ตอนที่ 19: นี่แกจะหักขาฉันงั้นหรือ?
ระบบการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่อยู่ยงคงกระพัน
ตอนที่ 19: นี่แกจะหักขาฉันงั้นหรือ?
“อ้าว ทำไมรีบไปละ?”
หลินเจียอี้ตัวแข็งทื่อ เมื่อหนิงเทียนหลินกล่าวว่าเขาจะจากไป และรีบก้าวเท้าเข้าไปอย่างเร็ว เธอดึงแขนเขาไว้และพูดว่า “รอก่อนสิ”
“ยังไม่มีใครพูดขอบคุณเลยสักคน” จากนั้น พอนึกได้ถึงบางสิ่ง เธอก็หันหลังกลับไปทันทีและถามพ่อของเธอว่า “พ่อ แล้วเงิน 4,000 หยวนที่หนูขอให้เอามาด้วยละคะ?”
เงิน 4000 หยวนที่หนิงเทียนหลินได้ขอยืมไว้
หลินซวงไม่ได้ตอบใดแต่นิ่วหน้าแทน ราวกับว่าเขาเพิ่งตระหนักว่าเงินจำนวน 4000 หยวนนี้คือเงินที่ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านี้ขอจากลูกสาวของเขา
ถ้าชายคนนี้เป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยเหลือชีวิตลูกสาวเขาจริง ไม่ว่าจะเป็นเงิน 4000 40,000 400,000 หรือ 4ล้าน คนอย่างหลินซวงก็จะให้โดยไม่อ้อมค้อม!
แต่เขากลัว กลัวว่าชายคนนี้จะมีอะไรแอบแฝง!
เขาไม่เชื่อว่าเด็กอายุ 17 จะสามารถฆ่าพวกโจรทั้ง 5 คนได้ และยิ่งคู่ต่อสู้นั้นมีปืน ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไป ปฏิกิริยาแรกหลังจากฆ่าคนตายก็จะต้องรอตำรวจมาที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะการฆ่าคนถึง 5 คนในครั้งเดียว ถ้าเป็นแบบนั้นคุณจะอยู่รอตำรวจเพื่อจะเริ่มอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นสิ!
คำอธิบายมันชัดเจนอยู่แล้ว เป็นการป้องกันตัวเองอย่างถูกกฎหมาย ถ้าคุณไม่อยู่เพื่ออธิบาย ก็เหมือนว่าคุณฆ่าตัวตายและจะถูกกฎหมายตามล่าไปตลอดชีวิต!
ปฏิกิริยาแรกของชายหนุ่มเมื่อเห็นบอดี้การ์ดวิ่งขึ้นไปที่ชั้นบนคือเขาต้องการหนี นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดาอย่างแน่นอน
ชายหนุ่มคนนี้ไม่กลัวอย่างนั้นหรอ? ไม่กลัวที่จะถูกกฎหมายต้องการในภายหลัง! ที่ตายนั้นมีตั้ง 5 ชีวิต และแม้แต่ตัวคุณเองก็เถอะ มันยากมากที่จะกำจัดความสัมพันธ์นี้ได้!
สิ่งที่ทำให้หลินซวงไม่เชื่อมากที่สุดคือไม่มีเลือดแม้แต่หยดเดียวบนตัวของหนิงเทียนหลิน การฆ่าคนจะต้องมีคราบเลือดติดบ้างสิ!
ดังนั้นเขาจึงไม่อยากจะเชื่อ
แต่สิ่งที่ลูกสาวของเขาพูดคือความจริง
“พ่อคะ พ่อไม่ได้เอาเงินมาด้วยหรอ?”
หลินเจียอี้มองดูพ่อของเธอที่ไม่ตอบอะไร จึงตะโกนขึ้นมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว เธอเพิ่งจะให้สัญญากับอีกฝ่ายว่าจะให้เงินจำนวน 4000 หยวน เธอไม่อยากจะจากอีกฝ่ายไปด้วยความประทับใจที่ว่าเธอไม่รักษาสัญญา
“เอาให้เขาสิค่ะ”
หลินซวงเหลือบมองหนิงเทียนหลินอีกครั้งและพยักหน้าให้คนขับรถที่อยู่ข้างเขา ส่งสัญญาณให้ส่งเงินให้แก่เขา ถึงแม้ว่าสิ่งต่างๆ จะเป็นไปอย่างที่เขาคาดเดา เขาก็ยังคงไม่แน่ใจ และไม่ต้องการเป็นคนเริ่มทุกสิ่ง และรอจนกว่าบอดี้การ์ดของเขาลงมาเพื่อจะได้รู้ความจริง
“ครับ”
คนขับรถพยักหน้า และรีบไปหยิบเงินทั้งปึกจากกระเป่าและส่งให้กับมือของหลินเจียอี้ หลินเจียอี้รับเงินไป เธอนับเงิน และยัดใส่มือของหนิงเทียนหลิน
“ขอบใจนะ”
หนิงเทียนหลินกล่าวขอบคุณเธอ นับตั้งแต่เขาออกปากขอยืมเงินก็ไม่มีอะไรจะต้องรู้สึกละอายอีกต่อไป ทั้งๆที่เขาก็ได้ช่วยชีวิตคนๆหนึ่งไว้ หนิงเทียนหลินรับเงินไว้และเหลือบตามองคร่าวๆ และทราบว่าเงินนั้นมีจำนวนมากกว่า 4,000 หยวน
เกรงว่าประมาณ 8000-9000 หยวน หรือ 10,000 หยวนก็เป็นไปได้
หนิงเทียนหลินตอนนี้อยู่ที่ระดับ6 และคุณลักษณะทางจิตวิญญาณอยู่ที่ 6 คะแนน เขาก็ไม่รู้ว่ามากกว่าคนทั่วไปเพียงไร
เราต้องรู้ว่าค่าเฉลี่ยความสามารถด้านการต่อสู้ของคนทั่วไปอยู่ที่ 5 คะแนน คุณลักษณะทางจิตวิญญาณอยู่ที่ประมาณ 1 หรือ 2 คะแนน
จากนั้นไม่เพียงพลังต่อสู้ แต่เป็นการรวมกันของจิตวิญญาณ ความว่องไว ร่างกายและความแข็งแรง
ในพริบตา ความหนาของมัดเงินนั้นก็มีอย่างน้อย 80 หรือ 90 ใบ
ดังนั้น หนิงเทียนหลินจึงถือเงินไว้ในมือ และนับมา 40 ใบ แล้วส่งคือส่วนที่เหลือ “เท่านี้ล่ะ 4000 หยวนก็พอแล้ว”
คุณก็รู้ เงินและกฎของระบบการต่อสู้คือเงินทั้งหมดต้องจ่ายคืน และตามกฎ นั้นจะต้องจ่ายคืนถึง 100 เท่า!
ถ้าเขารับมาทั้งหมด เขาก็จะต้องจ่ายคืนถึง 8 หรือ 9 ล้าน หรือแม้เพียงแค่ 1 ล้าน หลังเสร็จสิ้นภารกิจ เงินรางวัลที่ได้รับจะเหลือเพียง 1 ล้าน!
“เก็บไว้ทั้งหมดเถอะ”
“ฉันควรจะขอบคุณนายนะ”
หลินเจียอี้ไม่ยอมรับเงินคืน ในใจเธอถึงจะเป็นเงินมากเพียงใดก็ไม่สำคัญ มันเป็นสิ่งที่เธอควรจะทำหลังจากที่อีกฝ่ายได้ช่วยชีวิตเธอไว้ ยิ่งไปกว่านี้เงิน 10,000 หยวนนี้ไม่ได้มากมายเลยในสายตาเธอเลย
“ฉันขอคืนให้เธอนะ”
“แค่ 4000 หยวนก็พอแล้วจริงๆ”
หนิงเทียนหลินไม่ได้รอให้อีกฝ่ายตอบ เขาวางเงินที่เหลือในแขนของหลินเจียอี้ เพราะตอนนี้เขาเห็นบอดี้การ์ดรีบลงบันไดมาแล้ว และโดยไม่ลังเล เขากลับหลังหันจากไปในทันที
สิ่งที่เกิดขึ้นไม่สามารถอธิบายได้เลย
“นาย….”
หลินเจียอี้มองไปที่อีกฝ่ายและพูดอะไรไม่ออก ช่างเป็นคนประหลาดอะไรเช่นนี้ ไม่เอาเงินเพิ่ม และรีบจากไปเนี่ยนะ?
“ท่านหลินครับ ข้างบนนั่น...”
ทันใดนั้น บอดี้การ์ดก็กระซิบที่ข้างหูของหลินซวงอยู่ 2-3 ครั้ง ผิวหน้าของหลินซวงเปลี่ยนเป็นสีฟ้าราวน้ำค้างแข็ง
“เดี๋ยวก่อน!”
“พ่อหนุ่ม วันนี้นายยังไปไหนไม่ได้จนกว่าจะบอกฉันมา!”
หลังจากที่ได้ฟังรายงานของบอดี้การ์ด หลินซวงก็มั่นใจว่าการลักพาตัวในครั้งนี้ต้องเป็นเรื่องตลกที่ถูกแต่งขึ้นโดยลูกสาวของเขาและอีกฝ่ายเป็นแน่ ก็มันไม่มีร่องรอยอะไรสักอย่างในตึกเล็กๆหลังนั้น! ไม่มีศพ! ไม่มีร่องรอยของการต่อสู้! ไม่มีศพของคนทั้งห้า! ไม่มีแม้แต่แมลงวัน!!
เมื่อเห็นว่าหนิงเทียนหลินกำลังจะจากไป เขาจึงตะโกนไล่หลังในทันที เพราเขาดูออกว่าชายหนุ่มคนนี้รู้สึกละอาย และไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับเขา
“พ่อคะ เกิดอะไรขึ้น?”
“ยังไม่หายสงสัยหรอคะ? หนูก็บอกทุกอย่างไปทางโทรศัพท์แล้วไงคะ”
เธอเห็นว่าพ่อของเธอกำลังโกรธจัด หลินเจียอี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและรู้ถึงทัศนคติของพ่อต่อหนิงเทียนหลินโดยคำพูดแย่ๆ ที่ไม่ต่างจากการตะโกน
ก็รู้ว่าอีกฝ่ายคือผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเธอ
ทันใดนั้นเอง หนิงเจียอี้จึงได้ถามคำถามเหล่านั้นออกมา
“พ่อหนุ่ม ถ้าขืนนายยังกล้าก้าวขาเดินต่อไป วันนี้ขานายต้องหักเป็นแน่”
เขามองไปที่หนิงเทียนหลิน ซึ่งไม่ได้มีทีท่าว่าจะหยุด
ใบหน้าของหลินซวงตอนนี้หมองหม่น ในใจของเขา ลูกสาวของเขาเป็นเด็กดีมาโดยตลอด สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ต้องเป็นเพราะเจ้าเด็กหนุ่มนี้แน่นอน! พวกมันขอเงินเขา 100 ล้านด้วยซ้ำ และวันนี้เขาก็เพิ่งจะถอนเงินออกมาก 100 ล้านและดูสิว่าแกจะเอามันไปได้ไหม!!
“พ่อคะ พ่อพูดอะไรเนี่ย?”
“พ่อทำอย่างนี้ได้ยังไง?”
“เขาเพิ่งช่วยชีวิตหนูไว้นะ!”
เมื่อหลินเจียอี้เห็นพ่อของเธอเป็นแบบนี้ เธอก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากโกรธ ทำไมพ่อของเธอถึงได้ขู่เข็ญคนที่ช่วยชีวิตลูกสาวของเขาและจะหักขาเขาแบบนี้ละ?
“หยุดพูด!”
“ยืนอยู่ตรงนั้นแหละ และพ่อจะจัดการลูกทีหลัง!”
หลินซวงตะโกนด้วยโทสะไปยังลูกสาวของเขา
เขาไม่รู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้านี้มีดีอย่างไร เขาเกลี้ยกล่อมเธอแบบไหน เวลาที่พวกมันเล่นตลกอยู่นี้ เขาเองไม่ได้หลับไม่ได้นอนถึง 3 คืน!
“ว่าไงนะ?”
“คุณบอกว่า คุณจะหักขาผมงั้นหรอ?”
ทันใดนั้น หนิงเทียนหลินก็หยุดเดินและหันกลับมามองตาหลินซวง และถามออกมาอย่างเยือกเย็น