ตอนที่แล้วบทที่ 44 เจ้าคิดว่าพวกข้าเป็นเด็กอมมือหรือยังไง?!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 46 เจียงอี้ต้องตาย!

บทที่ 45 เปิดเผยตัวตน


ขั้นที่เจ็ดของขอบเขตฉูติ่งงั้นรึ?

เจียงหยุนเฉอและเจียงหยุนซานมองตากันอีกครั้ง แต่ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความโกรธ พวกเขาคิดว่าเจียงอี้สมควรได้รับโทษประหารชีวิตอยู่ในใจ และตอนนี้พวกเขาต้องการฆ่าเขามากกว่าเดิมหลายเท่า

พวกเขาจำได้ว่าเจียงอี้พูดว่าเขาใช้โสมดำโลหิตพันปีเพื่อพัฒนาความแข็งแรงของเขา แต่ตอนนี้พวกเขามีข้อสงสัยอย่างมากที่ผุดขึ้นมา สมุนไพรวิญญาณคุณภาพสูงเช่นโสมดำโลหิตพันปีจะถูกบริโภคและขัดเกลาโดยผู้ที่อยู่ขั้นแรกของขอบเขตฉูติ่งได้อย่างไร? ร่างกายของเขาจะระเบิดจากการโจมตีของยาหรือไม่?

หากไม่ใช่โสมดำโลหิตพันปี งั้นก็คงเป็นเจียงอี้ผู้ที่ซ่อนสิ่งต่างๆไว้มากมาย หากเจียงอี้เป็นเชื้อสายของตระกูลเจียงและไม่เกิดเหตุการณ์ในวันนั้น สมาชิกของตระกูลเจียงคงจะมีความสุขกับเขาเนื่องจากความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน

แต่เจียงอี้ได้รับการตัดสินว่าเป็นคนเนรคุณโดยพวกเขาทั้งสองคน เจียงอี้ซ่อนหลายสิ่งหลายอย่างจากพวกเขา พวกเขารู้สึกว่าเขามีเจตนาซ่อนเร้นและสมควรถูกประหารชีวิต

"536 เก้าชัยชนะติดต่อกัน!"

เสียงชัยชนะดังขึ้นอีกครั้ง ตามด้วยเสียงที่หยิ่งทะนงของเจียงอี้ "ต่อไป!"

ไม่มีผู้ชมที่ให้กำลังใจ มันเป็นเพียงความเงียบ แม้แต่การต่อสู้ในด่านอื่นๆก็ดูเหมือนจะหยุดชะงัก จัตุรัสขนาดใหญ่นั้นมีแต่เสียงก้องกังวานของเจียงอี้

ไม่มีใครกล้าขึ้นไปบนลานประลองเลย หม่าเฮยฉีและนายน้อยตระกูลหม่าต่างพากันไม่พอใจแต่ก็ต้องข่มใจไว้ หม่ากู่ขึ้นไปแล้วและทำให้ตระกูลของพวกเขาอับอายขายหน้า ถ้าคนในตระกูลหม่าอีกคนขึ้นไปและแพ้ไปอีกครั้งมันจะเป็นการระเบิดครั้งใหญ่สำหรับขวัญกำลังใจและชื่อเสียงของตระกูลหม่ากระเจิง

สิ่งสำคัญที่สุดคือความแข็งแกร่งของเจียงอี้ยังไม่เป็นที่รู้จักนัก ซึ่งทุกคนคิดว่าเขาเป็นเพียงขั้นที่สี่ของขอบเขตฉูติ่ง ใครจะกล้าเข้าสู่เวทีอย่างประมาทโดยไม่มั่นใจ?

"งั้นข้าลงมือเอง!"

ร่างสีขาวลอยขึ้นไปบนลานประลองพร้อมขาที่ดูเหมือนว่าจะเดินบนอากาศ เขาใช้เวลาประมาณเจ็ดหรือแปดก้าวเพื่อไปถึงเวที ท่วงท่าที่สง่างามของเขาได้รับเสียงยินดีจากผู้ชม

หลิ่วเหอ!

เจียงอี้ตกตะลึง หลิ่วเหอเขาเป็นหนึ่งในสิบอันดับอัจฉริยะและจริงๆแล้วเขาตั้งใจจะมาบนลานประลองตั้งแต่ตอนแรกนั่นหรือเปล่านะ? หากเขาชนะ ทุกคนจะถือว่าเขาเป็นบรรทัดฐานที่ดี แต่หากเขาแพ้เขาจะยังมีความกล้าที่จะเข้าร่วมการแข่งขันแบบแพ้คัดออกในภายหลังหรือไม่?

"เยี่ยม! หัวหน้าตระกูลหลิ่ว ลูกชายของท่านช่างกล้าหาญยิ่งนัก!"

ผู้อาวุโสของตระกูลเหลิ่งมีความเสียใจอย่างสุดซึ้งในขณะที่คนอื่นๆพยักหน้ารับการอนุมัติ แม้แต่ตัวแทนและรองแม่ทัพก็มองหลิ่วเหอ ในการเข้าสู่เวทีในช่วงสำคัญเช่นนี้จะหมายความว่าเขามั่นใจในทักษะของเขาหรือเขาจะเป็นคนปัญญาอ่อน เขาเป็นเด็กอัจฉริยะอายุสิบหกปีที่ได้บรรลุขั้นที่แปดของขอบเขตฉูติ่ง เขาจะเป็นคนปัญญาอ่อนจริงๆหรือ ?

"ฮ่า ๆ ๆ ๆ !"

หัวหน้าตระกูลหลิ่ว หลิ่วเฟิงยิ้มเล็กน้อยขณะสบถในใจคิดว่าสมองของหลิ่วเหอมีอะไรผิดปกติหรือไม่? ขึ้นลานประลองในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้เหรอ? เจียงอี้นั้นเต็มไปด้วยสิ่งที่ใครก็ไม่สามารถคาดเดาได้…ชื่อเสียงของเขาจะไม่ถูกโยนออกไปนอกหน้าต่างหรือถ้าหลิ่วเหอแพ้?

เจียงอี้มีชัยชนะติดต่อกันเก้าครั้งและถ้าเขาชนะหลิ่วเหอ สิ่งสำคัญที่สุดคือหลิ่วเหอเป็นหนึ่งในผู้เข้าร่วมที่แข็งแกร่งที่สุดและหากเจียงอี้สามารถเอาชนะเขาได้นั่นหมายความว่าเจียงอี้มีโอกาสชนะต่อเนื่องถึงหนึ่งร้อยครั้ง

ทุกสายตาของผู้ชมได้ตั้งตาจดจ่อไปบนลานประลองของเจียงอี้ ผู้ชมส่วนใหญ่ก็มองมาที่นี่เช่นกัน หลายคนค่อนข้างตื่นเต้นกับการประลองรอบนี้เพราะคิดว่าการต่อสู้ครั้งนี้มีมาตรฐานสูงที่สุดในวันนี้

"หลิ่วเหอ ขั้นที่แปดของขอบเขตฉูติ่ง ท่านหมาป่าเดียวดายโปรดชี้แนะข้าด้วย!"

ในฐานะที่เป็นนายน้อยคนโตสุดของตระกูลหลิ่ว หลิ่วเหอมีความสามารถพิเศษ อ่อนน้อมถ่อมตนและวางตัวดี เขาโค้งคำนับเล็กน้อยให้เจียงอี้ด้วยใบหน้าที่สงบนิ่งซึ่งเต็มไปด้วยเจตนาการต่อสู้

หากคนอื่นสุภาพกับเขา เจียงอี้ก็มักจะตอบแทนให้เช่นนั้นเหมือนกัน เขาหลุดออกจากพฤติกรรมที่อวดดีและก้มศีรษะ “หมาป่าเดียวกาย, ขั้นที่สี่ของขอบเขตฉูติ่ง เชิญพี่หลิ่วลงมือ!”

"เช่นนั้น ข้าก็จะไม่ออมมือ!"

หลิ่วเหอตะโกนเสร็จเขาก็ก้าวขาข้างหนึ่งของเขา และลานประลองทั้งหมดสั่นเล็กน้อย ร่างของเขาพุ่งไปที่เจียงอี้เหมือนสายลม ไม่เพียง แต่ความเร็วของเขาจะเร็ว แต่ยังรู้สึกเหมือนว่าร่างกายของเขาลอยอยู่ในอากาศทำให้ยากต่อการคาดเดา

"ระบำสลายวายุ!"

ดวงตาของเจียงอี้หดตัวลงพร้อมกับถอยไปที่ด้านข้างอย่างรวดเร็วด้วยสายตาที่เพ่งไปเพียงหลิ่วเหอ เขาเคยฝึกซ้อมกับสมาชิกของตระกูลหลิ่วและได้รู้ถึงความแข็งแกร่งของระบำสลายวายุมาแล้ว

หลิ่วเหอมีระดับการฝึกฝนที่สูงกว่าคนตระกูลหลิ่วคนอื่นๆและสามารถหมุนเวียน ระบำสลายวายุให้อยู่ในระดับที่บ้าบิ่นมากยิ่งขึ้น

การเคลื่อนไหวนี้เป็นทักษะการต่อสู้ระดับมนุษย์ขั้นสูง เมื่อใช้กระบวนท่าการเคลื่อนไหวนี้ มันทำให้ผู้ฝึกเป็นเหมือนลมที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ เมื่อมีคนโจมตีผู้ฝึก เขาสามารถลอยไปมาเหมือนสายลมและปล่อยให้การโจมตีของอีกฝ่ายไร้ผล

แต่เมื่อผู้ฝึกเข้าใกล้ศัตรู ฝ่ายนั้นจะไม่สามารถกำจัดการไล่ล่าของผู้ฝึกได้และทำได้เพียงรอให้ผู้ฝึกจู่โจมเท่านั้น นี่คือเหตุผลที่เมื่อจะต่อสู้กับสมาชิกของตระกูลหลิ่ว สิ่งแรกคือไม่ยอมให้พวกเขาเข้ามาใกล้และต้องหาโอกาสเอาชนะพวกเขาให้ได้ในการโจมตีครั้งเดียว

หลิ่วเหออยู่ขั้นที่แปดของขอบเขตฉูติ่ง ในขณะที่เจียงอี้อยู่เพียงขั้นที่สี่ของขอบเขตฉูติ่ง ถ้าเจียงอี้ไม่ได้ใช้แก่นแท้พลังสีดำของเขา เขาจะสามารถหยุดหลิ่วเหอไม่ให้เข้าสู่ระยะประชิดได้งั้นหรือ?

คำตอบนั้นชัดเจนอยู่แล้ว

หลิ่วเหอเข้ามาในระยะประชิดและโจมตีอย่างรวดเร็วด้วยมือที่ยาวและขาวของเขา เจียงอี้ต้านฝ่ามืออรหันต์ที่จู่โจมเข้ามา ทุกครั้งที่ฝ่ามือของพวกเขาปะทะกัน เจียงอี้จะถอยหลังกลับมาหลายก้าว

เขาไม่กล้าที่จะต่อสู้อย่างบ้าคลั่งและพยายามหลบหนีอย่างรวดเร็ว แต่หลิ่วเหอก็ไล่ตามเขาเหมือนปีศาจและปล่อยฝ่ามือมาอย่างต่อเนื่อง

ปัง! ปัง! ปัง!

เสียงของฝ่ามือที่ปะทะกันดังก้องขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากการแลกเปลี่ยนหมัดกันอย่างมากมายระหว่างเจียงอี้และหลิ่วเหอภายในระยะเวลาอันสั้น แต่สถานการณ์นั้นชัดเจน...เจียงอี้ยังคงหลบเลี่ยงและหลิ่วเหอยังคงโจมตีอยู่

เห็นได้ชัดว่าหลิ่วเหอไม่ได้ใช้กำลังเต็มที่และเจียงอี้ไม่ได้มีความแข็งแกร่งในการต่อสู้ตั้งแต่เขาเอาชนะหม่ากู่ได้ เจียงอี้ถูกบังคับให้ต้องก้าวถอยหลังทุกครั้งที่เขาปะทะกับหลิ่วเหอ มีบางครั้งที่เขาเกือบถูกทำให้ออกจากลานประลองเลย

"ไม่เลว ตระกูลหัวหน้าตระกูลหลิ่ว ลูกชายของท่านค่อนข้างหลักแหลม เขารู้ดีว่าหมายเลข 536 เป็นผู้มีเล่ห์กลและเต็มไปด้วยอุบาย ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะต่อสู้อย่างปลอดภัยและมีความมุ่งมั่นที่จะไม่ตกหลุมพลางใดๆ จากสิ่งที่ข้าเห็น หลิ่วเหอจะชนะอย่างง่ายดายแน่นอน! "

ผู้อาวุโสของตระกูลหม่าซึ่งยืนตรงเวทีผู้ชมก็ร้องเพลงสรรเสริญ ปัจจุบันทุกคนมีสายตาที่หลักแหลมและพวกเขาทุกคนพยักหน้าให้สัญญาณ เป็นที่ชัดเจนสำหรับพวกเขาว่าความเร็วของเจียงอี้นั้นช้าลงและความเร็วของปฏิกิริยาก็ลดลงเช่นกัน นี่เป็นสัญญาณของความอ่อนแรงที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของคนๆหนึ่งและไม่สามารถแสร้งทำได้

ความสงสัยเริ่มเกิดขึ้นในใจของทุกคน เจียงอี้เป็นเพียงขั้นที่สี่ของขอบเขตฉูติ่งเท่านั้นหรือ? ถ้าไม่ใช่ แล้วทำไมพลังของเขาถึงได้ออกมาต่ำเช่นนี้? คำถามคือ…ก่อนหน้านี้เขาเอาชนะหม่ากู่ได้อย่างไร?

ไม่มีใครสามารถมองเห็นความแข็งแกร่งของเจียงอี้ได้ แม้แต่ตัวแทนที่น่าเกรงขามที่สุดหรือแม้แต่จีเทียนก็ไม่สามารถทำได้ พวกเขาขมวดคิ้วของพวกเขา พวกเขามองไปที่เจียงอี้และสังเกตทุกการเคลื่อนไหวของเขา

หลิ่วเหอสามารถเห็นปฏิกิริยาของเจียงอี้ได้เช่นกัน มีโอกาสมากมายที่หลิ่วเหอจะทำให้เจียงอี้ออกจากลานประลองได้ แต่ดึงพลังตัวเองกลับมา เนื่องจากเจียงอี้สามารถชนะติดต่อกันได้ถึงเก้าครั้งและทำให้หม่ากู่ตกลานประลองไปได้อย่างง่ายดาย เช่นนั้นความแข็งแกร่งของเขาคงไม่ได้จำกัดเพียงแค่นี้

ตั้งแต่เขาตัดสินใจที่จะจัดการกับสิ่งที่ไม่รู้ด้วยการประลองอย่างปลอดภัย เขาจึงต้องการให้สถานการณ์ปัจจุบันดำเนินต่อไปจนกระทั่งเจียงอี้ไม่สามารถทนได้อีกต่อไปและใช้ท่าไม้ตายของเขาออกมา

เจียงอี้ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป จุดหู่โขวของเขาได้รับบาดเจ็บและแก่นแท้พลังของเขาเริ่มหมดลง และหลิ่วเหอนั้นยังคงไม่มีที่ติ หากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปเขาจะมีโชคชะตาที่ต้องพ่ายแพ้ ในขณะที่ดวงตาของเขาส่องแสงด้วยความฉลาด ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจที่จะเสี่ยงทุกสิ่ง

แก่นแท้พลังสีดำ!

เหลือแก่นแท้พลังสีดำเพียงหกเส้นเท่านั้นที่เหลืออยู่ในตันเทียนของเขา เจียงอี้กัดฟันของเขาและใช้แก่นแท้พลังเส้นหนึ่งเพื่อเสริมความแข็งแรงของหมัดเท่ากับพลังของเจ็ดแรงม้า เขาหลบการโจมตีของหลิ่วเหอและปล่อยหมัดมายาทันทีเพื่อโจมตีไปที่หัวของหลิ่วเหอ หน้าอกซ้าย และร่างกายส่วนล่าง

"ในที่สุดก็ทนไม่ได้แล้วหรือ?"

สายตาของหลิ่วเหอมีลักษณะที่พึงพอใจในขณะที่ร่างกายของเขาลอยไปกับสายลม มือทั้งสองของเขาตั้งใจสร้างฝ่ามือสองสามหมัดและส่งไปปะทะกับหมัดของเจียงอี้

ตามที่คาดไว้ หมัดของเจียงอี้ได้ถูกลบล้างไปโดยหลิ่วเหอ ความเร็วในการโจมตีของเจียงอี้นั้นช้าเกินไปและการสลายเงาหมัดสามเงานั้นไม่ได้มีผลต่อหลิ่วเหอเลย แม้แต่การสลายหมัดสิบครั้ง เขาก็สามารถทำได้

"ปัง!"

แต่หลิ่วเหอเริ่มรู้สึกแปลกๆเพราะคลื่นที่กระทบขนาดใหญ่นั้นทำให้มือซ้ายของเขาเจ็บปวดมาก ใบหน้าของเขาดูเคร่งเครียดเมื่อเขาเห็นเจียงอี้พุ่งมาด้วยความเร็วสูง

ซึ่งน่าประหลาดใจ เขาใช้วรยุทธกระบวนท่าใหม่ทันทีเพื่อหนีออกจากตรงนั้น ด้วยสายตาที่เฉียบแหลมของเขาที่เฝ้าสังเกตทุกการเคลื่อนไหวที่เจียงอี้ทำ เขารู้ว่าเจียงอี้กำลังจะแสดงท่าไม้ตายของเขาออกมา

"หมัดมายา!"

เจียงอี้ปลดปล่อยพลังที่มีความแข็งแกร่งออกมา ดวงตาของเขาสดใสอย่างน่ากลัวและมือทั้งสองของเขาก็ปล่อยหมัดมายาออกมาในเวลาเดียวกัน หกหมัดได้ห่อหุ้มหลิ่วเหอไว้

"ฮะ?"

หลิ่วเหอพบว่ามันแปลกในขณะที่คิดว่านี่เป็นท่าไม้ตายของเจียงอี้หรือเปล่า เขาลอยกลับไปอย่างรวดเร็วและตอบโต้หมัดของเจียงอี้ด้วยฝ่ามือเงา เขาเตรียมตัวอย่างระมัดระวังเพื่อรับมือกับท่าไม้ตายของเจียงอี้

"ฟึบ ฟับ!"

ทันใดนั้นหลิ่วเหอก็ได้ยินเสียงที่ทำให้เขาประหลาดใจ เขากวาดสายตาเย็นชาไปที่มือขวาของเจียงอี้ เมื่อเขาเห็นมีดสั้นยื่นออกมาจากมือของเจียงอี้จู่ๆเขาก็โล่งใจขึ้นมาทันที

สิ่งต่างๆที่ปลูกฝังความกลัวที่เขาไม่รู้ในตัวเหล่าบุรุษ แต่เมื่อเจียงอี้ปลดปล่อยท่าไม้ตายของเขาแล้ว ก็จะไม่มีอะไรที่น่ากลัวอีกต่อไป

"อาวุธระดับสมบัติ? เหอ หืม!"

เมื่อเห็นอาวุธที่มีแสงระย้าอยู่ในมือของเจียงอี้ หลิ่วเหออดไม่ได้ที่จะเย้ยหยัน ตระกูลหลิ่วนั้นมีอาวุธที่มีค่าของตัวเองเช่นกัน แต่หลิ่วเหอไม่ชอบใช้อาวุธเพราะการเคลื่อนไหวของตระกูลหลิ่วนั้นไม่เหมาะกับอาวุธ

หลิ่วเหอก้าวไปข้างหน้าและเปลี่ยนฝ่ามือเป็นกรงเล็บแทน กรงเล็บภูติอเวจีกลายร่างเป็นเงามืดซึ่งยื่นไปที่มือขวาของเจียงอี้

กรงเล็บเงาปีศาจ!

นี่เป็นทักษะการต่อสู้ระดับมนุษย์ขั้นสูงที่ทำให้ตระกูลหลิ่วโด่งดัง เมื่อรวมกับระบำสลายวายุ มันกลายเป็นทักษะการต่อสู้แบบเต็มรูปแบบที่สมบูรณ์แบบ ใช้ในการฆ่าโดยไม่มีรูปแบบใดๆ มันกลายเป็นเรื่องง่ายเมื่อใช้ในการปลดอาวุธคู่ต่อสู้

"ฟึ่บบ!"

ตามที่หลิ่วเหอคาดหวัง เขาจับข้อมือของเจียงอี้ได้อย่างง่ายดาย และใช้กำลังของเขาบีบมัน บังคับให้มือของเจียงอี้คลายตัวเพราะความเจ็บปวด แก่นแท้พลังที่ถูกฉีดเข้าสู่อาวุธที่ล้ำค่านั้นก็ลดลงเช่นกัน หลิ่วเหอยิ้มเพียงเล็กน้อยขณะที่มืออีกข้างกำลังเอื้อมมือไปหยิบมีดสั้นและเตรียมพร้อมที่จะจบเกมนี้

"ห๊ะ? เวรล่ะ"

ทันใดนั้นหลิ่วเหอก็รู้สึกไม่มั่นคงอย่างแรงกล้า เขาหันกลับมาทันทีและมองที่มือขวาของเจียงอี้และตกใจเมื่อเห็นมือขวาของเจียงอี้ซึ่งเคยถูกควบคุมโดยเขา ทันใดนั้นก็มีแก่นแท้พลังแผ่ซ่านออกมา แก่นแท้พลังนั้นช่างน่าสะพรึงกลัวจนทำให้หลิ่วเหอรู้สึกกลัว แก่นแท้พลังนั้นยังคงปั่นอยู่ในฝ่ามือของเขาอย่างประหลาด มันเป็นแรงผลักดันสีน้ำเงินที่มีแสงสีดำส่องสว่าง มันทำให้ใจเขาสั่นเมื่อมองดูมัน

ข้าถูกกับดัก! นี่เป็นท่าไม้ตายที่แท้จริงของหมาป่าเดียวดาย!

หลิ่วเหอตื่นขึ้นจากความตกใจ เขาถอยกลับอย่างลนลาน แต่ตระหนักได้ว่ามันสายเกินไป เจียงอี้ใช้มือขวากระแทกฝ่ามือของเขาเข้าไปที่มือซ้ายของหลิ่วเหอ

"ปัง!"

แรงระเบิดของแก่นแท้พลังทำให้สั่นสะเทือนทุกสิ่งรอบตัวทั้งหมด ทำให้เกิดระลอกคลื่นด้วยแสงวาบ ร่างกายของหลิ่วเหอถูกส่งบินออกไป ร่างกายของเจียงอี้ก็ถูกทำให้ถอยกลับมาโดยคลื่นกระแทกกันอย่างรุนแรง

ซึ่งการโจมตีของเจียงอี้เป็นการระเบิดหลิ่วเหอโดยตรง เขาไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ แต่ครึ่งหนึ่งของแขนซ้ายของหลิ่วเหอนั้นเต็มไปด้วยเลือดและเผยกระดูกขาวบางส่วน เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส

"แกร๊ง!"

เสียงที่คมชัดของมีดสั้นดังก้องเมื่อมันตกลงมาบนพื้น มันสะท้อนในหัวใจของผู้คนนับไม่ถ้วน ใบหน้าของผู้ชมหันมาเคร่งขรึมและให้ความเคารพ ในตอนแรกทุกคนคิดว่าเจียงอี้เป็นคนโชคดีและพึ่งพิงแผนการที่จะได้รับชัยชนะ แต่ในตอนนี้ไม่มีใครกล้าสงสัยความแข็งแกร่งของเจียงอี้อีกต่อไป

ในบรรดาผู้เข้าร่วมทั้งหมดยกเว้นจีทิงยวี่และเจียงเฮิ่นซุ่ยที่อยู่ในขั้นที่เก้าของขอบเขตฉูติ่ง ใครจะสามารถจัดการกับหลิ่วเหอที่มีกระบวนท่าที่บ้าบิ่นจนบาดเจ็บสาหัสได้ขนาดนี้บ้าง?

"ดาบสั้นสีนวล!"

ตอนนี้เสียงกัดฟันนั้นได้ยินออกมาจนนับไม่ถ้วน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากตระกูลหม่า.... รวมทั้งผู้อาวุโส.... ผู้คนทั้งหมดเผยจิตสังหารออกมาในสายตาของพวกเขา

อาวุธนี้มีชื่อว่าดาบสั้นสีนวล มันเป็นดาบที่ตระกูลหม่าส่งต่อให้กับพ่อของหม่มาเฟย และเมื่อไม่นานมานี้หม่าเฟยพิการและอาวุธของเขาถูกกระชากไป เหตุการณ์ใหญ่เช่นนี้จะถูกปิดบังได้อย่างไร? ตอนนี้ดาบนั้นกลับปรากฏขึ้นอีกครั้งและตัวตนของเจียงอี้ก็ถูกเปิดเผยเช่นกัน..

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด