ตอนที่แล้วตอนที่ 14: แกเป็นคนหรือเป็นผีวะ?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 16: ข้อจำกัดของฉันช่างสูงเสียจริง

ตอนที่ 15: เลื่อนระดับสู่ระดับ6


ระบบการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่อยู่ยงคงกระพัน

ตอนที่ 15: เลื่อนระดับสู่ระดับ6

“หลับตาสิ!”

“ถ้าฉันบอกให้เธอลืมตาก็ค่อยลืมนะ!”

หนิงเทียนหลินไม่ต้องการให้อีกฝ่ายเห็นฉากการฆ่า เธอเป็นแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งถึงแม้ว่าคนเหล่านี้จะเป็นศัตรูของเธอก็ตาม!

“ค่ะ”

หลินเจียอี้พยักหน้ารับอย่างไม่ลังเล เธอรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น สาบานว่าเธอเองก็รู้สึกอึดอัดใจที่ต้องเห็นฉากอะไรแบบนี้ เธออึดอัดใจที่จะเห็นมันในชีวิตของเธอ

แต่หากว่าเธอหลับตาลง เธอจะไม่สามารถรับรู้ถึงคิ้วของเธอที่กระตุกอย่างไม่รู้ตัวและฝ่ามือก็ชุ่มไปด้วยเหงื่อเพราะความประหม่า

“โคร้ม!”

“โคร้ม!”

“อะ!”

“อะไรน่ะ!”

ไม่นานนัก เสียงต่างๆก็ดังออกมาจากห้องนั้น เสียงตี เสียงของกริชที่กระทบเนื้อ และเสียงของความโศกเศร้า ทุกครั้งที่เสียงต่างๆดังขึ้น หลินเจียอี้ขมวดคิ้วเข้าอย่างไม่รู้ตัว

เธอเม้มริมฝีปากแน่นและตัวของเธอก็สั่นเทาไปหมด

ไม่นานนักที่เสียงต่างๆเงียบลง ภายใน 70 วินาที ก็ไม่มีเสียงใดๆเลย

“เอาล่ะ ลืมตาได้แล้ว”

หนิงเทียนหลินยืนอยู่ตรงหน้าของหลินเจียอี้ ขวางและปกป้องสายตาเธอไม่ให้มองเห็นศพทั้งหลายในห้องนั้น

ในวินาที่ที่ 70 เขาก็ตระหนักได้ว่าเขามีพลังการต่อสู้เมื่อเวลา 20.00 น. พลังที่ครอบงำและการโต้กลับที่ว่องไว มันช่างรวดเร็วและน่ากลัว!

หลักฐานที่ว่าทั้ง 3 คนไม่อาจต้านทานพลังนี้ได้ เขาจึงฆ่าทั้ง 3 คน!

ราวกับลมมฤตยู!

ทุกคนโดนแทงเข้าที่คอด้วยกริช!

มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อนการฟื้นคืนชีพ คุณรู้ไหม คนพวกนี้รู้ได้ในพริบตาว่าพวกเขาไม่ใช่คนทั่วไป ที่มีร่างกายแข็งแรง พวกเขามีความกล้าหาญและโหดเหี้ยม แต่ยังไงก็ตามพวกเขาก็ถูกฆ่าตายโดยหนิงเทียนหลิน

สามารถกล่าวได้เลยว่าเขาช่างแข็งแกร่งจริงๆในเวลานี้

“อัพเกรด!”

“ขึ้นมาถึงระดับ6!”

“พลังการต่อสู่อยู่ที่ 24 คะแนน!”

เมื่อหนิงเทียนหลินฆ่าทั้ง 5 คนแล้ว เสียงของระบบการต่อสู้ดังก้องอยู่ในใจเขา ทำให้เขาเข้าใจว่าการฆ่าคนทั้ง 5 คนนั้นไม่ได้สูญเปล่า แต่มันเพิ่มพลังให้แก่เขา และหนิงเทียนหลินรู้สึกได้ลางๆว่าคนทั้ง 5 คนนี้ต้องเพิ่มพลังให้แก่เขาได้มากกว่าคนทั่วไป

ถ้าเขาฆ่าคนธรรมดา 5 คน คุณก็คนจะเฉยๆ

แต่ทั้ง 5 คนนี้ แต่ละคนทั้งสูงทั้งใหญ่ กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ มีสารสกัดและเลือดมากมายเหลือล้น และสารสกัดที่อยู่ในตัวพวกเขาก็ต้องมีมากกว่าคนธรรมดาหลายเท่าทีเดียว ดังที่กล่าวไว้ในระบบพลังต่อสู้ พลังงานที่เพิ่มขึ้นจากการฆ่าสิ่งมีชีวิตที่แข็งแรงและสิ่งมีชีวิตทั่วๆไปต่างกันอย่างแน่นอน

“ค่ะ”

บัดนี้ หลินเจียอี้ผู้ที่อยู่ข้างกำแพงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เพราะเธอไม่รู้ว่าใครคือผู้ชนะในตอนจบ

ถึงแม้ว่าวัยรุ่นคนนี้จะขนาดไล่เลี่ยกับตัวเธอ แต่คนอื่นๆอีก 3 คน และผู้ชายตัวสูงที่มีใบหน้าบากคนนั้นตัวใหญ่กว่ามาก

เธอก็ยังไม่มั่นใจว่าหนิงเทียนหลินจะชนะ

แต่เมื่อเธอได้ยินเสียงของหนิงเทียนหลิน เธอก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก นั่นหมายถึงผู้ชนะคนสุดท้ายคือเด็กผู้ชายที่เขามาช่วยเธอนั่นเอง

ดังนั้น หลินเจียอี้จึงลืมตาขึ้นและคิดว่าเธอจะต้องมองเห็นอะไรบ้าง แต่สิ่งที่ปรากฏมีเพียงไหล่กว้างๆ ของหนิงเทียนหลิน หนิงเทียนหลินสูงมากกว่าเธอเกินครึ่ง และตอนนี้ก็ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ห่างกันแค่ 20 เซนติเมตร หลินเจียอี้รู้สึกได้ถึงความเป็นชายชาตรีของอีกฝ่าย

หลินเจียอี้หัวใจเต้นรัวอย่างช่วยไม่ได้

เธอเติบโตมาจนป่านนี้ยังไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายขนาดนี้!

“ไปกันเถอะ”

“ไปจากที่นี่กัน”

นี่คือหนิงเทียนหลินผู้ที่เพิ่งฆ่าคนไปหยกๆ เขากลับใส่ใจกับเรื่องนี้ ในการที่จะปกป้องอีกฝ่ายจากภาพด้านหลังเขา เขาคว้าไหล่ของเธอและขวางไว้ไม่ให้เธอมองเห็น พร้อมกับเดินไปที่ประตูพร้อมกับเธอ หัวใจของหลินเจียอี้ยิ่งเต้นรัวในเวลานี้ ไหล่ของเธอถูกสัมผัสโดยผู้ชาย!

เธอเองไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าผ่านประตูออกมาได้อย่างไร

“โอเค เธอเดินเร็วๆเลย”

“นี่โทรศัพท์มือถือ โทรบอกครอบครัวเธอสิ”

ถึงแม้หนิงเทียนหลินจะไม่รู้ชื่อของหญิงสาว และไม่รู้ว่าทำไมอีกฝ่ายจึงถูกลักพาตัวมา ซึ่งมันก็ไม่สำคัญ ในตอนนี้เธอปลอดภัยแล้ว ขณะพูดเขาก็ส่งมือถือให้หญิงสาว

โทรศัพท์มือถือนี้ คืออันที่เขาเพิ่งเห็นบนโต๊ะและหยิบมา

“อะไรนะ”

ขณะนี้ หลินเจียอี้มีปฏิกิริยาโต้ตอบ เธอตระหนักถึงสถานการณ์ตอนนี้ และถึงได้รู้ว่าทำไมอีกฝ่ายถึงรั้งหลังเธอและส่งตัวของเธอออกมาโดยไม่ให้เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในห้องนั้นว่ามันเลวร้ายเพียงใด เพื่อไม่ให้เห็นดวงตาของคนตายพวกนั้น

ช่วยไม่ได้เลยจริงๆ เธอรู้สึกซาบซึ้งใจเป็นอย่างมากต่อผู้ชายตรงหน้าเธอ

“ขอบคุณค่ะ”

“ขอบคุณมากจริงๆ”

หลินเจียอี้รับโทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นไป ก้มลงอย่างตั้งใจและโค้งคำนับต่อหนิงเทียนหลิน หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเธอเหยียดตัวตรงอีกครั้งและจ้องไปที่ใบหน้าของหนิงเทียนหลิน ราวกับว่าจะให้มันสลักลงไปในใจของเธอ

หนิงเทียนหลินยิ้มและดูเหมือนจะผ่อนคลายขึ้นมาอีกเล็กน้อย แต่มีเพียงเขาที่รู้ว่าการต่อสู้นั้นน่าสยดสยองเพียงใด ถ้าเขาไม่ตั้งใจคงเป็นเขาที่ต้องตายอยู่ที่นั้น แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหญิงสาว ยังไงก็ต้องแกล้งไขสือไป

ถึงแม้ว่าในตอนนี้มือทั้งสองข้างของเขาจะสั่นเทา เขากลับไม่รู้สึกอะไรเมื่อฆ่าคน แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกกล้าหาญที่เขากล้าที่จะสู้กับปืน แล้วยังสามารถฆ่าคนตัวใหญ่ๆ ได้ถึง 5 คน มีข้อสงสัยราวกับว่าทุกสิ่งเหมือนเขาไม่ได้เป็นคนทำ

หัวใจเต้นระรัว

ยิ่งไปกว่านี้ เวลานี้มันแตกต่างจากครั้งที่แล้วที่เขากลายร่างเป็นซอมบี้ เขาไม่ตาย เขาเป็นสัตว์ประหลาดที่ยิ่งใหญ่ เขาเป็นสัตว์เลือดเย็น และไม่รู้สึกรู้สาเกี่ยวกับการฆ่า

สามารถกล่าวได้ว่านี่เป็นการกระตุ้นการฆ่าครั้งแรกของเขา

ไม่รู้สึกละอาย นั่นมันเสแสร้ง!

“เร็วเข้า รีบไปจากที่นี่กันเถอะ”

“โทรไปบอกครอบครัวว่าเธอเป็นอิสระแล้วสิ”

เพื่อที่จะไม่ให้ผู้หญิงตรงหน้ารู้สึกผิดปกติ และคงไว้ซึ่งความประทับใจ หนิงเทียนหลินเร่งให้อีกฝ่ายรีบออกไปจากที่นี่

“ไปยังไงล่ะ?”

“พวกเราไม่ไปด้วยกันหรอ?”

หลินเจียอี้รู้สึกสงสัยเล็กน้อย และไม่แน่ใจว่าทำไมเด็กชายคนนี้ถึงไม่ไปพร้อมกับเธอ

“ฉันมีบางอย่างต้องทำนะ”

“เธอไปก่อนเลย”

แน่นอนหนิงเทียนหลินจะไม่ไปตอนนี้ เขาจะกลับไปที่ตึกหลังนั้นทันที มีบางสิ่งที่เขาต้องทำ ระบบการต่อสู้ได้เปิดโอกาสให้เขาได้ทำภารกิจให้สำเร็จภายใน 24 ชั่วโมง และเขาก็สามารถทำสำเร็จด้วยศพทั้ง 5 ศพที่ตึกนั้นได้

“ตกลง”

“งั้นฉันไปก่อนนะ”

หลินเจียอี้ได้เห็นแววตามุ่งมั่นของหนิงเทียนหลิน เธอจึงพูดอ้อมแอ้ม

อย่างไรก็ตาม เธออยู่ที่นี่มานานกว่า 3 วัน พ่อแม่คงต้องห่วงมากเป็นแน่ ทั้งสองลงมาที่ชั้นล่างอย่างรวดเร็ว และในขณะที่เดินก็กดเบอร์โทรศัพท์ของพ่อ มองดูรอบๆ ตัว พร้อมคิดว่าจะอธิบายอย่างไรว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน