ตอนที่แล้วตอนที่ 13: ฉันกลัวคุณคนในผ้าห่อศพ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 15: เลื่อนระดับสู่ระดับ6

ตอนที่ 14: แกเป็นคนหรือเป็นผีวะ?


ระบบการต่อสู่ที่แข็งแกร่งที่อยู่ยงคงกระพัน

ตอนที่ 14: แกเป็นคนหรือเป็นผีวะ?

“บอส!”

ทุกคนต่างพากันตกตะลึง พวกเขามองทุกสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างนึกไม่ถึง ไม่มีใครคาดคิดว่าเด็กผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขาจะสามารถหนีพ้นการโจมตีของเจ้าหน้าบากและสังหารเขาลงได้ด้วยหลังมือ การฆ่าอย่างแน่วแน่ไม่เหนียวข้นเหมือนน้ำ!

แม้แต่หลินเจียอี้ที่ปิดตาและไม่กล้าดู แต่ก็แอบมองลอดผ่านร่องนิ้ว เธอเห็นหนิงเทียนหลินจับเจ้าหน้าบากที่ข้อมือขวาและปักกริชลงบนคอของมัน!

เลือดกระฉูดออกมาอย่างน่ากลัว!

ในพริบตา สีหน้าของเธอรู้สึกละอาย ถึงแม้ว่าศัตรูจะตายแล้วแต่เธอก็ไม่เคยพบเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อน เธอไม่เคยเห็นแม้แต่นักเรียนทั่วไปต่อยตีกัน

เธอรู้สึกโชคดีที่กลายเป็นคนอื่นที่ตาย ไม่ใช่ชายหนุ่มที่มาช่วยเธอ

“ฉันจะฆ่าแก!!”

ชายใส่สูทที่เป็นบอสไม่ได้คาดหวังว่าจะเป็นเช่นนี้เลย เขารู้สึกโกรธมากเมื่อเขาสัมผัสที่มือขวาเพื่อจับปืนพกที่เอว โดยปราศจากความลังเล เขาเปิดปลอกปืนและยิงไปที่หนิงเทียนหลิน

เด็กหนุ่มคนนี้ช่างแปลกประหลาด

“โอ้ยยย!”

เมื่อปืนถูกดึงออกจากปลอก กริชคมๆ ก็ปักลงบนไหล่และถูกสอดอยู่ข้างใต้ไหล่ซ้ายของเขา

แน่นอน นั่นคือหนิงเทียนหลินผู้ที่ฆ่าเจ้าหน้าบาก จิตวิญญาณของเขาล๊อคชายใส่สูทไว้อย่างแน่นหนาเพราะเขารู้ดีว่าอีกฝ่ายมีปืน เขาไม่อาจจะสะเพร่าได้!

เมื่ออีกฝ่ายขยับตัว เขาก็ดึงกริชออกจากคอของเจ้าหน้าบากในทันที แล้วขว้างออกไปอย่างแรงไปที่ชายใส่สูท

น่าเสียดายที่กริชไม่ได้ปักไปที่หัวของคู่ต่อสู้ และปักไปที่ไหล่ซ้ายแทน แต่คุณก็รู้ว่าทิศทางที่เล็งไปคือหน้าผากของชายใส่สูท

“โชคไม่ดีเลยแหะ”

“ฉันนี่มันไม่แม่นเลยน้า”

นี่เป็นครั้งแรกหนิงเทียนหลินขว้างกริช และแน่นอนผลลัพท์ไม่เป็นที่พอใจ และจุดนี้อีกฝ่ายก็ได้ลั่นไก ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะได้รับบาดเจ็บและไหล่ซ้ายก็บาดเจ็บ ชายใส่สูทก็คุ้มค่ากับความเหี้ยมโหด แต่เขาก็ยังคงเจ็บปวดจากบาดแผลฉกรรจ์และยิงปืนออกไปหลายนัดไปที่ตำแหน่งที่หนิงเทียนหลินอยู่

“ปัง!”

“ปัง!”

“ปัง!”

ปืนถูกยิงข้ามห้องไปและกระสุนปืนไม่โดนหนิงเทียนหลินแ ต่กระสุนทั้งหมดฝังไปที่ศพของเจ้าหน้าบาก เป็นเพราะหนิงเทียนหลินรู้สึกแย่ที่กริชไม่ปักโดนที่หน้าผากของคู่ต่อสู้ เขาจึงให้ร่างของเจ้าหน้าบากกำบังกายตัวเองอย่างไม่ลังเล

ทันใดนั้น ร่างของเจ้าหน้าบากก็พรุนไปด้วยรูกระสุน พร้อมเลือดไหลนองพื้น

“แก๊ก!”

“แก๊ก!”

สักพักต่อมา เสียงปืนก็หยุดลงและตามด้วยเสียงดัง “แก๊ก”

“กระสุนหมดแล้วล่ะสิ”

หนิงเทียนหลินรู้สึกพึงพอใจ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยรู้ว่ากระสุนปีมีกี่นัดแต่เขาก็เคยเห็นในทีวี แต่มันก็นับได้และไม่มากนัก ในกรณีนี้ไม่มีกระสุนปืนอยู่ในปืนพกของคู่ต่อสู้แล้ว

บางทีลูกปืนในรังเพลิงคงไม่ปลื้มสักเท่าไร

โดยไม่ลังเล หนิงเทียนหลินคว้าร่างของเจ้าหน้าบากขึ้นด้วยมือเพียงข้างเดียวและโยนออกไปข้างหน้า คนตัวใหญ่น้ำหนักมากกว่า 180 กิโลกรัมถูกโยนออกไปด้วยมือของหนิงเทียนหลินเพียงข้างเดียว

และแน่นอน เขาโยนไปทางชายใส่สูท และในขณะที่เขาบาดเจ็บและฆ่าใครไม่ได้

“โคร้ม!”

ชายใส่สูทรู้สึกตกใจ ในตอนนี้เขามีทั้งกริชปักอยู่ที่ไหล่ด้านซ้ายและความเจ็บปวดช่างเหลือประมาณ เขาไม่สามารถที่จะรับคนน้ำหนักกว่า 180 กิโลกรัมที่ถูกโยนมาราวกับลูกวอลเล่ย์ด้วยมือของเขาได้เลย เขาโดนชนอย่างแรงและร่วงลงบนพื้นด้วยร่างของเจ้าหน้าบากนั่นเอง

“โอ้ยยย!”

หนิงเทียนหลินเองก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ เมื่อเขาทุ่มร่างเจ้าหน้าบากออกไปแล้ว เขาราวกับเสือดาว ร่างกายแน่นๆของเขาทะยานออกไปข้างหน้า เขาเข้าประชิดตัวของผู้ชายใส่สูทในทันทีและรอ แต่ไม่มีการตอบสนองเขาจึงได้ดึงกริชและแทงลงไปที่หน้าผากอย่างโหดร้าย ท่ามกลางสายตาที่ไม่อยากจะเชื่อของคู่ต่อสู้

ทันใดนั้น เลือดก็พุ่งกระฉูดออกมา และชายใส่สูทก็ตายลง

เขาตายอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าจะตายด้วยฝีมือของเด็กนักเรียน

“บอส!!”

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นราวกับประกายไฟ มันเกิดขึ้นภายใน 3 วินาทีตั้งแต่เริ่มจนจบ เมื่อคนอื่นมีปฏิกิริยาตอบสนอง หนิงเทียนหลินก็ได้ฆ่าบอสของพวกมันไปแล้ว

โดยไม่รอช้า หนิงเทียนหลินได้ดึงกริชออกจากหัวของชายใส่สูทโดยไม่เหลือบมองมาที่ศพเลย เขายืนขึ้น ชูกริชและมองอย่างเลือดเย็นไปยังเจ้าวายร้าย 3 คนที่เหลืออยู่

ในขณะเดียวกัน เจ้าวายร้าย 3 คนมองมาที่หนิงเทียนหลินที่กำลังถือกริชอยู่ในมือ สายตาพวกมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว พวกมันเคยฆ่าคนมาหลายคนแล้ว แต่บัดนี้พวกมันไม่คิดแม้จะตัดหัวเจ้าเด็กหนุ่มนี่ เพราะเขาสามารถฆ่าพวกมันได้ภายในเวลา 1 นาทีนับตั้งแต่ก้าวเข้าประตูมา

หรือแม้แต่บอสของพวกมันที่มีปืนก็ยังโดนฆ่าตาย พวกมันทั้ง 3 สงสัยว่าหากคิดจะเป็นศัตรูกับเจ้าเด็กน้อยนี้ โดยเฉพาะเมื่อมองเห็นกริชในมือเขา ใจของพวกมันก็สั่นแล้ว

“นี่แกเป็นคนหรือเป็นผีกันแน่!?”

เจ้าวายร้ายที่เหลือ 3 คนไม่ได้ขยับตัวทำอะไร แต่เจ้าคนตัวผอมมองดูที่ผ้าห่อศพบนตัวของหนิงเทียนหลินและถามออกมาอย่างกลัวๆ

ในตอนแรก ไม่มีใครเชื่อว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะเป็นผี แต่บัดนี้พวกมันคิดว่าบางทีอาจจะเป็นไปได้ก็เป็นได้ ทักษะของเด็กหนุ่มไม่เพียงแต่ชัดเจน ทรงพลัง และโหดเหี้ยม

ฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา

นี่ไม่ใช่สิ่งธรรมดาที่วัยรุ่นทั่วไปเป็นหรอ?

ไม่ใช่ผี แล้วจะเป็นอะไรไปได้อีกละ?

“มานี่สิ! มาอยู่ข้างหลังฉัน!”

แต่หนิงเทียนหลินไม่ได้ตอบ และไม่คิดจะตอบ เขาพูดกับหลินเจียอี้ที่หน้าซีดเซียวและขาของเธอก็เริ่มสั่น

หลินเจียอี้ที่รู้สึกอับอายในรูปลักษณ์ของเธอไม่ได้คาดคิดว่าหนิงเทียนหลินจะเรียกเธอ แต่เธอเองแข็งอยู่กับที่ จ้องมองมาที่ผ้าห่อศพของหนิงเทียนหลิน ราวกับว่าเธอเองก็กำลังคิดว่าหนิงเทียนหลินเป็นคนหรือเป็นผีกันแน่ ซึ่งถ้าเป็นผีเธอก็คงจะไม่กล้าเดินไปหาอย่างแน่นอน

“มาสิ!”

หนิงเทียนหลินไม่มีทางเลือกเลยก้าวเข้าไปหาและดึงแขนของหลินเจียอี้เข้ามาด้วยแขนซ้ายของเขาไปไว้ทางด้านหลัง

ในขณะเดียวกัน เขาก็ชูกริชขึ้นมาด้วยมือขวาและมองไปรอบๆไปที่เจ้าวายร้ายทั้ง 3 คนเพื่อปกป้องการเข้าจู่โจม

“มายืนข้างหลังฉัน!”

“ฉันไม่อยากทำให้เธอได้รับบาดเจ็บตอนที่ต่อสู้นะ!” หนิงเทียนหลินกล่าว

“อะไรนะ?”

ในเวลานี้ หลินเจียอี้ตื่นทันที รู้สึกถึงอุณหภูมิจากมือของหนิงเทียนหลินและรู้สึกถึงเอกลักษณ์ของชายหนุ่มคนนี้ และตระหนักได้ว่าเขาไม่ใช่ผีอย่างแน่นอน แต่เป็นผู้มีพระคุณที่เข้ามาช่วยเหลือเธอ

“ค่ะ!”

ทันใดนั้นหลินเจียอี้ก็พยักหน้าอย่างแรง พิงหลังชนกำแพงอย่างฉลาด เพราะไม่อยากจะเป็นภาระให้แก่ชายที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันตรงหน้านี้