับว่าเธอจะไม่ยอมตอบอะไรมากกว่านี้อีกแล้ว
"ขอบคุณมาก"
ซังจินได้ก้มหัวลงเพื่อแสดงความขอบคุณ
"ถ้างั้นฉันไปละนะ"
เมื่อเขาได้มองกลับไป เธอก็หายตัวไปแล้ว สิ่งเดียวที่เธอทิ้งเอาไว้ให้ก็คือแหวนกับปากกา แม้ว่าจะยังไม่ได้รับรางวัลอย่างเป็นทางการ แต่นี้มันก็ควรจะเป็นสิ่งที่เขาจะต้องได้รับ
ซังจินกำลังจะเก็บไอเทมลงไปในกระเป๋าของเขา แต่ว่าเขาก็ได้สังเกตุเห็นซาดาเมียร์ที่เอียงหัวมองมาที่ไอเทมที่เขาถืออยู่ เขาจึงส่งมันไปให้้กับซาดาเมียร์
ซาดาเมียร์รู้สึกว่ามันล้ำค่ามากและรับแหวนไปด้วยมือทั้งสองข้าง
"โอ้ววว...นี้คือ..."
ซังจินยังไม่แน่ใจมากนัก แต่นี่มันจะต้องเป็นไอเทมที่น่าอัศจรรย์ ซังจินได้ถามกับเขา
"แล้วนี่มันคืออะไร?"
"ข้าก็ยังไม่ทราบ...เพียงแค่...มันมีมานาจำนวนมหาศาลที่ถูกบรรจุอยู่ภายใน"
ซังจินได้รับแหวนกลับมา เนื้อที่ภายในจองมันก็ยังคนขยับไปมาอย่างแปลกๆ
'ถ้าหากว่าฉันต้องการจะรู้มัน....ฉันก็จะต้องเริ่มการแบ่งรางวัลอย่างรวดเร็ว'
ทั้งหมดที่เขาจะต้องทำก็คือการใช้หินแสวงหาฆาตกร แต่ว่าเขาไม่สามารถจะใช้มันที่นี่ได้ ถ้าหากว่าเขาใช้มันที่นี่เขาก็จะต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการออกไปจากน้ำตกลาวา
การเคลื่อนย้ายมิติมันจะดีที่สุดในจุดที่บอสอาศัยอยู่ ซังจินได้กลับไปที่น้ำตกลาวาและพูดออกมา
"ซาดาเมียร์ช่วยให้ฉันบินที"
"พลังที่ต่อต้านแรงโน้มถ่วง ลอยตัว"
ซังจินได้ออกไปจากถ้านี้พร้อมกับซาดาเมียร์ เมื่อพวกเขาได้ออกมาจากภายในถ้าวกเขาก็ได้เห็นนักล่าในนระยะไกล นักล่าตกใจกันอย่างมากที่ได้เห็นซังจิน
"ยะ....ยังมีชีวิตอยู่..."
"นายทำสำเร็จ?"
ซังจินได้ขยับเข้าไประหว่างำวกเขาและพูดออกมา
"มันยังไม่ชัดเจนอีกหรอ?"
"โอ้..."
"มันมหัศจรรย์มาก"
แต่ว่าเขาก็ไม่มีเวลาที่จะมาฟังคำชมพวกนี้ ซังจินได้พูดกับพวกเขา
"ฉันจะไปจากที่นี่ พวกนายที่เหลือก็...."
เขากำลังจะพูดจบลงแล้วเมื่อสังเกตุไปเห็นนักบวช คนที่เป็นฆาตกร ในตอนแรกซังจินได้วางแผนที่จะให้เขาเปิดเผยตัวออกมาเอง และฆ่าเขาหลังจากนั้น แต่มันจะต้องใช้เวลานานเกินไป ซังจินได้หันไปพูดกับคนอื่นๆ
"ทำงานร่วมกันและไปล่าพวกมอนสเตอร์ที่เหลืออยู่"
"อะไรกัน? นายกำลังจะไปไหน?"
นักล่าหลายคนได้ถามออกมา แต่เขาก็ไม่มีเวลาที่จะตอบคำถามทั้งหมดของพวกเขา ซังจินได้ส่ายมือและพูดออกมา
"เอาหละ....ฉันไม่สามารถจะอธิบายทุกอย่างได้ แต่ว่าผู้อมตะและนักบวช ช่วยมาหาฉันหน่อยสิ"
ซังจินได้เรียกพวกเขาออกมา นักล่ากำลังสงสับว่าเขากำลังต้องการจะทำอะไร แต่ก็ไม่มีใครกล้าขัดจังหวะสิ่งที่เขากำลังจะทำอยู่ พวกเขาได้มองซังจินเป็นสัตว?ประหลาดที่น่ากลัวกว่ามังกรไปแล้ว
ผู้อมตะและนักบวชได้ออกไปด้านหน้าตามคำสั่งของเขา ซังจินได้หันหน้าไปหาพวกเขาและพูดออกมา
"สำหรับนายนะผู้อมตะ...ช่วยรวมกลุ่มนักล่าคนอื่นๆและไล่ฆ่ามอนสเตอร์ที่เหลืออยู่ ถ้าหากว่านายใช้ความเป็นผู้นำของนาย นายก็จะสามารถควบคุมคนอื่นๆทั้งเก้าคนได้"
ผู้อมตะได้ร่วมมือกับซังจินตั้งแต่ต้นจนจบ
"โอเค"
"เอาหละไม่มีอะไรแล้ว กลับไปเถอะ"
ซังจินได้ส่งผู้อมตะกลับไปรวมกลับในกลุ่มและในตอนนี้เหลือเพียงนักบวชเท่านั้น นักบวชนั้นไม่รู้ว่าซังจินต้องการจะพูดอะไร แต่ว่าเขาคงจะคิดเอาไว้ว่าซังจินจะพูดกับเขาว่า
'ตั้งแต่ที่นายเป็นนักบวชก็ช่วยดูแลคนอื่นๆด้วย'
เหมือนกับที่ซังจินได้พูดกับผู้อมตะ แต่ทันใดนั้นเองซังจินก็พูดอีกอย่างออกมา
"ฉันรู้นะว่านายกำลังวางแผนอะไร"
"ห๊ะ?"
นักบวชดูตกใจมาก ซังจินก็ทำพียงแค่พูดต่อไป
"ฉันไม่รู้ว่านายจะทำมันในอนาคตหรือไม่ แต่ว่า....ฉันจะให้คำเตือนนายเอาไว้อย่างหนึ่ง ถ้าหากนายทำมันในอนาคต ฉันก็จะกลับมาฆ่านายหลังจากนั้น"
คำพูดของซังจินได้ทำให้นักบวชตัวแแข็งขึ้น ซังจินได้อ่านใจของเขาอย่างทะลุปรุโปร่ง
"นายเข้าใจใช่ไหม?"
ซังจินได้สะบัดไหล่ของเขาสองครั้งและเดินเข้าไปหาคนอื่นๆ
"จากนี้ฉันหวังว่าพวกเราจะได้พบกันอีกครั้งนะ เพื่อน"
ซังจินได้ทิ้งนักล่าไปข้างหลังและเดินกลับไปที่ถ้ำที่มีซากศพของคาลกัลป์อยู่
หลังจากที่หยิบเอาหินแสวงหาฆาตกรออกมา และพูดขึ้น
"การแสวงหาความยุติธรรม"
เสาแสงได้ส่องสว่างลงมาที่ซังจินจากด้านบน
[การเคลื่อนย้ายมิติได้ถูกร้องขอ]
การแจกรางวัลได้เริ่มขึ้น
[มอนสเตอร์ที่กำจัด เฮลฮาว 48 ตัว โกเลมลาวา 4 ตัว ครึ่งปีศาจ 2 ตัว ทั้งหมด 32000 คะแนน]
[บอสที่กำจัด มังกรคาลกัลป์ 2000 คะแนน]
[บอลับ แม่ของคาลกัลป์อาเรี่ยน 2000 คะแนน]
[รวมทั้งหมดเป็น 36000 คะแนน เริ่มการแบ่งคะแนน]
[ผลงานของคุณคือ 58% ได้รับแต้มสเตตัส 20880 แต้ม เหรียญดำ 20880 เหรียญ โบนัสเคลียการจู่โจมแต้มสเตตัส 3000 แต้ม เหรียญดำ 3000 เหรียญ ผลของไอเทมเพิ่มเงิน 10% รวมทั้งหมดเป็นแต้มสเตตัส 23880 แต้ม และเหรียญดำ 26268 เหรียญ]
เพราะว่าการที่มีคนถึง 10 คนมันได้ทำให้เกิดการกระจายผลงานมากยิ่งขึ้น นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ค่าผลงานของเขาน้อยมากตั้งแต่ที่เคยทำมา
[และในตอนนี้เราจะเริ่มการแจกไอเทม]
ซังจินได้เฝ้ารอไอเทมที่จะโผล่ออกมาอย่างเคร่งขรึม
[เรดรัน - เกราะเกล็ดมังกร]
[ไอโอ - แหวนของจอมเวทย์ที่ยิ่งใหญ่]
[มู - แปลงแห่งการเฉลย]
[เมอร์ก้า - ผลไม้วิวัฒนาการ]
[หินเอนชานต์ 3 ก้อน]
มันได้มีไอเทมที่น่าเหลือเชื่อออกมา ไม่เพียงแค่ไอเทมที่เขาได้รับมาจากอาเรี่ยนเท่านั้น แต่เขาก็ยังได้รับเกราะเกล็ดมังกร ผลไม้วิวัฒนาการ และหินเอนชานต์อีกถึงสามก้อน
[ขอแสดงความยินดีด้วย คุณได้รับไอเทมระดับตำนานเรดรัน....]
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้รับมาในรอบนี้มันเป็นไอเทมระดับตำนานทั้งหมด ซังจินได้เก็บทุกอย่างลงไปยกเว้นเกราะ แหวน และแปลง ในขณะเดียวกันโอเปอเรเตอร์ก็ได้มอบฉายาให้แก่เขา
[และในสุดท้ายนี้ คุณจะได้รับฉายาจากการกระทำในการจู่โจมนี้]
[นักล่ามังกร - การโจมตีมังกรจะทำให้เกิดความเสียหายเพิ่มขึ้นเป็นสี่เท่า]
"โอ้..."
นักล่ามังกรมันเป็นฉายาที่น่าสนใข และทักษะติดตัวความเสียหาย 4 เท่า แม้ว่ามันจะไร้ประโยชน์ถ้าเขาสู้กับสิ่งอื่นแต่ว่าถ้าหากเขาต่อสู้กับมังกรมันจะมีประโยชน์ยิ่งกว่าฉายาสุดยอดนักล่าซะอีก
'ตั้งแต่ที่ฉันมีดวงดาวไร้นาม มันก็อาจจะมีวันที่ฉันอาจจะต้องใช้งานมัน...'
ซังจินได้ตัดสินใจที่จะเก็บความคิดนี้เอาไว้ในใจ
[การแจกรางวัลได้สิ้นสุดลงแล้ว]
[การขอเคลื่อนย้ายมิติได้รับการยอมรับ]
[คุณจะถูกเทเลพอตไปในอีก 10 วินาที 10 9]
"ซาดาเมียร์ ไว้เจอกันอีกครั้งหลังจากกลับไปที่โรงแรม"
"ขอรับ นายท่าน"
ซาดาเมียร์ได้กล่าวออกมา และจากนั้นไม่นาน ซังจินก็ได้ถูกเทเลพอตออกไปยังมิติแห่งใหม่
****
ซังจินได้มองออกไปรอบๆ ศพของคาลกัลป์ได้นอนลิ้นห้อยอยู่อีกด้านหนึ่ง
'มันเป็นงานที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก...'
ซังจินได้ฆ่าคาลกัลป์และแม้กระทั้งเคลียบอสลับอีกด้วย แต่เวลาก็ได้ผ่านไปไม่มากนัก ความจริงนี้แสดงว่าการที่คาลกัลป์ได้ถูกล้มลงไปอย่างรวดเร็วนั่นเป็นเพราะว่าสมาชิกทีมของเขาเต็มไปด้วยคนที่แข็งแกร่ง
'ฉันไม่คิดว่าพวกเขาจะไปได้ไกล...'
ซังจินได้ตัดสินใจที่จะวิ่งไปที่ถ้ำที่ชิ้นส่วนลับซ่อนอยู่ ตั้งแต่ที่มีฆาตกรเขาก็ควรที่จะไปทิศทางนั้น
แต่แม้ว่าในขณะที่เขาวิ่งไปเขาก็ตรวจสอบไอเทมที่เขาได้รับมาจากการจู่โจมไปด้วย ปกติแล้วเขาจะค่อยๆตรวจสอบมันหลังจากที่ฆ่าฆาตกร แต่ว่าในคราวนี้เขาไม่สามารถจะระงับความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองได้
'มันจะทำอะไรได้กันนะ?'