Chapter 101 - Red Dragon's Lair (7) [08-01-2020]
Chapter 101 - Red Dragon's Lair (7)
”
นักล่าได้ตกอยู่ในความเงียบหลังจากคำใบ้ครั้งที่สอง ครั้งแรกพวกเขาก็สับสนอยู่แล้ว แล้วนี่ยิ่งในครั้งที่สองอีกพวกเขายิ่งสับสนเข้าไปใหญ่ แต่แล้ว 'รอยัลเรนเจอร์' ก็ได้ยกมือขึ้นและพูดออกมา
"โทษนะ..."
ซังจินได้ชี้นิ้วไปทางเขาราวกับคุณครูกำลังสอนนักเรียน
"ว่าไง บอกสิ่งที่นายคิดมาเลย"
รอยัลเรนเจอร์ได้มองไปรอบๆก่อนที่จะเปิดปากออกมา
"ฉันไม่รู้เกี่ยวกับบอสลับ...แต่ฉันคิดว่าฉันเข้าใจเกี่ยวกับที่อยู่ของชิ้นส่วนลับนะ คำใบ้แรกเลย เส้นทางสีแดง ฉันเชื่อว่ามันน่าจะเป็นพื้นลาวาที่เราได้พบกันมา เพราะว่านอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรที่เป็นสีแดง"
ทุกคนได้หยักหน้ารับ
"อย่างที่สองคือสถานที่เดียวที่มังกรจะสามารถไปได้นั่นก็คือลาวา เพราะว่าขนาดตัวของมัน....มันไม่สามารถจะไปที่ทางอื่นได้ ถ้าหากว่ามันจะไปไหนมันก็จะต้องผ่านลาวา"
คำอธิบายเช่นนี้มันเป็นไปได้
"อย่างสุดท้ายก็คือสถานที่ๆปีกอบอุ่น...ฉันคิดว่ามันเป็นกุญแจสำคัญ ก การที่ปีกมันร้อนก็คือลาวาได้ตกลงมาตกที่ปีกขอบมังกร"
ด้วยคำพูดนี้ทุกๆคนได้อุทานออกมา
"โอ้...."
"เขาพูดถูก"
ในตอนนี้ซังจินได้เก็บเรื่องของบอสลับเอาไว้ก่อนและพูดออกมา
"ฉันรู้สึกว่าสิ่งที่รอยัลเรนเจอร์พูดอาจจะถูกต้อง ถ้างั้นเราลองไปค้นหาชิ้นส่วนลับกันก่อน"
อย่างไรก็ตามการจะไปล่าบอสลับจะต้องได้รับการยอมรับจากทุกคน
"โอเค"
"งั้นไปกันเถอะ"
ซังจินได้มองไปที่ผู้อมตะ ผู้อมตะได้ก้าวออกมาข้างงหน้าเมื่อสังเกตุเห็นซังจินมองมาที่เขา
"โอเคร พวกเราไปกันเถอะ"
****
นักล่าได้เดินไปตามทางลาวาไหลอย่างช้าๆในขณะที่กวาดล้างมอนสเตอร์ ครึ่งหนึ่งของพวกมันได้ถูกฆ่าไปด้วยสุดยอดนักล่าและหมาป่ายักษ์ แต่ก็ไม่มีใครโวยออกมา
มอนสเตอร์พวกนี้มันยากที่จะเอาชนะแม้ว่าทั้ง 9 คนจะร่วมมือกัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้ร้องเรียนอะไรเพื่อที่จะสร้างปัญหาให้ตัวเอง พวกเขาได้คิดกับตัวเอง
'เขาเป็นชายที่ดูแปลกประหลาด'
หลังจากที่เขาได้ค้นหาผ่านอุโมงมาพวกเขาก็ได้มาถึงพื้นที่เปิดโล่งที่มีขนาดเล็กกว่าห้องหลักของมังกร
จุดที่น่าสนใจของที่นี่ก็คือลาวาที่ไหลไปอย่างช้าๆ มันอยู่ค่อนข้างไกลออกไป แต่แม้กระทั่งในจุดนี้ มันก็ดูเหมือนจะร้อนแรงและไม่น่าสนใจ
แต่เมื่อเคนได้มองไปที่มันเขาก็ได้นึกไปถึงคำพูดของรอยัลเรนเจอร์
'เส้นทางสีแดง ที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่ผ่านได้....และปีกที่อบอุ่น'
และในพื้นที่แห่งนี้มันก็ค่อนข้างจะน่าสงสัย มันเป็นพื้นที่ๆกว้างมาก ไม่เพียงเท่านั้นที่แห่งนี้ก็ยังไม่สามารถจะพบกับมอนสเตอร์ได้เลย ซังจินได้ขยับเข้าไปใกล้ๆลาวา ในขณะที่เขาเข้าไปใกล้เขาก็ได้รู้สึกถึงความร้อนมาถึงใบหน้าของเขา
ซังจินไม่ได้สนใจมันและเขาก็เข้าไปใกล้ลาวา ขนาดของมันไม่น่าจะจุมังกรลงไปได้ ไม่สิมันต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
'...เคยมีคนบอกไว้ว่ามังกรมันสามารถจะแปลงร่างมาเป็นมนุษย์ได้...'
ซังจินได้คิดที่จะตรวจสอบบริเวณรอบๆนี้โดยละเอียด แต่แล้วเขาก็สังเกตุเห็นเศษอะไรบางอย่างแปลกๆบนกำแพง มันแตกต่างจากทางด้านอื่น แต่มันก็คล้ายกันอย่างมาก เมื่อนักล่าคนอื่นๆซังจินเห็นว่าซังจินพบอะไรบางอย่างพวกเขาก็มารวมตัวกัน
"นั่นอะไร...?"
ซังจินได้จ้องมันอย่างจริงจังและในไม่ช้าเขาก็รู้ว่ามันคืออะไร
"มันคือ...รอยเท้า"
คนอื่นๆได้ถามออกมา
"รอบเท้า?"
ซังจินจึงได้ให้คำอธิบายแก่พวกเขา
"ใช่แล้ว มันคือรอยเท้า พวกนายลองดูที่รอยสิมันคือรอยเท้าที่ก้าวขึ้นมาจากลาวา และพื้นมันก็ได้ยุบตัวลงไปเมื่อลาวาเย็นลง"
คนอื่นๆได้ประทับใจกับความเข้าใจสถานการณ์ของซังจิน
"โอ้ สิ่งที่นายพูกมันน่าจะถูก"
"นั่นหมายความว่า...."
นักบ่าได้มองตามรอยไปด้วยสายตาของพวกเขา ที่รอยเท้าบนลาวามันเหมือนกับเส้นทางสีแดง มันดูคล้ายกำเส้นทางในคำใบ้มากที่สุดตั้งแต่ที่พวกเขาหามา
นักล่าได้เดินตามรอยเท้านั้นไป แบะก็ตามที่คาดไว้ ในจุดสิ้นสุดพวกเขาได้พบกับน้ำตกลาวา
"ที่นั่น?"
"อา...."
เมื่อตรวจสอบดูอย่างใกล้ชิด รอยเท้าของมันได้ไปที่ด้านข้างของน้ำตกลาวา และทัใดนั้นมันก็หยุดลงครึ่งทาง
"ข้างใต้ลาวาแห่งนี้...มันน่าจะมีพื้นที่ว่างเปล่าอยู่..."
"มันดูเหมือนเส้นทางเข้าไปของมังกรแน่นอน"
"ฉันเห็นด้วยๆ"
"แต่ว่าพวกเราจะไปที่นั่นยังไงกัน?"
นี้มันคือปัญหาหลักปัญหาแรก การที่เขาจะต้องบินเข้าไป และปัญหาที่สองพวกเขาก็จะต้องรับมือกับลาวาที่ร้อนแรงจากด้านบน
แค่เพียงการแตะหรือสัมผัสร่างกายของพวกเขาก็จะไหม้ก่อนที่จะได้เข้าไปเอาสมบัติซะอีก ซังจินได้มองลงไปที่แหวนคิเมโร่ ถ้าหากว่าเขาใช้มันเขาก็สามารถจพะป้องกันลาวาได้
'ถ้าฉันสามารถจะเข้าไปได้ภายในห้าวินาที'
แต่นี่ก็มีปัญญหาในตัวเองเช่นกัน นั้นก็คือพรมเวทย์มันมีพลังป้องกันที่ต่ำมาก ถ้าหากว่ามันโดนลาวามันก็จะเสียหายและเขาก็จะตกลงำป
ดขาสามารถจะรอให้คูลดาวคิเมโร่เสร็จได้ แต่ว่าการที่เขาจะเข้าไปเขสก็จะต้องใช้พรมเวทย์ซึ่งมันเมื่อโดนลาวาก็จะขาดลงทันทีและเขาจะตกลงไป
การตายเช่นนี้หลังจากที่ฆ่ามังกรไปแ้ว มันน่าอายมาก
'ฉันควรจะทำยังไง?'
ไม่มีใครสามารถจะคิดวิธีแก้ไข แต่การดูเฉยๆมันก็ไม่ช่วยอะไร ซังจินจึงเอาบรมออกมาและตรสจสอบไปที่บาวาจากด้านบน
จากนั้นเขาก็ขยับไปที่ด้านข้างของลาวาเพื่อที่จะส่องดูภายในนั้น
'นี้มันน่าจะเป็นที่ๆถูกแล้ว...'
แต่ว่าพื้นที่ระหว่างลาวามันเล็กจนเกินไป มันเพียงพอแค่ให้ใครบางคนสอดแขนเข้าไปเท่านั้น
พรมมันกว้างและตัวของซังจินไม่ได้พอดีกับตรงนั้น
'ฉันไม่สามารถจะเข้าไปจากด้านข้างได้...'
ซังจินได้ตัดสินใจที่จะตรวจสอบด้านบน ห่างจากน้ำตกลาวา ลาวามันได้ไหลลงช้าๆ ซังจินก็ได้ลอยอยู่เหนือแม่น้ำนั้น
แม้ว่าจะเรียกว่าลาวาตกแต่การเคลื่อนที่ของมันก็ไม่ได้เร็วเช่นนั้น
ซังจินได้มองไปที่พื้นอยู่ครู่หนึ่ง ในตอนนี้เองเขาก็ได้นึกถึงมัน เขาจำได้ถึงในตอนที่เขาได้สู้กับโกเลมในก่อนหน้านี้
'ฟรอสต์ไบท์'
โกเลมได้ถูกโจมตีโดยความเย็นและช้าลง
'...ถ้าเกิด...'
ซังจินได้ยกมือขึ้นมาทางน้ำตกบาวาและร่ายเวทย์ออกมาพร้อมกับเบสโกโร่
"จงพันธนาการด้วยน้ำแข็ง ฟรอสต์ไบท์"
"จงพันธนาการด้วยน้ำแข็ง ฟรอสต์ไบท์"
เวทย์สองอันได้ถูกปล่อยออกมาจากมือของซังจิน และทีละน้อยๆลาวาที่ไหบอยู่ได้ช้าลง
เมื่อเวทย์ได้ไปถลาวาก็ได้แข็งตัวลงโดยสมบูรณ์ ที่ลาวาก็ได้มีช่องว่างมากขึ้นและลาวาก็ได้ไหลช้าลง
ซังจินได้ตัดสินมจที่จะใช้พรมหันกับไปทางน้ำตกลาวา ช่องว่างที่เคยมีที่สามารถจะสอดมือเข้าฟปได้ ตอนนี้มันก็ใหญ่พอที่คนจะผ่านไปได่
'มันจะสำเร็จ นายจะหล่อมาก'
เบสโกโร่ได้ตะโกนออกมาด้วยความยินดี แต่มันก็ยังเต็มไปด้วยอันตราย ซังจินได้ขี่พรมกับไปหานักล่าและถามกับจอมเวทย์น้ำเงิน
"เฮ้ นาย นายรู้สิธีและสามารถจะใช่ฟรอสต์ไบท์ได้ใช่ไหม?"
เขาได้ถามซังจินเกี่ยวกับพลังเวทย์ที่มากในก่อนหน้านี้ ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่าเขาจะต้องเคยเห็นเวทย์นี้มาก่อนเขาถึงจะแยกความแตกต่างได้ และตามที่ซังจินคาดเอาไว้
"ใช่แล้ว ฉันรู้วิธีใช้มัน สุดยอดนักล่า"
"ขึ้นมาเลย"
ซังจินได้ขยับให้มีที่ส่างบนพรม พรมมันมีพื้นที่เพียงพอสำหรับสองคนเท่านั้นเมื่อจอมเวทย์น้ำเงินได้ขึ้นมาพวกเขาก็ได้กลับไปที่ด้านบนน้ำตกลาวา
ลาวามันยังคงแข็งตัวอยู่ แต่มันก็จะไม่ได้แข็งนานมากนักและซักพักหนึ่งมันจะกลับมาร้อนอีกครั้ง ซังจินได้หันหน้ากลับไปพูดกับจอมเวทย์น้ำเงิน
"พวกเรากำลังจะไปใช้เวทย์แช่แข็งมันเพื่อลดความเร็วของน้ำตกลาวา นายเข้าใจใช่ไหม?"
"โอเค"
เมื่อซังจินพูดเสร็จเขาก็ร่ายเวทย์ออกมาอีกครั้งด้วยตนเอง
"จงพันธนาการด้วยน้ำแข็ง ฟรอสต์ไบท์"
เขาได้ใช้เวทย์เพื่อแช่แข็งลาวาไปอีกครั้ง
[คำเตือน : มานาเหลือต่ำ]
ซังจินได้คิดเกี่ยวกับการใช้เวทย์ของเขท
'มันควรจะพอสิ'
และเขาก็ได้กลับไปที่ด้านข้าวของลาวา ในตอนนี้ช่องว่างห่างเยอะมาก ตอนนี้มันได้มีพื้นทีาว่างให้เข้าไปแล้ว
ข้างในมันกว้างมากจนพอที่จะบินเข้าไปได้อย่างอิสระเลย ซังจินได้มองกลับไปที่นักล่าคนอื่นๆ
"ฉันคิดส่าพวกเราจะสามารถผ่านมันไปได้ในตอนนี้ มีใครที่สามารถจะบิน..."
แม้ว่าก่อนที่เขาจะได้ทันพูดจบ คนอื่นๆอีกแปดคนก็
"พลังต้านทานแรงโน้มถ่วง"
พวกเขาได้ใช้เวทย์เพื่อที่จะบินขึ้นไปบนฟ้า
"มาหาฉันอดาแรม"
เขาได้อัญเชิญอินทรีย์ยักษ์ออกมา
"เดินบนอากาศ"
และใช้ไอเทมเพื่อที่จะไปบนอากาศ มีอยู่หนึ่งหรือสองคนเท่านั้นที่ไม่สามารถจะบินได่ แต่พวกเขาก็ไแ้รับความช่วยเหลือที่บินได้พาพวกเขาไปที่น้ำตกลาวา
'ฉันรู้แล้ว...คนพวกนี้เป็นคนทีดีทีเดียว'
ซังจินได้คิดขึ้นในขณะที่เข้าไปเป็นคนแรก ภายในนั้นมันใหญ่มาก มันเป็นพื้นที่โล่ง มันใหญ่พอๆกับห้องหลักของบอสเลยทีเดียว
ห้องนี้มันมีปริมาณของสมบัติเป็นจำนวนมาก เขารู้สึกว่ามันดูคล้ายๆกับในหอคอยไอวอรี่ แต่มันก็มีบางอย่างที่แตกต่างกันอยะ่
ถ้าเป็นในไอวอรี่มันจะเป็นห้องสมบัติ แต่กับที่นี่มันก็คือภูเขาสมบัติดีๆนี่เอง
ปากของจอมเวทย์น้ำเงินได้ตกลงมา
"พระเจ้าาา...."
ซังจินไม่ได้แสดงท่าทางอะไรออกมา แต่ว่าเขาก็ประหลาดใจมากเช่นกัน
''เงินพวกนี้มันเป็นสิ่งไร้สาระ'
ซังจินได้หาพื้นที่ๆดี เพื่อที่จะจอดพรม เขาได้ลงมาอยู่บนกองทอง ซังจินได้คิดขึ้นกับตัวเอง
'งานอดิเรกทั้งหมดคือการกลิ้งกับสมบัติงั้นหรอ? ฉันเห็นได้ชัดเลยว่าทำไม'
นักล่าที่ได้ตามเขามาได้มองมาที่นี่ด้วยตาที่เป็นประกาย และพวกเขาฟลายคนได้พยายามที่จะเก็บเงินทองพวกนี้ลงลูกบาศก์ แต่ว่าพวกเขาก็ต้องพบกับความผิดหวัง
ซังจินได้หยิบเหรียญทองที่หล่นบนพื้นขึ้นมา ในเหรียญประกายนี้มันมีรูปหน้าของคนอยู่ เขาเป็นคนที่จทูกใหญ่แต่เต็มไปด้วยหนวดเครา ภาพรวมชายคนนี้ผอมเป็นอย่างมาก
ตัดสินจากมงกุฏบนหัวเขาคงจะเป็นกษัตริย์ ด้านบนภาพนั้นก็เป็นภาษาที่ไม่รู้จัก
'หืมมม....มันคือใบหน้าของราชาแห่งโลกนี้งั้นหรอ?'
ซังจินได้ตรวจสอบไปทีเหรียญอื่นๆอีก แต่ว่ารอบนี้มันต่างออกไป
ในเหรียญนี้มันเป็นชายที่สวมมงกุฏแต่ก็ไม่ใช่คนในเหรียญก่อนหน้านี้ เขามีผมที่หยิก จมูกแบน และมีใบหน้าอวบอ้วน
'โอ้....'
ซังจินได้พยายามตรวจสอบเหรียญด้วยความอยากรู้อยากเห็น จากสิ่งที่เขาได้สังเกตุเขาได้พบว่ามีบุคคลที่แตกต่างกันอย่างน้อยก็ 10 คนไปแล้ว
'ดังนั้นแล้วเหรียญพวกนี้ได้ถูกรวบรวมมาจากหลายๆช่วงอายุของคน...ในช่วงเวลาที่ต่างกัน...การกลับไปสู่โลกมนุษย์...มันอาจจะทำให้คุณรวยได้เลย ใช่ไหม?'
ซังจินได้คิดในขณะที่วางเหรียญลงไปบนกองเหรียญ เขาไม่สามารถจะพกมันไปกับตัวของเขาได้
'สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือชิ้นส่วนลับ'
ซังจินได้หันไปพูดกับนักล่าคนอื่นๆ
"พวกนายไม่สามารถจะเอาทองไปด้วยได้ แต่ว่าชิ้นส่วนลับมันได้อยู่ที่ไหนซักแห่งรอบๆพื้นที่นี่ ดังนั้นได้โปรดช่วยกันหามันกันด้วย"