ตอนที่ 17: การขับรถหรูนี่มันน่าช่างน่าทึ่ง
ระบบการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่อยู่ยงคงกระพัน
ตอนที่ 17: การขับรถหรูนี่มันน่าช่างน่าทึ่ง
หลังจากนั้นเพียง 3 นาที
หนิงเทียนหลินได้สวมใส่เสื้อกั๊กสีดำ กางเกงขายาวสีเทาและร้องเท้าส้นสูงอย่างรีบเร่งลงมาจากชั้น6
เสื้อผ้าพวกนี้แน่นอนว่าเขาเอามาจากเจ้าพวกโจร เขาเลือกที่จะเปลี่ยนผ้าห่อศพออกไป ไม่อย่างนั้นผู้คนที่เห็นเขาบนท้องถนนคงจะคิดว่าเขาเป็นบ้าแน่
ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ามีใครสักคนขึ้นไปที่ห้องนั้นที่เขาเพิ่งต่อสู้กันจะไม่พบแม้แต่ศพหรือรอยเลือด จะพบเพียงประตูไม้ที่หนิงเทียนหลินถีบล้มลงไปกลับมาแขวนอยู่ที่ประตูเหมือนเดิม ทุกอย่างถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นดินราวกับว่าไม่เคยมีใครเปิดประตูบานนี้มาเป็นเวลานานแล้ว
ทุกอย่างราวกับความฝัน
ระบบการต่อสู้ได้กวาดร่องรอยทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว!
“ไง นายลงมาแล้ว”
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าทางด้านหลัง หลินเจียอี้ที่เดินกลับไปกลับมาก็หันหน้ากลับไปดู เธอได้เห็นหนิงเทียนหลินก้าวออกมาจากตึกหลังนั้น และเดินตรงมาทางนี้ หลังจากที่ลังเลเธอก็สาวเท้าเข้าไปและพูดขึ้น
“อื้ม”
หนิงเทียนหลินพยักหน้าและถาม “ทำไมเธอถึงยังอยู่ที่นี่ละ? รอใครงั้นหรอ?”
หนิงเทียนหลินคาดว่าอีกฝ่ายคงโทรหาพ่อแม่แล้ว และคงจะรอให้พวกเขามารับกลับบ้าน เพราะว่าที่แถวนี้เป็นบริเวณชานเมืองและมีแต่ป่าเขา ซึ่งคงต้องใช้เวลาบนทางหลวงบ้าง
“อื้ม ฉันรอพ่อของฉันมารับนะ ท่านบอกว่าใกล้จะมาถึงแล้ว” น้ำเสียงของหลินเจียอี้ช่างกระฉับกระเฉง น่าฟังและพูดจาฉะฉาน แน่นอนว่าเธอหายจากความตื่นกลัวจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้ว
“อ๋อ ดีเลย” หนิงเทียนหลินพยักหน้า
ไม่กี่อึดใจต่อมา สีหน้าของเขาดูมีความลังเลและกระสับกระส่าย ในเมื่อตอนนี้พ่อของเธออยู่บนถนนแล้ว เขาก็คงไม่ได้นำเงินสดจำนวนมากติดตัวมาเป็นแน่ เขาต้องรีบมาช่วยเหลือลูกสาวของเขา ใครจะถือเงินสดจำนวนมากมาด้วยกันล่ะ?
ดังนั้น หนิงเทียนหลินก็ไม่กล้าที่จะเปิดปากพูดออกไป
“เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าคะ?”
เมื่อเห็นแบบนั้น หลินเจียอี้ก็รู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายมีอะไรอยากจะพูด เธอไม่เคยคิดว่าคนวัยเดียวกันที่มีรูปร่างพอๆกับเธอจะโหดเหี้ยม แน่วแน่และดุร้าย โดยปราศจากการลังเลหรือความกลัว
เขาลังเลเล็กน้อยก่อนจะกล่าวขึ้นมา
“เธอขอเงินพ่อของเธอมาให้ฉันสัก 4,000 หยวนได้ไหม? ฉันขอยืมหน่อยสิ”
นี่เป็นครั้งแรกที่หนิงเทียนหลินออกปากขอยืมเงินคนอื่น ถึงแม้เขาจะเป็นผู้มีบุญคุณต่อเธอก็ตาม
“อะไรนะ!”
“4000 หยวน!”
ด้วยความไม่คาดคิดว่าจะได้ยินสิ่งนี้ หลินเจียอี้รู้สึกประหลาดใจ เธอไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะร้องขอเช่นนี้ เงินจำนวนเพียง 4,000 หยวน คุณรู้ไหมเธอได้รับเงินค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 5,000 หยวนทุกอาทิตย์ เธอเป็นมหาเศรษฐี เงินเพียง 4000 หยวนเป็นเพียงแค่เงินติดกระเป๋าในสายตาของเธอ!
“ไม่ได้งั้นหรอ? งั้นก็ไม่เป็นไร”
หนิงเทียนหลินรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย สำหรับนักเรียนที่ไม่ได้หาเงินด้วยตัวเอง เงินจำนวน 4000 หยวนก็เป็นเงินจำนวนไม่น้อย อย่างน้อยที่สุดเขาก็ไม่เคยเห็นเงินจำนวนมากยกเว้นตอนที่เขาจ่ายเงินค่าเทอม
เดาได้ว่าเด็กสาวตรงหน้าเขานี้คงตื่นตระหนกกับเงินจำนวนสี่พันหยวน
“มีสิ!”
“มีสิ!”
“เดี๋ยวฉันจะโทรหาพ่อตอนนี้เลย!”
หลินเจียอี้พูดกับหนิงเทียนหลิน และต่อสายโทรศัพท์
…
ในขณะเดียวกัน ณ เขตเมือง
“แกจะมัวรอติดไฟแดงอยู่ทำไม!”
“รีบขับรถพาฉันไป! เร็วเข้า!”
ภายในรถเมอซิเดซเบนซ์สวยหรูคันนั้น คนขับรถมองเห็นสัญญาณไฟจราจรตรงหน้าและหยุดรถเพื่อรอสัญญาณไฟเขียว แต่เครื่องดื่มเย็นๆก็ขว้างมาที่หลังของเขา กระตุ้นให้เขารีบออกรถ
โดยไม่รอสัญญาณไฟแดง!
“ครับ! เจ้านาย!”
คนขับรถแข็งทื่อ แต่ปราศจากการลังเล ทันทีที่เขาเหยียบคันเร่ง เขาก็พุ่งรถออกไป สัญญาณไฟจราจรสำคัญก็จริงแต่คำสั่งเจ้านายสำคัญกว่า ถึงแม้จะโดนใบสั่ง แต่ยังไงเจ้านายก็จะจ่ายชดเชยให้อยู่แล้วในอนาคต
“โง่!”
ด้วยความทนทานของเมอซิเดซเบนซ์ ซึ่งเป็นรถเพื่อการพาณิชย์ บนท้องถนนนั้นอย่างกับเกิดจลาจล ยานพาหนะที่กำลังตรงไปต้องพากันเบรคเสียงดังเอี๊ยดเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับรถเบนซ์คันนี้ ทันใดนั้นทั้ง 4 แยกนั้นก็อื้ออึงไปด้วยเสียงเบรคลากล้ออย่างรุนแรงบนพื้นถนน
“แม่งเอ้ย! ฉันเกือบตายเลยนะ!!”
“ไอ้ห่านี้จะรีบไปตายรึไงว่ะ!?”
ถึงแม้ว่ารถเมอซิเดซเบนซ์จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 700,00 – 800,000 คนที่ขับรถรถหรูนั้น ซึ่งเบรคกระทันหันและหัวเขาเกือบจะโขกกับพวงมาลัยแต่ก็ยังโผล่หัวออกมาจากหน้าต่างที่เปิดอยู่และถูกสาบแช่ง
“รถหรูนี่มันน่าทึ่งจริงๆ!”
“แม่ง! ไอ้คนรวยส้นตีน!”
ท่ามกลางการก่นด่า ความโกลาหลของคนขับรถที่ 4 แยกนั้นที่เกิดจากการไล่ล่าของเมอซิเดซเบนซ์ และเนื่องมาจากการเบรคกระทันหัน รถหลายคันประสานงากันอยู่ ทันใดนั้นทั้ง 4 แยกนั้นก็เกิดโกลาหล
รถเบนซ์คันที่ก่อเหตุ ปาดซ้ายปาดขวาและฝ่าไฟแดง และหายไปท่ามกลางการจราจรด้านหน้า
“เฮ้! เจียอี้ เกิดอะไรขึ้น?”
“พ่อกำลังจะไปถึงนะ!”
“อย่าไปไหนนะ!”
ในรถเบนซ์คันนั้น หลินซวงรีบกดรับสายเมื่อเขาเห็นว่าเป็นลูกสาวของเขาที่โทรเข้ามา
เขาหวาดกลัว เขาหวาดกลัวเหลือเกินว่าเขาไม่ได้เจอหน้าลูกสาวอีกครั้ง ใครจะไปรู้ เขาอยู่ในห้องทำงานและได้ยินเจ้าพวกวายร้ายบอกว่าจะส่งวิดีโอ ‘ที่น่าสนใจ’ มาให้ดู เขาตื่นตระหนกเป็นอย่างมากและรู้สึกเหมือนจะตาย!
ไม่นานนักหลังจากนั้น ลูกสาวของเขาก็โทรมาหาบอกว่าเธอปลอดภัยและเร่งให้เขารีบไปรับเธอ พร้อมกับบอกเขาว่าได้เกิดอะไรขึ้นบ้าง ทำให้เขาเหมือนตกอยู่ในความฝัน เด็กวัยรุ่นฆ่าผู้ชายแข็งแรง 5 คนด้วยมือเปล่างั้นหรอ?
เขาไม่อยากจะเชื่อเลย
“อะไรนะ? เงินสด 4000 หยวนงั้นหรอ?”
“ได้สิ! พ่อเอามาแล้ว!”
เมื่อวางโทรศัพท์ หลินซวงก็เต็มไปด้วยความสงสัย และลูกสาวของเขาก็ไม่ได้บอกว่าทำไมจึงต้องการเงิน 4000 หยวน ถึงแม้เขาจะงุนงงแต่เขาก็ถามคนรอบๆเขา 5-6 คน “ใครมีเงินสดบ้าง? สัก 4000 หยวน”
ในตอนนี้ แทนที่จะไปพร้อมกับคนขับรถ เขากลับพาบอดี้การ์ดมาด้วย 5 คน เผื่อว่าเกิดอะไรผิดพลาดขึ้น
“เจ้านาย ผมมีอยู่ 10,000 หยวนครับ ว่าจะไปเล่นไพ่คืนนี้”
เมื่อคนขับรถได้ยินดังนั้น เขารีบเปิดตู้ในช่องเก็บของและมีเงินจำนวนมากมายเรียงอยู่ในนั้นอย่างเรียบร้อย มองเผินๆก็คงมีอย่างน้อย 10,000 หยวน
“ได้”
หลินซวงหยิบเงินนั้นไป เขาไม่พูดไม่จาก และไม่รู้ว่าจะคิดอะไร
…
“นายรู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นี่?”
หลินเจียอี้มองมาที่หนิงเทียนหลินและต้องการรู้ว่าหากเขาได้เงินไปจะเป็นอย่างไร จึงแกล้งเล่นละคร
“นี่ไง!”
หนิงเทียนหลินหัวเราะน้อยๆ และดึงเงินแบงค์ 100 หยวนออกมาจากกระเป๋า ซึ่งอ่านว่า “ชั้น6 แจ้งตำรวจที ช่วยฉันด้วย หลินเจียอี้”
“แล้วนายขึ้นไปบนนั้นได้ยังไงนะ?”
“ถ้าฉันไม่เห็นมัน ฉันก็คงไม่ขึ้นไปหรอก”
หนิงเทียนหลินหัวเราะ ในขณะเดียวกันเขาก็สังเกตุเห็นว่าปลายนิ้วข้างขวาของเด็กสาวเป็นแผลเปิดหลายแห่ง เธอคงใช้นิ้วเขียนนั่นเอง